สุดสะเทือนใจ หนุ่มพิเรนทร์ ฉีดลมใส่ก้นเด็ก 4 ขวบ ไส้ทะลัก ตายอนาถ
วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2556 เวลา 18:07 น.
อุทาหรณ์เตือนใจ หนุ่มพิเรนทร์ เล่นเอาหัวฉีดลมแรง 100 ปอนด์ ใส่ก้นเด็กฉีดไล่รำข้าวที่เลอะเทอะติดตัว จนไส้แตกตายอนาถ ตำรวจแจ้งข้อหาประมาททำให้ถึงแกความตาย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีเด็กวัย4ขวบ ถูกผู้ใหญ่แกล้งใช้หัวฉีดลมแรงดันสูงฉีดเข้าทวารหนักจนเด็กลำไส้แตกเสียชีวิตศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเวียงคอย อ.เมือง จ.เพชรบุรี จึงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีการจัดงานศพด.ช.อริญชัย หรือน้องปอนด์ พุ่มดอกไม้ อายุ 4 ปี บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด
น.ส.สุนารี ม่วงคำ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125/1 หมู่ 3 ต.เวียงคอย แม่น้องปอนด์ ร่ำไห้โฮ ยอมรับว่า เกิดเรื่องสะเทือนใจดังกล่าวจริง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนพาน้องปอนด์ไปเล่นที่โรงสีเพชรสมบูรณ์ ที่ทำงานอยู่ น้องปอนด์ชอบดูรถตักรำข้าว จนทั่วตัวเลอะไปด้วยรำ น้องปอนด์จึงตามนายก้อย เพื่อนคนงานไปเป่าลมทำความสะอาดให้ จู่ๆ ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้จ้า แต่ไม่ได้เอะใจอะไร
กระทั่งนายก้อย อุ้มน้องปอนด์มาส่งให้พร้อมบอกว่าตะคริวกินท้องน้องปอนด์ และเห็นท้องลูกชายบวมป่อง แถมมีอุจจาระกับเลือดออกทางก้น ด้วยความตกใจจึงรีบถอดกางเกงลูกพาไปล้างก้น และนำส่งสถานีอนามัยใกล้บ้าน ระหว่างทางลูกพร่ำบอกว่า "แม่ลุงก้อยทำปอนด์" จนถึงสถานีอนามัยลูกชายมีอาการแย่ลง จึงรีบพาไปรพ.พระจอมเกล้าและเสียชีวิตในเวลาต่อมา แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า ลำไส้ใหญ่ฉีกขาดรุนแรงจากแรงอัดความดันสูง โดยพบว่าในท้องลูกชายมีลมอยู่ราว 30 ปอนด์ ทั้งนี้นายก้อยมีนิสัยชอบเล่นกับเด็กรุนแรง แต่ไม่คิดว่าจะทำกับลูกตนถึงขนาดนี้ หัวอกแม่ใจสลายเลยทีเดียว
ส่วนนายพรชัย พุ่มดอกไม้ พ่อน้องปอนด์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า น้องปอนด์มีนิสัยร่าเริง ชอบดูรถตัก เครื่องบิน พอมาเกิดเหตุอย่างนี้ก็รู้สึกเสียใจมาก ผู้ใหญ่ไม่น่าเล่นกับเด็กรุนแรงอย่างนี้ เพราะคงเอาสายยางจิ้มก้นเด็ก เพราะเด็กคงเอาจิ้มเองไม่ได้ ขอให้เป็นอุทาหรณ์แก่เด็กคนอื่นๆ ด้วย หากเล่นพิเรนทร์ อันตรายถึงชีวิต
ด้านร.ต.อ.คณาธิป จันทนาเวช ร้อยเวรสภ.เมืองเพชรบุรี กล่าวว่า ได้เรียกนายสิทธิศักดิ์ หรือก้อย เถื่อนไพร อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/193 หมู่ 1 ต.โพไร่หวาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ที่ถูกระบุว่า เล่นพิเรนทร์กับเด็ก มาสอบสวน เจ้าตัวอ้างว่า เป็นการเล่นกันกับน้องปอนด์เท่านั้น เพราะเห็นเนื้อตัวสกปรกไปด้วยรำข้าว จึงนำไปทำความสะอาดโดยเปิดเครื่องปั๊มลมในโรงสีที่มีความแรง 100 ปอนด์ ใช้สายลมฉีดพ่นไล่เศษละอองรำข้าว
