สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 17
อืมม กระทู้เก่ามากเป็นปีแล้ว แต่เผื่อมีใครมาอ่าน และอยากรู้ชัดๆนะครับ ผมเป็นคนขายรถมือ 2 ก็พ่อค้ารถนั่นแหละ (ความคิดเห็นที่ 10 ) นั่นแหละครับถูกต้อง รู้จริงประสพการณ์จริง ตามนั้นครับ ส่วนอื่นๆ มีคลาดเคลื่อนบ้าง เอาเป็นว่า คุณคิดจะไปประมูลรถ คุณต้องเป็นเรื่องรถนะครับ ดูให้เป็น บวกค่าซ่อมค่าเสื่ยงต่างๆไว้ในใจให้ดี บอกตามตรงถ้าแค่พอรู้ อาจเจ็บตัวได้ครับ รถที่มาประมูล ลองขับไม่ได้ รถขับเคลื่อนล้อหน้า เพลาดังมั๊ย ช่วงล่างล่ะเป็นอย่างไร เสียงเครื่องยนต์ผิดปรกติหรือเปล่า น้ำมันเครื่องเยิ้มหรือไม่ฯลฯ พ่อค้ารถ ประสพการณ์ในอาชีพทำให้ดูปรา๊ดเดียว ดูออกได้เลยว่า รถคันนี้เป็นอย่างไร สภาพตัวถังพ่อค้าบางคน(เช่นตัวผม) ดึงยางขอบประตูออกดูรถตะเข็บตัวรถเอาเลยทีเดียว โฆษกสาวๆสวยๆที่ทำการประมูลพูดเร็วมากเหมือนหายใจได้ทางผิวหนัง ทำให้ผู้ประมูลที่ไม่มีประสพการณ์คำนวน บวก-ลบ-คูณ-หาร ไม่ทัน พลาดกันก็เยอะ ไม่แน่จริงมาซื้อหลังจากพวกผมไปทำมาเรียบร้อยเถอะครับ ไม่เสียฟอร์มหรอก กำไร10-15% กับการทำรถขาย1คัน ทำเยอะแค่ไหนทราบมั๊ยครับ เอาเป็นว่ารถสวยทั้งคันไม่มีลอยขีดข่วนมาถึงเต็นท์ ถอดไฟหน้า ถอดเบาะ ถอดพรหม มาซักทำความสะอาด ทำความสะอาดเพดานด้านในรถรวมทั้งแผงหน้าปัทม์แผลประตูรอบคัน ล้างห้องเครื่องด้วยน้ำยาล้างอย่างดี(เพราะถ้าไม่ดีล้างยากคนล้างล้วงมือไปทำความสะอาด อาจจะได้แผล)แค่น้ำถ้าคุณทำเองจะรู้ว่าเหนื่อขนาดไหน คาร์แคร์ทำสะอาดแบบนี้คงหลายพันล่ะครับ ต่อมารอบนอก ขีดสีลงแว๊กส์อย่างดี(ผมใช้ยี่ห้อ แม๊กไควส์) กระป๋องละ2พันกว่า เพื่อไปจอดขายได้สวยงามน่าซื้อ..... บางคนที่ผมเห็น(บ่อยๆ) คิดว่าซื้อถูกกว่าเต็นท์ เห็น ยกป้ายประมูลสู้หน้าดำคร่ำเครียด ผมนึกสงสารว่าช่างกล้าราคาหน้าเตนท์ผมยังถูกกว่าอีกแถมรถพร้อมใช้ด้วย แต่ ทำงัยได้เราบอกเค้าๆคงคงไม่พอใจ ........... เอาล่ะ ถ้าคุณอ่านแล้วยังอยากสนุกด้วยการลองไปประมูลดูมั่งจะมีเทคนิคเล็กๆแนะนำให้นะครับ(ความจริงสอนไปแล้วไม่เป็นผลดีกะตัวผมเลย)แต่ไหนๆพิมพ์มาตั้งเยอะก็ควรให้อะไรคนที่อุสาห์อ่านบ้าง......เทคนิคคือ สังเกตุกลุ่มผู้มาประมูลถ้ารู้จักทักทายกัน(สะพายกระเป๋า+ใส่ทองเส้นใหญ่ๆ)พวกนี้มักเป็นพวกพ่อค้ารถที่สะพายกระเป็นเพราะเค้าต้องพกเงินสดมากวาดซื้อรถงัยครับ แปลกอีกอย่างทำไมชอบใส่ทองเส้นใหญ่ๆกันก็ไม่รู้(ผมไม่ใส่) ต่อ..... ที่ให้สังเกตุเพราะ พวกเรา(พวกเค้า) ดูรถกันขาด(หมายถึงดูรถเก่ง ดูเป็น)ถ้ารถคันใหนพวกพ่อค้ารุมดู และหมายตากันไว้ เป้นคันเดียวกับที่คุณชอบ พอพวกเค้าประมูล