-----------------------------------------------
ทริปนี้เป็นทริปลุยเดี่ยว 41 วัน ตั้งแต่ เดินทางออกจาก Berlin, Germany มุ่งหน้าสู่ Greece และเที่ยวย้อนขึ้นมาเรื่อยๆ จาก Albania, Macedonia, Kosovo, Montenegro, Croatia, Slovenia จบทริปที่ Munich, Germany ไปเที่ยวงาน Oktoberfest
ทริปนี้เป็นทริปที่ได้พบเจอเพื่อนใหม่มากมาย และประทับใจในสิ่งที่เจอ จนอยากเขียนเก็บบันทึกเอาไว้ หวังว่าบันทึกการเดินทางนี้ จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการเดินทางมาในประเทศแถบนี้ สำหรับคนที่ยังกลัวๆ กล้าๆ หรือยังลังเลอยู่ว่าจะมาดีมั๊ย บอกได้เลยว่า ถ้าได้มาแล้วจะไม่ผิดหวัง
รีวิวย้อนหลัง
http://pantip.com/topic/31084334 บันทึกการเดินทาง เรื่องเล่าจาก Balkan: จุดเริ่มต้นของการเดินทาง
http://pantip.com/topic/31097723 บันทึกการเดินทาง เรื่องเล่าจาก Balkans 01: ติดเกาะที่ Greece - Mykonos, Santorini, Crete
-----------------------------------------------
Athens
http://www.aia.gr/traveler/
ข้อมูล Athens International Airport
http://www.stasy.gr/index.php?id=1&L=1
ข้อมูล Metro
http://www.ktel-fokidas.gr/index.php/en/delfi/delfi-athina-delfi
ข้อมูลรถบัส Athens-Delphi-Athens
Day 6: Athens - Acropolis
วันนี้เดินทางออกจากเกาะ Crete ด้วยเครื่องบินมาถึง Athens ช่วงบ่าย เดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง คนเยอะ เครื่องบินดีเลย์
เดินทางจากสนามบินเข้าเมืองโดยเมโทร ค่าตั๋ว 8 ยูโร
เราพักที่ Diethnes Hotel ใกล้กับสถานีรถไฟ ลงที่เมโทร Larissa Station
ห้องพักรวม พอใช้ได้ ถ้าเป็นห้องเดี่ยวสภาพห้องดีกว่ากันเยอะ แต่ก็จ่ายแพงกว่าเยอะเหมือนกัน อาหารเช้าดีรวมอยู่ในราคาที่พักแล้ว พนักงานให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แนะนำเรื่องเดินทางใน Athens ได้ดี
ห้องอาหารของโรงแรมอยู่ด้านบน กินอาหารเช้าไปพร้อมกับดูวิวของเมือง
การเดินทางใน Athens จะมีทั้งเมโทรและบัส สามารถซื้อตั๋วได้ตามสถานีเมโทรทั่วไป ตั๋วสามารถใช้ขึ้นรถบัสได้ด้วย อย่าไปซื้อตั๋วบนรถบัสนะคะ...ไม่มีขาย มีแบบตั๋วเที่ยวเดียว 1,40 ยูโร หรือแบบตั๋ว 24 ชั่วโมง 4 ยูโร

รูปจากเว็บ
http://www.stasy.gr/index.php?id=1&L=1
มาถึง Athens แล้ว ก็ต้องขอเล่าตำนานกันซักหน่อย
