บทความนี้เขียนลงใน Blog ไว้ด้วยครับเพื่อกระทู้ด๋อยหรือเกิดอาการเพี้ยนๆไป (ช่วงนี้พันทิปยิ่งเอ๋อบ่อยๆ

อยู่)
[AAA] แนะนำอนิเม/มังกะใหม่ Arpeggio of Blue Steel ~สงครามเรือรบสยบโลก
และ
[AAA] Arpeggio of Blue Steel ลองเจาะลึกเรือรบแต่ละประเภทในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ได้ครับ
เอาหละไหนๆเคยสัญญากับเพื่อนผองน้องพี่ไว้ว่าจะทำบท spoil ให้ใน
กระทู้ก่อน แต่ไม่รู้จะทำได้ตลอดรอดฝั่งรึเปล่านะครับ SS นี้อนิเมดีๆเยอะทีเดียวแถมงานการก็เพียบอีกต่างหาก แต่ด้วยศรัทธาของโลหะเหล็กกล้าและตอร์ปิโดจะพยายามทำให้ได้มากที่สุดละกัน

จริงๆเรื่องนี้น่าจะเอามาแนะนำกันตั้งแต่หนังเรื่อง Battleship ออกฉายครับ จะได้อารมณ์มากๆ แต่เอามาแปะ blog ช่วงนี้ก็ไม่เสียหายนักเพราะอนิเมเรื่องนี้กำลังฉายอยู่พอดีเชียว โดยปัจจุบันผมช่วยทำแฟนซับของอนิเมเรื่องนี้ร่วมอยู่กับค่าย Gaiar,Allot ครับ อาจะช้าหน่อยและผิดพลาดบ้าง (ทยอยแก้อยู่ครับ) แต่ถ้าใครสนใจชมก็ยินดีครับ โดยติดตามที่
Linkในตุรกีได้เลย และถ้าหากชอบใจจะช่วยอุดหนุนลิขสิทธิก็น่ายินดียิ่ง
ชื่อเรื่อง: Arpeggio of Blue Steel: Ars Nova
Japanese: 蒼き鋼のアルペジオ ‐アルス・ノヴァ‐

ตัว Promotion VDO ครับ
ปัจจุบันอนิเมเรื่องนี้ยังไม่มี LC แต่มีเวอร์ชั่นการ์ตูนโดยสนพ.
Siam Inter Comic ครับใครสนใจติดตามก็ไปอุดหนุนกันได้ แต่อย่าพึ่งไปสปอยคนรอบข้างโดยไม่ได้ตั้งใจละกัน
เนื้อหาโดยย่อ
(จากกรุงตุรกี)
กล่าวถึงโลกที่มนุษย์จำเป็นต้องอาศัยบนพื้นน้ำทั้งจากปัญหาสภาพอากาศและกองเรือแห่งหมอกที่แข็งแกร่ง เวลาผ่านไป 17 ปี มนุษย์ได้คิดค้นอาวุธที่สามารถสู้กับกองเรือแห่งหมอกได้ แต่ทว่าประเทศญี่ปุ่นที่คิดค้นนั้นไม่มีกำลังพอจะผลิตจำนวนมาก จึงต้องจ้างวาน กุนโซ ผู้ที่ได้ครอบครองเรือดำน้ำลาดตระเวนสีคราม I-401 (อิ401) ที่เขาได้รับมาด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาได้กลายเป็นความหวังสุดท้ายของมนุษยชาติในการต่อกรกับกองเรือปริศนาเหล่านั้น
จากนี้เข้าสู่พื้นที่ Spoil กันแล้วครับ แต่ผมจะลงแค่รายละเอียดของตอนที่ 1 เพื่อจะได้ไม่เป็นการเสียอรรถรสในการรับชมสำหรับผู้ที่ตามแต่อนิเมอย่างเดียวครับ (สบายใจได้)

เปิดตัวมาด้วยฉากปี 2039 กองเรือผสม UN แบบอลังการครับ ตัวเรือที่เห็นน่าจะเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินยักษ์ชั้นนิมิตซ์หรือใหม่กว่า เสริมด้วยเรือลาดตระเวณมิตไซล์ชั้นไทคอนเดอเรก้า(US) เรือพิฆาตอิจีสชั้นอาทาโกะ (Japan) และเรือพิฆาตระบบ APAR ของสหราชอณาจักร
Note:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
(เรือพิฆาตของอังกฤษครับ)
APAR (Active Phased Array Radar) เป็นระบบเรดาห์ความละเอียดสูงและแม่นยำมากของยุโรป ที่ความสามารถทัดเทียม(หรือเหนือกว่า) ระบบ Spy-1 ของเรืออีจิสอีกครับ

