ก่อนอื่น ต้องขอบอกว่าบทความนี้ต้องการรวบรวมข้อมูลที่ถูกต้องว่า อะไรเป็นข้อเท็จ อะไรเป็นความจริง เนื่องจากจนถึงขณะนี้แล้วยังมีผู้อธิบายว่าญี่ปุ่นหนีสายแข็งอยู่อีก หากข้อมูลส่วนใดไม่ถูกต้อง หรือมีข้อมูลอื่นที่น่าสนใจ ก็ขอให้เพื่อนๆทักท้วงหรือเพิ่มเติมได้เลยจะยินดีเป็นอย่างยิ่ง แต่อยากขอความกรุณางดเว้นคำหยาบหรือด่าทอ นะครับ ผมขอเรียงตามลำดับเวลาดังนี้
ความจริง ทีมไทยทำการแข่งขันครบไปก่อน คู่ระหว่างญี่ปุ่น-เซอร์เบียทำการแข่งหลังจากนั้น สถานการณ์ขณะนั้นทีมไทยมีโอกาสได้ผ่าน
เข้ารอบสุดท้ายสูงมาก โอกาสเดียวที่ทีมไทยจะตกรอบ ก็คือทีมญี่ปุ่นแพ้ทีมเซอร์เบีย 2-3 เซ็ท
ความจริง หลังจากคู่ ญี่ปุ่น-เซอร์เบีย แข่งจบเซ็ทสาม โดยญี่ปุ่นนำอยู่ 2-1 เซ็ท สถานการณ์ขณะนั้นทีมญี่ปุ่นได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายแล้ว
ในขณะที่ทีมเซอร์เบียอาจจะตกรอบถ้าหากทีมญี่ปุ่นชนะอีกหนึ่งเซ็ท
ความจริง ในช่วงเวลาพักหลังจบเซ็ทสาม ทีมญี่ปุ่นทั้งหมด ทั้งผู้เล่นและโค้ช ได้พากันเดินออกจากสนามแข่งขันไปโดยพลการเข้าไปด้าน
หลังของสนามเป็นเวลานานมาก อาจจะราวๆสิบห้านาที ( ขออภัยไม่ได้จับเวลา ) ที่น่าแปลกใจก็คือ ทีมเซอร์เบียที่กำลังเสี่ยง
ต่อการตกรอบแต่กลับไม่มีการประท้วง ทั้งโค้ชและผู้เล่นทั้งหมดต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนกับว่ารู้ล่วงหน้าแล้วว่าทีม
ญี่ปุ่นกำลังทำอะไรอยู่ แต่ที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือ ผู้ตัดสินและเหล่ากรรมการควบคุมการแข่งขันกลับนิ่งเฉย ทั้งๆที่ทีมญี่ปุ่นเดิน
ออกไปจากสนามโดยพลการ หรือเหล่ากรรมการก็รู้อยู่แล้วว่าทีมญี่ปุ่นกำลังทำอะไรอยู่
ความจริง การแข่งขันในเซ็ทที่สี่และห้าทีมญี่ปุ่นแพ้รวด ด้วยฟอร์มการเล่นที่น่ากังขายิ่ง น่าจะเป็นเพราะผู้เล่นทีมญี่ปุ่นไม่เคยฝึกการแสดง
มาก่อน ( ไม่เหมือนนักฟุตบอลบางคน ) ส่งผลให้ทั้งทีมญี่ปุ่นและทีมเซอร์เบียได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ส่วนทีมไทยต้อง
ตกรอบไปอย่างน่าเสียดายยิ่ง
ความจริง หลังจากวันแข่งขัน โค้ชยะ ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า เช้าวันรุ่งขึ้นหลังการแข่งขัน ได้มีเจ้าหน้าที่ทีมญี่ปุ่นซึ่งเป็นสุภาพสตรี
ได้มาขอโทษพร้อมกับร้องไห้ และกล่าวว่า ที่ทีมญี่ปุ่นทำลงไปเพื่อต้องการอยู่ในสายอ่อนในการแบ่งกลุ่มในรอบสุดท้าย
ซึ่งโค้ชยะเองก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า เพราะทีมโค้ชไทยยังไม่เคยคิดถึงเรื่องดังกล่าวเลย
ความเท็จ เรื่องการเลือกสายอ่อนนั้นเป็นความเท็จ ทีมญี่ปุ่นถูกจัดเป็นทีมวางอันดับต้นๆ ถูกกำหนดตำแหน่งในสายแน่นอนแล้ว ไม่เหมือน
ทีมวางอันดับล่างๆที่อาจเปลี่ยนสายไปมาได้
ความจริง หลังจากนั้น ได้มีเสียงวิจารณ์ในเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นดังไปทั่วโลก จนกระทั่ง IOC ( คณะกรรมการโอลิมปิคสากล ) ได้มีคำสั่ง
ให้ FIVB ( สหพันธ์วอลเลย์บอลนาๆชาติ ) ดำเนินการสอบสวนถึงเรื่ิองดังกล่าว FIVB ได้ทำการสอบสวนโดยสอบถามไปยัง
สมาคมวอลเลย์บอลของทั้งสองประเทศว่า ร่วมมือกันล้มวอลเลย์บอลหรือเปล่า แน่นอนทั้งสองทีมต้องปฏิเสธต่อเรื่องดังกล่าว
FIVB รายงานให้ IOC รับทราบ
