เห็นคนกลุ่มนึง ดราม่า เรื่องข้าวแพง เลยอยากเขียนอะไรให้เป็นแง่คิดสักนิด
################################
สำหรับผม ชิวๆ กับการกินข้าว มากๆ เพราะผมถือคติว่า ร้านใหนขึ้นราคา แล้วเจือกไม่ แซ่บ ผมไม่กิน ....
ร้านใหนขึ้นราคา แต่ #แซ่บ ผมก็กินครับ เพราะแม่ม ผมไมไ่ด้กินทุกมื้อ (3 เวลา) ผมจะกินแค่บางครั้ง หรือเวลาออกเดินทาง หรือมื้อเที่ยง ที่ไม่สะดวกทำกินเอง เพราะหลักๆ ที่บ้านทำอาหารกินเองบ้าง ซื้อกับข้าวมาเพิ่มบ้าง แล้วแต่โอกาส
>> คนเราต้องรู้จักปรับตัวครับ จะเอาแต่โทษคนอื่น พึ่งคนอื่น อยู่ตลอดไป มันคงเป็นไปไม่ได้ #มันเป็นกฏพื้นฐานแห่งการดำรงชีวิต เชียวละ ถ้ามีใครปรับตัวไม่ได้ ก็คงต้องสูญพันธ์แบบเดียวกับ ไดโนเสาร์ นะขอรับ
อาหารตามสั่งแถวบ้านผม ราคา 35 บาท นี้ใส่ไข่ดาวด้วยนะครับ ราคานี้ ก็ไม่ได้ทำให้จนลงได้เลย ยิ่งเมื่อเทียบกับ #กาแฟสตาร์บัค #อาหารบุปเฟ่ต์ หรือแม้แต่ ไปกิน Mc Donal หรืออาหารหรูตามห้าง
>> (ร้านอาหารตามสั่งเยอะมาก ร้านใหนขึ้นราคา และเจือก ไม่แซ่บ ก็อย่าไปกินครับ ไม่งั้นเค้าจะด่าเราได้ว่า มีเิงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องโง่ด้วย .......)
>> ลดการกินอาหารในห้างหรู(ลงบ้าง) เลือกกินร้านข้างทาง บ้างก็ได้ ชีวิตคนเรา แหม่ ...
>> หรือไม่ก็ เดือนนึง ก็ลดอาหารหรูในห้าง เปลี่ยนเป็นกินน้อยครั้งลง แล้วกินข้าวข้างทางเพิ่มขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับ รายรับของเรา อย่าทำอะไรเกินตัว อย่าเห็นคนอืนกิน แล้วกลัวไม่อินเทรนด์ ต้องกินตามกระแส เพราะกลัวน้อยหน้าเพื่อน (หน้าใหญ่)
คนเราต้องรู้จักประมาณตนเอง ต้องรู้ว่าเิงินในกระเป๋าตัวเองมีเท่าไหร่ ก้ต้องรู้ว่าจะใช้ยังไงให้พอ
#สมมิติว่ามีรายได้ 15,000 บาท กับ รายได้ 50,000 บาท ก็ไม่พอใ้ช้ ถ้าบริหารจัดการชีวิตตัวเองไม่เป็น ....
สมมุติคนที่มีเงินเดือน 15,000 บาท อยากกินหรู อยากอยู่สบาย ก้ต้องหาวิธีการเพิ่มเงินเพิ่มขึ้น เช่น ทำโอที รับ job เพิ่ม ใช้เวลาเลิกงานหรือวันหยุด ไปค้าขาย หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เราทำได้
>> และที่สำคัญนอกจากหารายได้เพิ่ม ก็ต้องลดรายจ่าย ที่ไ่ม่จำเป็นออกไปด้วย ถึงจะสัมพันธ์กัน
>> อย่างการผ่อนซื้อของก็เช่นกัน ก็พยายามคำนวณให้สัมพันธ์กับรายรับ ภาระของตัวเอง ในแต่ละเดือน อย่าคิดแค่อยากได้ แล้วเอาสินค้ามาก่อน แล้วแก้ปัญหาทีหลัง เมื่อส่งงวดไม่ทัน ในบางครั้ง สุดท้ายก็ถูกยึด (อันนี้ต้องโทษตัวเองนะครับ อย่าไปโทษคนอื่นเลย)
ส่วนใครอยากได้เงินเดือน มากกว่า 15,000 บาท ก็ต้องมองดูตัวเองก่อนว่า ความสามารถถึงหรือไม่? ถ้าไม่ถึงก็ต้องยอมรับนะครับ
>> แต่ถ้าคิดว่าตัวเองความสามารถสูงส่งกว่าเงินเดือน 15,000 บาท ก็ให้เดินไปบอกเจ้าของบริษัท ขอขึ้นเงินเดือน และถ้าเค้าคิดว่าคุณเก่งจริง เค้าก็ต้องขึ้นเงินเดือนให้ อย่างแน่นอน และถ้าเค้าบอกว่าไม่ขึ้นให้ ก็อย่าไปเสียใจ ก็ลาออกเลยครับ ถ้าคิดว่าความสามารถตัวเองสูงส่ง ไปหาบริษัทที่เค้าให้คุณได้ ....
>> หรือไม่ก็ออกมาเปิดกิจการเป็นของตัวเอง เช่นผม ถ้าคิดว่าตัวเองเก่งจริงๆ ไม่ใ่ช่เก่งแต่ปาก (คุ้นๆว่ะ ดีแต่พูดเนี้ย ...)