การระดมยิงด้วยสารพัดขีปนาวุธต่อต้านเรือรบครับ (ASM: Anti-ship-Missile) ซึ่งคำว่า ASM นี้ก็เหมือนกับ "เมนบอร์ด" ในภาษาคอมพิวเตอร์แหละครับ แต่จากอนิเมเราก็ดูไม่ออกหรอกว่าเป็น ASM ยี่ห้อไหน (เหมือนเมนบอร์ดที่มีหลายยี่ห้อ) ซับผมอธิบายแบบกว้างๆเพราะแต่ละประเทศใช้จรวดไม่เหมือนกัน
Note:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อนึ่งผมใช้คำว่าขีปนาวุธ/อาวุธปล่อยนำวิถี(อวป.) เพราะเป็นศัพท์ทางทหารมาตรฐานครับ แต่บางคนทับศัพท์ว่ามิสไซล์ไปเลยก็ไม่ได้เสียหายอะไร... แต่เอาเข้าจริงแล้วระบบจรวด/อวป. ทั้งหลายที่ระดมยิงมากอาจสร้างความเสียหายใส่กองเรือรบยุคสงครามโลกได้มากก็จริง (แม่นสุดๆ) แต่ถ้าจะยิงให้จมแล้วจัดว่าไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าไหร่เพราะหัวรบในปัจจุบันไม่ได้ออกแบบมาให้ทะลุทะลวงเกราะหนาๆของพวกเรือประจัญบานครับ (เคยมีคนประเมินว่าถ้าจะ"จม" เรือระดับประจัญบานได้ต้องใช้ขีปนาวุธยิงจังๆอย่างน้อย 10 ลูกทีเดียว)

ถ้าเป็นตอร์ปิโดที่ระเบิดเปิดแผลใต้แนวน้ำจะมีผลดีกว่า ......แต่ปัญหาเอวังยิ่งกว่าเรื่องการออกแบบหัวรบคือ สารพัดจรวดที่กองทัพโลกเรายิงไปดันเข้าไม่ถึงตัวเรือรบแห่งกองทัพหมอกเลยเนี่ยสิ (อนาถแท้)

อันนี้ขออภัยนิดนึง จริงๆเขาบอกว่า "ข้าศึกเข้าระยะมองเห็นด้วยสายตา" จริงประโยคนี้สำหรับทหารเรือถือว่าเป็นเรื่องซีเรียสเหมือนกันถ้าหากกองทัพของตนไม่ได้เตรียมการรบระยะนี้ไว้ เพราะสงครามเรือรบในยุคปัจจุบันการมองเห็นข้าศึกด้วยตาเปล่าลิบๆที่เส้นขอบฟ้ากลายเป็นเรื่องอันตรายมากเพราะเรือรบยุคนี้ไม่ได้ออกแบบให้ทำการรบระยะใกล้ๆกันเลย (ไม่มีเกราะ) และเน้นซัลโวจรวดเพื่อยับยั้งข้าศึกในระยะไกลกันหมด...การที่ปล่อยให้หลุดเข้ามาใกล้ขนาดนี้ต้องเรียกว่าอันตรายมาก
Note: การยิงขีปนาวุธแบบสามัคคีเราจะเรียกว่า "ระลอกการโจมตี" (Wave' attack) ก็ได้ครับ เนื่องจากห่าฝนขีปนาวุธจะยิงแผ่เป็นรูปใบพัดหน้ากระดานเข้าไปทีละชุด ไม่ได้ยิงเป็นสายเพื่อไม่ให้บังวิธีโคจรหรือรบกวนเซนเซอร์นำวิถีกันและกัน

Note:
จุดน่าสนใจอย่างนึกคือ กองทัพเรือหมอกไม่ได้โจมตีระยะไกล แต่เข้ามาใกล้ๆในระยะสายตาแล้วค่อยเปิดฉากใช้ปืนเลเซอร์หลักยิง.... ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าอาวุธหลักของกองเรือหมอกมีระยะหวังผลสั้นมากเพราะเป็นเลเซอร์วิถีตรงไม่น่าเกิน 20 กิโลเมตร หากเทียบกับปืนใหญ่เรือประจัญบาณยุคโบราณที่ยิงได้ 3-40 กิโลเมตรนี่นับว่ากระจอกกว่ามาก (แต่อำนาจการยิงล้นเหลือเลย)

