เจ้านายพูดแบบนี้ เราควรจะไปหรืออยู่ต่อ???

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะเพื่อนๆชาว pantip เป็นสมาชิกใหม่ สมัครมาเพื่อมาตั้งกระทู้ถามนี่แหละค่ะ เริ่มเล่าเลยล่ะกัน
เราทำงานที่ออฟฟิตแห่งหนึ่ง เจ้านายเรามีสองคนเป็นสามีภรรยากันมาเปิดออฟฟิต เพิ่งเปิดได้ไม่ถึงปี ออฟฟิตไม่ใหญ่ ทำงานกันห้าหกคน เรื่องเกิดประมาณสองเดือนที่แล้วมั้ง(ไม่แน่ใจ) เจ้านายผู้หญิงให้เราไปโอนค่าเช่าคอนโดเก่าหรืออะไรซักอย่างเนี่ยแหละที่เกี่ยวกับคอนโดเค้า เราก็ไม่รู้หรอกว่าเค้าไปพูดกะเจ้าของห้องยังไง ถึงกะเอ่ยปากว่า"ไม่ไว้ใจ" กะยอดเงินแค่ห้าพันกว่าบาท เราไม่อยากได้หรอก กลัวเวรกรรม เรา็เลยบอกนายไปว่า "งั้นก็ทำเองดีกว่า" เค้าว่าเรา"เฉื่อย" ที่รู้เพราะเค้าเอาไลน์ที่เค้าคุยมาให้ดู ว่ากะบุคคลที่สามด้วย เหอะๆ เราก็เลยถือโอกาสบอกว่าเราไม่ได้เฉื่อย เราก็ทำงานเคลียร์บัญชีอยู่ เห็นโอนต่างธนาคาร(ค่าธรรมเนียมแพง)เราก็เลยคิดว่าจะไปโอนให้เค้าหลังเลิกงาน ธนาคารในห้องก็ยังไม่ปิด แต่งานไหนอยากได้เร็วช่วยบอกมาเลยว่าเอาวันไหน กี่โมง จบไปเรื่องแรก  หลังจากนั้นไม่นานเราก็รู้สึกว่าเจ้านายผู้หญิงสื่อสารกะเราน้อยลง ไม่ค่อยคุยกะเราเท่าไหร่ เราก็มองว่าเราทำงานลำบากแหละ ถ้าปล่อยไปแบบนี้เราจะแย่ เราเลยถือโอกาสคุยกะเค้าอีกครั้งนึง เราก็ถามเค้าว่ามีอะไรกะเรารึป่าวเห็นแบบไม่ค่อยคุยกะเราอะไรแบบนี้ เราได้คำตอบมาว่าที่เค้าไม่คุยกะเราเพราะเราเป็นหวัด กลัวจะติด เลยไม่ได้คุยด้วย เราก็แบบเอ่อ...มันฟังไม่ขึ้นน่ะค่ะ หลังจากเคลียร์ครั้งนี้เราไม่ได้รู้สึกดีขึ้นเลย กลับแย่ลงกว่าเดิมอีก ทั้งๆที่เราคิดว่าการนั่งคุยกัน มันน่าจะมีอะไรที่ดีขึ้น เพราะเรารู้สึกว่าเค้าก็ไม่ได้เปิดใจคุยกะเราเท่าไหร่ เค้าก็หาข้ออ้างไปเรื่อยๆ จบเรื่องที่สอง เรื่องที่สามเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานนี้เองสดๆร้อนๆ พอดีเจ้านายหญิงเรียกประชุม ในใจเราก็คิดเออดีเลยจะต้องคุยกันให้รู้เรื่อง เพราะเราก็ยังรู้สึกว่าเจ้านายหญิงไม่ค่อยคุยกะเราเหมือนเดิม ก่อนหน้าเราได้ถามน้องที่ทำงานว่าเค้าเป็นอะไรเค้าก็ไม่ค่อยคุยกะพี่นะ ได้ความว่า เค้าเหนื่อย...งานไม่เดิน(ในใจคิดว่างานตรูป่าวฟ่ะ) และน้องยังได้บอกอีกว่า เจ้านายหญิงบ่นว่างานที่เรารับผิดชอบอยู่น้อยเกินไป งานในส่วนดูแลออฟฟิต ประมาณนี้ (เราก็อ้าวก็ตอนแรกที่มาสัมภาษณ์งานนางก็บอกสโคปงานมาสามอย่าง) เราก็โอเควันนี้แหละลุย พอประชุมเสร็จเค้าก็ถามว่ามีอะไรเพิ่มเติมไม๊ เราก็บอกว่ามี นางก็พูดแทรก (พูดใส่อารมณ์) ต่อไปนี้เค้าจะไม่มานั่งพูดถึงความรู้สึกระหว่างเจ้านายและลูกน้องอีกต่อไปแล้ว เหนื่อย เราก็บอกว่าเราก็เหนื่อยเหมือนกันที่จะพูด ถ้าครั้งที่แล้วเปิดใจคุยมันก็จบไปตั้งแต่ครั้งที่แล้ว คุยครั้งที่แล้วเราก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้น เราก็ถามว่าเออเห็นน้องบอกว่าเหนื่อย งานไม่เดิน งานที่เรารับผิดชอบน้อยเกินไป เลยอยากรู้ว่าจะให้ทำอะไรเพิ่มเติมค่ะ เพราะตอนประชุมครั้งแรกหน้าที่ที่เรารับผิดชอบคือทำรายรับ-รายจ่าย สั่งของmaterialsต่างๆ ดูแลออฟฟิตเราก็มองว่ามันไม่มีอะไร จะให้ทำอะไรเพิ่มบอกมาได้เลยค่ะ

