เรื่องนี้มันเกิดขึ้นมานานสองปีได้มั้ง คือมันเป็นอะไรที่ติดใจมากเมื่อมีผู้ใหญ่คนหนึ่งซึ่งทำงานทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลังพูดคำๆ หนึ่งออกมาซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าเขาได้คิดก่อนพูดหรือเปล่า
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเมื่อเพื่อนเราชวนเราให้ไปเป็นเพื่อนรับรางวัลประกวดนิยาย ในงานมอบรางวัลก็มีแขกรับเชิญซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เป็นทั้งดาราและตอนนี้ก็ผันตัวไปอยู่เบื้องหลังด้วย คือตอนที่งานมอบรางวัลเลิกแล้วผู้มาร่วมงานคนอื่นๆ ก็ยังอยู่พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการคัดเลือกนิยายไปทำละคร ทำอย่างไรให้นิยายได้รับเลือก....ฯลฯ
จากนั้นได้มีการถามถึงเรื่องการวางตัวนักเเสดงสำหรับละครเรื่องหนึ่งซึ่งทุกคนก็คาดหวังว่าจะมีการคัดเลือกคนที่เหมาะสม แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่ ทุกคนก็แย้งว่าตัวละครมันควรจะเหมือนในบทประพันธ์ซึ่งก็มีนักแสดงที่เหมาะสมให้เลือกมากมาย แขกรับเชิญคนนี้เขาก็อธิบายอ่ะนะว่าเพราะอะไรเขาถึงได้เลือกนักแสดงคนนั้น แต่คำพูดที่ฟังแล้วสะอึกก็คือคำว่า "น้ำเน่า" เขาพูดว่าคนดูน่ะน้ำเน่ามีมายาคติคิดไปจินตนาการไปว่าพระเอกหรือนางเอกต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ทั้งๆ ที่มันไม่จำเป็นต้องเหมือนบทประพันธ์
เชื่อไหมทุกวันนี้เรายังจำฝังติดรูหูทั้งสองข้างอยู่เลย เขาด่าพวกเราทุกคนว่าน้ำเน่า....พูดไม่คิดเลยเนอะ
เมื่อคนในวงการพูดว่าคนดูละครน้ำเน่าคุณคิดว่าอย่างไร
เรื่องนี้มันเกิดขึ้นเมื่อเพื่อนเราชวนเราให้ไปเป็นเพื่อนรับรางวัลประกวดนิยาย ในงานมอบรางวัลก็มีแขกรับเชิญซึ่งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี เป็นทั้งดาราและตอนนี้ก็ผันตัวไปอยู่เบื้องหลังด้วย คือตอนที่งานมอบรางวัลเลิกแล้วผู้มาร่วมงานคนอื่นๆ ก็ยังอยู่พูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องการคัดเลือกนิยายไปทำละคร ทำอย่างไรให้นิยายได้รับเลือก....ฯลฯ
จากนั้นได้มีการถามถึงเรื่องการวางตัวนักเเสดงสำหรับละครเรื่องหนึ่งซึ่งทุกคนก็คาดหวังว่าจะมีการคัดเลือกคนที่เหมาะสม แต่ความเป็นจริงมันไม่ใช่ ทุกคนก็แย้งว่าตัวละครมันควรจะเหมือนในบทประพันธ์ซึ่งก็มีนักแสดงที่เหมาะสมให้เลือกมากมาย แขกรับเชิญคนนี้เขาก็อธิบายอ่ะนะว่าเพราะอะไรเขาถึงได้เลือกนักแสดงคนนั้น แต่คำพูดที่ฟังแล้วสะอึกก็คือคำว่า "น้ำเน่า" เขาพูดว่าคนดูน่ะน้ำเน่ามีมายาคติคิดไปจินตนาการไปว่าพระเอกหรือนางเอกต้องเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ทั้งๆ ที่มันไม่จำเป็นต้องเหมือนบทประพันธ์
เชื่อไหมทุกวันนี้เรายังจำฝังติดรูหูทั้งสองข้างอยู่เลย เขาด่าพวกเราทุกคนว่าน้ำเน่า....พูดไม่คิดเลยเนอะ