ถ้าดูดีๆ กองเรือหมอกไม่ได้มีรูปขบวนอะไรพิเศษเลยครับ จัดทัพ 4แถวแล้วก็วิ่งเข้ามาชนเรื่อยๆ โดยมีกลุ่มเรือประจัญบานนำหน้าพุ่งชนอย่างเดียว ซึ่งบางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมไม่หลบ?
Ans:
มันไม่มีพื้นที่ให้หลบครับ...หลบซ้ายเจอขวา หลบหน้าเจอเลเซอร์ หลบหลังเจอชนท้าย แถมยังเสี่ยงที่จะเสียรูปขบวนไปชนกันเองอีกต่างหาก ตรงนี้เรียกว่าเป็นจุดอ่อนสำคัญของเรือรบยุคใหม่เลยก็ว่าได้เพราะไม่มีเกราะจะไปชนกับเรือรบศัตรู
ปล. เป็นผมจะหนีครับ พากองเรือ UN หนีไปให้ไกลที่สุดเลย อย่างน้อยก็ถ่วงเวลา (จริงๆกองเรือในการ์ตูนอาจจะทำอย่างงั้นอยู่ก็ได้ แต่ไม่ได้อธิบายไว้ครับ)

สังเกตตำแหน่งการยึดครองกองเรือแห่งหมอกครับ ครอบคลุมน่านน้ำสำคัญทั้งหมดเลย ซึ่งการขนส่งทางทะเลเป็นอัมพาตแน่นอนและส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก (สินค้าในชีวิตประจำวันพวกเราท่านทั้งหลายเกิน 60% ขนส่งทางทะเลเพราะต้นทุนถูก)
Note:
สังเกตจุดศูนย์กลางของวงกลมแต่ละอันคือน่านน้ำที่เกิดการรบใหญ่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย และเหล่าเรือรบในยุคโบราณที่ว่าแต่ละลำก็จมกันอยู่แถวๆนั้นแหละครับ

แล้วก็เข้าสู่เวลาปัจจุบัน 7 ปีหลังจากความพ่ายแพ้
ยินดีต้อนรับสู่อนิเมเรื่องนี้ครับ
Appregio of Blue Steel~ Ars Nova "เรือรบสยบโลก
"

ศูนย์อวกาศชากะกำลังเตรียมปล่อย SSTO (Single State to Orbit) เป็นกระสวยอวกาศแบบที่กำลังพัฒนาอยู่ครับ ว่าจะให้ยานอวกาศสามารถบินขึ้นด้วยตัวเองไม่ต้องพกพาจรวดขับดันสลัดทิ้งออกไปให้เกะกะ ซึ่งจะทำให้กระสวยแบบนี้มีน้ำหนักต่ำลงและวนใช้ซ้ำได้มากขึ้น แต่ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นวิจัยทดลองครับ

น่านน้ำใกล้ๆ เรือลาดตระเวณเบานาการะ กองเรือแห่งหมอกที่รับหน้าที่ปิดกั้นประเทศญี่ปุ่นก็เตรียมสกัดกั้น

Note: จุดน่าสนใจคือเรือรบของหมอกนั้น "ไม่มีลูกเรือ" จึงพอเป็นสาเหตได้ว่าเมือ่ไม่จำเป็นต้องบรรจุเชื้อเพลิง เสบียง น้ำจืด และที่พักกำลังพลหลายร้อยแล้ว ตัวเรือภายในจะมีที่ว่างมหาศาลเหลือเชื่อเลยครับ การติดตั้งแท่นยิงจรวดพร้อมคลังกระสุนเพิ่มเป็นร้อยๆนัดเลยไม่ใช่เรื่องแปลก

ฝั่งเขตสถานีฯ ก็มีแนวป้องกันเหมือนกันครับ ชุดยิงจรวดต่อต้านอากาศยานและขีปนาวุธ MIM-104"แพทริออต" ที่เคยสร้างชื่อเสียงสมัยสงครามอ่าวในการสกัดกั้นขีปนาวุธ "สกั๊ด" ของอิรักมาบ่อยๆแล้ว (นึกถึง Eden of the East ตอนสุดท้าย) จำนวนที่เห็นนี่เป็น 10 ชุดยิงได้เลย (ราคาแพงมากๆครับ แต่ละชุดแพงกว่า F16 เรา 1 ลำอีก)

