ตอนนี้แม่ผมให้สลากออกสินไว้คนละ 1 ล้านบาท
โดยของผมก็อยู่ที่ตัวผมปกติ... แต่ของพี่ชายแม่เอาไปค้ำแล้วกู้มา 3 แสนบาท เพราะมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินด่วน
เรื่องของเรื่องคือ พี่ชายขอยืมเงินแม่เพื่อเรียนต่อ ป.โท โดยแม่บอกให้จ่ายคืนเดือนละ 3,000 บาท
โดยโอนเข้าบัญชีเงินฝาก (ที่ฝากเท่าๆ กันทุกเดือน) ซึ่งบัญชีเป็นชื่อของพี่ชาย
แต่แล้วเทอมนี้ พี่ชายมาบอกแม่ว่า ขอเงินไปจ่ายค่าเทอมเรียน ป.โทหน่อย
แม่บอกว่า ให้ไปเอาเงินที่จ่ายคืนแม่ไปจ่ายก่อน เพราะแม่ผมก็ช๊อตเรื่องเงินเหมือนกัน
พี่ชายผมก็ไม่ได้ว่าอะไร (ผมคาดว่า พี่ชายคงไม่ได้ฝากเงินเดือนละ 4,000 ให้แม่)
จากนั้นเมื่อเดือนที่แล้วพี่ชายมาบอกแม่ว่า เค้าไปปิดบัญชีเงินกู้ 3 แสนแล้วนะ...
เพื่อจะไปทำเรื่องกู้ใหม่เป็น 4.5 แสนบาท (หมายถึงว่าภาระเงินกู้ของแม่ 3 แสน ของพี่ชาย 1.5 แสน)
แม่ถามว่าเอาเงินไปทำอะไร พี่ชายบอกว่าเอาไปจ่ายค่าเทอม ป.โท 6 หมื่นกว่าบาท
แม่เลยถามว่าแล้วที่เหลือละเอาไปทำอะไร พี่ชายก็บอก กู้เลยเผื่อเทอมหน้าด้วย
พี่ชายบอกว่า "ตอนนี้เงินที่เหลืออยู่ใน กองทุน... แล้ว ผมก็จะได้บังคับตัวเองผ่อนจ่ายเดือนละ 6 พันบาทไปในตัวด้วย"
คืออย่างมากมันก็แค่ 1.2-1.3 แสน ไม่เห็นต้องกู้มาตั้ง 1.5 แสน (ที่จริงกู้แค่ 6 หมื่นกว่าๆ ก็พอ)
แต่แล้ว เมื่ออาทิตย์ก่อนมันมีสลิปจาก ธ.ออมสิน มา จ่าหน้าชื่อพี่ชาย
แม่เลยเปิดดู... โดย ธ.แจ้งมาประมาณว่า วงเงินกู้ 500,000
ยอดหนี้คงเหลือ 4.8แสนกว่าๆ แล้วจำนวนเงินผ่อนชำระ 5.2 แสนเศษๆ
(โดยพี่ผมมีโอกาศผ่อนอีกแค่ 27 เดือนเท่านั้น เพราะสลากจะอายุครบ 3 ปี)
นั้นหมายความว่าพี่ชายผมเค้ากู้เงินมา 200,000 ไม่ใช่แสนบาท...
แม่เลยเรียกผมมา แล้วมาคุยบอกว่าพี่ชายกู้เงินมา 200,000 ไม่ใช่แสน
มันเอาเงินไปใช้ทำอะไร แล้วก็บ่น บลา บลา บลา
คือผมเข้าใจพี่ชายว่าเมื่อถึงเวลาจวนตัว ต้องหาทุกวิถีทางเพื่อเอาเงินมาจ่ายค่าเทอม
สุดท้ายเลยใช้วิธีการเอาสลากไปค้ำเพื่อกู้เงินเพิ่มมาใหม่...
ลักษณะการใช้เงินพี่เค้า เหมือนคนใช้เงินเยอะมาก ไม่ซื้อของ Brand หรือ Brand ตามห้างทั่วๆไป
นานๆ ซื้อที แต่ของตามตลาดนัดอาจจะซื้อบ่อยๆ มีการไปเที่ยวกลางคืนเป็นบางครั้ง บางคราว
การเที่ยวจริงๆ ก็เดือนละครั้ง 2 เดือนครั้งในประเทศ...
- สิ่งที่ผมกลัวคือ ผมกลัวเค้าเป็นหนีบัตรเครดิต... เพราะเค้าเคยให้ผมไปจ่ายค่าบัตรกดเงินสด...
