ผมว่า นะ ลดค่าความเป็นมนุษย์ เพราะ กลัว เพราะ ไม่รู้ สมองมันคิดไปได้ไกล เลยอยากหาอะไรมาเป็นจุดพักสมอง ไม่อยาก หวาแว้ ไม่อยากมีภาระทางความสังคม อยากจะหาใครสักคนมารับฟัง เมื่อ ตายไปแล้ว มนุษย์คิดไกลเกินไป เลยทำให้เกิดความคิดถึงอนาคตไกลแบบไม่มีที่จุดสิ้น สมองไม่สามารถควบคุมได้ มนุษย์เป็นสัตว์สังคม และมีความคิดอันเลิศล้ำ มันเลยมีความคิดเกี่ยวกับ ศาสนาที่ยึดเหนี่ยวจิตใจขึ้นมา
ผมล่ะเบื่อ ไอพวกอวยศาสนา จะอ้างอะไรก็อ้างได้ มนุษย์ มันอยู่เกิน 130 ปี มีที่ไหน
พวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับโลกนี้ พอพวกเขาไปเจอ คำพูดโดนใจ ตรรกะเข้ากับสถานการณ์ เขาก็ศรัทธากันแบบไม่มีเหตุผล พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรจาก เด็กที่โดนหลอก หรอก
แบบนี้ ส่ง เณรคำ แม่ชีทศพร เดี่ยว ไมโครโฟน สุนทร ภู่ เจ้าสัวหมื่นล้านที่ชอบเขียนหนังสือให้คนอ่าน หรือคนที่เป็นเจ้าเพจสเตตัลโดนๆคำคมโดนๆ วาทะโดนๆ ไปยุคเดียวกับ อัลเลาะห์ พระเยซู พระพุทธเจ้า ผมว่าศาสนา คงเยอะกว่านี้แน่ๆเลย
พวกเขาเข้าใจไหมมม สมัยก่อน คนพูดเก่ง การสื่อสารมันมีน้อย การเข้าถึงสื่อแทบจะไม่มี มนุษย์รู้อะไรเกี่ยวกับโลกน้อย ต้องการที่พึ่งทางใจ พอใครสักคน หัวแหลม พูดเก่งเข้าหูคน คนศรัทธา ก็ตั้งตัวเองเป็นศูษย์กลางจักวาล สร้างศาสนาขึ้นมา และเมื่อมวลชนเยอะพอ ไอคนก่อตั้งก็คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าจริงๆ ความคิดตัวเองถูกต้องจริงๆ มันก็ศรัทธาตัวเองเข้าไปอีก ก่อนหน้ามันก็มี พีรมิด สุสานราชวงศ์ พิธีกรรม เยอะไปหมด
เรื่องแบบนี้ มันมีเฉพาะ สังคม มนุษย์ชั้นสูงที่มีความคิด เกินกว่าจะหาอะไรมาเทียบ ต้องการคำอธิบาย ต้องการคำตอบ เพราะ พวกเราคือมนุษย์ พวกเราต้องการหาอะไรมารองรับความคิดตัวเอง แต่พวกเราก็โง่ เอาศาสนาโง่ๆ มาลดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ธรรมชาติ สร้างมนุษย์ขึ้นมาเพื่อ เป็นคนควบคุมสมดุลธรรมชาติ ทำในสิ่งที่เกินกว่าหน้าที่ของธรรมชาติจะทำได้ เลยสร้างมนุษย์ขึ้นมา และให้สิ่งที่เกินกว่าจะควบคุมได้ นั้นคือ สมอง
ธรรมชาติ คิดไว้แล้ว ว่าเรื่องบางเรื่อง ธรรมชาติ ไม่สามารถควบคุมได้หรือทำได้ เลยสร้างมนุษย์ขึ้นมา แต่มีความเสี่ยงสูงคือ ให้สมองมา พอจิตใจไม่นิ่งไม่มีจุดยืน ความโลภ ก็เข้าหาใส่
ศาสนา ก็ไม่ต่างอะไรจากความโลภ หรอก เพราะ มันเกิดจากความกลัวความไม่รู้ ต้องการหาอะไรมายึดเหนี่ยวจิตใจ