แนวรบค่อนข้างโฟกัสอยู่จุดเดียวครับ แต่จรวดทั้งสองฝ่ายมีพิสัยการยิงไกลกันมากๆ และนำวิถีกันหมดดังนั้นต้องเรียกว่าหมัดไวทันกัน และเราจะเห็นเรือพิฆาตคุ้มกันสองลำโผล่ออกมายิงสกัดด้วยปืนใหญ่

ปืนเรือของนาการะจะต่างจากเรือประจัญบานที่เห็นช่วงต้นครับ เป็นแค่กระสุนเม็ดเล็กๆ เพราะปืนของเรือลาดตระเวณจะเน้นยิงเร็วมากกว่า (ของBB นี่ยิงเป็นเส้นเบ่อเร่อ) แต่ถึงกระสุนจะเบาแต่เรือยุคปัจจุบันมันมีเกราะน้อยมากครับ ถ้าโดนนัดเดียวก็แทบจมแล้ว (ว่าไปทำไมมันไม่คิดหาเรือใหญ่ๆกว่านี้หว่า)

แล้วก็มาถึงนางเอกของเรา เรือดำน้ำ อิ-401 เข้าสนามรบ
Note:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เรือดำน้ำญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกใช้รหัสว่า I-xxx ซึ่งฝั่งตะวันตกมักออกเสียงเป็น "ไอ-401" แต่ของญี่ปุ่นจะเรียก "อิ-401" หรือ "อิโก-401" ครับ ถ้าเห็นใครเรียกผิดแปลกไปจากที่พวกผมเคยแปลก็ไม่ต้องประหลาดใจอะไร

อนึ่ง I-401 จัดเป็นเรือดำน้ำที่ใหญ่ที่สุดในโลกสมัย WW2 (และอาจจะใหญ่สุดในปัจจุบันด้วยถ้าไม่นับพวกเรือดำน้ำนิวเคลียร์) แต่น่าเสียดายมากที่เรือส่วนใหญ่ในชั้น -400 นี้สร้างเสร็จปลายสงครามเพื่อเตรียมการโจมตีคลองปานามา แต่สงครามสิ้นสุดลงซะก่อนเลยต้องไปวางอาวุธให้กองทัพเรือ US จับกุมโดยดุษฏี (และสุดท้ายก็โดนเอาไปบอมม์ทิ้งเล่น)

