กรณีศึกษามาถาม :
*ออกตัวก่อนว่า เราไม่ใช่เจ้าของ เจ้าของคือรุ่นพี่เราที่ไปด้วยกัน*
ถ้าโต๊ะที่คุณเพิ่งมานั่ง สักพัก อยู่ดีๆมีผู้หญิงสองคนเดินมาถามว่า
"ขอโทษนะคะ เมื่อสักครู่พอจะเห็นโทรศัพท์ตกอยู่แถวนี้มั้ย?" น้ำเสียงเเละสีหน้านอบน้อม มีมารยาทสุดนะ ไอ่เราก็เกรงใจเหมือนกัน
คุณจะมีท่าทีใดเเละตอบกลับมาว่า?
แต่สิ่งที่เราเจอคือ กระเทยดำเตี้ยขี้วีนนางหนี่งพร้อมเดอะเเก๊งเงยหน้าขึ้นมาหางตาพูดห้วนๆว่า
'โต๊ะนี้มีพนักงานมาเก็บก่อนเเล้วค่ะน้อง' เเบบพนง.เก็นจานชามถาดไปเเล้วย่ะ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับชั้นทั้งสิ้น!!
ไม่สนใจเรา ไม่มีสบตาในการเงยมองพูด ทำไม่เเยเเส ไม่มีช่วยหาอะไรทั้งนั้น หรือช่วยมองใต้โต๊ะ
ก็คิดนะ หรือมันเป็นสิ่งที่ถ้าเราเจอ เราคงเลือกทำคนเดียว? แต่คนอื่นไม่เป็นเเบบนั้นหรือเปล่า
เราจ๋อย เเละเสียความรู้สึก เดินกลับมาคุยกับพี่เเล้วก็ผู้จัดการร้าน
พนักงานในร้านก็ช่วยกันหา ดูทุกคนหันมาฟังเรานะ หันมาถาม
เราก็เล่าๆไปว่า 'เอ ทำไมเค้าต้องทำเเบบนั้นกับเรานะ หรือเป็นบุคลิกท่าทางของเค้า'
สักพัก เรากับพี่เลยตัดสินใจขอดูกระเป๋าแก้งนี้ รู้สึกพิรุธเกิ๊น
เดินเข้าไปที่โต๊ะ ขอด้วยน้ำเสียงเเละมารยาทที่ดีบวกจริตด้วยเล็กน้อย น้ำหูน้ำตาเริ่มไหลเสมือนเป็นของตัวเอง กะเรียกสงสาร
เราคิดว่าอาจพอช่วยอะไรได้ เลยทำทีว่าไอโฟนตัวเองหายนะ
(พี่เราเค้าเเกร่งไง ไม่ร้อง เเละเเรงกว่า เราเลยคิดว่าเอาอ่อนเข้าสู้น่าจะดีกว่านะ ไม่อยากให้เรื่องใหญ่กะเเค่มาถามดีๆ ไปดีๆ)
เราก็เหมือนร้อวไห้ไป ถามไปว่า 'รบกวนจริงๆค่ะ คือเครื่องนี้เก็บตังมานานบวกส่วนของคุณพ่อด้วย'
นู่นนี่นั่นว่าไป ร้องไปร้องมานี่อินนะ เหมือนเป็นของตัวเอง--"
เเต่แอคชั่นตอบกลับคือ เหวี่ยง โวยวาย เสียงดัง ลั่นร้าน
'มันใช่เรื่องอะไร , ดูกล้องวงจรปิดสิ , ถ้าจะค้นทำไมไม่ค้นพนักงานก่อน? , รักษาของไม่ดีก็สมควรเเล้วละ เเล้วมาเดือดร้อนชาวบ้าน(อันนี้เต็บสุด)
