
ขอเรียนก่อนว่านี่เป็นบทความที่เกิดจากความเห็นส่วนตัวนะครับ ผมยอมรับทุกความเห็นทั้งที่อาจจะเห็นต่างจากผม แต่อย่างน้อยผมแค่ขอให้สังคมได้รับรู้ความรู้สึกของผมบ้างก็แค่นั้น ทั้งนี้ความเห็นหรือบทความของผมอาจจะไม่ถูกทั้งหมดก็ได้ คงไม่ลำบากนะครับสำหรับการกดคลิปฟังไปด้วยและอ่านข้อความนี้ไปด้วย จากเหตุการณ์ที่เหล่าคนนาฏศิลป์ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยอย่างกว้างขวางเรื่องของการถอดหลักสูตรวิชานาฏศิลป์ออกจากหลักสูตร ซึ่ง ณ ปัจจุบันก็เป็นที่ทราบกันว่าผู้หลักผู้ใหญ่ผู้มีอำนาจทั้งหลายพากันร้องฮู้แล้วบอกว่าไม่ได้ถอด จากนั้นก็มีคนกลุ่มหนึ่งออกมาพูดว่าพวกที่ออกมาเต้นทีแรกนี่น่ะตอนนี้พากันเงินไปตามๆกัน ตามคลิปคุณพิธีกรก็บอกว่าพวกคนที่ออกมาโวยวายนี่เงิบแล้วหล่ะ เค้าไม่ได้ถอดออกซักหน่อย ซึ่งตอนนี้ประเด็นนี้ขอให้ตกไปครับ ที่สำคัญคือพวกสาว ๆ ทั้งสามคนกลับแสดงความเห็นเรื่องนี้ในมุมที่จะว่าฉลาดหรือก็ไม่ใช่ กระเดียดจะไปทางโง่เสียมาก เป็นต้นว่า เธอบอกว่าศิลปะไทยเนี่ยมันไม่ก้าวหน้าเอาเสียเลยคืออยู่ในมุมเดิมๆ ไม่ก้าวสู่ความเป็นสากล เธอคงจะเห็นศิลปะไทยเป็นเหมือนสิ้นค้าส่งออก หรือสินค้าแบรนด์เนม เธอคงไม่เข้าใจคำว่าอนุรักษ์ ในขณะที่ชาวเราบางกลุ่มพยายามจะรักษาให้เหมือนของดั้งเดิมไม่ให้เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่พวกเธอกลับอยากให้มันเปลี่ยนแปลงไป เมื่อ สี่ หรือห้าปีมาแล้ว สมเด็จพระนางเจ้าฯ ท่านก็ทรงให้ฟื้นฟูศิลป์ที่เป็นของดั้งเดิม โดยมีพระราชเสาวนีย์ให้รวบรวมครูผู้มีความรู้ในแขนงๆ ได้ช่วยกันฟื้นฟู สั่งสอนให้อนุชนรุ่นหลังได้สืบทอด นั่นหมายความว่าความเป็นของเก่า ไม่เปลี่ยนแปลงไปจนไม่เหลือเค้าเดิม มันดีอยู่แล้ว มันบอกความเป็นเรา มันเป็นเอกลักษณ์ของเรา มันไม่ไม่ได้แสดงความด้อยพัฒนาของเราตรงใหน ดั่งเช่นที่คุณว่า ศิลปของไทยเราไปไม่ถึงใหน มันมีจุดหมายปลายทางด้วยเหรอครับ ศีลปะมันมีขอบเขตด้วยเหรอ มันต้องเป็นสากลเหรอจึงจะเรียกว่าถึงที่สุดแล้ว ประเทศลาว ทุกวันนี้เด็กวัยรุ่นยังนุ่งผ้าซิ่น เค้าด้อยพัฒนารึเปล่าครับ ไม่เลยความเจริญด้านจิตใจเค้าสูงกว่าเราด้วยซ้ำไปเพราะอะไรครับ เพราะเค้ายินดีเสมอครับที่คนต่างชาติ เห็นแล้วทราบว่านี้คือเอกลักษณ์ของเขา แล้วเราล่ะ มีเอสเอมเอสจากผู้ชมมาติงคุณว่า การนำศิลปะออกสู่สากลไม่จำเป็นต้องเปลือยกาย แต่คุณพิธีกรก็ตอบกลับไปว่า ก็ไม่จำเป็นต้องใส่เครื่อง ทั้งที่สิ่งเหล่านี้มันคือส่วนประกอบ เป็นสิ่งบ่งบอกอัตลักษณ์  รวบรวมสติปัญญา ภูมิปัญญา รวมความสามารถของปู่ของย่าเรา มันบอกได้นะครับว่าเรามีอารยธรรมมานานแค่ไหน ผมคนหนึ่งที่ไม่เคยคิดจะให้มันเปลี่ยนไป หรือให้มันหายไป สิ่งที่ผมกลัวอยู่เสมอคือกลัวสิ่งเหล่านี้จะหายไป ผมเป็นช่างทำหัวโขน คุณรู้ว่าพวกผม (ไม่ใช่ผมคนเดียว) พยายามกันแค่ใหนที่จะรักษามันไว้ แม้แต่ในเว็บพันทิพเองผมก็เคยเอาความรู้มาเผยแพร่ไว้ด้วยหวังให้เป็นประโยชน์แค่คนรุ่นต่อๆไป 
http://topicstock.pantip.com/jatujak/topicstock/2009/09/J8325215/J8325215.html และอีกหลายๆอย่าง หลายๆ วิธี โดยพวกเราคิดเสมอว่า ศิลปะเหล่านี้มันจะตายตามเราไปถ้าเราไม่สอนคนรุ่นหลังไว้ คุณรู้รึเปล่าว่าการอนุรักษ์มันเหนื่อยยากแค่ใหน มันลำบากแค่ไหน ขณะที่พวกเราเพียรพยามอย่างทุ่มกำลังกายและกำลังใจ แต่วันนี้พอได้ยินพวกคุณสนทนากัน กำลังใจผมเหลือเป็น 0 พวกคุณมีโอกาสมากกว่าพวกเรา คุณพูดกันไม่กี่นาทีคนครึ่งค่อนประเทศก็จะได้เสพย์ ได้รับรู้คำพูด ความเห็นของพวกคุณ แต่พวกเราล่ะ ต่อให้ลงแรง ลงมือ ก็แทบจะเปล่า ผมขอร้องเถอะครับอะไรที่มันจะสามารถช่วยกันทำให้มันคงอยู่ได้แล้วบ่งบอกความเป็นเราให้มันอยู่อย่างเดิมเถอะครับ คำว่าเชย ล้าสมัย หรือจะพูว่ามันขัดขืนใจกัน คนไม่ชอบจะมาบังคับให้ชอบได้อย่างไร มันริดรอนสิทธิเสรีถาพกัน คิดได้ครับ แต่ช่วยสำเหนียกในสมองกันหน่อยนะครับที่เราเป็นชาติทุกวันนี้อะไรหล่อเลี้ยงมา ที่เราก้าวไปยืนในเวทีระดับโลกอะไรเป็นหน้าตา และที่ชาติอื่นไม่มีแต่เขาต้องการจะไขว่ขว้ามาคืออะไร.......																															
 
						
นาฏศิลป์ที่ไม่ใช่มุมของการถอดออกจากหลักสูตร