พระเอกนางเอกเราดูหล่อสวยเกินกว่าเวอร์ชั่นมังกะเยอะเลย

นางเอกเราเอกก็สมกับเป็นเรือรบครับข้อมูลแน่นปึ๊กSmiley โม้เยอะเชียว (เอานะ ถือว่าอธิบายคนดู) บอกสเปคของนาการะได้เป็นฉากๆ
Note:
จริงๆเวลาเรียกสเกลปืนใหญ่ในเรื่องนี้เรียกต่างไปจากทหารยุคปัจจุบันครับเพราะเห็นเรียกเป็นเซนติเมตร แต่โลกเราส่วนใหญ่นิยมเรียกเป็น "มิลิเมตร" มากกว่า แต่ก็ไม่ได้ผิดอะไร (เส้นผ่านศูนย์กลางลำกล้องขนาด 12.3 cm ก็ประมาณ 5 นิ้วครับ)
ข้อความติด limit แล้วแฮะข้ามไปอ่านต่อใน คห.1 ครับ
[AAA] Arpeggio of Blue Steel (เรือรบสยบโลก)- Spoil + วิเคราะห์ตอนที่ 1
[AAA] แนะนำอนิเม/มังกะใหม่ Arpeggio of Blue Steel ~สงครามเรือรบสยบโลก
และ [AAA] Arpeggio of Blue Steel ลองเจาะลึกเรือรบแต่ละประเภทในสมัยสงครามโลกครั้งที่2 ได้ครับ
เอาหละไหนๆเคยสัญญากับเพื่อนผองน้องพี่ไว้ว่าจะทำบท spoil ให้ในกระทู้ก่อน แต่ไม่รู้จะทำได้ตลอดรอดฝั่งรึเปล่านะครับ SS นี้อนิเมดีๆเยอะทีเดียวแถมงานการก็เพียบอีกต่างหาก แต่ด้วยศรัทธาของโลหะเหล็กกล้าและตอร์ปิโดจะพยายามทำให้ได้มากที่สุดละกัน
จริงๆเรื่องนี้น่าจะเอามาแนะนำกันตั้งแต่หนังเรื่อง Battleship ออกฉายครับ จะได้อารมณ์มากๆ แต่เอามาแปะ blog ช่วงนี้ก็ไม่เสียหายนักเพราะอนิเมเรื่องนี้กำลังฉายอยู่พอดีเชียว โดยปัจจุบันผมช่วยทำแฟนซับของอนิเมเรื่องนี้ร่วมอยู่กับค่าย Gaiar,Allot ครับ อาจะช้าหน่อยและผิดพลาดบ้าง (ทยอยแก้อยู่ครับ) แต่ถ้าใครสนใจชมก็ยินดีครับ โดยติดตามที่ Linkในตุรกีได้เลย และถ้าหากชอบใจจะช่วยอุดหนุนลิขสิทธิก็น่ายินดียิ่ง
Japanese: 蒼き鋼のアルペジオ ‐アルス・ノヴァ‐
ตัว Promotion VDO ครับ
ปัจจุบันอนิเมเรื่องนี้ยังไม่มี LC แต่มีเวอร์ชั่นการ์ตูนโดยสนพ. Siam Inter Comic ครับใครสนใจติดตามก็ไปอุดหนุนกันได้ แต่อย่าพึ่งไปสปอยคนรอบข้างโดยไม่ได้ตั้งใจละกัน
เนื้อหาโดยย่อ
(จากกรุงตุรกี)
กล่าวถึงโลกที่มนุษย์จำเป็นต้องอาศัยบนพื้นน้ำทั้งจากปัญหาสภาพอากาศและกองเรือแห่งหมอกที่แข็งแกร่ง เวลาผ่านไป 17 ปี มนุษย์ได้คิดค้นอาวุธที่สามารถสู้กับกองเรือแห่งหมอกได้ แต่ทว่าประเทศญี่ปุ่นที่คิดค้นนั้นไม่มีกำลังพอจะผลิตจำนวนมาก จึงต้องจ้างวาน กุนโซ ผู้ที่ได้ครอบครองเรือดำน้ำลาดตระเวนสีคราม I-401 (อิ401) ที่เขาได้รับมาด้วยเหตุผลบางอย่าง เขาได้กลายเป็นความหวังสุดท้ายของมนุษยชาติในการต่อกรกับกองเรือปริศนาเหล่านั้น
จากนี้เข้าสู่พื้นที่ Spoil กันแล้วครับ แต่ผมจะลงแค่รายละเอียดของตอนที่ 1 เพื่อจะได้ไม่เป็นการเสียอรรถรสในการรับชมสำหรับผู้ที่ตามแต่อนิเมอย่างเดียวครับ (สบายใจได้)
เปิดตัวมาด้วยฉากปี 2039 กองเรือผสม UN แบบอลังการครับ ตัวเรือที่เห็นน่าจะเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินยักษ์ชั้นนิมิตซ์หรือใหม่กว่า เสริมด้วยเรือลาดตระเวณมิตไซล์ชั้นไทคอนเดอเรก้า(US) เรือพิฆาตอิจีสชั้นอาทาโกะ (Japan) และเรือพิฆาตระบบ APAR ของสหราชอณาจักร