ด้วยความเคารพ
#########################
เห็นคนกลุ่มนึง ดราม่า เรื่องข้าวแพง เลยอยากเขียนอะไรให้เป็นแง่คิดสักนิด
################################
สำหรับผม ชิวๆ กับการกินข้าว มากๆ เพราะผมถือคติว่า ร้านใหนขึ้นราคา แล้วเจือกไม่ แซ่บ ผมไม่กิน ....
ร้านใหนขึ้นราคา แต่ #แซ่บ ผมก็กินครับ เพราะแม่ม ผมไมไ่ด้กินทุกมื้อ (3 เวลา) ผมจะกินแค่บางครั้ง หรือเวลาออกเดินทาง หรือมื้อเที่ยง ที่ไม่สะดวกทำกินเอง เพราะหลักๆ ที่บ้านทำอาหารกินเองบ้าง ซื้อกับข้าวมาเพิ่มบ้าง แล้วแต่โอกาส
>> คนเราต้องรู้จักปรับตัวครับ จะเอาแต่โทษคนอื่น พึ่งคนอื่น อยู่ตลอดไป มันคงเป็นไปไม่ได้ #มันเป็นกฏพื้นฐานแห่งการดำรงชีวิต เชียวละ ถ้ามีใครปรับตัวไม่ได้ ก็คงต้องสูญพันธ์แบบเดียวกับ ไดโนเสาร์ นะขอรับ
อาหารตามสั่งแถวบ้านผม ราคา 35 บาท นี้ใส่ไข่ดาวด้วยนะครับ ราคานี้ ก็ไม่ได้ทำให้จนลงได้เลย ยิ่งเมื่อเทียบกับ #กาแฟสตาร์บัค #อาหารบุปเฟ่ต์ หรือแม้แต่ ไปกิน Mc Donal หรืออาหารหรูตามห้าง
>> (ร้านอาหารตามสั่งเยอะมาก ร้านใหนขึ้นราคา และเจือก ไม่แซ่บ ก็อย่าไปกินครับ ไม่งั้นเค้าจะด่าเราได้ว่า มีเิงินอย่างเดียวไม่พอ ต้องโง่ด้วย .......)
>> ลดการกินอาหารในห้างหรู(ลงบ้าง) เลือกกินร้านข้างทาง บ้างก็ได้ ชีวิตคนเรา แหม่ ...
>> หรือไม่ก็ เดือนนึง ก็ลดอาหารหรูในห้าง เปลี่ยนเป็นกินน้อยครั้งลง แล้วกินข้าวข้างทางเพิ่มขึ้น เพื่อให้เหมาะสมกับ รายรับของเรา อย่าทำอะไรเกินตัว อย่าเห็นคนอืนกิน แล้วกลัวไม่อินเทรนด์ ต้องกินตามกระแส เพราะกลัวน้อยหน้าเพื่อน (หน้าใหญ่)
คนเราต้องรู้จักประมาณตนเอง ต้องรู้ว่าเิงินในกระเป๋าตัวเองมีเท่าไหร่ ก้ต้องรู้ว่าจะใช้ยังไงให้พอ
#สมมิติว่ามีรายได้ 15,000 บาท กับ รายได้ 50,000 บาท ก็ไม่พอใ้ช้ ถ้าบริหารจัดการชีวิตตัวเองไม่เป็น ....
สมมุติคนที่มีเงินเดือน 15,000 บาท อยากกินหรู อยากอยู่สบาย ก้ต้องหาวิธีการเพิ่มเงินเพิ่มขึ้น เช่น ทำโอที รับ job เพิ่ม ใช้เวลาเลิกงานหรือวันหยุด ไปค้าขาย หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เราทำได้
>> และที่สำคัญนอกจากหารายได้เพิ่ม ก็ต้องลดรายจ่าย ที่ไ่ม่จำเป็นออกไปด้วย ถึงจะสัมพันธ์กัน
>> อย่างการผ่อนซื้อของก็เช่นกัน ก็พยายามคำนวณให้สัมพันธ์กับรายรับ ภาระของตัวเอง ในแต่ละเดือน อย่าคิดแค่อยากได้ แล้วเอาสินค้ามาก่อน แล้วแก้ปัญหาทีหลัง เมื่อส่งงวดไม่ทัน ในบางครั้ง สุดท้ายก็ถูกยึด (อันนี้ต้องโทษตัวเองนะครับ อย่าไปโทษคนอื่นเลย)
ส่วนใครอยากได้เงินเดือน มากกว่า 15,000 บาท ก็ต้องมองดูตัวเองก่อนว่า ความสามารถถึงหรือไม่? ถ้าไม่ถึงก็ต้องยอมรับนะครับ
>> แต่ถ้าคิดว่าตัวเองความสามารถสูงส่งกว่าเงินเดือน 15,000 บาท ก็ให้เดินไปบอกเจ้าของบริษัท ขอขึ้นเงินเดือน และถ้าเค้าคิดว่าคุณเก่งจริง เค้าก็ต้องขึ้นเงินเดือนให้ อย่างแน่นอน และถ้าเค้าบอกว่าไม่ขึ้นให้ ก็อย่าไปเสียใจ ก็ลาออกเลยครับ ถ้าคิดว่าความสามารถตัวเองสูงส่ง ไปหาบริษัทที่เค้าให้คุณได้ ....
>> หรือไม่ก็ออกมาเปิดกิจการเป็นของตัวเอง เช่นผม ถ้าคิดว่าตัวเองเก่งจริงๆ ไม่ใ่ช่เก่งแต่ปาก (คุ้นๆว่ะ ดีแต่พูดเนี้ย ...)
ด้วยความเคารพ
#########################