9ต.ค.2556 นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ เปิดเผยความคืบหน้าการดำเนินคดีผู้บริหารสหกรณ์ยูเนี่ยนคลองจั่น โดยเฉพาะประเด็นเงินฝากของสมาชิกสหกรณ์ ซึ่งล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสมชาย ชาญณรงค์กุล อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะนายทะเบียนสหกรณ์ พร้อมด้วยดีเอสไอ เดินทางไปที่ทำการสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น เพื่อทำการปลดนายศุภชัย ศรีศุภอักษร ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ ออกจากตำแหน่ง พร้อมกรรมการทั้งชุด และให้คณะกรรมการดำเนินการสหกรณ์ฯ ชุดใหม่เข้าดำเนินการแทนชั่วคราว
นายสมชาย กล่าวว่า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯมีปัญหามาตั้งแต่ช่วงปี 2551 และได้สั่งการให้แก้ไขจุดที่เป็นปัญหา 6 ข้อ แต่ไม่มีการแก้ไขตามคำสั่ง กระทั่งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดที่ 28 ขึ้นมาและมีการดำเนินการแก้ไขและฟ้องร้องเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ใช้ระยะเวลาติดตามพฤติกรรมของคณะกรรมการชุดที่ 29 ที่มีนายศุภชัยเป็นประธานมาตลอด กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ได้มีคำสั่งปลดคณะกรรมการบริหารชุดที่ 29 จำนวน 13 คน พ้นตำแหน่งทั้งคณะ พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ขึ้นมาบริหารงานแทน โดยมีตัวแทนจากทั้งชุมนุมสหกรณ์ 6 ประเภท อาทิ สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์เครดิตต่าง ๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรฯ กรมตรวจสอบบัญชี และตัวแทนหน่วยงานที่มีเงินฝากกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมบัญชีกลาง โดยคณะกรรมการชุดใหม่จะมีหน้าที่เร่งเข้าไปทำแผนการฟื้นฟูให้เสร็จสิ้นภายใน 180 วัน จากนั้นจะจัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งคณะกรรมการบริหารที่ถูกปลดรวมถึงนายศุภชัยจะไม่สามารถเข้ามารับตำแหน่งได้อีก และมีผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสหกรณ์อื่น ๆ ด้วย
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวต่อว่า ความรับผิดชอบหลักของคณะกรรมการบริหารชุดใหม่คือเร่งฟื้นฟูเพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากสมาชิก จากการพิจารณายอดเงินที่เสียหายเชื่อว่าเป็นยอดเงินที่สามารถทำแผนฟื้นฟูได้ โดยวันนี้ตนยังชี้แจงทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่สหกรณ์เพื่อไม่ให้มีการโยกย้ายเอกสารที่ต้องนำไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปถอนเงินต้องรอเวลาสักระยะ โดยแนวทางคือการระดมเงินจากชุมนุมสหกรณ์มาช่วยเหลือ สำหรับการติดตามนั้นเป็นหน้าที่ของดีเอสไอและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ที่ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินอยู่แล้ว ส่วนข้อมูลที่พบว่ามีการนำเงินสหกรณ์ออกไปบริจาคให้วัดเป็นจำนวนมากนั้นหากนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ก็ต้องดำเนินการเอาผิดตามระเบียบ รวมถึงต้องติดตามนำเงินกลับคืนมาให้สหกรณ์ อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบด้วยว่ามีการลงมติจากคณะกรรมการสหกรณ์ฯอนุมัติให้นำเงินไปบริจาคหรือไม่
