รัก คาราคาซังมา 5 ปีกว่า จะคบต่อ หรือจะปล่อยดี มึนชีวิต

ก่อนอื่นต้องขอออกตัวก่อนว่า ข้าพเจ้าเป็นเกย์ ใครไม่ใคร่อ่าน หรือรับไม่ได้กับบุคคลเพศหลากหลาย เชิญออกจากกระทู้ก่อนเลยครับ
แต่ถ้าใครพร้อม เชิญอ่านก่อนเลย

ปัจจุบัน เราอายุ 24 ปี ส่วนแฟนเราอายุ 36 ปี เกิดห่างกัน 1 รอบ
คบกันมา 5 ปี ตั้งแต่เราเรียนอยู่ ปี2
ซึ่งความรักก็ไม่ได้ราบรื่นอะไรมาก ส่วนมากเราเองเป็นคนที่สร้างเรื่องราวมให้เกิดความวุ่นวายเอง
ซึ่งต้องบอกก่อนว่า คบกันแบบเกย์ คือ ก็จะมีฝ่ายชาย-ฝ่ายหญิง ถ้าใครเป็นเกย์ก็น่าจะรู้
พี่เค้า เป็นฝ่ายชาย ซึ่งเรา เป็นฝ่ายหญิง

ขอเล่าแบบย่อๆแล้วกัน ขอเรียกนามพี่เค้าย่อๆว่า พี่ที
คือเราคบกันมา 5 ปีกว่าๆ เกือบ 6 ปีแล้ว คบๆเลิกๆ เพราะส่วนมากเราจะเลิกเค้า แอบไปมีกิ๊กเอง ก็เลยเลิกเค้า
ยอมรับว่า ตัวเองก็ไม่ใช่คนดี ค่อนไปทางเลวๆ

เมื่อก่อนตอนที่คบแรกๆ (เรียนอยู่ปี2) คบกันได้เดือนนึง พี่ทีก็ไปเรียนที่ญี่ปุ่น กระทันหันไม่บอกไม่กล่าว ตกใจมาก ผ่านไปเดือนสองเดือน
เราก็แอบมีกิ๊ก แต่ไม่ได้เลิกกัน สุดท้าย กิ๊กบอกเลิกเราเองซะงั้น เราก็ยังคบกับพี่ทีอยู่ แต่ก็รู้สึกว่ามันไม่เหมอืนเดิม เราก็เลยบอกเลิกพี่เค้า
(เลิกครั้งที่1) อยู่เป็นโสดคนเดียวดีกว่า ก็อยู่เป็นโสดไปสักระยะ ประมาณครึ่งปีได้

จากนั้น เราก็ไปมีแฟนใหม่ (เรียนอยู่ปี3)  ซึ่งคบกันได้เดือนกว่าๆ  รุ้สึกว่าคนนี้ แย่มากกกกก เเละประจวบเหมาะกับ พี่ทีเค้าโทรมาหาเราพอดีในตอนที่เราเฟล ตอนนั้นขาดสติมาก เราก็เลยขอเค้ากลับไปคืนดีเหมือนเดิม ก็เลยคบกันเหมือนเดิม แต่ก็ไม่ได้มีความสุขเท่ากับคบกันตอนแรกๆนะ

ช่วงนั้นตัวเองขายดีมาก (เรียนอยู่ปี4) มีคนมีจีบ และก็ดันชอบเค้า ซึ่งทีแรกกะคบเป็นกิ๊ก เหมือนกับกิ๊กคนแรก แต่คนนี้ไม่ยอม
เค้าให้เลือกว่า ถ้าอยากจะคบกับเค้า ให้เลิกกับพี่ที  ทายสิว่า เราจะเลือกใคร....... ก็เลือกกิ๊กสิ 555 (ความหลงบังตา) ก็เลยบอกเลิกพี่ทีเค้าไป (เลิกครั้งที่ 2) คบกับคนนี้ไปได้ไม่นานมาก สักเดือนนึง เราก็เลิกกับเค้า เพราะว่า ฮีค่อนข้างงี่เง่า พอมีปัญหาอะไรนิดๆหน่อย หรือปัญหาที่ไม่เกี่ยวกับเราเลย ก็ชอบ บอกเลิก พออีกวัน ก็มาคบกันต่อเหมือนเดิม และหลายๆอย่าง ซึ่งเรารำคาญมาก ฮีบอกเลิกเราครั้งที่ สาม คราวนี้เราเลยเลิกจริงจังเลย