โดยยอมรับว่าใส่สายลมฉีดพ่นเข้าไปในกางเกงของเด็กและบริเวณก้นของน้องปอนด์จริง ไม่คิดว่าลมที่เป่าเข้าไปนั้นจะเข้าไปในช่องทวารหนักของเด็ก จนถึงกับทรุดนั่งเอามือกุมท้อง ตนรีบวิ่งเข้าไปดูใช้มือกดท้องดู พอเห็นท้องบวมและแข็งมากก็ตกใจมาก รีบอุ้มน้องขึ้นบ่าไปส่งแม่เด็กทันทีเพื่อนำส่งหมอ
ทั้งนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
http://www.dailynews.co.th/thailand/239682
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วิศวะฯ ม.เกษตร ซิ่งมรณะ อัดรถพ่วง 2 ศพ สาหัส 1
วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2556 เวลา 17:17 น.
นักศึกษา ม.เกษตรศาสตร์วิทยาเขตศรีราชา ซิ่งมรณะอัดกลางลำรถพ่วงขณะกลับรถ ตายสยอง 2 ศพเจ็บ 1
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 11 ต.ค. ร.ต.ท. ดิเรก พิมพา ร้อยเวรสภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถพ่วงมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถบริเวณจุดกลับรถถนนสุขุมวิทขาเข้าชลบุรี หน้ากองพันต่อสู้อากาศยานที่ 12 หมู่10 ต.บางพระ จึงไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา
ที่เกิดเหตุพบรถพ่วงฮีโน่สีเขียว ทะเบียน 81-1961 พิจิตร จอดอยู่ช่องเดินรถด้านซ้ายแต่หางพ่วง ทะเบียน81-1962 พิจิตร อยู่ในช่องกลาง นอกจากนี้ยังพบรถเก๋งนิสสันมาร์ช สีเขียว หมายเลขทะเบียน 2 กน 1473 กรุงเทพมหานคร ชนอัดก็อปปี้ติดท้ายรถพ่วง มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ 2 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย จึงช่วยกันงัดศพนายพงศกร พระพิเภก อายุ 23 ปี ศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา คนขับออกมา ในสภาพกะโหลกศีรษะแตก และศพนายชงคา อ่อนวงศ์ อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะวิศกรรมเครื่องกลปี 3 พร้อมนำนายธิติกันต์ วังตะกุล อายุ 20 ปี เพื่อนนักศึกษาอีกคน ส่งห้องไอซียู ล่าสุดอาการยังสาหัส
สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ระหว่างที่รถพ่วงกลับรถจนส่วนหัวพ้นเข้ามาอยู่ช่องซ้ายสุดแต่ส่วนหางยังอยู่ช่องกลางถนน เห็นรถเก๋งของผู้ตายขับมาด้วยความเร็วสูงชนเข้ากลางลำรถพ่วงจนอัดติดก็อปปี้ กระทั่งผู้โดยสารในรถเก๋งเสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ได้นำศพส่งรพ.แหลมฉบังให้แพทย์ชันสูตร และจะสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้เพื่อดำเนินการต่อไป
http://www.dailynews.co.th/thailand/239675
ว่าด้วย แรงลม!!! สุดสะเทือนใจ!!! หนุ่มพิเรนทร์ ฉีดลมใส่ก้นเด็ก 4 ขวบ ลำไส้ใหญ่ฉีกขาด!!! ตายอนาถ!!!
วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2556 เวลา 18:07 น.