ขณะที่นายกิติก้อง คณาจันทร์ ผอ.ศูนย์ปราบปรามคดีฟอกเงินและยาเสพติด ดีเอสไอ เชื่อว่า หลังปลดคณะกรรมการชุดที่มีปัญหาไปแล้ว การเข้าไปขอตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องจะสะดวกมากขึ้น หลังจากนี้จะเรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกรรมที่รับผิดชอบดูแลเรื่องการปล่อยเงินมาให้ปากคำ เพื่อนำมาประกอบข้อมูลของปปง.ที่ติดตามเส้นทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อหาความเชื่อมโยงของเงินที่นำออกไปว่าไปลงทุนหรือตกอยู่กับบุคคลใด
สำหรับความเสียหายจากการปล่อยกู้ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน 12,000 ล้านบาท และการสั่งจ่ายเงินทดรองจ่ายของนายศุภชัยอีก 3,000 ล้านบาท ทำให้มีวงเงินเสียหายรวม 15,000 ล้านบาท ขณะที่สหกรณ์ที่นำเงินมาฝากไว้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนจำนวนมาก เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1,431 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 700 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา 502 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์ครูยโสธร 930 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์ครูปทุมธานี 800 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ 147 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์กรมบัญชีกลาง 149 ล้านบาท
"จากการตรวจสอบยังพบว่า นายศุภชัย สั่งจ่ายเช็คจากบัญชีธนาคารต่างๆ ของสหกรณ์ฯ คลองจั่นให้กับนายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,927.32 ล้านบาท จำนวน 61 รายการ และสั่งจ่ายเช็คจากบัญชีธนาคารของสหกรณ์ฯ คลองจั่น ให้กับนายจิรเดช วรเพียรกุล จำนวน 73 รายการ เป็นเงิน 438.85 ล้านบาท และสั่งจ่ายเช็คจากบัญชีธนาคารของสหกรณ์ฯ คลองจั่น ให้กับพระราชภาวนาวิสุทธิ์และวัดธรรมกาย จำนวน 15 รายการ คิดเป็นเงิน 814.78 ล้านบาท" นายกิติก้อง กล่าว
............
อ้างอิง
http://www.komchadluek.net/mobile/detail/20131009/170121/ปลดแล้วศุภชัยพ้นเครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น.html 
ชาวพุทธ อ่านดูเป็นตัวอย่าง ปลดแล้ว ศุภชัย พ้นเครดิต ยูเนี่ยน คลองจั่น
นายสมชาย กล่าวว่า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนฯมีปัญหามาตั้งแต่ช่วงปี 2551 และได้สั่งการให้แก้ไขจุดที่เป็นปัญหา 6 ข้อ แต่ไม่มีการแก้ไขตามคำสั่ง กระทั่งมีการแต่งตั้งคณะกรรมการชุดที่ 28 ขึ้นมาและมีการดำเนินการแก้ไขและฟ้องร้องเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ใช้ระยะเวลาติดตามพฤติกรรมของคณะกรรมการชุดที่ 29 ที่มีนายศุภชัยเป็นประธานมาตลอด กระทั่งเมื่อวันที่ 8 ต.ค. ได้มีคำสั่งปลดคณะกรรมการบริหารชุดที่ 29 จำนวน 13 คน พ้นตำแหน่งทั้งคณะ พร้อมกันนี้ยังได้ตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ขึ้นมาบริหารงานแทน โดยมีตัวแทนจากทั้งชุมนุมสหกรณ์ 6 ประเภท อาทิ สหกรณ์การเกษตร สหกรณ์ออมทรัพย์ สหกรณ์เครดิตต่าง ๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่จากกระทรวงเกษตรฯ กรมตรวจสอบบัญชี และตัวแทนหน่วยงานที่มีเงินฝากกับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมบัญชีกลาง โดยคณะกรรมการชุดใหม่จะมีหน้าที่เร่งเข้าไปทำแผนการฟื้นฟูให้เสร็จสิ้นภายใน 180 วัน จากนั้นจะจัดให้มีการเลือกตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ ซึ่งคณะกรรมการบริหารที่ถูกปลดรวมถึงนายศุภชัยจะไม่สามารถเข้ามารับตำแหน่งได้อีก และมีผลให้ต้องพ้นจากตำแหน่งที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสหกรณ์อื่น ๆ ด้วย
อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวต่อว่า ความรับผิดชอบหลักของคณะกรรมการบริหารชุดใหม่คือเร่งฟื้นฟูเพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากสมาชิก จากการพิจารณายอดเงินที่เสียหายเชื่อว่าเป็นยอดเงินที่สามารถทำแผนฟื้นฟูได้ โดยวันนี้ตนยังชี้แจงทำความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่สหกรณ์เพื่อไม่ให้มีการโยกย้ายเอกสารที่ต้องนำไปตรวจสอบ อย่างไรก็ตาม ขอให้ประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนกไปถอนเงินต้องรอเวลาสักระยะ โดยแนวทางคือการระดมเงินจากชุมนุมสหกรณ์มาช่วยเหลือ สำหรับการติดตามนั้นเป็นหน้าที่ของดีเอสไอและสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ที่ดำเนินการตรวจสอบเส้นทางการเงินอยู่แล้ว ส่วนข้อมูลที่พบว่ามีการนำเงินสหกรณ์ออกไปบริจาคให้วัดเป็นจำนวนมากนั้นหากนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ของสหกรณ์ก็ต้องดำเนินการเอาผิดตามระเบียบ รวมถึงต้องติดตามนำเงินกลับคืนมาให้สหกรณ์ อย่างไรก็ตามต้องตรวจสอบด้วยว่ามีการลงมติจากคณะกรรมการสหกรณ์ฯอนุมัติให้นำเงินไปบริจาคหรือไม่
ขณะที่นายกิติก้อง คณาจันทร์ ผอ.ศูนย์ปราบปรามคดีฟอกเงินและยาเสพติด ดีเอสไอ เชื่อว่า หลังปลดคณะกรรมการชุดที่มีปัญหาไปแล้ว การเข้าไปขอตรวจสอบเอกสารที่เกี่ยวข้องจะสะดวกมากขึ้น หลังจากนี้จะเรียกเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกรรมที่รับผิดชอบดูแลเรื่องการปล่อยเงินมาให้ปากคำ เพื่อนำมาประกอบข้อมูลของปปง.ที่ติดตามเส้นทางการเงินอย่างต่อเนื่องเพื่อหาความเชื่อมโยงของเงินที่นำออกไปว่าไปลงทุนหรือตกอยู่กับบุคคลใด
สำหรับความเสียหายจากการปล่อยกู้ของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน 12,000 ล้านบาท และการสั่งจ่ายเงินทดรองจ่ายของนายศุภชัยอีก 3,000 ล้านบาท ทำให้มีวงเงินเสียหายรวม 15,000 ล้านบาท ขณะที่สหกรณ์ที่นำเงินมาฝากไว้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนจำนวนมาก เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 1,431 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ 700 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา 502 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์ครูยโสธร 930 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์ครูปทุมธานี 800 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์ตำรวจแห่งชาติ 147 ล้านบาท สหกรณ์ออมทรัพย์กรมบัญชีกลาง 149 ล้านบาท
"จากการตรวจสอบยังพบว่า นายศุภชัย สั่งจ่ายเช็คจากบัญชีธนาคารต่างๆ ของสหกรณ์ฯ คลองจั่นให้กับนายวัฒน์ชานนท์ นวอิสรารักษ์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,927.32 ล้านบาท จำนวน 61 รายการ และสั่งจ่ายเช็คจากบัญชีธนาคารของสหกรณ์ฯ คลองจั่น ให้กับนายจิรเดช วรเพียรกุล จำนวน 73 รายการ เป็นเงิน 438.85 ล้านบาท และสั่งจ่ายเช็คจากบัญชีธนาคารของสหกรณ์ฯ คลองจั่น ให้กับพระราชภาวนาวิสุทธิ์และวัดธรรมกาย จำนวน 15 รายการ คิดเป็นเงิน 814.78 ล้านบาท" นายกิติก้อง กล่าว
............
อ้างอิง
http://www.komchadluek.net/mobile/detail/20131009/170121/ปลดแล้วศุภชัยพ้นเครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น.html