เคยเจอสลิปบัตรเครดิตว่างวดที่แล้วเค้าจ่ายแค่ขั้นต่ำ
(แต่เป็นสลิปเมื่อต้นปี เพราะบังเอิญ ใช้ บัตรเครดิต ธ.เดียวกัน... ปกติของผมส่งมาต้นเดือน พี่ชายกลางเดือน
พอต้นเดือนเห็นซองบัตรเครดิตมา เลยฉีกดูเลย มันกลายเป็นของพี่ชายที่ส่งมาเมื่อกลางเดือนที่แล้วแต่ยังไม่ได้เปิดอ่าน)
ตอนนี้ผมอยากจะช่วยพี่ชายผม...
โดยผมได้คุยกับแม่ว่า... จะให้พี่ชายเอาเงินทั้งหมดที่เหลือ (คือหลังจากจ่ายค่าเทอม ไปเท่าไร ก็เอามาใส่คืน)
เพื่อให้ยอดหนี้มันอยู่ที่ 360,000 ไม่ใช่ 500,000 แล้วให้แม่จ่าย ด/บ แค่ตรงส่วนนั้น
โดยให้พี่ผมเค้ารับผิดชอบแค่ส่วนค่าเทอมอย่างเดียว นอกนั้นแม่รับผิดชอบเอง
แต่ถ้าพี่เค้าเอาเงินไปทำอย่างอื่น โดยไม่มีเงินที่เหลือจากจ่ายค่าเทอม จะช่วยยังไงดีครับ
เพื่อเค้าไม่มีหนีเต็มตัวขนาดนี้ดีครับ คือเงินเดือนแค่หมื่นแปด แต่หนี้เป็นแสนกว่าบาท
คือมันเป็นหนีที่ไม่มีอะไรเลย ถ้าเป็นหนี้บ้าน หนี้รถมันก็เฉยๆ นะครับ
ปล. พี่ชายได้เงินเดือนประมาณ 18,000 บ. คชจ. หลักๆ คือ
1. ผ่อนรถ เดือนละ 4 พันกว่าบาท (ที่จริง 9 พันกว่า แต่แม่ออกให้เดือนละ 5,000 ส่วนที่เหลือพี่เค้าจ่ายเอง)
2. ค่าโทรศัพท์เดือนนึง 2พันกว่าบาท (เพราะพี่เค้าทำงานต้องใช้โทรฯเยอะมาก)
3. ค่าน้ำมันรถ
4. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
(ไม่มีค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ เพราะอยู่บ้านพ่อบ้านแม่)
(ทำไมผมเขียนหมุ่นไปหมุ่นมา วนไปวนมาก็ไม่รู้)
ช่วยแนะนำหน่อยครับ อยากจะช่วยพี่ชาย เรื่องการเงิน แต่อยากจะให้บทเรียนกับเค้าด้วย
โดยของผมก็อยู่ที่ตัวผมปกติ... แต่ของพี่ชายแม่เอาไปค้ำแล้วกู้มา 3 แสนบาท เพราะมีเหตุจำเป็นต้องใช้เงินด่วน
เรื่องของเรื่องคือ พี่ชายขอยืมเงินแม่เพื่อเรียนต่อ ป.โท โดยแม่บอกให้จ่ายคืนเดือนละ 3,000 บาท
โดยโอนเข้าบัญชีเงินฝาก (ที่ฝากเท่าๆ กันทุกเดือน) ซึ่งบัญชีเป็นชื่อของพี่ชาย
แต่แล้วเทอมนี้ พี่ชายมาบอกแม่ว่า ขอเงินไปจ่ายค่าเทอมเรียน ป.โทหน่อย
แม่บอกว่า ให้ไปเอาเงินที่จ่ายคืนแม่ไปจ่ายก่อน เพราะแม่ผมก็ช๊อตเรื่องเงินเหมือนกัน
พี่ชายผมก็ไม่ได้ว่าอะไร (ผมคาดว่า พี่ชายคงไม่ได้ฝากเงินเดือนละ 4,000 ให้แม่)
จากนั้นเมื่อเดือนที่แล้วพี่ชายมาบอกแม่ว่า เค้าไปปิดบัญชีเงินกู้ 3 แสนแล้วนะ...
เพื่อจะไปทำเรื่องกู้ใหม่เป็น 4.5 แสนบาท (หมายถึงว่าภาระเงินกู้ของแม่ 3 แสน ของพี่ชาย 1.5 แสน)
แม่ถามว่าเอาเงินไปทำอะไร พี่ชายบอกว่าเอาไปจ่ายค่าเทอม ป.โท 6 หมื่นกว่าบาท
แม่เลยถามว่าแล้วที่เหลือละเอาไปทำอะไร พี่ชายก็บอก กู้เลยเผื่อเทอมหน้าด้วย
พี่ชายบอกว่า "ตอนนี้เงินที่เหลืออยู่ใน กองทุน... แล้ว ผมก็จะได้บังคับตัวเองผ่อนจ่ายเดือนละ 6 พันบาทไปในตัวด้วย"
คืออย่างมากมันก็แค่ 1.2-1.3 แสน ไม่เห็นต้องกู้มาตั้ง 1.5 แสน (ที่จริงกู้แค่ 6 หมื่นกว่าๆ ก็พอ)
แต่แล้ว เมื่ออาทิตย์ก่อนมันมีสลิปจาก ธ.ออมสิน มา จ่าหน้าชื่อพี่ชาย
แม่เลยเปิดดู... โดย ธ.แจ้งมาประมาณว่า วงเงินกู้ 500,000
ยอดหนี้คงเหลือ 4.8แสนกว่าๆ แล้วจำนวนเงินผ่อนชำระ 5.2 แสนเศษๆ
(โดยพี่ผมมีโอกาศผ่อนอีกแค่ 27 เดือนเท่านั้น เพราะสลากจะอายุครบ 3 ปี)
นั้นหมายความว่าพี่ชายผมเค้ากู้เงินมา 200,000 ไม่ใช่แสนบาท...