จากนั้นสักเดือนนึง เราก็มีแฟนใหม่  (ยังเรียนอยู่ปี4)  คบกันได้สามเดือน ซึ่งคนนี้ทำเราเฮริทมาก แทบจะเป็นบ้าเลย เข้ารพ.เพราะเสียใจสุดขีด เรื่องความรัก (ขอไม่เล่ารายละเอียด เพราะมันยาวมาก) คิดว่ามันเป็นเวนกรรมที่เราทำกับพี่คนนั้น เพราะเราก็รู้ว่าเค้าก็เฮิรทสุดๆตอนเราทำกับเค้า

จากนั้นเราก้ครองตัวเป็นโสด เข็ดขยาดกับความรัก เป็นโสดมาได้ 1 ปี (เรียนจบแล้ว) ได้งานทำแล้ว
พี่ทีเค้า ก็โทรมาหาเรา คุยกันเรื่อยๆ  แต่ไม่ได้คุยกันบ่อย เค้าจะเป็นฝ่ายโทรมาคุยกับเราเองทุกครั้ง
เราไม่เคยโทรหาเค้าเลย และคุยกันได้สักปีนึง ตอนนั้นเราลาออกจากงานประจำที่ทำใน กทม แล้ว
ออกมาอยู่บ้าน เพราะมาทำธุรกิจส่วนตัวของเราเองแถวๆบ้านที่นครปฐม ส่วนพี่ที ทำงานอยู่ที่อยุธยา ต้องพักแถวนั้น

ตอนนี้ก็คุยกับพี่ทีเป็นเรื่องเป็นราว ระหว่างเรื่องของเรา เพราะเค้าจะโทรมาขอคืนดี หลายครั้งแล้ว เค้าเองอยากกลับมาคบกับเร็ว ง้อมาประมาณ ปีนึง แต่เราไม่ตกลง เพราะเราไม่อยากทำให้เค้าเสียใจอีกและเรารู้สึกว่า เค้าไม่ใช่
แต่เค้าง้อจนเราใจอ่อน ง้อมาเป็นปี ก็เลย

บอกเค้าว่า ถ้าเราคบกัน อาจจะไม่หวานเหมือนเมื่อก่อน เพราะฟิลลิ่งมันไม่ใช่แล้ว แต่อยากให้คบกันเหมือนคู่ชีวิตที่ดูแลกัน เค้าก็ตกลง  ( แต่ระหว่างที่คุยกัน เค้าก็บอกนะว่า เค้าไปคบกะคนๆนึง แต่เค้าทนคนๆนั้นไม่ได้  คือเราเป็นมนุษย์แบบว่า ไม่โทรเชค ไม่เล้าหรือ ไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวมากเกินไป ไม่จุ้จี้ขี่บ่น  เค้าเลยคิดถึงเรา  นี่เลยเป็นเหตุที่เค้าโทรมาหาเราเรื่อยๆ  )

ซึ่งจาก ณ.ตอนนั้น ถึงตอนนี้ ก็ยังคงคบกันอยู่ แต่ชีวิตรัก ไม่มีอะไรหวือหวาเลย
คบกันมาปีกว่าๆ เจอกัน 4 ครั้ง  3 ครั้ง ไปเดินห้าง กินข้าว ดูหนัง อีกครั้งนึง เราไปนอนที่ห้องเค้า เพราะมีเหตุต้องไป เผอิญมีงานแถวๆนั้นพอดี

