นายวิชา มหาคุณ กรรมการป.ป.ช. ในฐานะประธานอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงแถลงถึงความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลว่า ขณะนี้ทางคณะอนุกรรมการไต่สวนได้มีการเรียกพยานมาให้ข้อมูลอย่างต่อเนื่อง อาทิ นายกสมาคมส่งออกข้าว หลังจากนี้จะมีการเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจงข้อมูลต่อป.ป.ช. รวมไปถึงบุคคลผู้ที่โอนเงินเข้าบัญชีและซื้อแคชเชียร์เช็ค โดยกระบวนการไต่สวนดำเนินการไปเรื่อยๆโดยไม่หยุดชะงัก โดยขณะนี้อนุกรรมการอยู่ระหว่างการรอแคชเชียร์เช็ค ซึ่งเหลืออีก 2 ธนาคาร ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพจำนวน 75 ฉบับ และธนาคารไทยพาณิชย์จำนวน 35 ฉบับ ถ้าไม่ส่งข้อมูลมา ทางป.ป.ช.ก็จะใช้อำนาจในการเรียกข้อมูลมาตรวจสอบ
นายวิชา กล่าวอีกว่า โดยการตรวจสอบแคชเชียร์เช็คจะดูว่าคนที่ซื้อแคชเชียร์เช็คผ่านกระบวนการระหว่างประเทศหรือไม่ หรือเป็นการซื้อแคชเชียร์เช็คตามปกติในประเทศไทย ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าพบความผิดปกติอย่างไร เนื่องจากต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน โดยป.ป.ช.จะตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงทางด้านการเงินอย่างไรหรือไม่ รวมทั้งดูว่าใช้กระบวนการอย่างไรในการซื้อขายข้าว
นายวิชา กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าทางป.ป.ช.เร่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็ว แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าพยานว่าจะสามารถให้ข้อมูลครบถ้วนหรือไม่ ขณะเดียวกันทางป.ป.ช.ยังได้มีการส่งเรื่องให้ประเทศจีนได้ตรวจสอบว่าเป็นบริษัทที่อ้างว่าเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจนั้นจริงหรือไม่ ดังนั้นก็ต้องรอประเทศจีนส่งข้อมูลกลับมา อย่างไรก็ตามเราได้ตั้งเป้าไว้ว่าเดือนหน้าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จ โดยเฉพาะในส่วนของข้อมูลการระบายข้าวว่าเป็นการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจีหรือไม่
นายวิชา ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีการยื่นคำร้องให้ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่ามีพฤติกรรมละเลยต่อหน้าที่หรือไม่กรณีให้บริษัทสยามอินดิก้า ซึ่งเป็นบริษัทที่ล้มละลายและเหตุใด จึงเข้ามามีบทบาทรับผิดชอบในเรื่องของการรับซื้อข้าว โดยขณะนี้ทางป.ป.ช.ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างตั้ง คณะอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนข้อเท็จจริง เนื่องจากการตรวจสอบข้อมูลเห็นว่ามีข้อมูลและรายละเอียดที่แตกต่างจากคำร้องเดิม
credit :
http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20131015/536592/
ปปช.รับเรื่องสอบ 'กิตติรัตน์-บุญทรง' โครงการรับจำนำข้าว
นายวิชา กล่าวอีกว่า โดยการตรวจสอบแคชเชียร์เช็คจะดูว่าคนที่ซื้อแคชเชียร์เช็คผ่านกระบวนการระหว่างประเทศหรือไม่ หรือเป็นการซื้อแคชเชียร์เช็คตามปกติในประเทศไทย ซึ่งยังไม่สามารถระบุได้ว่าพบความผิดปกติอย่างไร เนื่องจากต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน โดยป.ป.ช.จะตรวจสอบว่ามีความเชื่อมโยงทางด้านการเงินอย่างไรหรือไม่ รวมทั้งดูว่าใช้กระบวนการอย่างไรในการซื้อขายข้าว
นายวิชา กล่าวต่อว่า ยืนยันว่าทางป.ป.ช.เร่งดำเนินการตรวจสอบเรื่องนี้โดยเร็ว แต่ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่าพยานว่าจะสามารถให้ข้อมูลครบถ้วนหรือไม่ ขณะเดียวกันทางป.ป.ช.ยังได้มีการส่งเรื่องให้ประเทศจีนได้ตรวจสอบว่าเป็นบริษัทที่อ้างว่าเป็นบริษัทรัฐวิสาหกิจนั้นจริงหรือไม่ ดังนั้นก็ต้องรอประเทศจีนส่งข้อมูลกลับมา อย่างไรก็ตามเราได้ตั้งเป้าไว้ว่าเดือนหน้าจะพิจารณาให้แล้วเสร็จ โดยเฉพาะในส่วนของข้อมูลการระบายข้าวว่าเป็นการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือ จีทูจีหรือไม่
นายวิชา ยังกล่าวด้วยว่า ขณะนี้ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล อดีตผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ได้มีการยื่นคำร้องให้ป.ป.ช.ดำเนินการตรวจสอบพฤติกรรมของนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ว่ามีพฤติกรรมละเลยต่อหน้าที่หรือไม่กรณีให้บริษัทสยามอินดิก้า ซึ่งเป็นบริษัทที่ล้มละลายและเหตุใด จึงเข้ามามีบทบาทรับผิดชอบในเรื่องของการรับซื้อข้าว โดยขณะนี้ทางป.ป.ช.ได้รับเรื่องดังกล่าวไว้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว และอยู่ระหว่างตั้ง คณะอนุกรรมการขึ้นมาไต่สวนข้อเท็จจริง เนื่องจากการตรวจสอบข้อมูลเห็นว่ามีข้อมูลและรายละเอียดที่แตกต่างจากคำร้องเดิม
credit : http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/politics/politics/20131015/536592/