หมอก้อง... คำพูดของคุณทำให้เราร้องไห้

"...ชีวิตการเป็นหมอของผมมาเปลี่ยนมากๆตอนที่ผมเป็นแพทย์ประจำอยู่ที่ค่ายทหารพัฒนา ในตอนนั้นจะต้องคอยออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ไปยังจัดหวัดต่างๆทุกเดือน ก็มีทั้งที่ที่ลำบากและไม่ลำบาก แต่การไปออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ที่จังหวัดเพชรบุรี ไปครั้งนั้นทำให้ผมมีแรงบันดาลใจที่จะเป็นหมอค่ายทหารพัฒนาต่อไป
    จากที่ตอนแรกต้องยอมรับก่อนว่าผมยังไม่รู้สึกอะไร เพราะไม่ประทับใจด้วยซ้ำ วันนั้นพอผมขับรถไปถึงหน่วยทหารที่เพชรบุรีเราก็เข้าใจว่าถึงที่ทำงานเลย แต่ปรากฏว่าคนในหน่วยบอกกับผมว่าต้องไปรักษาคนอีกที่นึง เขาก็บอกจอดรถไว้ที่นี่แหละ ให้ไปกับรถที่เตรียมไว้ให้ ผมก็เร่ิ่มแปลกๆละ แล้ววันนั้นจัดของไปเต็มที่มาก ทั้งโน๊ตบุ๊ก ทั้งกระเป๋า ก็โอเคขึ้นรถไปกับเจ้าหน้าที่แบบงงๆ และยังมีคำถามในหัวตลอดเวลา สรุปว่าต้องนั่งรถจากตรงนั้นไปอีกเกือบ 4 ชั่วโมง ซึ่งถนนคดเคี้ยวมาก หลังๆเริ่มเป็นทางลูกรัง พอถึงปุ๊บผมก็นึกว่าจะได้ทำงานแล้วซะที แต่ไม่ใช่ครับ ต้องเดินเท้าต่อเพราะรถขึ้นไปไม่ได้ เท่า่นั้นแหละอารมณฺ์มาเต็มเลยทีนี้ เพราะผมหอบสมบัติบ้ามาเยอะมาก ก็ต้องแบกเดินข้ามภูเขากว่า 1 ชั่วโมง ทั้งร้อน ทั้งเหนื่อย ถนนก็เป็นดินโคลน ผมก็บ่นตลอดทางเพราะเราไม่ได้เตรียมใจมาสมบุกสมบันขนาดนี้ด้วยไงครับ พอต้องมาเจอแบบนี้ก็หงุดหงิด และเหวี่ยงไปหมดครับ
    สักพักก็เลยมีเจ้าหน้าที่เดินมาถามผมว่าหมอเหนื่อยเหรอ ผมก็รู้สึกในใจ ณ ตอนนั้นว่าเขาถามทำไม กวนรึเปล่า เพราะก็รู้อยู่แล้วว่ามันลำบาก แล้วยังจะมาถาม แล้วเขาก็บอกว่า หมอคิดดูว่า 20 ปีที่แล้วเป็นยังไง  นี่คือพัฒนาหมดแล้วนะ หมอรู้มั้ยเคยมีคนนึงเดินมาด้วยกันกับผม แต่ว่าคนคนนั้นเดินนำ ทั้งๆที่ไม่ใช่คนในกลุ่ม แล้วก็เป็นคนเมือง ผมก็สงสัยว่า่ใคร เขาก็บอกว่าคนคนนั้นคือ ในหลวง พอพูดแค่นั้นแหละมันเหมือนโดนต่อยหนักๆ ในใจคิดว่าจริงเหรอ ยังแอบคิดว่าท่านมามันลำบากมากขนาดนี้จริงๆเหรอ จริงๆเราซึมซับและรับรู้มาตั้งแต่สมัยเรียนแหละว่าพระองค์ท่านทำอะไรเพื่อประชาชนบ้าง แต่ผมไม่คิดว่าท่านจะมาในที่ลำบากขนาดนี้ เพราะนี่คือเรามาเห็นเองกับตา คือมันชัดเจนกว่าที่เราเรียนหรือรู้มาสิ้นเชิง เราได้รู้ตอนนั้นเลยว่าท่านเหนื่อยและอดทนแค่ไหนกว่าจะไปช่วยพสกนิกรได้ ไม่ใช่ไปอย่างสบายเลย แต่พระองค์ทรงทำแบบนี้มาเป็นเวลาไม่รู้กี่ปีๆแล้ว