. เสียเวลาชั้นจริงๆ . เอาสิค้นเลย ถ้าของชั้นหายนะ(คือ คิดว่าดิชั้นจะค้นเเละวิ่งราวออกไปนอกร้าน?==)
, นี่ใช่เรื่องป่ะ? กล่าวหาหรอ ดูสิดูๆ(เรียกผู้จัดการเป็นพวกหน่อย) ' บลาบลาบลา
คือดูไม่ยอมสุดอะ
คืออะไรอะ? หรือมันเป็นสิ่งที่คนทั่วไปทำ หรือเป็นนิสัยคน อยากจะคิดเเบบนั้น
เเต่เราคิดว่าถ้าเป็นเราอะ เราก็คงเเบบงงๆเเล้วก็ให้ดูนะ ก็บริสุทธิ์งี้
สักพักอีกที ผู้หญิงอีกนางบอกเพื่อนในโต๊ะว่า 'เดี๋ยวออกไปรับเพื่อนก่อน' เเล้วเดินออกจากร้านไป เรามองตาม
(ต้องขอโทษจริงๆ ไม่อยากกล่าวหาใคร เเต่สถานการณ์เเบบนี้ต้องเก็บหมด)
เราเลยเเอบกระซิบพี่ผจก.ร้านให้เดินตามไปที
ใช่เวลานี้หมายย!!!! (ก็รู้ว่าเสียมารยาทสุดนะ เราพยายามบอกเเล้วว่า เพื่อความสบายใจว่าไม่มีจริงๆ จะได้ทำใจค่ะ , ถ้าเเสดงเจตนาว่ากล่าวหาต้องขอโทษด้วย ต้องขอโทษจริงๆ คือเรายกมือไหว้ตลอดนะ ใช่ว่าจะไม่เกรงใจเลย มันเกรงใจจริงๆ เเต่ขอวก็หายจริงๆ เครื่องหนึ่งเป็นหมื่น )
พี่ผจก.ร้าน เค้าอึกอักเล็กน้อยก่อนตามออกไป ปรากฎว่าตามไม่ทัน นางเลี้ยวเข้าซอยใดไม่ทราบ
ณ จุดนี้ เพื่อนของเธออีกสองคนชายหญิง ก็เปิดกระเป๋าให้ดูเเล้วละ
เราก็ยกมือไหว้บอกว่า ขอโทษนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ เเล้วก็ดูไปด้วย
ซึ่งนางกระเทยคนนี้ก็ยัง บ่นเสียงดัง ด่านู่นนี่ตลอด จนเราเกรงว่าคนในร้านจะเข้าใจผิดหาว่ากล่าวหา
เลยใช้สิ่งที่เรียนมาคือแอคติ้งหน่อยๆ พูดเสียงดังกลบ พูดขอโทษ(เกรงใจจริงๆด้วยเลยทำ)
เหมือนกึ่งบอกรายละเอียดว่า 'ไม่ได้กล่าวหานะ ของมันหายเเบบนี้ เป็นของสำคัญ หามายากจริงๆ ขออนุญาตจริงๆเพือความสบายใจ
ถ้าไม่ใช่จริงๆ จะขอโทษมากๆเลยค่ะ'
ไม่อยากให้คนในร้านตีความ ผูกเรื่องผิดๆไป
จนสุดท้าย พี่สาวเปิดกระเป๋าใหญ่ (เป็นพวกเมคอัพค่ะ) .......