ซึ่งเราก็อยากเจอกับเค้าบ่อยๆ แต่เค้าเองทำงาน 6 วันต่อสัปดาห์ ทำงาน 7.30 เลิก 20.00 ทุกวัน ส่วนวันอาทิตย์ที่เค้าว่า เค้าก็จะ
กลับไปหาครอบครัวที่บ้านเขา  ส่วนเรามีธุรกิจของตัวเอง ซึ่งกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย  ยกเว้นซะจากมีงานข้างนอก ทำให้เราไม่ค่อยได้เจอกัน
โทรศัพท์คุยกัน เมื่อก่อนจะคุยกัน อาทิตย์ละครั้ง สองครั้ง แต่พอมีไลน์ปุ๊ป แทบไม่ได้โทรหากันเลย ครึ่งเดือน โทรคุยกันครั้งนึงได้มั้ง?
เราก็เลยรู้สึกว่า มันไม่ใช่อ่ะ คือ เรามองไปถึงอนาคต เราอยากได้แฟนที่อยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน ไม่ใช่ห่างไกลกันขนาดนี้
มีแฟนเหมือนไม่มี เราก็เลยลองแย๊บๆ ถามๆเค้า แบบอ้อมๆไปหลายครั้ง ประมาณว่า

ชีวิตนี้เราจะมีโอกาสได้อยุ่ด้วยกัน ในเป็นครอบครัวเดียวกันบ้างไหม?
ซึ่งคำตอบทุกครั้งนั่นคือ เค้ามีงานอยู่ที่นี่ ไปไม่ได้หรอก (เหตุผลจะประมาณนี้)
ซึ่งเราก็ไม่ได้หวังในคำตอบที่ว่า จะต้องเป็นไปได้100 เปอร์เซนต์ แต่ถ้าแค่ได้ยินคำตอบที่บอกว่า
เค้าเอง ก็คิดๆเหมือนกัน แค่นี้เราก็ดีใจแล้ว เพราะเหมือนกับ อย่างน้อยก็ยังมีความหวังบ้าง ถึงแม้จะเหมือนจุดเทียนกลางสายฝนก็ตาม
แต่มันไม่ใช่ ( ถึงแม้จะไม่ได้พูดกันตรงๆ แต่ก็หวังว่าเค้าน่าจะรับรู้ถึงความต้องการของเราบ้าง เพราะเราไม่ได้พูดครั้งเดียว เท่าที่จำความได้ พูดเรื่องนี้ประมาณ 5 ครั้ง)

คือทุกวันนี้เข้าใจนะว่า ความรักเกย์ที่หาแบบยั่งยืน หายาก แต่เราก็เชื่อว่ายังมีอยู่
เราไม่อยากได้รักฉาบฉวย คบกัน ได้กัน จากกัน จบ. เป็นวงจรชีวิตแบบนี้  ไม่เอาแล้ว
ก็เลยมองหาคนที่อยากจะอยู่ด้วยกัน ใช้ชีวิตด้วยกัน สร้างฐานะ ดูแลไปกันจนแก่ตาย
เพราะมานั่งมองดูชีวิตตัวเอง  ถ้าพ่อแม่ตายไป คนในครอบครัวตายไป พี่น้องไปแต่งงานอยู่กับลูก กับครอบครัวตัวเอง
แล้วเราหล่ะ? เราก็อยากมีครอบครัวของตัวเองเหมือนกัน นั่นคือสิ่งที่เราปรารถนาสูงสุด

ถามว่าทุกวันนี้มีคนมาจีบมั้ย
ทุกวันนี้ก็มีคนมาคุยบ้าง มาจีบบ้าง ประมาณ 5 คนที่ผ่านเข้ามาในเวลาตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบัน  แต่ก็ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษเลย เพราะเราเจออะไรแย่ๆมาเยอะ ดังนั้นเราค่อนข้างที่จะมีเกราะ มีกำแพง นิดนึง ไม่อยากให้ตัวเองไปเจออะไรแย่ๆอีก แต่ก็ยังคงมีพี่ทีคนนี้อยู่ ซึ่งมีก็เหมือนไม่มี ก็เลย คิดๆอยู่ว่า เราจะคุยกันจริงจังไปเลยดีไหม? ว่า ความต้องการในเรื่องความรักของเรานั้น เป็นอย่างไร ของเค้า เป็นอย่างไร
จะได้เคลียร์ๆกันไป หรือจะปล่อยไว้อย่างนี้ดี