และ มันคงเป็นกลไก ธรรมชาติอีกล่ะหว่าา ที่ยังไงเราก็หลุดมันไม่พ้น
เมื่อ ธรรมชาติให้สมองเกินกว่าธรรมชาติจะควบคุม ธรรมชาติก็ให้ ความคิดเกินกว่าจะควบคุมให้กับมนุษย์ เพื่อให้มนุษย์รู้สึกต้องพักหยุดคิดและใส่ใจสิ่งแวดล้อม หาอะไรมายึดเหนี่ยวจิตใจ หาความเป็นตัวเอง หาจุดหมายว่า กุเกิดมาทำไม ธรรมชาติให้ความคิดเหล่านี้กับเรา ให้เราหยุดคิดและใส่ใจในสิ่งที่ธรรมชาติต้องการ โดยรวม ธรรมชาติ ให้กลไก ควบคุมความคิดมนุษย์คือ จิตวิญญาณและจิตใจ เพื่อไปถ่วงดุลความคิดที่ไม่สิ้นสุดของมนุษย์ มนุษย์ยังไงก็หนีธรรมชาติไม่พ้น เพราะ พวกมุงยังหายใจยังต้องกิน เพราะ ฉะนั้น จึงไม่สามารถ ฉีกกฏธรรมชาติ ได้
ถ้ามนุษย์เรามีชีวิตเป็นอมตะ มีความรู้ไม่จำกัด คิดอะไรกับก็ได้ดั่งปรารถนา เทพ เหมือนกับ ซุปเปอร์ฮีโร่ ที่เทพสุดใน มาเวล
คำว่า พระเจ้า คงไม่มีความหมาย เพราะ ความคิดตัวเองเกินขอบเขตเหล่านั้นหมดแล้ว
มนุษย์เราชอบคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ มีใครเห็นด้วยกับตัวเองก็ว่าดีไป
มนุษย์เราชอบคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ เมื่อตัวเองไม่มีใครก็ชอบคิดถึงใครสักคน มโนเองว่า อาจเป็นคนรัก หรือพระเจ้า
มนุษย์เราชอบคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ เมื่อไม่มีเหตุผลใดมาอธิบายเรื่องที่ตัวเองไม่รู้และโลกไม่สามารถตอบได้ ก็ชอบมโนหาสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
มนุษย์สร้างพระเจ้าขึ้นมาในความคิด
ทั้งๆที่ไอคนก่อตั้งศาสนา มันก็คนเหมือนๆเรานี่แหละ
สุดท้าย
มนุษย์เราชอบคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ เมื่อประสบความสำเร็จเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างอัศจรรย์เกินกว่าจะรับได้ ก็ต้องหาใครมาขอบคุณ ทั้งๆที่ คนที่เลวร้ายกว่าคุณ ทำไม ไอพระเจ้าไม่ไป ใส่ใจ เด็กโดนฆ่าข่มขืนไม่มีใครรู้เห็น คนฆ่าตายไม่มีใครรู้เห็น มนุษย์ฆ่าสัตว์รายวัน ลูกหมู ลูกวัว มันก็มีชีวิต ทำไมไอพระเจ้าไม่มาช่วยเหลือ
ทั้งหมดคือ มนุษย์กระทำแล้วส่งผลให้กับมนุษย์อีกคน ถ้าเรื่องเหล่านั้นเกินคำอธิบาย ผลดีก็พระเจ้า ผลเสียก็พระเจ้า เพราะ มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินกว่ามนุษย์จะทำได้ ทั้งๆที่ ผลยังไงมันก็เกิดจากมนุษย์
คุณถูกรางวัลที่1 พระเจ้าไม่ได้ช่วยคุณ