ชื่อเมือง Athens นั้นมาจากชื่อของเทพี Athena เทพีแห่งสติปัญญาและสงคราม ผู้ที่เกิดจากเทพ Zeus และชายา Metis ด้วยความที่เทพ Zeus กลัวคำทำนายที่ว่า บุตรที่เกิดจากชายา Metis จะมาโค่นบัลลังก์ของตน เทพ Zeus จึงกลืนชายาเข้าไปทั้งๆ ที่นางยังตั้งครรภ์อยู่ เวลาผ่านไปนาน อยู่ๆ เทพ Zeus ก็เกิดปวดหัวขึ้นมาโดยหาสาเหตุไม่ได้ และได้สั่งให้เทพ Hephaestus เทพแห่งไฟ โลหะและการช่าง นำขวานมาจามศีรษะของตน จากนั้นเทพี Athena ก็ได้กำเนิดออกมาทางศีรษะของเทพ Zeus ในลักษณะโตเต็มวัย พร้อมสวมชุดหุ้มเกราะ พร้อมอาวุธหอก
กำเนิดชื่อเมือง Athens เกิดมาจากการแข่งขันระหว่างเทพ Poseidon และเทพี Athena ว่าใครสร้างประโยชน์ให้กับเมืองนี้มากกว่าชาวเมืองจะนำชื่อนั้นไปตั้งชื่อเมือง เทพ Poseidon ใช้ตรีศูลสร้างม้าขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจ ส่วนเทพี Athena ได้เนรมิตต้นมะกอก ที่ชาวเมืองสามารถใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของต้นมะกอกได้ รวมไปถึงต้นมะกอกยังเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพและความรุ่งเรืองด้วย ทุกคนเห็นว่าต้นมะกอกให้ประโยชน์ได้มากกว่า เทพี Athena จึงชนะ
เมื่อมาถึงตัดสินใจว่าจะไป Acropolis Museum ก่อน แล้วจึงขึ้นไปดู Acropolis เพื่อรอดูพระอาทิตย์ตกดินบนนั้นด้วย
Acropolis Museum
ค่าเข้าชม: 5 ยูโร
เวลาทำการ: 1เมษายน - 31ตุลาคม วันอังคาร-วันอาทิตย์ 08:00-20:00 วันศุกร์ 08:00-22:00
1พศจิกายน - 31มีนาคม วันอังคาร-วันพฤหัสบดี 09:00-17:00 วันศุกร์ 09:00-22:00 วันเสาร์และอาทิตย์ 09:00 - 20:00
ปิดวันจันทร์
http://www.theacropolismuseum.gr/en/content/hours-ticketing
Acropolis
ค่าเข้าชม: 12 ยูโร
เวลาทำการ: ทุกวัน 08:00-19:00
http://odysseus.culture.gr/h/3/eh355.jsp?obj_id=2384
ทั้งสองที่นี้ นั่งรถเมโทรมาลงที่สถานี Acropolis ได้เลยค่ะ
เริ่มต้นที่มิวเซียมก่อน ที่นี่ห้ามถ่ายรูป ยกเว้นด้านบนสุดที่เป็น Parthenon Gallery เราสามารถชม Acropolis ได้จากด้านบนนี้ด้วย
Acropolis Museum แห่งใหม่นี้เป็นผลของการทวงคืน Parthenon Marbles จาก British Museum ในปี 1989 เมื่อทางกรีกส่งหนังสือร้องเรียนไป อีกฝ่ายได้โต้ตอบกลับมาว่าทางกรีกไม่มีสถานที่ที่เหมาะสมในการจัดแสดงโบราณวัตถุเหล่านี้
ทางกรีกจึงจัดให้มีการประกวดออกแบบอาคารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นมา แต่ผลของการประกวดก็ถูกยกเลิกไป เพราะทางการกรีกได้ขุดพบชุมชนโบราณขนาดใหญบนพื้นที่ที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์่ คาดว่าอยู่ในสมัย Archaic จนถึง Early Christian
จากนั้นจึงจัดให้มีการประกวดกันอีกครั้ง โดยออกแบบอาคารให้ผสมผสานกับชุมชนโบราณที่มีอยู่นี้
ผู้ชนะคือ Bernard Tschumi ซึ่งร่วมมือกับ Michael Photiadis เค้าออกแบบให้มีการใช้ผนังกระจกใส ทำให้แสงอาทิตย์ส่องผ่านถึงภายใน รวมไปถึงเห็นความงามของ Acropolis ที่อยู่ตรงข้ามได้อย่างชัดเจน
การจัดแสดงงานในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีการเว้นที่ว่างไว้รอคอยการกลับมาของรูปปั้น และ Parthenon Marbles ที่ถูกนำไปยังสหราชอาณาจักรโดย Lord Elgin

รูปถ่ายจาก British Museum
เมื่ออ้อยเข้าปากช้างแล้ว...งานนี้ทาง British Museum ได้อ้างว่า British Museum เป็นที่รวบรวมศิลปะวัฒนธรรมที่สำคัญของโลกที่ถูกสร้างมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และรูปปั้นจาก Parthenon ก็เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์นั้น เป็นมรดกโลกที่ควรร่วมกันแบ่งปัน ซึ่งทาง British Museum ได้ให้เข้าชมฟรี และมีผู้เข้ามาชมหลายล้านคนต่อปี
ภาพ Caryatids ใน Acropolis Museum ที่เว้นที่ว่างไว้รอ Caryatid จาก British Museum

รูปด้านซ้าย:
http://www.alepaint.com/board_reply.php?txtNo=TURBd01EQXdNREEyTVRFPQ==&txtroom=
รูปด้านขวาถ่ายจาก British Museum
เราชอบวิธีการจัดแสดงงานของที่นี่มาก เค้าจัดวางตำแหน่งภาพปูนปั้นเหมือนกับที่สร้างที่ Parthenon ภาพปูนปั้นที่มีหลงเหลือแค่บางส่วน เค้าจะนำแผ่น Acrylic เจาะช่องให้พอดีกับชิ้นส่วนนั้น แล้วจัดแสดงให้เห็นถึงตำแหน่งที่มันควรจะอยู่ในภาพ
รูปปั้นเลียนแบบนี้ตั้งอยู่ในสถานีเมโทร (รูปด้านบน) เราจำไม่ได้ว่าสถานีไหน มันช่างคุ้นตาเหลือเกิน เมื่อไปอ่านคำบรรยายก็พบว่ามันคือรูปปั้นที่ Lord Elgin ขนไปสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี 1801 นั่นเอง เอามาเทียบกับภาพที่ถ่ายจาก British Museum (รูปด้านล่าง)
ออกจากพิพิธภัณฑ์ เราก็มุ่งหน้าไปชม Acropolis ด้านบนกันเลยค่ะ
ทางเข้าสู่ Acropolis จะอยู่ทางทิศตะวันตก ซึ่งเราจะพบกับ Propylaea ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 437-432 ก่อนคริสต์กาล ประกอบด้วยตึกหลักตรงกลาง และปีกทั้งสองข้าง ปีกทางใต้จะเป็นวิหาร Athena Nike ถูกสร้างขึ้นราว 420 ปีก่อนคริสต์กาล
ปีกทางเหนือจะเป็น Pinakotheke (ด้านซ้ายของรูป)
เมื่อเข้ามาด้านใน จะพบว่าอาคารต่างๆ ใน Acropolis ถูกทำลายเสียหายไปมาก รวมไปถึง Parthenon ที่ถูกซ่อมแซมอยู่ ทำให้ความยิ่งใหญ่ของ Acropolis ถูกลดทอนลงไปพอสมควร
เมื่อได้เดินวนรอบ Parthenon อยากจะเรียกความทรงจำเมื่อตอนเรียนประวัติศาสตร์ศิลป์กลับมา แต่เรียกเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมมา ต้องอ่านจากข้อมูลที่เค้ามีให้
Parthenon เป็นวิหารแบบ Doric ถูกสร้างเพื่อถวายแด่เทพี Athena มันถูกสร้างขึ้นเมื่อ 447-438 ปีก่อนคริสต์กาล ในสมัย Early Christian วิหาร Parthenon ถูกดัดแปลงเป็นโบสถ์