Note:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
การระดมยิงด้วยสารพัดขีปนาวุธต่อต้านเรือรบครับ (ASM: Anti-ship-Missile) ซึ่งคำว่า ASM นี้ก็เหมือนกับ "เมนบอร์ด" ในภาษาคอมพิวเตอร์แหละครับ แต่จากอนิเมเราก็ดูไม่ออกหรอกว่าเป็น ASM ยี่ห้อไหน (เหมือนเมนบอร์ดที่มีหลายยี่ห้อ) ซับผมอธิบายแบบกว้างๆเพราะแต่ละประเทศใช้จรวดไม่เหมือนกัน
Note:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อันนี้ขออภัยนิดนึง จริงๆเขาบอกว่า "ข้าศึกเข้าระยะมองเห็นด้วยสายตา" จริงประโยคนี้สำหรับทหารเรือถือว่าเป็นเรื่องซีเรียสเหมือนกันถ้าหากกองทัพของตนไม่ได้เตรียมการรบระยะนี้ไว้ เพราะสงครามเรือรบในยุคปัจจุบันการมองเห็นข้าศึกด้วยตาเปล่าลิบๆที่เส้นขอบฟ้ากลายเป็นเรื่องอันตรายมากเพราะเรือรบยุคนี้ไม่ได้ออกแบบให้ทำการรบระยะใกล้ๆกันเลย (ไม่มีเกราะ) และเน้นซัลโวจรวดเพื่อยับยั้งข้าศึกในระยะไกลกันหมด...การที่ปล่อยให้หลุดเข้ามาใกล้ขนาดนี้ต้องเรียกว่าอันตรายมาก
Note: การยิงขีปนาวุธแบบสามัคคีเราจะเรียกว่า "ระลอกการโจมตี" (Wave' attack) ก็ได้ครับ เนื่องจากห่าฝนขีปนาวุธจะยิงแผ่เป็นรูปใบพัดหน้ากระดานเข้าไปทีละชุด ไม่ได้ยิงเป็นสายเพื่อไม่ให้บังวิธีโคจรหรือรบกวนเซนเซอร์นำวิถีกันและกัน
Note:
จุดน่าสนใจอย่างนึกคือ กองทัพเรือหมอกไม่ได้โจมตีระยะไกล แต่เข้ามาใกล้ๆในระยะสายตาแล้วค่อยเปิดฉากใช้ปืนเลเซอร์หลักยิง.... ซึ่งเป็นที่สังเกตว่าอาวุธหลักของกองเรือหมอกมีระยะหวังผลสั้นมากเพราะเป็นเลเซอร์วิถีตรงไม่น่าเกิน 20 กิโลเมตร หากเทียบกับปืนใหญ่เรือประจัญบาณยุคโบราณที่ยิงได้ 3-40 กิโลเมตรนี่นับว่ากระจอกกว่ามาก (แต่อำนาจการยิงล้นเหลือเลย)
ถ้าดูดีๆ กองเรือหมอกไม่ได้มีรูปขบวนอะไรพิเศษเลยครับ จัดทัพ 4แถวแล้วก็วิ่งเข้ามาชนเรื่อยๆ โดยมีกลุ่มเรือประจัญบานนำหน้าพุ่งชนอย่างเดียว ซึ่งบางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมไม่หลบ?
Ans:
มันไม่มีพื้นที่ให้หลบครับ...หลบซ้ายเจอขวา หลบหน้าเจอเลเซอร์ หลบหลังเจอชนท้าย แถมยังเสี่ยงที่จะเสียรูปขบวนไปชนกันเองอีกต่างหาก ตรงนี้เรียกว่าเป็นจุดอ่อนสำคัญของเรือรบยุคใหม่เลยก็ว่าได้เพราะไม่มีเกราะจะไปชนกับเรือรบศัตรู
ปล. เป็นผมจะหนีครับ พากองเรือ UN หนีไปให้ไกลที่สุดเลย อย่างน้อยก็ถ่วงเวลา (จริงๆกองเรือในการ์ตูนอาจจะทำอย่างงั้นอยู่ก็ได้ แต่ไม่ได้อธิบายไว้ครับ)
สังเกตตำแหน่งการยึดครองกองเรือแห่งหมอกครับ ครอบคลุมน่านน้ำสำคัญทั้งหมดเลย ซึ่งการขนส่งทางทะเลเป็นอัมพาตแน่นอนและส่งผลต่อระบบเศรษฐกิจเป็นอย่างมาก (สินค้าในชีวิตประจำวันพวกเราท่านทั้งหลายเกิน 60% ขนส่งทางทะเลเพราะต้นทุนถูก)