IOC รับทราบ
จบข่าว
ถัาหากมีข้อมูลส่วนใดไม่ถูกต้องก็ขอได้โปรดชี้แนะด้วย จะขอบคุณมาก
ตราบใดที่มนุษย์ยังมีกิเลส กิเลสนั้นก็ย่อมจะแสดงออกมา อยู่ที่ว่าเมื่อใดเท่านั้น
ข้อ เท็จ-จริง ของเกมวอลเลย่์บอลรอบคัดเลือกระหว่างญี่ปุ่น-เซอร์เบีย และทีมไทย
ความจริง ทีมไทยทำการแข่งขันครบไปก่อน คู่ระหว่างญี่ปุ่น-เซอร์เบียทำการแข่งหลังจากนั้น สถานการณ์ขณะนั้นทีมไทยมีโอกาสได้ผ่าน
เข้ารอบสุดท้ายสูงมาก โอกาสเดียวที่ทีมไทยจะตกรอบ ก็คือทีมญี่ปุ่นแพ้ทีมเซอร์เบีย 2-3 เซ็ท
ความจริง หลังจากคู่ ญี่ปุ่น-เซอร์เบีย แข่งจบเซ็ทสาม โดยญี่ปุ่นนำอยู่ 2-1 เซ็ท สถานการณ์ขณะนั้นทีมญี่ปุ่นได้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายแล้ว
ในขณะที่ทีมเซอร์เบียอาจจะตกรอบถ้าหากทีมญี่ปุ่นชนะอีกหนึ่งเซ็ท
ความจริง ในช่วงเวลาพักหลังจบเซ็ทสาม ทีมญี่ปุ่นทั้งหมด ทั้งผู้เล่นและโค้ช ได้พากันเดินออกจากสนามแข่งขันไปโดยพลการเข้าไปด้าน
หลังของสนามเป็นเวลานานมาก อาจจะราวๆสิบห้านาที ( ขออภัยไม่ได้จับเวลา ) ที่น่าแปลกใจก็คือ ทีมเซอร์เบียที่กำลังเสี่ยง
ต่อการตกรอบแต่กลับไม่มีการประท้วง ทั้งโค้ชและผู้เล่นทั้งหมดต่างมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส เหมือนกับว่ารู้ล่วงหน้าแล้วว่าทีม
ญี่ปุ่นกำลังทำอะไรอยู่ แต่ที่น่าแปลกใจที่สุดก็คือ ผู้ตัดสินและเหล่ากรรมการควบคุมการแข่งขันกลับนิ่งเฉย ทั้งๆที่ทีมญี่ปุ่นเดิน
ออกไปจากสนามโดยพลการ หรือเหล่ากรรมการก็รู้อยู่แล้วว่าทีมญี่ปุ่นกำลังทำอะไรอยู่
ความจริง การแข่งขันในเซ็ทที่สี่และห้าทีมญี่ปุ่นแพ้รวด ด้วยฟอร์มการเล่นที่น่ากังขายิ่ง น่าจะเป็นเพราะผู้เล่นทีมญี่ปุ่นไม่เคยฝึกการแสดง
มาก่อน ( ไม่เหมือนนักฟุตบอลบางคน ) ส่งผลให้ทั้งทีมญี่ปุ่นและทีมเซอร์เบียได้ผ่านเข้าไปเล่นรอบสุดท้าย ส่วนทีมไทยต้อง
ตกรอบไปอย่างน่าเสียดายยิ่ง
ความจริง หลังจากวันแข่งขัน โค้ชยะ ได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า เช้าวันรุ่งขึ้นหลังการแข่งขัน ได้มีเจ้าหน้าที่ทีมญี่ปุ่นซึ่งเป็นสุภาพสตรี
ได้มาขอโทษพร้อมกับร้องไห้ และกล่าวว่า ที่ทีมญี่ปุ่นทำลงไปเพื่อต้องการอยู่ในสายอ่อนในการแบ่งกลุ่มในรอบสุดท้าย
ซึ่งโค้ชยะเองก็ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า เพราะทีมโค้ชไทยยังไม่เคยคิดถึงเรื่องดังกล่าวเลย
ความเท็จ เรื่องการเลือกสายอ่อนนั้นเป็นความเท็จ ทีมญี่ปุ่นถูกจัดเป็นทีมวางอันดับต้นๆ ถูกกำหนดตำแหน่งในสายแน่นอนแล้ว ไม่เหมือน
ทีมวางอันดับล่างๆที่อาจเปลี่ยนสายไปมาได้
ความจริง หลังจากนั้น ได้มีเสียงวิจารณ์ในเรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นดังไปทั่วโลก จนกระทั่ง IOC ( คณะกรรมการโอลิมปิคสากล ) ได้มีคำสั่ง
ให้ FIVB ( สหพันธ์วอลเลย์บอลนาๆชาติ ) ดำเนินการสอบสวนถึงเรื่ิองดังกล่าว FIVB ได้ทำการสอบสวนโดยสอบถามไปยัง
สมาคมวอลเลย์บอลของทั้งสองประเทศว่า ร่วมมือกันล้มวอลเลย์บอลหรือเปล่า แน่นอนทั้งสองทีมต้องปฏิเสธต่อเรื่องดังกล่าว
FIVB รายงานให้ IOC รับทราบ
IOC รับทราบ
จบข่าว
ถัาหากมีข้อมูลส่วนใดไม่ถูกต้องก็ขอได้โปรดชี้แนะด้วย จะขอบคุณมาก
ตราบใดที่มนุษย์ยังมีกิเลส กิเลสนั้นก็ย่อมจะแสดงออกมา อยู่ที่ว่าเมื่อใดเท่านั้น