เมื่อตกอยู่ภายใต้การปกครองของพวกออตโตมันในปี1458 Parthenon ก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นสุเหร่า
ในปี 1687 Parthenon ถูกใช้เป็นที่เก็บกระสุนดินปืน เมื่อถูกโจมตีด้วยกระสุนปืนใหญ่ แรงระเบิดได้ทำลายหลังคาและด้านยาวของตัวอาคาร รวมไปถึงรูปปั้น
ความเสียหายครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปี1801-1802 เมื่อ Lord Elgin เข้ามาขนรูปปั้นต่างๆ ที่ยังอยู่ในสภาพดี ไปยังสหราชอาณาจักร
Erechtheion อาคารที่เราจำได้ขึ้นใจตั้งแต่เรียนและอยากจะเห็นมากที่สุดใน Acropolis ถูกสร้างขึ้นราว 420 ปีก่อนคริสต์กาล ทางด้านทิศใต้ของอาคารจะมีเฉลียงที่มีลักษณะเด่นอยู่ คือหลังคาถูกรองรับด้วยด้วยรูปปั้น Caryatids ปัจจุบันรูปปั้นทั้ง 6 เป็นของทำเลียนแบบ 1ในรูปปั้น Caryatids ทั้ง 6 ถูกนำไปยังสหราชอาณาจักร ปัจจุบันถูกจัดแสดงที่ British Museum รูปปั้นของจริงที่เหลือถูกนำไปจัดแสดงที่ Acropolis Museum
ซากอาคารด้านหน้า Erechtheion เป็นวิหารเดิมที่สร้างถวายแด่เทพีAthena ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ส่วนฐาน
ต้นมะกอก ตามตำนานเล่าว่าเป็นต้นมะกอกที่เทพี Athena ประทานมาให้
ด้านบน Acropolis เหมาะอย่างยิ่งในการชมวิวรอบๆ เมืองAthens
ภาพพระอาทิตย์ยามเย็นบน Acropolis
เมื่อถึงเวลาปิดจะมีเหล่าทหารมาเฝ้าสมบัติของชาติ
ได้เวลาร่ำลา Acropolis แล้ว
บันทึกการเดินทาง เรื่องเล่าจาก Balkans 02: ตามหาเทพเจ้าที่ Greece - Athens, Delphi, Sounion
ทริปนี้เป็นทริปลุยเดี่ยว 41 วัน ตั้งแต่ เดินทางออกจาก Berlin, Germany มุ่งหน้าสู่ Greece และเที่ยวย้อนขึ้นมาเรื่อยๆ จาก Albania, Macedonia, Kosovo, Montenegro, Croatia, Slovenia จบทริปที่ Munich, Germany ไปเที่ยวงาน Oktoberfest
ทริปนี้เป็นทริปที่ได้พบเจอเพื่อนใหม่มากมาย และประทับใจในสิ่งที่เจอ จนอยากเขียนเก็บบันทึกเอาไว้ หวังว่าบันทึกการเดินทางนี้ จะมีข้อมูลที่เป็นประโยชน์สำหรับคนที่ต้องการเดินทางมาในประเทศแถบนี้ สำหรับคนที่ยังกลัวๆ กล้าๆ หรือยังลังเลอยู่ว่าจะมาดีมั๊ย บอกได้เลยว่า ถ้าได้มาแล้วจะไม่ผิดหวัง
รีวิวย้อนหลัง
http://pantip.com/topic/31084334 บันทึกการเดินทาง เรื่องเล่าจาก Balkan: จุดเริ่มต้นของการเดินทาง
http://pantip.com/topic/31097723 บันทึกการเดินทาง เรื่องเล่าจาก Balkans 01: ติดเกาะที่ Greece - Mykonos, Santorini, Crete
-----------------------------------------------
Athens
http://www.aia.gr/traveler/
ข้อมูล Athens International Airport
http://www.stasy.gr/index.php?id=1&L=1