คุณก็ยกป้ายสู้ราคา(รถราคาไม่เกินล้าน ยกครั้งละแค่2พัน)(ถ้าเกิน1ล้าน ยกครั้งละ5พัน)ถ้าพ่อค้าหยุดยกคุณก็ซื้อแพงกว่าพวกเค้าแค่2พัน (5พันถ้าเกิน1ล้าน)คุณได้รถดีแน่เพราะ พ่อค้าน้อยคนนักที่จะซื้อรถไม่สวย นั่นคุณก็สังเกตุได้อีกว่าเค้าจะหาดูแต่รถที่เปิดราคาถูกๆ(เป้นพ่อค้านักย้อมแมว)ผ่านไปซะ ดูพ่อค้ากลุ่มใหญ่ดีกว่าเพราะกลุ่มพ่อค้าสวนใหญ่อย่างที่บอก ซื้อรถสวยเพราะ ไปถึงทำนิดหน่อยขายได้เลย ถ้าต้องไปส่งทำสี ทำโน่นทำนี่ เสียโอกาศครับ เสียเวลาแถมรถออกยาก รถสวยลูกค้าซื้อง่าย ลูกค้าส่วนใหญ่พาคนดูรถเป็นมาช่วยดู รถไม่สวยจอดติดเต็นท์ เงินจมครับ ...... เทคนิคนี้ได้ผลชัวร์ ขอให้มีความสุขและสนุกกับการได้ประมูลแข่งขันนะครับ
Criptonite ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1171324 ถูกใจ, Tomorrow is too late ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4812659 ถูกใจ, chris_k ถูกใจ, วอริเออร์ ถูกใจ, การ์ตูนวาดผิด ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3924509 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4765047 ถูกใจ, csirre ถูกใจรวมถึงอีก 4 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
ความคิดเห็นที่ 10
ตาดีได้ ตาร้ายเสีย ซวยไป..แชร์ประสบการณ์แย่ๆที่ประมูลรถกับสหการณ์ประมูลแยกพืชสวนโลก เชียงใหม่
การประมูลก็ต้องวางเงินมัดจำก่อน20,000บาท เมื่อคุณประมูลรถได้จะมีค่าธรรมเนียมตามที่แจ้งในเอกสาร สมมิตประมูลได้ที่100,000บาท ก็ต้องบวกvat อีก7,000บาท และค่าดำเนินการอีก8,560บาท และหากมีค่าอื่นๆ เช่น ค่ากุญแจ ค่าขนย้าย ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามตารางการประมูล ซึ่งรถบางคันที่จะแจ้งในตารางจะแจ้งแค่ว่าไม่รับผิดชอบการโอน รถคันแรก แต่จะไม่แจ้งว่าชนมา น้ำท่วม บลาๆๆๆ ถ้าอยากไปประมูลรถราคาถูกต้องเรียกช่างไปดูกันเลยทีเดียวเพราะรถบางคันเราก็ดูไม่ออกจริงๆว่าเคยชนตรงไหนมา และเหนือกว่าช่างก็ตามเรื่องที่ดิฉันจะแชร์ให้ฟังค่ะ
13ก.ย.57 วันประมูล
ดิฉันประมูลรถกับสหการประมูล เชียงใหม่ ซึ่งงบที่ตั้งไว้คือไม่เกิน2แสนบาทรวมซ่อม ทำตามขั้นตอนการประมูลทุกประการ จบการประมูลไปที่159,965บาท(รวมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว) เป็นรถเก๋งTOYOTA ALTIS ปี2007