ถึงคราวเจ้านายหญิงตอบคำถาม (นางพูดใส่อารมณ์ทุกคำตอบด้วย)
-นางบอกว่านางเหนื่อยก็ให้นางเหนื่อยคนเดียวพอ ไม่ต้องมาเหนื่อยกะนาง
-นางบอกว่า "ต้องเข้าใจนะว่านางไม่ได้กลับไปบ้านแล้วมีคนทำกับข้าวให้กิน(อันนี้เหมือนนางว่ากระแทกเรา) คิดว่านางรู้จากน้องที่ทำงานคนเก่า เพราะเราสนิทกะน้องคนเก่า น้องเค้ารู้ว่าเราอยู่กะใคร อะไร ยังไง อ่ะต่อๆ เราก็นึกในใจนะว่าเอ้ยเรากลับบ้านกินข้าวกะครอบครัวก็เรื่องส่วนตัวเราป่าว และที่สำคัญไม่ได้เกี่ยวกะที่เราถาม เราต้องการแค่คำตอบว่าจะให้เราทำงานอะไรเพิ่ม
-นางบอกว่า "นางมีผัว ต้องดูแลผัว (ใช้คำว่า"ผัว") ทำกับข้าวให้ผัวกิน  ต้องดูแลบ้าน" ก็นางเลือกที่จะมีปั๋วเองง่ะ แล้วมาเหวี่ยงอิชั้นอ่ะนะ เอิ่มมนางก็ยังตอบไม่ตรงประเด็นอยู่ดี เริ่มงุงิแล้วตอนนี้ ไม่รู้จะใช้คำว่า"แถ"ได้ไม๊???
-นางบอกว่า "เข้าออฟฟิตสิบโมงอย่าหวังว่านางจะมา นางจะมาเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น" ก็ตอบไม่ตรงคำถามที่เราถามอยู่ดี จะเข้างานกี่โมงก็เข้าเหอะค่ะ จะเข้าห้าโมงเย็นออกห้าโมงหนึ่งนาทีก็ยังไม่ว่าเลยค่ะเจ้านายหญิงขาาาา แหมๆ อยากเข้ากี่โมงก็เข้าค่ะ ตอบคำถามอิชั้นซะทีค่ะ
-นางบอกว่า "เจ้านายชาย(ผัวของนาง)บ่นมาว่าออฟฟิตสกปรก" จริงๆเราเคยเสนอไปสามครั้งแล้วว่าให้เค้าจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดไปเลย แต่เราได้รับคำตอบจากนางว่า "ไม่มีเงินจ้างค่ะ" แต่จริงๆอันนี้เราก็ผิดเองแหละ เพราะหลังๆเราก็ไม่ได้ทำ น้องมาใหม่ก็ไม่ค่อยได้ทำ ต่อนะ เจ้านายหญิงบอกกะเรา ต่อไปนี้นางจะไม่มานั่งบอกแล้วว่าหน้าที่ใคร เอาเ็ป็นว่าใครว่างก็ทำ กวาดให้สะอาด เส้นผม หะมอย ก้กวาดไปให้หมด ให้สะอาด (ในใจเราก็เงิบ"หะมอย"เลย แรงไปรึเปล่า เราก็ตกใจ เราไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำนี้จากปากของคนที่เป็น"เจ้านาย"คน แล้วมาบอกว่าพ่อ-แม่เป็นครู เราก็มีเพื่อนที่พ่อ-แม่เค้าเป็นครู เวลาพูดอะไรเค้าจะระวังมาก ขนาดภาษาพ่อขุนราม เรายังไม่เคยเห็นเพื่อนพูดเลยด้วยซ้ำ)
-อีกสองคำถามที่เจ้านายหญิงถามเรากลับมาและทำให้เราสตั้นท์ไปสามสิบวิ คือ ชวนไปกินข้าวทำไมเราไม่ไป กับ ซื้อของกินอะไรแล้วเราไม่กิน เหอะๆ เราไม่เคยคิดว่ากะอีเรื่องแค่เนี้ยก็เป็นประเด็น แต่คำถามสองข้อนี้เราไม่ได้ตอบเค้า เพราะเพื่อนนางมาซะก่อน งั้นเราขอตอบในนี้เลยนะ เผื่อนางจะมาอ่านเจอ