ข้อมูล Metro
http://www.ktel-fokidas.gr/index.php/en/delfi/delfi-athina-delfi
ข้อมูลรถบัส Athens-Delphi-Athens
Day 6: Athens - Acropolis
วันนี้เดินทางออกจากเกาะ Crete ด้วยเครื่องบินมาถึง Athens ช่วงบ่าย เดือนสิงหาคมเป็นเดือนที่ควรหลีกเลี่ยงเป็นอย่างยิ่ง คนเยอะ เครื่องบินดีเลย์
เดินทางจากสนามบินเข้าเมืองโดยเมโทร ค่าตั๋ว 8 ยูโร
เราพักที่ Diethnes Hotel ใกล้กับสถานีรถไฟ ลงที่เมโทร Larissa Station
ห้องพักรวม พอใช้ได้ ถ้าเป็นห้องเดี่ยวสภาพห้องดีกว่ากันเยอะ แต่ก็จ่ายแพงกว่าเยอะเหมือนกัน อาหารเช้าดีรวมอยู่ในราคาที่พักแล้ว พนักงานให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ แนะนำเรื่องเดินทางใน Athens ได้ดี
ห้องอาหารของโรงแรมอยู่ด้านบน กินอาหารเช้าไปพร้อมกับดูวิวของเมือง
การเดินทางใน Athens จะมีทั้งเมโทรและบัส สามารถซื้อตั๋วได้ตามสถานีเมโทรทั่วไป ตั๋วสามารถใช้ขึ้นรถบัสได้ด้วย อย่าไปซื้อตั๋วบนรถบัสนะคะ...ไม่มีขาย มีแบบตั๋วเที่ยวเดียว 1,40 ยูโร หรือแบบตั๋ว 24 ชั่วโมง 4 ยูโร
รูปจากเว็บ http://www.stasy.gr/index.php?id=1&L=1
มาถึง Athens แล้ว ก็ต้องขอเล่าตำนานกันซักหน่อย
ชื่อเมือง Athens นั้นมาจากชื่อของเทพี Athena เทพีแห่งสติปัญญาและสงคราม ผู้ที่เกิดจากเทพ Zeus และชายา Metis ด้วยความที่เทพ Zeus กลัวคำทำนายที่ว่า บุตรที่เกิดจากชายา Metis จะมาโค่นบัลลังก์ของตน เทพ Zeus จึงกลืนชายาเข้าไปทั้งๆ ที่นางยังตั้งครรภ์อยู่ เวลาผ่านไปนาน อยู่ๆ เทพ Zeus ก็เกิดปวดหัวขึ้นมาโดยหาสาเหตุไม่ได้ และได้สั่งให้เทพ Hephaestus เทพแห่งไฟ โลหะและการช่าง นำขวานมาจามศีรษะของตน จากนั้นเทพี Athena ก็ได้กำเนิดออกมาทางศีรษะของเทพ Zeus ในลักษณะโตเต็มวัย พร้อมสวมชุดหุ้มเกราะ พร้อมอาวุธหอก
กำเนิดชื่อเมือง Athens เกิดมาจากการแข่งขันระหว่างเทพ Poseidon และเทพี Athena ว่าใครสร้างประโยชน์ให้กับเมืองนี้มากกว่าชาวเมืองจะนำชื่อนั้นไปตั้งชื่อเมือง เทพ Poseidon ใช้ตรีศูลสร้างม้าขึ้นมาเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจ ส่วนเทพี Athena ได้เนรมิตต้นมะกอก ที่ชาวเมืองสามารถใช้ประโยชน์จากทุกส่วนของต้นมะกอกได้ รวมไปถึงต้นมะกอกยังเป็นสัญลักษณ์ของสันติภาพและความรุ่งเรืองด้วย ทุกคนเห็นว่าต้นมะกอกให้ประโยชน์ได้มากกว่า เทพี Athena จึงชนะ
เมื่อมาถึงตัดสินใจว่าจะไป Acropolis Museum ก่อน แล้วจึงขึ้นไปดู Acropolis เพื่อรอดูพระอาทิตย์ตกดินบนนั้นด้วย
Acropolis Museum
ค่าเข้าชม: 5 ยูโร
เวลาทำการ: 1เมษายน - 31ตุลาคม วันอังคาร-วันอาทิตย์ 08:00-20:00 วันศุกร์ 08:00-22:00