ระหว่างที่รอเล่มในระยะเวลา1เดือน ก็ส่งรถทำสีทั้งคันเพราะมันลอกด้านโดนแดด ซ่อมเบาะที่ฉีกนิดหน่อย นั่นนู่นนี่เล็กน้อย ในงบน้อยๆเท่าที่มี ไม่เกิน200,000 บาท ถือว่าพอใจมาก และเมื่อครบ1เดือนเล่มส่งมาที่บ้านก็รีบพากันไปโอนรถเป็นชื่อเราจะได้ขับกันอย่างสบายใจซะที ปรากฎว่าโอนไม่ได้เจ้าหน้าที่ขนส่งแจ้งว่าเลขใต้เครื่องรถไม่เหมือนกับที่บริษัทผลิต(ขั้นตอนนี้ตอนประมูลไม่ได้แจ้ง ปห เรื่องการโอนหรือเกี่ยวกับเลขเครื่องใดๆและคุณก้ไม่สามารถไปดูรถด้วยการลอดใต้ท้องรถทุกคันได้ขณะการประมูล) ซวยเอง...
10ต.ค.57ส่งคืนรถ รถโอนไม่ได้ก็ต้องส่งคืน...เศร้ามั้ย และที่เศร้ามากกว่าคือเงินที่ซ่อมรถไปแล้วไม่สามรถคืนได้ จะได้ก็แต่ค่ารถ ค่าธรรมเนียมการประมูลและ Vat กลับเอารถและเอกสารคู่มือรถไปคืน ณ ลานประมูลเชียงใหม่ด้วยใจห่อเหี่ยว เจ้าที่ตรวจเช็ครถและออกใบรับคืนรถและแจ้งว่าจะได้รับเงินโอนเข้าทางบัญชีภายใน1เดือน
กลางเดือนพ.ย57 ไม่มีเงินโอนเข้าบัญชี....ไม่มีโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ ไปที่ลานประมูลอีกทีได้เบอร์โทร เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่กรุงเทพ อ่าว!!! คือซื้อรถที่เชียงใหม่ แต่ให้ลูกค้าอย่าางเราติดต่อเองที่กรุงเทพ เอ๋อ...โทรอยู่3วันไม่ติดค่าาาา เริ่มเครียด เริ่มต้นค้นหาใหม่ด้วยเบอร์บนกระดาษประมูล โทรไปกทม โยนมา เชียงใหม่ โทรไปเชียงใหม่ โยนไป กทม ...อยู่อย่างนี้1สัปดาห์ เกือบสิ้นเดือนจนได้เบอร์ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่สาขา กทม รับเรื่องแล้วจะรีบดำเนินการค่ะ อ่าว...เดือนกว่านี่ไม่ได้ทำอะไรกันเลยหรอ นี่ถ้าไม่โทรตามจิกจะยังไงกัน
ต้นเดือน ธ.ค.57 เงียบ....ติดต่อไปใหม่เจ้าหน้าที่ของสห กทม แจ้งว่า รอทางธนาคารSCB ตอบกลับ ทนจะไม่ไหวละจะครบ2เดือนแล้วยังไม่มีคำตอบว่าจะได้เงินคืนหรือเปล่า ขอเบอร์ติดต่อกับเจ้าหน้าที่SCB ได้รับเรื่อง(อีกแล้ว) สรุปไม่คุยกันหรือไงรอกันไปรอกันมา
12ธ.ค.57 เงียบ..อีกแล้ว โทรอีก เจ้าหน้าที่สห กทม บอกว่ารอเจ้าหน้าที่SCB โทรหาSCBแจ้งว่าตรวจสอบแล้วได้โอนเช็คไปให้ตั้งแต่1เดือนแล้ว อ่าว...!!โทรกลับสหอีกที ก็บอกว่ายังไม่ได้รับเช็คนะ (คือตรงนี้ใครโกหก ใครโกง ไม่รู้สินะ เงินกูมิไหนคะ) รอทางธนาคารสงเช็คมา คิดว่าไม่น่าเกินสัปดาหน้าได้รับเช็คแน่นอนค่ะ
20ธ.ค.57 ปรากฏว่า ว่างเปล่า.....เช็คก็ไม่มี เงินก็ไม่เข้า เจ้าหน้าที่ไม่เคยโทรหา มีแต่เราที่ต้องไปจิกตามเอาเงินเอง รถก็คืน เล่มก็คืน เงินแสนห้ายังไม่คืน อยากได้รถใช้ก็ไม่มีเงินแล้ว เอาไงชีวิตมนุษย์เงินเดือน...T T
ปัจจุบัน25ธ.ค57 ชีวิตเหมือนถูกโกงนะ ไม่มีรถ ไม่มีเงินเพราะเขายังไม่คืน จะไป กทม ก็ลำบากมากมาย จะลางานไปสำนักกงานใหญ่ที่ กทม.ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะได้เงินคืนมั้ย เพราะเดี๋ยวก็เจออ้างรอเรื่องจากธนาคารอีก ซวยแท้กรู....