                          นายหญิง:ชวนไปกินข้าวทำไมไม่ไป
                            เรา     : นายหญิงเข้าออฟฟิตบ่ายสอง หิ้วท้องรอไม่ไหวค่ะ

                          นายหญิง:ซื้อของกินมาทำไมไม่กิน
                              เรา   : อิ่มแล้วค่ะ

พอนางแถ เอ๊ย พูดเสร็จ เราก็บอกว่า พูดแรงดีเนอะ ตกใจเลย นางบอกว่า "นางแรง ถ้านางไม่แรง นางก็ไม่มาถึงจุดนี้ นางอยู่บ้านนอก นางถีบตัวเอง บลา บลา บลา " เอิ่ม ไม่ได้อยากรู้ background ใครถามอ่อ??? ขึ้นมาจุดนี้ได้ก็ลงไปสู่จุดเริ่มต้นได้ นางคงลืมจุดนี้ นางยังบอกอีกว่า "นางแรด นางมีผัว" (นางคงจะภูมิใจมาก แต่ข้อนี้อิชั้นไม่เถียง เพราะนางพูดเอง)

พอกลับบ้านเราก็เล่าให้ที่บ้านฟัง ทุกคนลงความเห็นเดียวกันว่า "พรุ่งนี้ไปลาออกซะ ไม่ต้องไปทำ นี่หรอเจ้านายคน" คือตอนนี้เราหาทางไปอยู่ค่ะ ไม่อยากออกโดยที่ยังไม่มีงานรองรับ เรากลัวว่าถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้หรืออะไรก็แล้วแต่ อาจจะไม่ได้มาแค่"หะมอย" อาจจะมาเยอะกว่านี้ เราว่าคำพูดคำจาเค้าแรงไป เค้าบอกว่าเค้าแรง แต่ว่าการเป็นคนแรงก็ไม่จำเป็นต้องพูดคำพวกนี้ออกมารึป่าว จริงๆเรากะนายหญิงเรารุ่นเดียวกันแต่เราแก่เดือน

ปล.เจ้านายหญิงเป็นภริยาฝรั่ง(เมียฝรั่งนั่นแหละ) แล้วตอนนี้สามีนางเริ่มดัง งานเริ่มเข้าเยอะ นางคงไม่ได้คิดว่า "ดังได้ก็ดับได้" ถ้าวันใดวันนึงสื่อแบนสามีนางขึ้นมาล่ะ??  เราว่านางคงไม่ได้นึกถึงจุดนี้ ออกแนวพูดไม่คิดอะไรประมาณนี้ค่ะ เจ้านายชายฝรั่งดีมาก พลาดอย่างเดียวตรงเลือกเมีย แต่ไม่เป็นไรรสนิยมคนเราไม่เหมือนกัน

                                     สรุป เราก็ไม่ได้คำตอบที่เราถามเค้าไป เฮ้ออออ

รบกวนเพื่อนๆชาว Pantip ช่วยหน่อยนะค่ะ เราก็เครียดมากจริงๆ อยากออกวันนี้เลยด้วยซ้ำ

         ขอโทษด้วยนะค่ะถ้าโพสต์ไม่ถูกห้อง มือใหม่หัดโพสต์ เพิ่งโพสต์ครั้งแรกค่ะ  ยินดีรับฟังทุกความเห็นค่ะและขอบคุณทุกคอมเม้นต์ค่ะ
                          
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่