1พศจิกายน - 31มีนาคม วันอังคาร-วันพฤหัสบดี 09:00-17:00 วันศุกร์ 09:00-22:00 วันเสาร์และอาทิตย์ 09:00 - 20:00
ปิดวันจันทร์
http://www.theacropolismuseum.gr/en/content/hours-ticketing
Acropolis
ค่าเข้าชม: 12 ยูโร
เวลาทำการ: ทุกวัน 08:00-19:00
http://odysseus.culture.gr/h/3/eh355.jsp?obj_id=2384
ทั้งสองที่นี้ นั่งรถเมโทรมาลงที่สถานี Acropolis ได้เลยค่ะ
เริ่มต้นที่มิวเซียมก่อน ที่นี่ห้ามถ่ายรูป ยกเว้นด้านบนสุดที่เป็น Parthenon Gallery เราสามารถชม Acropolis ได้จากด้านบนนี้ด้วย
Acropolis Museum แห่งใหม่นี้เป็นผลของการทวงคืน Parthenon Marbles จาก British Museum ในปี 1989 เมื่อทางกรีกส่งหนังสือร้องเรียนไป อีกฝ่ายได้โต้ตอบกลับมาว่าทางกรีกไม่มีสถานที่ที่เหมาะสมในการจัดแสดงโบราณวัตถุเหล่านี้
ทางกรีกจึงจัดให้มีการประกวดออกแบบอาคารพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ขึ้นมา แต่ผลของการประกวดก็ถูกยกเลิกไป เพราะทางการกรีกได้ขุดพบชุมชนโบราณขนาดใหญบนพื้นที่ที่จะสร้างพิพิธภัณฑ์่ คาดว่าอยู่ในสมัย Archaic จนถึง Early Christian
จากนั้นจึงจัดให้มีการประกวดกันอีกครั้ง โดยออกแบบอาคารให้ผสมผสานกับชุมชนโบราณที่มีอยู่นี้
ผู้ชนะคือ Bernard Tschumi ซึ่งร่วมมือกับ Michael Photiadis เค้าออกแบบให้มีการใช้ผนังกระจกใส ทำให้แสงอาทิตย์ส่องผ่านถึงภายใน รวมไปถึงเห็นความงามของ Acropolis ที่อยู่ตรงข้ามได้อย่างชัดเจน
การจัดแสดงงานในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ มีการเว้นที่ว่างไว้รอคอยการกลับมาของรูปปั้น และ Parthenon Marbles ที่ถูกนำไปยังสหราชอาณาจักรโดย Lord Elgin
รูปถ่ายจาก British Museum
เมื่ออ้อยเข้าปากช้างแล้ว...งานนี้ทาง British Museum ได้อ้างว่า British Museum เป็นที่รวบรวมศิลปะวัฒนธรรมที่สำคัญของโลกที่ถูกสร้างมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน และรูปปั้นจาก Parthenon ก็เป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์นั้น เป็นมรดกโลกที่ควรร่วมกันแบ่งปัน ซึ่งทาง British Museum ได้ให้เข้าชมฟรี และมีผู้เข้ามาชมหลายล้านคนต่อปี
ภาพ Caryatids ใน Acropolis Museum ที่เว้นที่ว่างไว้รอ Caryatid จาก British Museum
รูปด้านซ้าย: http://www.alepaint.com/board_reply.php?txtNo=TURBd01EQXdNREEyTVRFPQ==&txtroom=
รูปด้านขวาถ่ายจาก British Museum
เราชอบวิธีการจัดแสดงงานของที่นี่มาก เค้าจัดวางตำแหน่งภาพปูนปั้นเหมือนกับที่สร้างที่ Parthenon ภาพปูนปั้นที่มีหลงเหลือแค่บางส่วน เค้าจะนำแผ่น Acrylic เจาะช่องให้พอดีกับชิ้นส่วนนั้น แล้วจัดแสดงให้เห็นถึงตำแหน่งที่มันควรจะอยู่ในภาพ
