ช่วงนี้ถ้าใครติดตามดูสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยพื้นที่ที่ผมได้อาศัยอยู่
และอยากจะกล่าวถึงก็คือ จ.ชลบุรี ที่ผมอาศัยอยู่ แต่จะเฉพาะเจาะจงไปที่
นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครซึ่งผมก็ทำงานอยู่ที่นั่น และก็มีน้ำท่วมอยู่บริเวณ
เฟส 7 8 และ 9 อยู่ในขณะนี้
โดยในขณะนี้ทางนิคมได้ทำคันดินกั้นบริเวณทางเข้าเกือบทั้งหมด ยกเว้นทางเข้า
บริเวณเฟส 7 เท่านี้ที่เปิดให้สามารถสัญจรไปมาได้ ซึ่งการก่อคันดินขึ้นมานั้น
ส่งผลให้น้ำไม่สามารถเข้าไปยังตัวโรงงานของเฟส 8 และ 9 ได้ ซึ่งถ้ามองอย่างนี้
ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ ทางเข้าที่ทางนิคมเปิดให้เข้าได้ทาง
เดียวตรงเฟส 7 นี้เองที่ก่อให้เกิดปัญหาการจราจรอย่างหนัก
ซึ่งผมเองก็ทำงานอยู่ที่เฟส 8 โดยในวันแรกเริ่มทำการทำคันดินก็คือวันจันทร์ที่ผ่านมา
และเมื่อถึงเวลาเลิกงาน 5 โมงเย็น โดยปกติแล้วผมใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงในการ
เดินทางจากบริษัทกลับมายังบ้าน แต่วันนั้นผมใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 2 ชั่วโมงครึ่ง
แต่ระดับน้ำบริเวณถนนยังไม่ค่อยมีเท่าไร พอวันถัดมาผมก็ยังเดินทางออกมาทำงานตาม
ปกติพร้อมกับระดับบริเวณถนนที่สูงขึ้นประมาณ 20 cm. โดยออกจากบ้านประมาณ
6 โมงเช้า แต่ถึงบริษัทประมาณ 7 โมงกว่าๆ ส่วนรถรับส่งพนักงานนั้นไม่ต้องพูดถึง
11 โมงแล้วยังมาไม่ถึงบริษัท สรุปวันนั้นมีพนักงานมากทำงานแค่ 20% เท่านั้น
จากนั้นทางผู้นริหารได้ประเมินสถานการณ์ดูแล้ว แม้ตัวโรงงานจะไม่มีน้ำท่วม แต่ตัว
พนักงานเองนั้นก็เดินทางมาทำงานอย่างยากลำบาก ทางผู้ริหารจึงมีมติให้พนักงงาน
กลับบ้านได้ตอนบ่าย 3 และไม่ต้องมาทำงานในวันถัดไปซึ่งก็คือวันนี้ โดยต้องประเมิน
สถานการณ์เป็นวันๆ ไป ซึ่งหลายโรงงานก็เป็นเช่นนี้ เพราะน้ำได้ท่วมบริเวณทางเข้า
เฟส 7 สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รถมอเตอร์ไซด์รวมถึงรถเก๋งน้ำสัญจรลำบาก และบางคัน
ก็เครื่องดับ อยู่บริเวณนั้นเอง
แต่ก็มีโรงงานอีกหลายโรงงานที่ยังเปิดทำงานตามปกติ โดยพนักงงานยังต้องเดินทาง
ฝ่าระดับที่สูงขึ้น และอาจจะเป็นอันตรายต่อตัวพนักงานเอง รวมถึงทรัพย์สินต่างๆ ได้
จึงอยากจะฝากให้ผู้บริหารที่ยังให้พนักงานเดินทางไปทำงานอยู่ในขณะนี้ คำนึงถึง
ความปลอดภัยของตัวพนักงานด้วย ถ้าตัวพนักงานเป็นอะไรไปแล้ว ทางบริษัทมีแนวทา
งที่จะเยียวยาให้กับตัวพนักงานหรือไม่ อย่าคิดถึงแต่ผลประกอบการของบริษัทแต่เพียง