    พอวันรุ่งขึ้นเราก็ตื่นมาตรวจชาวเขา คือที่ลุยกันมานี่คือเพื่อมาตรวจรักษาชาวเขาโดยเฉพาะเลยครับ เสร็จมีเรื่องที่ทำให้ผมช็อกอีกครั้ง เมื่อสมเด็จพระเทพฯเสด็จมาที่นี่ครับ และมาทางเดียวกันเลย ท่านนั่งเฮลิคอปเตอร์มาแต่ก็ต้องเดินเท้ามาเหมือนเราเลย แล้วมาทางเดียวกันเลย ผมรู้สึกเลยว่าตัวเองเล็กมาก ไม่ได้เศษเสี้ยวธุลีดินของพระองค์ท่าน เราก็ยังบ่นอยู่เลยแล้วทำไมพระองค์ท่านถึงทำ สุดท้ายผมก็ได้คำตอบว่าที่ท่านทำทั้งหมดเนี่ยเพราะว่าท่านรักเรา (ร้องไห้) ท่านรักลูกๆของท่านทุกคน รักประชาชนทุกคนแล้วก็ไม่ใช่เฉพาะคนไทยแต่เป็นทุกคนที่อยู้บนแผ่นดินไทย
    จากวันนั้นมันเป็นจุดเปลี่ยนของผมเลยครับ กล้าพูดเลยว่าทำงานมาผมไม่เคยภูมิใจกับการเป็นราชการจนได้มารู้ว่าเป็นข้าของพระองค์ท่าน เป็นข้าของประชาชน ตัวท่านเองยังยกให้ประชาชนมาก่อน เพราะฉะนั้นมันยิ่งใหญ่ในการทำงานราชการ ผมรู้สึกว่าผมโชคดีที่ได้เป็นข้าราชการเพราะเป็นข้ารองฝ่าพระบาทในราชการปัจจุบัน ผมว่ามันไม่น่าจะยากที่เราจะแสดงความจงรักภักดี แสดงความรัก แสดงความกตัญญูตอบแทนพ่อบ้าง
    เรามีแผ่นดินอยู่สุขสบายทุกวันนี้เพราะบรรพบุรุษเสียเลือดเสียเนื้อแลกมา ฉะนั้นเราไม่ควรลืมว่าเรามีแผ่นดินนี้เพราะใคร แผ่นดินนี้เป็นของใคร ของพระองค์ท่าน เรามาอาศัยพระองค์ท่านอยู่ แล้วพระองค์ท่านก็ยังทำทุกอย่างเพื่อปกป้องพวกเรา ตั้งแต่พระองค์ท่า่นครองราชย์เป็นในหลวงของเรา จนถึงวันนี้ท่านยังไม่หยุดทำเพื่อพวกเรา ทั้งที่ท่า่นก็ประชวรอยู่ ถ้าอะไรที่ทำให้ท่านอยู่กับพวกเรานานๆหรือแลกกับความสุขของพระองค์ท่าน เอาชีวิตผมไปได้เลย ผมตายแทนได้ครับ มันถึงเวลาที่เราจะต้องทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดแล้ว ทุกๆคนต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อตอบแทนพระองค์ท่านเพราะท่า่นรักแผ่นดินนี้ที่สุด ท่านรักคนไทยที่สุด ณ ตอนนี้เราต้องมีสติขึ้นมาดึงประเทศไว้ไม่ให้มันตกต่ำไปกว่านี้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่