มนุษย์คนหนึ่ง สร้างล็อตเตอรี่ ให้กับ มนุษย์อีก 100 ล้านคน แต่ให้ได้คนเดียว สุดท้าย มันก็ต้องได้ คนใดคนหนึ่ง ผลลัพท์ยังไงมันก็ต้องหาที่ลงตัวอยู่ดี ถูหวยก็เหมือนกัน มันเป็นไปไม่ได้หรอก ที่คุณจะไม่ถูกเลย เพียงแต่โอกาสถูกมันน้อย แต่ยังไง ผลลัพท์ยังไงมันก็ต้องหาที่ลงตัวอยู่ดี
ทำไม มนุษย์ เราต้อง โหยหา พระเจ้า
ผมล่ะเบื่อ ไอพวกอวยศาสนา จะอ้างอะไรก็อ้างได้ มนุษย์ มันอยู่เกิน 130 ปี มีที่ไหน
พวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับโลกนี้ พอพวกเขาไปเจอ คำพูดโดนใจ ตรรกะเข้ากับสถานการณ์ เขาก็ศรัทธากันแบบไม่มีเหตุผล พวกเขาก็ไม่ต่างอะไรจาก เด็กที่โดนหลอก หรอก
แบบนี้ ส่ง เณรคำ แม่ชีทศพร เดี่ยว ไมโครโฟน สุนทร ภู่ เจ้าสัวหมื่นล้านที่ชอบเขียนหนังสือให้คนอ่าน หรือคนที่เป็นเจ้าเพจสเตตัลโดนๆคำคมโดนๆ วาทะโดนๆ ไปยุคเดียวกับ อัลเลาะห์ พระเยซู พระพุทธเจ้า ผมว่าศาสนา คงเยอะกว่านี้แน่ๆเลย
พวกเขาเข้าใจไหมมม สมัยก่อน คนพูดเก่ง การสื่อสารมันมีน้อย การเข้าถึงสื่อแทบจะไม่มี มนุษย์รู้อะไรเกี่ยวกับโลกน้อย ต้องการที่พึ่งทางใจ พอใครสักคน หัวแหลม พูดเก่งเข้าหูคน คนศรัทธา ก็ตั้งตัวเองเป็นศูษย์กลางจักวาล สร้างศาสนาขึ้นมา และเมื่อมวลชนเยอะพอ ไอคนก่อตั้งก็คิดว่าตัวเองเป็นพระเจ้าจริงๆ ความคิดตัวเองถูกต้องจริงๆ มันก็ศรัทธาตัวเองเข้าไปอีก ก่อนหน้ามันก็มี พีรมิด สุสานราชวงศ์ พิธีกรรม เยอะไปหมด
เรื่องแบบนี้ มันมีเฉพาะ สังคม มนุษย์ชั้นสูงที่มีความคิด เกินกว่าจะหาอะไรมาเทียบ ต้องการคำอธิบาย ต้องการคำตอบ เพราะ พวกเราคือมนุษย์ พวกเราต้องการหาอะไรมารองรับความคิดตัวเอง แต่พวกเราก็โง่ เอาศาสนาโง่ๆ มาลดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
ธรรมชาติ สร้างมนุษย์ขึ้นมาเพื่อ เป็นคนควบคุมสมดุลธรรมชาติ ทำในสิ่งที่เกินกว่าหน้าที่ของธรรมชาติจะทำได้ เลยสร้างมนุษย์ขึ้นมา และให้สิ่งที่เกินกว่าจะควบคุมได้ นั้นคือ สมอง
ธรรมชาติ คิดไว้แล้ว ว่าเรื่องบางเรื่อง ธรรมชาติ ไม่สามารถควบคุมได้หรือทำได้ เลยสร้างมนุษย์ขึ้นมา แต่มีความเสี่ยงสูงคือ ให้สมองมา พอจิตใจไม่นิ่งไม่มีจุดยืน ความโลภ ก็เข้าหาใส่
ศาสนา ก็ไม่ต่างอะไรจากความโลภ หรอก เพราะ มันเกิดจากความกลัวความไม่รู้ ต้องการหาอะไรมายึดเหนี่ยวจิตใจ
และ มันคงเป็นกลไก ธรรมชาติอีกล่ะหว่าา ที่ยังไงเราก็หลุดมันไม่พ้น