อย่างเดียวเท่านั้น
สถานการณ์น้ำท่วมนิคมอมตะนคร กับความรับผิดชอบของผู้บริหารบางบริษัท
และอยากจะกล่าวถึงก็คือ จ.ชลบุรี ที่ผมอาศัยอยู่ แต่จะเฉพาะเจาะจงไปที่
นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครซึ่งผมก็ทำงานอยู่ที่นั่น และก็มีน้ำท่วมอยู่บริเวณ
เฟส 7 8 และ 9 อยู่ในขณะนี้
โดยในขณะนี้ทางนิคมได้ทำคันดินกั้นบริเวณทางเข้าเกือบทั้งหมด ยกเว้นทางเข้า
บริเวณเฟส 7 เท่านี้ที่เปิดให้สามารถสัญจรไปมาได้ ซึ่งการก่อคันดินขึ้นมานั้น
ส่งผลให้น้ำไม่สามารถเข้าไปยังตัวโรงงานของเฟส 8 และ 9 ได้ ซึ่งถ้ามองอย่างนี้
ก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่สิ่งที่อยากจะบอกก็คือ ทางเข้าที่ทางนิคมเปิดให้เข้าได้ทาง
เดียวตรงเฟส 7 นี้เองที่ก่อให้เกิดปัญหาการจราจรอย่างหนัก
ซึ่งผมเองก็ทำงานอยู่ที่เฟส 8 โดยในวันแรกเริ่มทำการทำคันดินก็คือวันจันทร์ที่ผ่านมา
และเมื่อถึงเวลาเลิกงาน 5 โมงเย็น โดยปกติแล้วผมใช้เวลาไม่เกินครึ่งชั่วโมงในการ
เดินทางจากบริษัทกลับมายังบ้าน แต่วันนั้นผมใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้น 2 ชั่วโมงครึ่ง
แต่ระดับน้ำบริเวณถนนยังไม่ค่อยมีเท่าไร พอวันถัดมาผมก็ยังเดินทางออกมาทำงานตาม
ปกติพร้อมกับระดับบริเวณถนนที่สูงขึ้นประมาณ 20 cm. โดยออกจากบ้านประมาณ
6 โมงเช้า แต่ถึงบริษัทประมาณ 7 โมงกว่าๆ ส่วนรถรับส่งพนักงานนั้นไม่ต้องพูดถึง
11 โมงแล้วยังมาไม่ถึงบริษัท สรุปวันนั้นมีพนักงานมากทำงานแค่ 20% เท่านั้น
จากนั้นทางผู้นริหารได้ประเมินสถานการณ์ดูแล้ว แม้ตัวโรงงานจะไม่มีน้ำท่วม แต่ตัว
พนักงานเองนั้นก็เดินทางมาทำงานอย่างยากลำบาก ทางผู้ริหารจึงมีมติให้พนักงงาน
กลับบ้านได้ตอนบ่าย 3 และไม่ต้องมาทำงานในวันถัดไปซึ่งก็คือวันนี้ โดยต้องประเมิน
สถานการณ์เป็นวันๆ ไป ซึ่งหลายโรงงานก็เป็นเช่นนี้ เพราะน้ำได้ท่วมบริเวณทางเข้า
เฟส 7 สูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้รถมอเตอร์ไซด์รวมถึงรถเก๋งน้ำสัญจรลำบาก และบางคัน
ก็เครื่องดับ อยู่บริเวณนั้นเอง
แต่ก็มีโรงงานอีกหลายโรงงานที่ยังเปิดทำงานตามปกติ โดยพนักงงานยังต้องเดินทาง
ฝ่าระดับที่สูงขึ้น และอาจจะเป็นอันตรายต่อตัวพนักงานเอง รวมถึงทรัพย์สินต่างๆ ได้
จึงอยากจะฝากให้ผู้บริหารที่ยังให้พนักงานเดินทางไปทำงานอยู่ในขณะนี้ คำนึงถึง
ความปลอดภัยของตัวพนักงานด้วย ถ้าตัวพนักงานเป็นอะไรไปแล้ว ทางบริษัทมีแนวทา
งที่จะเยียวยาให้กับตัวพนักงานหรือไม่ อย่าคิดถึงแต่ผลประกอบการของบริษัทแต่เพียง
อย่างเดียวเท่านั้น