แม่เลยเรียกผมมา แล้วมาคุยบอกว่าพี่ชายกู้เงินมา 200,000 ไม่ใช่แสน
มันเอาเงินไปใช้ทำอะไร แล้วก็บ่น บลา บลา บลา
คือผมเข้าใจพี่ชายว่าเมื่อถึงเวลาจวนตัว ต้องหาทุกวิถีทางเพื่อเอาเงินมาจ่ายค่าเทอม
สุดท้ายเลยใช้วิธีการเอาสลากไปค้ำเพื่อกู้เงินเพิ่มมาใหม่...
ลักษณะการใช้เงินพี่เค้า เหมือนคนใช้เงินเยอะมาก ไม่ซื้อของ Brand หรือ Brand ตามห้างทั่วๆไป
นานๆ ซื้อที แต่ของตามตลาดนัดอาจจะซื้อบ่อยๆ มีการไปเที่ยวกลางคืนเป็นบางครั้ง บางคราว
การเที่ยวจริงๆ ก็เดือนละครั้ง 2 เดือนครั้งในประเทศ...
- สิ่งที่ผมกลัวคือ ผมกลัวเค้าเป็นหนีบัตรเครดิต... เพราะเค้าเคยให้ผมไปจ่ายค่าบัตรกดเงินสด...
เคยเจอสลิปบัตรเครดิตว่างวดที่แล้วเค้าจ่ายแค่ขั้นต่ำ
(แต่เป็นสลิปเมื่อต้นปี เพราะบังเอิญ ใช้ บัตรเครดิต ธ.เดียวกัน... ปกติของผมส่งมาต้นเดือน พี่ชายกลางเดือน
พอต้นเดือนเห็นซองบัตรเครดิตมา เลยฉีกดูเลย มันกลายเป็นของพี่ชายที่ส่งมาเมื่อกลางเดือนที่แล้วแต่ยังไม่ได้เปิดอ่าน)
ตอนนี้ผมอยากจะช่วยพี่ชายผม...
โดยผมได้คุยกับแม่ว่า... จะให้พี่ชายเอาเงินทั้งหมดที่เหลือ (คือหลังจากจ่ายค่าเทอม ไปเท่าไร ก็เอามาใส่คืน)
เพื่อให้ยอดหนี้มันอยู่ที่ 360,000 ไม่ใช่ 500,000 แล้วให้แม่จ่าย ด/บ แค่ตรงส่วนนั้น
โดยให้พี่ผมเค้ารับผิดชอบแค่ส่วนค่าเทอมอย่างเดียว นอกนั้นแม่รับผิดชอบเอง
แต่ถ้าพี่เค้าเอาเงินไปทำอย่างอื่น โดยไม่มีเงินที่เหลือจากจ่ายค่าเทอม จะช่วยยังไงดีครับ
เพื่อเค้าไม่มีหนีเต็มตัวขนาดนี้ดีครับ คือเงินเดือนแค่หมื่นแปด แต่หนี้เป็นแสนกว่าบาท
คือมันเป็นหนีที่ไม่มีอะไรเลย ถ้าเป็นหนี้บ้าน หนี้รถมันก็เฉยๆ นะครับ
ปล. พี่ชายได้เงินเดือนประมาณ 18,000 บ. คชจ. หลักๆ คือ
1. ผ่อนรถ เดือนละ 4 พันกว่าบาท (ที่จริง 9 พันกว่า แต่แม่ออกให้เดือนละ 5,000 ส่วนที่เหลือพี่เค้าจ่ายเอง)
2. ค่าโทรศัพท์เดือนนึง 2พันกว่าบาท (เพราะพี่เค้าทำงานต้องใช้โทรฯเยอะมาก)
3. ค่าน้ำมันรถ
4. ค่าใช้จ่ายส่วนตัว
(ไม่มีค่าบ้าน ค่าน้ำ ค่าไฟ เพราะอยู่บ้านพ่อบ้านแม่)
(ทำไมผมเขียนหมุ่นไปหมุ่นมา วนไปวนมาก็ไม่รู้)