การประมูลก็ต้องวางเงินมัดจำก่อน20,000บาท เมื่อคุณประมูลรถได้จะมีค่าธรรมเนียมตามที่แจ้งในเอกสาร สมมิตประมูลได้ที่100,000บาท ก็ต้องบวกvat อีก7,000บาท และค่าดำเนินการอีก8,560บาท และหากมีค่าอื่นๆ เช่น ค่ากุญแจ ค่าขนย้าย ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามตารางการประมูล ซึ่งรถบางคันที่จะแจ้งในตารางจะแจ้งแค่ว่าไม่รับผิดชอบการโอน รถคันแรก แต่จะไม่แจ้งว่าชนมา น้ำท่วม บลาๆๆๆ ถ้าอยากไปประมูลรถราคาถูกต้องเรียกช่างไปดูกันเลยทีเดียวเพราะรถบางคันเราก็ดูไม่ออกจริงๆว่าเคยชนตรงไหนมา และเหนือกว่าช่างก็ตามเรื่องที่ดิฉันจะแชร์ให้ฟังค่ะ
13ก.ย.57 วันประมูล
ดิฉันประมูลรถกับสหการประมูล เชียงใหม่ ซึ่งงบที่ตั้งไว้คือไม่เกิน2แสนบาทรวมซ่อม ทำตามขั้นตอนการประมูลทุกประการ จบการประมูลไปที่159,965บาท(รวมทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว) เป็นรถเก๋งTOYOTA ALTIS ปี2007
ระหว่างที่รอเล่มในระยะเวลา1เดือน ก็ส่งรถทำสีทั้งคันเพราะมันลอกด้านโดนแดด ซ่อมเบาะที่ฉีกนิดหน่อย นั่นนู่นนี่เล็กน้อย ในงบน้อยๆเท่าที่มี ไม่เกิน200,000 บาท ถือว่าพอใจมาก และเมื่อครบ1เดือนเล่มส่งมาที่บ้านก็รีบพากันไปโอนรถเป็นชื่อเราจะได้ขับกันอย่างสบายใจซะที ปรากฎว่าโอนไม่ได้เจ้าหน้าที่ขนส่งแจ้งว่าเลขใต้เครื่องรถไม่เหมือนกับที่บริษัทผลิต(ขั้นตอนนี้ตอนประมูลไม่ได้แจ้ง ปห เรื่องการโอนหรือเกี่ยวกับเลขเครื่องใดๆและคุณก้ไม่สามารถไปดูรถด้วยการลอดใต้ท้องรถทุกคันได้ขณะการประมูล) ซวยเอง...
