คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
ภาคนี้ อย่างหนึ่งที่เห็นชัดคือ คดีพิมอร และ พิมพิลาส มันดูแยกออกไปเป็นเอกเทศ
คนอื่นๆ ไม่ค่อยมีบทบาท แล้วดาราไม่ใช่ดาราสมทบ เป็นตัวหลักทั้งหมด
พล็อตของญานิน กับติณน์ มีเรื่องของหมอผีสมคิดโปรยไว้ตั้งแต่ตอนจบภาค 1
พล็อตของเรื่องนี้คือการกลับมาของหมอผีสมคิด ซึ่งมันต้องใหญ่กว่าเดิม ไม่งั้นจะกลับมาทำไม
และเรื่องนี้ เสมือนเป็นจุดรวม 5 สาวด้วย เราว่ามันจำเป็นต้องมี แล้วที่ใส่คนหลายๆ คนเข้ามาก็ดูไม่ไร้เหตุผลซะทีเดียว
เราว่าเรื่องมันก็ลงตัวดีนะ ดูแล้วไม่ขัดใจอะไร
แต่คนไม่ชอบก็คือไม่ชอบเน๊อะ ฉากไหนไม่ชอบมองผ่านๆ ก็ได้ค่ะ อย่าเพิ่งเลิกดูเลย หลังๆ อาจจะสนุกกว่านี้นะคะ ^^
คนอื่นๆ ไม่ค่อยมีบทบาท แล้วดาราไม่ใช่ดาราสมทบ เป็นตัวหลักทั้งหมด
พล็อตของญานิน กับติณน์ มีเรื่องของหมอผีสมคิดโปรยไว้ตั้งแต่ตอนจบภาค 1
พล็อตของเรื่องนี้คือการกลับมาของหมอผีสมคิด ซึ่งมันต้องใหญ่กว่าเดิม ไม่งั้นจะกลับมาทำไม
และเรื่องนี้ เสมือนเป็นจุดรวม 5 สาวด้วย เราว่ามันจำเป็นต้องมี แล้วที่ใส่คนหลายๆ คนเข้ามาก็ดูไม่ไร้เหตุผลซะทีเดียว
เราว่าเรื่องมันก็ลงตัวดีนะ ดูแล้วไม่ขัดใจอะไร
แต่คนไม่ชอบก็คือไม่ชอบเน๊อะ ฉากไหนไม่ชอบมองผ่านๆ ก็ได้ค่ะ อย่าเพิ่งเลิกดูเลย หลังๆ อาจจะสนุกกว่านี้นะคะ ^^

แสดงความคิดเห็น
งงคนเขียนบท The Sixth Sense II
แต่ทำไมคนเขียนบทถึงไม่อินกับคู่ของโจ้-กรรณา จุนจี-แก้ม ทั้งที่ควรจะอินในภาคนี้ แต่กลับเขียนส่งๆ
***หรือว่าจะเป็นคำสั่งของผู้จัด ผู้กำกับที่จะเน้นคู่นี้เพราะว่าคิดว่าเป็นจุดดึงดูดไรแบบนี้***
-เราแนะนำผู้จัด ผู้กำกับนะคะถ้าคุณเห็นข้อความนี้ เราขอแนะนำให้เน้นคู่โจ้-กรรณา และจุนจี-แก้ม เพราะคนดูจิ้น2คู่นี้