อุทาหรณ์เตือนใจ หนุ่มพิเรนทร์ เล่นเอาหัวฉีดลมแรง 100 ปอนด์ ใส่ก้นเด็กฉีดไล่รำข้าวที่เลอะเทอะติดตัว จนไส้แตกตายอนาถ ตำรวจแจ้งข้อหาประมาททำให้ถึงแกความตาย
เมื่อเวลา 15.00 น. วันที่ 11 ต.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่ามีเด็กวัย4ขวบ ถูกผู้ใหญ่แกล้งใช้หัวฉีดลมแรงดันสูงฉีดเข้าทวารหนักจนเด็กลำไส้แตกเสียชีวิตศพตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดเวียงคอย อ.เมือง จ.เพชรบุรี จึงไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่ามีการจัดงานศพด.ช.อริญชัย หรือน้องปอนด์ พุ่มดอกไม้ อายุ 4 ปี บรรยากาศเป็นไปอย่างเศร้าสลด
น.ส.สุนารี ม่วงคำ อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 125/1 หมู่ 3 ต.เวียงคอย แม่น้องปอนด์ ร่ำไห้โฮ ยอมรับว่า เกิดเรื่องสะเทือนใจดังกล่าวจริง เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ตนพาน้องปอนด์ไปเล่นที่โรงสีเพชรสมบูรณ์ ที่ทำงานอยู่ น้องปอนด์ชอบดูรถตักรำข้าว จนทั่วตัวเลอะไปด้วยรำ น้องปอนด์จึงตามนายก้อย เพื่อนคนงานไปเป่าลมทำความสะอาดให้ จู่ๆ ได้ยินเสียงเด็กร้องไห้จ้า แต่ไม่ได้เอะใจอะไร
กระทั่งนายก้อย อุ้มน้องปอนด์มาส่งให้พร้อมบอกว่าตะคริวกินท้องน้องปอนด์ และเห็นท้องลูกชายบวมป่อง แถมมีอุจจาระกับเลือดออกทางก้น ด้วยความตกใจจึงรีบถอดกางเกงลูกพาไปล้างก้น และนำส่งสถานีอนามัยใกล้บ้าน ระหว่างทางลูกพร่ำบอกว่า "แม่ลุงก้อยทำปอนด์" จนถึงสถานีอนามัยลูกชายมีอาการแย่ลง จึงรีบพาไปรพ.พระจอมเกล้าและเสียชีวิตในเวลาต่อมา แพทย์ระบุสาเหตุการเสียชีวิตว่า ลำไส้ใหญ่ฉีกขาดรุนแรงจากแรงอัดความดันสูง โดยพบว่าในท้องลูกชายมีลมอยู่ราว 30 ปอนด์ ทั้งนี้นายก้อยมีนิสัยชอบเล่นกับเด็กรุนแรง แต่ไม่คิดว่าจะทำกับลูกตนถึงขนาดนี้ หัวอกแม่ใจสลายเลยทีเดียว
ส่วนนายพรชัย พุ่มดอกไม้ พ่อน้องปอนด์ กล่าวทั้งน้ำตาว่า น้องปอนด์มีนิสัยร่าเริง ชอบดูรถตัก เครื่องบิน พอมาเกิดเหตุอย่างนี้ก็รู้สึกเสียใจมาก ผู้ใหญ่ไม่น่าเล่นกับเด็กรุนแรงอย่างนี้ เพราะคงเอาสายยางจิ้มก้นเด็ก เพราะเด็กคงเอาจิ้มเองไม่ได้ ขอให้เป็นอุทาหรณ์แก่เด็กคนอื่นๆ ด้วย หากเล่นพิเรนทร์ อันตรายถึงชีวิต
ด้านร.ต.อ.คณาธิป จันทนาเวช ร้อยเวรสภ.เมืองเพชรบุรี กล่าวว่า ได้เรียกนายสิทธิศักดิ์ หรือก้อย เถื่อนไพร อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 22/193 หมู่ 1 ต.โพไร่หวาน อ.เมือง จ.เพชรบุรี ที่ถูกระบุว่า เล่นพิเรนทร์กับเด็ก มาสอบสวน เจ้าตัวอ้างว่า เป็นการเล่นกันกับน้องปอนด์เท่านั้น เพราะเห็นเนื้อตัวสกปรกไปด้วยรำข้าว จึงนำไปทำความสะอาดโดยเปิดเครื่องปั๊มลมในโรงสีที่มีความแรง 100 ปอนด์ ใช้สายลมฉีดพ่นไล่เศษละอองรำข้าว