ไม่ค้นต่อละ ไม่ค้นตัวด้วย คือไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายด้วยไง บวกกับของคงไปละะะะะ เลยไม่เสี่ยงดีกว่า
ยกทัพกลับมาหลังร้าน
เราสังเกตว่า อุปกรณ์ที่กลุ่มนี้ใช้ ไม่มีเครื่องไอโฟน ไอเเพท ไอพอตเเม้เเต่น้อย
ไม่ได้ดูถูก หรืออะไรค่ะ ทราบว่าราคาไม่ต่างกันมาก (เเต่ก็ค่อนข้างจะต่างกัน)
เลยเป็นอีกจุดที่ยิ่งอยากเชื่อว่าคุณเอาไป (กล่าวหาไม่มีหลักฐาน ผิด เเจ้งจับข้อหาหมิ่น ประมาณนี้ใช่ไหมคะ)
พี่ผจก.ร้านบอกให้เรากับพี่ไปข้างบน จะให้ไปตรวจกระเป๋าพนักงาน
เเต่เรากับพี่เลือกที่จะไม่ค้นกระเป๋าพนักงาน เเม้พี่ผจก.จะเต็มใจก็ตาม
มีพี่พนักงานคนนึงบอกว่า กลุ่มนี้ขาประจำประกวดอะไรสักอย่างเกือบทุกอาทิตย์ที่ดิจิตอลเกตเวย์
ขาประจำ? งี้ก็รู้ป่าวว่าร้านไม่มีกล้องวงจรปิด? คือยังไง
ละจำได้ว่าตอนเรานั่งตอนเเรก กลุ่มนี้นั่งอีกโต๊ะ (จำได้เพราะมีสาวนางหนึ่งเธอเต็มตัวได้สะดุดตามาก)
อยู่ๆทำไมย้ายมาโต๊ะที่เรานั่งละ?
พี่ๆพอจะจับอะไรได้ไหมคะ? หรือเราเริ่มอคติไปเองจริงๆ
ใครก็ได้ช่วยวิเคราะห์ทีค่ะ ใครมีความรู้มีบทเรียนอีก ช่วยเเนะหน่อย ถ้าเจอเเบบนี้อีกควรทำยังไงดี .
ยิ่งในกรณีที่เราอาจมั่นใจว่าใช่ เราจะพอทำอะไรได้บ้าง?
กราบขอบพระคุณค่ะ
*สุดท้ายได้ขอสรุปกับตัวเองว่า
" ความรู้สึก กับ กฎหมาย ขัดเเย้งกัน เเละไม่สามารถรวมกันได้จริงจริงค่ะ"
ถ้าบริสุทธิ์ใจ เห็นใจกัน ก็ไม่ยากไม่ใช่หรอคะ?
##เรื่องกฎหมาย . กลุ่มน่าสงสัยเป็นมิจฉาชีพ ขอค้นตัวได้ไหม? - เจอที่สยาม -ไอโฟนหายค่ะ
*ออกตัวก่อนว่า เราไม่ใช่เจ้าของ เจ้าของคือรุ่นพี่เราที่ไปด้วยกัน*
ถ้าโต๊ะที่คุณเพิ่งมานั่ง สักพัก อยู่ดีๆมีผู้หญิงสองคนเดินมาถามว่า
"ขอโทษนะคะ เมื่อสักครู่พอจะเห็นโทรศัพท์ตกอยู่แถวนี้มั้ย?" น้ำเสียงเเละสีหน้านอบน้อม มีมารยาทสุดนะ ไอ่เราก็เกรงใจเหมือนกัน
คุณจะมีท่าทีใดเเละตอบกลับมาว่า?
แต่สิ่งที่เราเจอคือ กระเทยดำเตี้ยขี้วีนนางหนี่งพร้อมเดอะเเก๊งเงยหน้าขึ้นมาหางตาพูดห้วนๆว่า
'โต๊ะนี้มีพนักงานมาเก็บก่อนเเล้วค่ะน้อง' เเบบพนง.เก็นจานชามถาดไปเเล้วย่ะ ไม่มีอะไรเกี่ยวกับชั้นทั้งสิ้น!!