เมื่อ ธรรมชาติให้สมองเกินกว่าธรรมชาติจะควบคุม ธรรมชาติก็ให้ ความคิดเกินกว่าจะควบคุมให้กับมนุษย์ เพื่อให้มนุษย์รู้สึกต้องพักหยุดคิดและใส่ใจสิ่งแวดล้อม หาอะไรมายึดเหนี่ยวจิตใจ หาความเป็นตัวเอง หาจุดหมายว่า กุเกิดมาทำไม ธรรมชาติให้ความคิดเหล่านี้กับเรา ให้เราหยุดคิดและใส่ใจในสิ่งที่ธรรมชาติต้องการ โดยรวม ธรรมชาติ ให้กลไก ควบคุมความคิดมนุษย์คือ จิตวิญญาณและจิตใจ เพื่อไปถ่วงดุลความคิดที่ไม่สิ้นสุดของมนุษย์ มนุษย์ยังไงก็หนีธรรมชาติไม่พ้น เพราะ พวกมุงยังหายใจยังต้องกิน เพราะ ฉะนั้น จึงไม่สามารถ ฉีกกฏธรรมชาติ ได้
ถ้ามนุษย์เรามีชีวิตเป็นอมตะ มีความรู้ไม่จำกัด คิดอะไรกับก็ได้ดั่งปรารถนา เทพ เหมือนกับ ซุปเปอร์ฮีโร่ ที่เทพสุดใน มาเวล
คำว่า พระเจ้า คงไม่มีความหมาย เพราะ ความคิดตัวเองเกินขอบเขตเหล่านั้นหมดแล้ว
มนุษย์เราชอบคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ มีใครเห็นด้วยกับตัวเองก็ว่าดีไป
มนุษย์เราชอบคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ เมื่อตัวเองไม่มีใครก็ชอบคิดถึงใครสักคน มโนเองว่า อาจเป็นคนรัก หรือพระเจ้า
มนุษย์เราชอบคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ เมื่อไม่มีเหตุผลใดมาอธิบายเรื่องที่ตัวเองไม่รู้และโลกไม่สามารถตอบได้ ก็ชอบมโนหาสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง
มนุษย์สร้างพระเจ้าขึ้นมาในความคิด
ทั้งๆที่ไอคนก่อตั้งศาสนา มันก็คนเหมือนๆเรานี่แหละ
สุดท้าย
มนุษย์เราชอบคิดเข้าข้างตัวเองเสมอ เมื่อประสบความสำเร็จเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่ออย่างอัศจรรย์เกินกว่าจะรับได้ ก็ต้องหาใครมาขอบคุณ ทั้งๆที่ คนที่เลวร้ายกว่าคุณ ทำไม ไอพระเจ้าไม่ไป ใส่ใจ เด็กโดนฆ่าข่มขืนไม่มีใครรู้เห็น คนฆ่าตายไม่มีใครรู้เห็น มนุษย์ฆ่าสัตว์รายวัน ลูกหมู ลูกวัว มันก็มีชีวิต ทำไมไอพระเจ้าไม่มาช่วยเหลือ
ทั้งหมดคือ มนุษย์กระทำแล้วส่งผลให้กับมนุษย์อีกคน ถ้าเรื่องเหล่านั้นเกินคำอธิบาย ผลดีก็พระเจ้า ผลเสียก็พระเจ้า เพราะ มันเป็นเรื่องที่น่าเหลือเชื่อเกินกว่ามนุษย์จะทำได้ ทั้งๆที่ ผลยังไงมันก็เกิดจากมนุษย์
คุณถูกรางวัลที่1 พระเจ้าไม่ได้ช่วยคุณ
มนุษย์คนหนึ่ง สร้างล็อตเตอรี่ ให้กับ มนุษย์อีก 100 ล้านคน แต่ให้ได้คนเดียว สุดท้าย มันก็ต้องได้ คนใดคนหนึ่ง ผลลัพท์ยังไงมันก็ต้องหาที่ลงตัวอยู่ดี ถูหวยก็เหมือนกัน มันเป็นไปไม่ได้หรอก ที่คุณจะไม่ถูกเลย เพียงแต่โอกาสถูกมันน้อย แต่ยังไง ผลลัพท์ยังไงมันก็ต้องหาที่ลงตัวอยู่ดี