เรื่องพระเจ้าอาจจะเป็นเรื่องตลกสำหรับบางคน จากวันนั้นถึงวันนี้ เข้าใจแล้ว

ตอนตกงาน 3-4  เดือน นีกว่าตัวเองตกนรก เข้าใจความน่าเบื่อ ความกดดันใช่ไหมค่ะ  เพื่อนคนอื่นมีงานกันหมดแล้ว แต่เรานั่งต๊อกต๋อยอยู่ อยากระบาย ก็ไปคุยกับลุงคนหนี่ง  "เนี่ยยังไม่ได้งานเลยลุง"    

ลูงบอก  "นี่ๆหนูๆ อธิฐานกับพระเจ้าสิ "   เราก็แบบว่า   เฮ้ยยยยยย ลุงคนนี้ สงสัยแกไม่เต็มว่ะ  แหมปากจะยิ้มรับ แต่ใจสกปรกมากกกกเราอ่ะ ไม่เชื่อแล้วยังนีกด่าเขาในใจอีก  

จากวันนั้นถีงวันนี้  ไม่นีกว่า ตัวเองจะได้เป็นลูกพระเจ้า  มีประสบการณ์กับพระเจ้า ไม่นีกว่าตัวเองจะลุกขี้นมาในตอนเช้าเพื่อที่จะใช้เวลาเฝ้าเดี่ยวกับพระองค์  คุยกับพระองค์ตลอด  คุยกับพระองค์ทุกเรือง ขอบคุณพระองค์ทุกกรณี  เฟชบูคส่วนใหญ่ก็ เป็นเรื่องของพระเจ้า  ต้องการอะไร ทูลขอ แต่เเม้จะมีบางเรื่องที่ พระองค์ไม่ได้ให้ เพราะ   พระองค์มีสิ่งที่ดีรออยู่  

เวลาไปคุยให้คนอื่นฟัง บางคนก็ฟัง   บางคนก็หัวเราะ ๆๆๆๆๆ  เบะปาก  บางคนก็บอก เอออ ...เอาเหอะ     บางคนบาง  เชื่อเรื่องกรรมเวร โตมาแบบนี้ ชีวิตถูกฟังแบบนี้     แล้วก็บ่นว่า  เมื่อไหร่จะหมดกรรมสักที  เราเอาข่าวประเสริฐไปบอก เขาก็พูดแบบนี้ แต่เราก็เข้าใจนะ เพราะเราเคยเป็นแบบนั้น    เรื่องพระเจ้าอาจจะฟังดูไกลตัวสำหรับคนบ้านเรา  แต่ถ้าเปิดใจดูสักครั้งใกล้กันมาก   กลับใจใหม่ บางอย่างเราไม่สามารถทำด้วยตัวเองได้ ด้วยนิสัยบางอย่างที่มีติดตัวมานาน แก้ไม่ได้สักที  ใจร้อน พูดจาไม่เพราะ โลภ  เห็นแก่ตัว   พระองค์เปลี่ยนเราได้      

เวลาที่เราไปบอกใคร ก็เพราะอยากจะช่วย  บอกด้วยความรัก และความหวังดี   แต่บางครั้งมันก็รู้สึก ท้อแท้อยู่นะ   ก็ไม่เป็นไร พยามนีกถึงตัวเองก่อนหน้านี้   ยิ้ม   นีกถีงพระเยซูตอนถูกตรีงไหนกางเขน  


นี่ใช่ไหมที่เขาบอกว่า    "ถ้าผู้ใดใคร่ตามเรามา ให้ผู้นั้นเอาชนะตัวเอง และรับกางเขนของตนแบกทุกวัน และตามเรามา”   การแบกกางเขนไม่ใช่การเอาจี้มาหอยคอยนะ


แบกกางเขนมันไม่เคยง่ายดาย มันคืองานยิ่งใหญ่ที่พระองค์มอบไว้ให้เรา พรุ่งนี้ร้อนหรือจะเหน็บหนาว ทุกเรื่องราวยังมีพระองค์อยู่ข้างกาย

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่