โดยยอมรับว่าใส่สายลมฉีดพ่นเข้าไปในกางเกงของเด็กและบริเวณก้นของน้องปอนด์จริง ไม่คิดว่าลมที่เป่าเข้าไปนั้นจะเข้าไปในช่องทวารหนักของเด็ก จนถึงกับทรุดนั่งเอามือกุมท้อง ตนรีบวิ่งเข้าไปดูใช้มือกดท้องดู พอเห็นท้องบวมและแข็งมากก็ตกใจมาก รีบอุ้มน้องขึ้นบ่าไปส่งแม่เด็กทันทีเพื่อนำส่งหมอ
ทั้งนี้ได้แจ้งข้อกล่าวหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
http://www.dailynews.co.th/thailand/239682
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
วิศวะฯ ม.เกษตร ซิ่งมรณะ อัดรถพ่วง 2 ศพ สาหัส 1
วันศุกร์ที่ 11 ตุลาคม 2556 เวลา 17:17 น.
นักศึกษา ม.เกษตรศาสตร์วิทยาเขตศรีราชา ซิ่งมรณะอัดกลางลำรถพ่วงขณะกลับรถ ตายสยอง 2 ศพเจ็บ 1
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 11 ต.ค. ร.ต.ท. ดิเรก พิมพา ร้อยเวรสภ.ศรีราชา อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถเก๋งชนรถพ่วงมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บติดอยู่ภายในรถบริเวณจุดกลับรถถนนสุขุมวิทขาเข้าชลบุรี หน้ากองพันต่อสู้อากาศยานที่ 12 หมู่10 ต.บางพระ จึงไปตรวจสอบพร้อมหน่วยกู้ภัยสว่างประทีปศรีราชา
ที่เกิดเหตุพบรถพ่วงฮีโน่สีเขียว ทะเบียน 81-1961 พิจิตร จอดอยู่ช่องเดินรถด้านซ้ายแต่หางพ่วง ทะเบียน81-1962 พิจิตร อยู่ในช่องกลาง นอกจากนี้ยังพบรถเก๋งนิสสันมาร์ช สีเขียว หมายเลขทะเบียน 2 กน 1473 กรุงเทพมหานคร ชนอัดก็อปปี้ติดท้ายรถพ่วง มีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในรถ 2 ราย และบาดเจ็บ 1 ราย จึงช่วยกันงัดศพนายพงศกร พระพิเภก อายุ 23 ปี ศึกษามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตศรีราชา คนขับออกมา ในสภาพกะโหลกศีรษะแตก และศพนายชงคา อ่อนวงศ์ อายุ 20 ปี นักศึกษามหาวิทยาลัยเดียวกัน คณะวิศกรรมเครื่องกลปี 3 พร้อมนำนายธิติกันต์ วังตะกุล อายุ 20 ปี เพื่อนนักศึกษาอีกคน ส่งห้องไอซียู ล่าสุดอาการยังสาหัส
สอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ ทราบว่า ระหว่างที่รถพ่วงกลับรถจนส่วนหัวพ้นเข้ามาอยู่ช่องซ้ายสุดแต่ส่วนหางยังอยู่ช่องกลางถนน เห็นรถเก๋งของผู้ตายขับมาด้วยความเร็วสูงชนเข้ากลางลำรถพ่วงจนอัดติดก็อปปี้ กระทั่งผู้โดยสารในรถเก๋งเสียชีวิตและบาดเจ็บดังกล่าว ได้นำศพส่งรพ.แหลมฉบังให้แพทย์ชันสูตร และจะสอบสวนหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้เพื่อดำเนินการต่อไป
http://www.dailynews.co.th/thailand/239675