ไม่สนใจเรา ไม่มีสบตาในการเงยมองพูด ทำไม่เเยเเส ไม่มีช่วยหาอะไรทั้งนั้น หรือช่วยมองใต้โต๊ะ
ก็คิดนะ หรือมันเป็นสิ่งที่ถ้าเราเจอ เราคงเลือกทำคนเดียว? แต่คนอื่นไม่เป็นเเบบนั้นหรือเปล่า
เราจ๋อย เเละเสียความรู้สึก เดินกลับมาคุยกับพี่เเล้วก็ผู้จัดการร้าน
พนักงานในร้านก็ช่วยกันหา ดูทุกคนหันมาฟังเรานะ หันมาถาม
เราก็เล่าๆไปว่า 'เอ ทำไมเค้าต้องทำเเบบนั้นกับเรานะ หรือเป็นบุคลิกท่าทางของเค้า'
สักพัก เรากับพี่เลยตัดสินใจขอดูกระเป๋าแก้งนี้ รู้สึกพิรุธเกิ๊น
เดินเข้าไปที่โต๊ะ ขอด้วยน้ำเสียงเเละมารยาทที่ดีบวกจริตด้วยเล็กน้อย น้ำหูน้ำตาเริ่มไหลเสมือนเป็นของตัวเอง กะเรียกสงสาร
เราคิดว่าอาจพอช่วยอะไรได้ เลยทำทีว่าไอโฟนตัวเองหายนะ
(พี่เราเค้าเเกร่งไง ไม่ร้อง เเละเเรงกว่า เราเลยคิดว่าเอาอ่อนเข้าสู้น่าจะดีกว่านะ ไม่อยากให้เรื่องใหญ่กะเเค่มาถามดีๆ ไปดีๆ)
เราก็เหมือนร้อวไห้ไป ถามไปว่า 'รบกวนจริงๆค่ะ คือเครื่องนี้เก็บตังมานานบวกส่วนของคุณพ่อด้วย'
นู่นนี่นั่นว่าไป ร้องไปร้องมานี่อินนะ เหมือนเป็นของตัวเอง--"
เเต่แอคชั่นตอบกลับคือ เหวี่ยง โวยวาย เสียงดัง ลั่นร้าน
'มันใช่เรื่องอะไร , ดูกล้องวงจรปิดสิ , ถ้าจะค้นทำไมไม่ค้นพนักงานก่อน? , รักษาของไม่ดีก็สมควรเเล้วละ เเล้วมาเดือดร้อนชาวบ้าน(อันนี้เต็บสุด)
. เสียเวลาชั้นจริงๆ . เอาสิค้นเลย ถ้าของชั้นหายนะ(คือ คิดว่าดิชั้นจะค้นเเละวิ่งราวออกไปนอกร้าน?==)
, นี่ใช่เรื่องป่ะ? กล่าวหาหรอ ดูสิดูๆ(เรียกผู้จัดการเป็นพวกหน่อย) ' บลาบลาบลา
คือดูไม่ยอมสุดอะ
คืออะไรอะ? หรือมันเป็นสิ่งที่คนทั่วไปทำ หรือเป็นนิสัยคน อยากจะคิดเเบบนั้น
เเต่เราคิดว่าถ้าเป็นเราอะ เราก็คงเเบบงงๆเเล้วก็ให้ดูนะ ก็บริสุทธิ์งี้
สักพักอีกที ผู้หญิงอีกนางบอกเพื่อนในโต๊ะว่า 'เดี๋ยวออกไปรับเพื่อนก่อน' เเล้วเดินออกจากร้านไป เรามองตาม
(ต้องขอโทษจริงๆ ไม่อยากกล่าวหาใคร เเต่สถานการณ์เเบบนี้ต้องเก็บหมด)
เราเลยเเอบกระซิบพี่ผจก.ร้านให้เดินตามไปที
ใช่เวลานี้หมายย!!!! (ก็รู้ว่าเสียมารยาทสุดนะ เราพยายามบอกเเล้วว่า เพื่อความสบายใจว่าไม่มีจริงๆ จะได้ทำใจค่ะ , ถ้าเเสดงเจตนาว่ากล่าวหาต้องขอโทษด้วย ต้องขอโทษจริงๆ คือเรายกมือไหว้ตลอดนะ ใช่ว่าจะไม่เกรงใจเลย มันเกรงใจจริงๆ เเต่ขอวก็หายจริงๆ เครื่องหนึ่งเป็นหมื่น )
