The Butler สร้างแคมเปญอวยตัวได้แจ่มดีนะ แต่สงสัยจะผิดเวลาไปหน่ิอย หะหะ

The Butler (2013)



Genre: Drama, Racist

Director: Lee Daniels
Article: Wil Haygood
Writer: Danny Strong

เตือนก่อนชมสักเล็กน้อยว่าถ้าจะดู The Butler ให้ได้อรรถรส คุณควรจะพอรู้ประวัติศาสตร์และนโยบายต่างประเทศ/นโยบายเรื่องกฎหมายสิทธิพื้นฐานของประธานาธิบดีอเมริกาแต่ละคนคร่าว ๆ ยิ่งถ้าอ่านประวัติมาร์ติน ลูเธอร์ คิง, มัลคอล์ม เอ๊กซ์, คานธีกับแมนเดลล่าประกอบด้วยจะได้อรรถรสมากขึ้นครับ ในความเห็นผมถ้าคุณไปดูแบบไม่รู้จักบุคคลสำคัญต่าง ๆ เหล่านี้มันจะดูแบบงง ๆ เพราะเราไม่รู้ความสำคัญของคนเหล่านี้ครับ

ผมเข้าใจว่า The Butler เป็นหนังที่ได้แรงบันดาลใจจากเรื่องจริง ค่อนข้างมั่นใจว่าหลายส่วนใส่สีตีไข่ให้มันลงตัว จึงขอไม่ใช้เป็นหนังชีวประวัตินะครับ เพราะอย่างชื่อตัวละครก็เป็นชื่อสมมุติ

The Butler เล่าเรื่องของเซซิล (Forest Whitaker) คนรับใช้ผิวดำที่มีโอกาสได้ทำงานในทำเนียบขาว เป็นหนังที่ถ่ายทอดการต่อสู้เรียกร้องสิทธิขั้นพื้นฐานอันยาวนานของคนผิวดำในอเมริกา โดยถ่ายทอดการต่อสู้ผ่านประวัติศาสตร์พร้อมทั้งนำเสนอมุมมองผู้กำกับว่าคนรับใช้ผิวดำอาจจะเป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลงของอเมริกา

ที่ผมพูดถึงว่าคนรับใช้ผิวดำมีส่วนในการเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์ก็เพราะคำโปรยหนังที่บอกว่า "One quiet voice can ignite a revolution" ซึ่งก็คือการพูดถึงคนรับใช้ผิวดำในสถานที่คนผิวขาวต่าง ๆ ที่ทำงานโดยไม่มีปากมีเสียง ภูมิใจในงานบริการของตัวเองจนอาจจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้คนผิวขาวบางคนเกิดความเคารพและลดความเกลียดชังลง

มาว่ากันที่ตัวหนังบ้าง เริ่มจากบทหนังในภาพรวมค่อนข้างธรรมดามากครับ หลายคนอาจจะรู้สึกว่ามันเป็นการฉายซ้ำประวัติศาสตร์อเมริกาแบบผ่าน ๆ ไม่ได้มีความสำคัญอะไรสักเท่าไร นอกจากว่าเป็นการปูทางเพื่อนำไปสู่การสร้างภาพอวยประเทศของตัวเองในตอนจบ

ผมสงสัยว่าทำไมคะแนนใน IMDb มันน้อยและสงสัยว่าทำไม top review จำนวนมากถึงกดคะแนนหนังเรื่องนี้ เลยไปอ่านดูในบอร์ด IMDb คร่าว ๆ ก็พอจะทราบว่ามีคนจำนวนมากคิดว่าหนังเรื่องนี้ 1. มันสร้างโฆษณาชวนเชื่อให้โอบาม่า 2. เห็นเขามีการเถียงกันเรื่อง Liberal white guilt และ 3. คือมีบางส่วนคิดว่าหนังเนี่ยแหละที่เหยียดผิวด้วยตัวเอง อาจจะเพราะการที่มันสร้างภาพดีให้คนผิวดำชัดเจนและสร้างภาพร้ายให้คนผิวขาวชัดเจน (ผมมองเป็นแง่มุมหนึ่งที่ถูกหยิบมาจากประวัติศาสตร์สหรัฐฯ เพียงด้านเดียว) ผมไม่ได้รู้รายละเอียดเบื้องลึกของการเมืองสหรัฐฯ จึงต้องขอบอกผ่านเรื่องพวกนี้ไปนะครับ ส่วนบางท่านที่สนใจการเมืองสหรัฐฯ อยู่แล้วอาจจะดูหนังเรื่องนี้แล้วไปไฝ้วกับคนอเมริกันในบอร์ดก็ได้นะครับ หะหะ

การแสดงของฟอเรสต์ วิตเทกเกอร์ก็ตามมาตรฐานเขาเลยครับ สมกับที่มีคนเคยยกย่องว่าเขาเป็นนักแสดงผิวดำที่แสดงความสามารถเป็นที่ยอมรับจนปูทางให้นักแสดงผิวดำรุ่นหลังได้แจ้งเกิดตาม ๆ กันมา ส่วนนักแสดงคนอื่น ๆ ในเรื่องได้บทกันคนละนิดละหน่อยไม่มีอะไรให้พูดถึงมากนักครับ

สำหรับ The Butler ในสายตาผม ถ้าจะดูหนังเอาเรื่องคนรับใช้ผิวดำก็มีไม่ใกล้ไม่ไกลอย่าง The Help (คนรับใช้บ้านคนผิวขาวเหมือนกันด้วย), Driving Miss Daisy (คนขับรถบ้านคนผิวขาว) หรือจะดูการต่อสู้เพื่อสิทธิพื้นฐานความเท่าเทียมก็ยังมีอีกหลายเรื่องที่ทำได้น่าสนใจกว่าโดยไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องคนผิวดำก็มีทั้ง Gandhi, Milk, Invictus

7/10
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่