10ต.ค.57ส่งคืนรถ รถโอนไม่ได้ก็ต้องส่งคืน...เศร้ามั้ย และที่เศร้ามากกว่าคือเงินที่ซ่อมรถไปแล้วไม่สามรถคืนได้ จะได้ก็แต่ค่ารถ ค่าธรรมเนียมการประมูลและ Vat กลับเอารถและเอกสารคู่มือรถไปคืน ณ ลานประมูลเชียงใหม่ด้วยใจห่อเหี่ยว เจ้าที่ตรวจเช็ครถและออกใบรับคืนรถและแจ้งว่าจะได้รับเงินโอนเข้าทางบัญชีภายใน1เดือน
กลางเดือนพ.ย57 ไม่มีเงินโอนเข้าบัญชี....ไม่มีโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ ไปที่ลานประมูลอีกทีได้เบอร์โทร เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่กรุงเทพ อ่าว!!! คือซื้อรถที่เชียงใหม่ แต่ให้ลูกค้าอย่าางเราติดต่อเองที่กรุงเทพ เอ๋อ...โทรอยู่3วันไม่ติดค่าาาา เริ่มเครียด เริ่มต้นค้นหาใหม่ด้วยเบอร์บนกระดาษประมูล โทรไปกทม โยนมา เชียงใหม่ โทรไปเชียงใหม่ โยนไป กทม ...อยู่อย่างนี้1สัปดาห์ เกือบสิ้นเดือนจนได้เบอร์ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่สาขา กทม รับเรื่องแล้วจะรีบดำเนินการค่ะ อ่าว...เดือนกว่านี่ไม่ได้ทำอะไรกันเลยหรอ นี่ถ้าไม่โทรตามจิกจะยังไงกัน
ต้นเดือน ธ.ค.57 เงียบ....ติดต่อไปใหม่เจ้าหน้าที่ของสห กทม แจ้งว่า รอทางธนาคารSCB ตอบกลับ ทนจะไม่ไหวละจะครบ2เดือนแล้วยังไม่มีคำตอบว่าจะได้เงินคืนหรือเปล่า ขอเบอร์ติดต่อกับเจ้าหน้าที่SCB ได้รับเรื่อง(อีกแล้ว) สรุปไม่คุยกันหรือไงรอกันไปรอกันมา
12ธ.ค.57 เงียบ..อีกแล้ว โทรอีก เจ้าหน้าที่สห กทม บอกว่ารอเจ้าหน้าที่SCB โทรหาSCBแจ้งว่าตรวจสอบแล้วได้โอนเช็คไปให้ตั้งแต่1เดือนแล้ว อ่าว...!!โทรกลับสหอีกที ก็บอกว่ายังไม่ได้รับเช็คนะ (คือตรงนี้ใครโกหก ใครโกง ไม่รู้สินะ เงินกูมิไหนคะ) รอทางธนาคารสงเช็คมา คิดว่าไม่น่าเกินสัปดาหน้าได้รับเช็คแน่นอนค่ะ
20ธ.ค.57 ปรากฏว่า ว่างเปล่า.....เช็คก็ไม่มี เงินก็ไม่เข้า เจ้าหน้าที่ไม่เคยโทรหา มีแต่เราที่ต้องไปจิกตามเอาเงินเอง รถก็คืน เล่มก็คืน เงินแสนห้ายังไม่คืน อยากได้รถใช้ก็ไม่มีเงินแล้ว เอาไงชีวิตมนุษย์เงินเดือน...T T
ปัจจุบัน25ธ.ค57 ชีวิตเหมือนถูกโกงนะ ไม่มีรถ ไม่มีเงินเพราะเขายังไม่คืน จะไป กทม ก็ลำบากมากมาย จะลางานไปสำนักกงานใหญ่ที่ กทม.ก็ยังไม่รู้เลยว่าจะได้เงินคืนมั้ย เพราะเดี๋ยวก็เจออ้างรอเรื่องจากธนาคารอีก ซวยแท้กรู....
สมาชิกหมายเลข 7471886 สยอง, สมาชิกหมายเลข 8494652 สยอง, ผมมองโลกในแง่ร้าย สยอง, สมาชิกหมายเลข 5331654 สยอง, สมาชิกหมายเลข 7500102 ซึ้ง, แฟนบอล สยอง, mrter2012 ถูกใจ, วอริเออร์ สยอง, Anvier ซึ้ง, การ์ตูนวาดผิด ถูกใจรวมถึงอีก 1 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
ใครเคยซื้อรถจากสหการประมูลบ้าง