Note:
สังเกตจุดศูนย์กลางของวงกลมแต่ละอันคือน่านน้ำที่เกิดการรบใหญ่ในสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ด้วย และเหล่าเรือรบในยุคโบราณที่ว่าแต่ละลำก็จมกันอยู่แถวๆนั้นแหละครับ
แล้วก็เข้าสู่เวลาปัจจุบัน 7 ปีหลังจากความพ่ายแพ้
ยินดีต้อนรับสู่อนิเมเรื่องนี้ครับ
Appregio of Blue Steel~ Ars Nova "เรือรบสยบโลก
ศูนย์อวกาศชากะกำลังเตรียมปล่อย SSTO (Single State to Orbit) เป็นกระสวยอวกาศแบบที่กำลังพัฒนาอยู่ครับ ว่าจะให้ยานอวกาศสามารถบินขึ้นด้วยตัวเองไม่ต้องพกพาจรวดขับดันสลัดทิ้งออกไปให้เกะกะ ซึ่งจะทำให้กระสวยแบบนี้มีน้ำหนักต่ำลงและวนใช้ซ้ำได้มากขึ้น แต่ปัจจุบันยังอยู่ในขั้นวิจัยทดลองครับ
น่านน้ำใกล้ๆ เรือลาดตระเวณเบานาการะ กองเรือแห่งหมอกที่รับหน้าที่ปิดกั้นประเทศญี่ปุ่นก็เตรียมสกัดกั้น
Note: จุดน่าสนใจคือเรือรบของหมอกนั้น "ไม่มีลูกเรือ" จึงพอเป็นสาเหตได้ว่าเมือ่ไม่จำเป็นต้องบรรจุเชื้อเพลิง เสบียง น้ำจืด และที่พักกำลังพลหลายร้อยแล้ว ตัวเรือภายในจะมีที่ว่างมหาศาลเหลือเชื่อเลยครับ การติดตั้งแท่นยิงจรวดพร้อมคลังกระสุนเพิ่มเป็นร้อยๆนัดเลยไม่ใช่เรื่องแปลก
ฝั่งเขตสถานีฯ ก็มีแนวป้องกันเหมือนกันครับ ชุดยิงจรวดต่อต้านอากาศยานและขีปนาวุธ MIM-104"แพทริออต" ที่เคยสร้างชื่อเสียงสมัยสงครามอ่าวในการสกัดกั้นขีปนาวุธ "สกั๊ด" ของอิรักมาบ่อยๆแล้ว (นึกถึง Eden of the East ตอนสุดท้าย) จำนวนที่เห็นนี่เป็น 10 ชุดยิงได้เลย (ราคาแพงมากๆครับ แต่ละชุดแพงกว่า F16 เรา 1 ลำอีก)
แนวรบค่อนข้างโฟกัสอยู่จุดเดียวครับ แต่จรวดทั้งสองฝ่ายมีพิสัยการยิงไกลกันมากๆ และนำวิถีกันหมดดังนั้นต้องเรียกว่าหมัดไวทันกัน และเราจะเห็นเรือพิฆาตคุ้มกันสองลำโผล่ออกมายิงสกัดด้วยปืนใหญ่
ปืนเรือของนาการะจะต่างจากเรือประจัญบานที่เห็นช่วงต้นครับ เป็นแค่กระสุนเม็ดเล็กๆ เพราะปืนของเรือลาดตระเวณจะเน้นยิงเร็วมากกว่า (ของBB นี่ยิงเป็นเส้นเบ่อเร่อ) แต่ถึงกระสุนจะเบาแต่เรือยุคปัจจุบันมันมีเกราะน้อยมากครับ ถ้าโดนนัดเดียวก็แทบจมแล้ว (ว่าไปทำไมมันไม่คิดหาเรือใหญ่ๆกว่านี้หว่า)
แล้วก็มาถึงนางเอกของเรา เรือดำน้ำ อิ-401 เข้าสนามรบ
Note:
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
พระเอกนางเอกเราดูหล่อสวยเกินกว่าเวอร์ชั่นมังกะเยอะเลย
นางเอกเราเอกก็สมกับเป็นเรือรบครับข้อมูลแน่นปึ๊กSmiley โม้เยอะเชียว (เอานะ ถือว่าอธิบายคนดู) บอกสเปคของนาการะได้เป็นฉากๆ
Note:
จริงๆเวลาเรียกสเกลปืนใหญ่ในเรื่องนี้เรียกต่างไปจากทหารยุคปัจจุบันครับเพราะเห็นเรียกเป็นเซนติเมตร แต่โลกเราส่วนใหญ่นิยมเรียกเป็น "มิลิเมตร" มากกว่า แต่ก็ไม่ได้ผิดอะไร (เส้นผ่านศูนย์กลางลำกล้องขนาด 12.3 cm ก็ประมาณ 5 นิ้วครับ)
ข้อความติด limit แล้วแฮะข้ามไปอ่านต่อใน คห.1 ครับ