พี่ผจก.ร้าน เค้าอึกอักเล็กน้อยก่อนตามออกไป ปรากฎว่าตามไม่ทัน นางเลี้ยวเข้าซอยใดไม่ทราบ
ณ จุดนี้ เพื่อนของเธออีกสองคนชายหญิง ก็เปิดกระเป๋าให้ดูเเล้วละ
เราก็ยกมือไหว้บอกว่า ขอโทษนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ เเล้วก็ดูไปด้วย
ซึ่งนางกระเทยคนนี้ก็ยัง บ่นเสียงดัง ด่านู่นนี่ตลอด จนเราเกรงว่าคนในร้านจะเข้าใจผิดหาว่ากล่าวหา
เลยใช้สิ่งที่เรียนมาคือแอคติ้งหน่อยๆ พูดเสียงดังกลบ พูดขอโทษ(เกรงใจจริงๆด้วยเลยทำ)
เหมือนกึ่งบอกรายละเอียดว่า 'ไม่ได้กล่าวหานะ ของมันหายเเบบนี้ เป็นของสำคัญ หามายากจริงๆ ขออนุญาตจริงๆเพือความสบายใจ
ถ้าไม่ใช่จริงๆ จะขอโทษมากๆเลยค่ะ'
ไม่อยากให้คนในร้านตีความ ผูกเรื่องผิดๆไป
จนสุดท้าย พี่สาวเปิดกระเป๋าใหญ่ (เป็นพวกเมคอัพค่ะ) .......
ไม่ค้นต่อละ ไม่ค้นตัวด้วย คือไม่มีความรู้เรื่องกฎหมายด้วยไง บวกกับของคงไปละะะะะ เลยไม่เสี่ยงดีกว่า
ยกทัพกลับมาหลังร้าน
เราสังเกตว่า อุปกรณ์ที่กลุ่มนี้ใช้ ไม่มีเครื่องไอโฟน ไอเเพท ไอพอตเเม้เเต่น้อย
ไม่ได้ดูถูก หรืออะไรค่ะ ทราบว่าราคาไม่ต่างกันมาก (เเต่ก็ค่อนข้างจะต่างกัน)
เลยเป็นอีกจุดที่ยิ่งอยากเชื่อว่าคุณเอาไป (กล่าวหาไม่มีหลักฐาน ผิด เเจ้งจับข้อหาหมิ่น ประมาณนี้ใช่ไหมคะ)
พี่ผจก.ร้านบอกให้เรากับพี่ไปข้างบน จะให้ไปตรวจกระเป๋าพนักงาน
เเต่เรากับพี่เลือกที่จะไม่ค้นกระเป๋าพนักงาน เเม้พี่ผจก.จะเต็มใจก็ตาม
มีพี่พนักงานคนนึงบอกว่า กลุ่มนี้ขาประจำประกวดอะไรสักอย่างเกือบทุกอาทิตย์ที่ดิจิตอลเกตเวย์
ขาประจำ? งี้ก็รู้ป่าวว่าร้านไม่มีกล้องวงจรปิด? คือยังไง
ละจำได้ว่าตอนเรานั่งตอนเเรก กลุ่มนี้นั่งอีกโต๊ะ (จำได้เพราะมีสาวนางหนึ่งเธอเต็มตัวได้สะดุดตามาก)
อยู่ๆทำไมย้ายมาโต๊ะที่เรานั่งละ?
พี่ๆพอจะจับอะไรได้ไหมคะ? หรือเราเริ่มอคติไปเองจริงๆ
ใครก็ได้ช่วยวิเคราะห์ทีค่ะ ใครมีความรู้มีบทเรียนอีก ช่วยเเนะหน่อย ถ้าเจอเเบบนี้อีกควรทำยังไงดี .
ยิ่งในกรณีที่เราอาจมั่นใจว่าใช่ เราจะพอทำอะไรได้บ้าง?
กราบขอบพระคุณค่ะ
*สุดท้ายได้ขอสรุปกับตัวเองว่า
" ความรู้สึก กับ กฎหมาย ขัดเเย้งกัน เเละไม่สามารถรวมกันได้จริงจริงค่ะ"
ถ้าบริสุทธิ์ใจ เห็นใจกัน ก็ไม่ยากไม่ใช่หรอคะ?