มันเหมือนกับ กลืนไม่เข้า คายไม่ออก เพราะที่ไม่อยากเลิกกะเค้า คือ
เค้าเป็นคนที่ค่อนข้างลงตัวกับชีวิตเรามาก เป็นคนใจเย็น มีเหตุผล เป็นคนเก่งในการใช้ชีวิต และเรื่องของการงาน สามารถดูแลเราได้  (เป็นอะไรที่เราต้องการ)  แต่ไม่มีเวลาให้กันและกัน  ถามถึงหน้าตา หน้าตาไม่ดี เฉยๆ ซึ่งเราก็มองข้ามนะ เพราะไม่งั้นไม่คบแต่แรกแล้ว แต่ เรื่องบนเตียงแย่มาก ซึ่งเราค่อนข้างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ประมาณนึง (เราไม่ค่อยมีความสุขกับเรื่องบนเตียงกับเค้า เหมือนทำให้ผ่านๆไปซะมากกว่า )  แต่คือก็เข้าใจนะว่า คนเรามีทั้งดี และ ไม่ดีในตัวคนเดียว อะไรไม่ดี ก็มองผ่านๆไป มองส่วนดีของคนดีกว่า    

ซึ่งถามว่า ไม่ค่อยได้เจอ ไม่ค่อยได้คุย และอยู่ห่างไกลกัน ไม่กลัวว่าเค้าจะไปมีคนอื่นเหรอ ??? ซึ่งเพื่อนเรา พูดประโยคนี้หลายคนมากๆ
แต่เราเชื่อใจนะว่า เค้าไม่มีคนอื่นหรอก ถ้ามีคนอื่นหน่ะ น่าจะเป็นเรามากกว่า 5555 เราเองไม่เคยหึงเค้าเลยนะ คือคิดเองเลยว่า ถ้าเค้ามีคนอื่น ก็มีไปเลย มาบอก เดี๋ยวยอมเลิกให้ ไม่โกรธ ไม่อะไรเลย ถ้าเค้ามีคนอื่นที่โอเคย์ ทำให้เค้ามีความสุขมากกว่าเรา หรือเป็นเพราะเราหมดรักเค้าเเล้ว?  เลยไม่รู้สึกอะไร

ตอนนี้เลยคิดสองทางคือ เลิกดีมั้ย เพราะเค้าเองก็อายุมากแล้ว เผื่อเลิกไปแล้วเค้าอาจจะเจอคนที่โอเคย์กับเรากว่านี้ มันน่าจะดีกับเค้าในอนาคต (แต่นั้นก็เหมือนกับว่า เราคิดแทนเค้า ยัดเยียดให้เค้าไป เพราะเค้าอาจจะมีความสุขแบบนี้อยู่แล้ว ที่มีเรา อันนี้ต้องถามเค้าก่อนว่าเค้ายังไง?)

ส่วนเราเอง เค้าก็ไม่ใช่คนที่เราต้องการในแบบที่เราอยากจะให้เป็น ดังที่กล่าวไปข้างบน ก็เลยอยากเลิกเค้าเพื่อที่ให้ตัวเองโสดอย่างเต็มร้อย
เผื่อจะได้มองหาคนอื่นที่โอเคย์และลงตัวในแบบที่เราต้องการที่สุด แต่ถ้าเลิกจริง คราวนี้ต่อให้เค้าง้อสิบปี ก็คงไม่กลับไปคบอีกแล้ว
ซึ่งเคยเจอในอินเตอร์เน็ต เค้าบอกว่า "การกลับไปคบแฟนเก่า ก็เหมือนกับการอ่านหนังสือเล่มเดิม"  >>> จริงที่สุด


เพื่อนๆว่าไงเอ่ย?? ขอบคุณทุกคนมากๆครับที่อ่านมาถึงตรงนี้ เพราะมันยาวมากๆ ขอบคุณจริงๆครับ
อย่างไรขอความคิดเห็นของเพื่อนๆด้วยครับผม

แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ชีวิตวัยรุ่น ความรักวัยรุ่น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่