รูปปั้นเลียนแบบนี้ตั้งอยู่ในสถานีเมโทร (รูปด้านบน) เราจำไม่ได้ว่าสถานีไหน มันช่างคุ้นตาเหลือเกิน เมื่อไปอ่านคำบรรยายก็พบว่ามันคือรูปปั้นที่ Lord Elgin ขนไปสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี 1801 นั่นเอง เอามาเทียบกับภาพที่ถ่ายจาก British Museum (รูปด้านล่าง)
ออกจากพิพิธภัณฑ์ เราก็มุ่งหน้าไปชม Acropolis ด้านบนกันเลยค่ะ
ทางเข้าสู่ Acropolis จะอยู่ทางทิศตะวันตก ซึ่งเราจะพบกับ Propylaea ที่ถูกสร้างขึ้นในปี 437-432 ก่อนคริสต์กาล ประกอบด้วยตึกหลักตรงกลาง และปีกทั้งสองข้าง ปีกทางใต้จะเป็นวิหาร Athena Nike ถูกสร้างขึ้นราว 420 ปีก่อนคริสต์กาล
ปีกทางเหนือจะเป็น Pinakotheke (ด้านซ้ายของรูป)
เมื่อเข้ามาด้านใน จะพบว่าอาคารต่างๆ ใน Acropolis ถูกทำลายเสียหายไปมาก รวมไปถึง Parthenon ที่ถูกซ่อมแซมอยู่ ทำให้ความยิ่งใหญ่ของ Acropolis ถูกลดทอนลงไปพอสมควร
เมื่อได้เดินวนรอบ Parthenon อยากจะเรียกความทรงจำเมื่อตอนเรียนประวัติศาสตร์ศิลป์กลับมา แต่เรียกเท่าไหร่มันก็ไม่ยอมมา ต้องอ่านจากข้อมูลที่เค้ามีให้
Parthenon เป็นวิหารแบบ Doric ถูกสร้างเพื่อถวายแด่เทพี Athena มันถูกสร้างขึ้นเมื่อ 447-438 ปีก่อนคริสต์กาล ในสมัย Early Christian วิหาร Parthenon ถูกดัดแปลงเป็นโบสถ์
เมื่อตกอยู่ภายใต้การปกครองของพวกออตโตมันในปี1458 Parthenon ก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นสุเหร่า
ในปี 1687 Parthenon ถูกใช้เป็นที่เก็บกระสุนดินปืน เมื่อถูกโจมตีด้วยกระสุนปืนใหญ่ แรงระเบิดได้ทำลายหลังคาและด้านยาวของตัวอาคาร รวมไปถึงรูปปั้น
ความเสียหายครั้งใหญ่เกิดขึ้นในปี1801-1802 เมื่อ Lord Elgin เข้ามาขนรูปปั้นต่างๆ ที่ยังอยู่ในสภาพดี ไปยังสหราชอาณาจักร
Erechtheion อาคารที่เราจำได้ขึ้นใจตั้งแต่เรียนและอยากจะเห็นมากที่สุดใน Acropolis ถูกสร้างขึ้นราว 420 ปีก่อนคริสต์กาล ทางด้านทิศใต้ของอาคารจะมีเฉลียงที่มีลักษณะเด่นอยู่ คือหลังคาถูกรองรับด้วยด้วยรูปปั้น Caryatids ปัจจุบันรูปปั้นทั้ง 6 เป็นของทำเลียนแบบ 1ในรูปปั้น Caryatids ทั้ง 6 ถูกนำไปยังสหราชอาณาจักร ปัจจุบันถูกจัดแสดงที่ British Museum รูปปั้นของจริงที่เหลือถูกนำไปจัดแสดงที่ Acropolis Museum
ซากอาคารด้านหน้า Erechtheion เป็นวิหารเดิมที่สร้างถวายแด่เทพีAthena ปัจจุบันเหลือเพียงแค่ส่วนฐาน
ต้นมะกอก ตามตำนานเล่าว่าเป็นต้นมะกอกที่เทพี Athena ประทานมาให้
ด้านบน Acropolis เหมาะอย่างยิ่งในการชมวิวรอบๆ เมืองAthens
ภาพพระอาทิตย์ยามเย็นบน Acropolis
เมื่อถึงเวลาปิดจะมีเหล่าทหารมาเฝ้าสมบัติของชาติ
ได้เวลาร่ำลา Acropolis แล้ว