ก่อนอื่นขอออกตัวก่อนเลยนะคะว่าตั้งใจจะเขียนกระทู้นี้อยู่หลายวันแล้ว เพียงแต่ภารกิจการงานส่วนตัวทำให้ไม่มีเวลาพอที่จะเรียบเรียงเขียนกระทู้ได้แต่ไปแจมกระทู้คนอื่นเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น กลัวจะกลายเป็นโดนว่าว่ากลางสัปดาห์แล้วยังมาตั้งกระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้กันอยู่อีกทำไม
จุดประสงค์คืออยากหาเพื่อนชวนคุยในอีกมุมมองหนึ่ง ซึ่งอาจตรงกันข้มกับหลายๆ คนไปบ้างก็ถือว่าฟังความเห็นที่ต่างกันออกไปก็แล้วกันนะคะ
ก่อนจะคุยถึงหัวข้อกระทู้ของเรา ขอพูดถึงละครก่อน จริงอยู่ที่ละครเรื่อง "The sixth sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ" เกิดจากการเอานิยายชุด 5 เล่มมาทำ ฉะนั้นในความรู้สึกของหลายๆ คน ละครก็ควรดำเนินล้อไปตามนิยาย เมื่อซีซั่นนี้เหลือเรื่องในนิยายที่ยังไม่มาทำอยู่ 2 เรื่อง หลายคนจึงมองเห็นว่าก็ควรจะเอา 2 เรื่องนั้นมาทำเป็นหลัก เรื่องของคนอื่นที่จบไปแล้วก็ไม่ควรเพิ่มประเด็นอะไรขึ้นมาอีก เราก็เห็นด้วยส่วนหนึ่งนะคะ แต่...
ทั้งนี้ทั้งนั้น เราได้ทำความเข้าใจกันบ้างแล้วหรือยังว่าทำไมผู้จัดเขาถึงได้นำนิยาย 5 เรื่องมารวมกันเป็นละครเรื่องหนึ่ง ไม่ได้ทำแยกเรื่องเป็นเรื่องๆ ไป
ส่วนตัวเลย จากที่เคยตามดูพวกรายการเบื้องหลังต่างๆ ของ The sixth sense ตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว ทั้งเปิดกองวิก 3 ทูไนท์โชว์ หรือแม้แต่เว็บเพจของชลลัมพีบ้าง สิ่งที่เราได้ยินจากนักแสดง ทีมงาน ก็คือ อยากให้คนอ่านนิยายเปิดใจให้กับละครเรื่องนี้
ทำไมต้องเปิดใจ... การนำนิยาย 5 เรื่องมารวมกันเป็นละครเรื่องเดียว เนื้อหาก็ต้องถุกปรับเปลี่ยนไปมากพอสมควรอยู่แล้วเพื่อให้บทละครที่ถูกเรียบเรียงใหม่นี้ดำเนินไปได้อย่างสมูทที่สุด แต่เท่าที่สังเกตเห็น หลายคนยังไม่เปิดใจกันอยู่เลย ไม่งั้นคงไม่มีคำพูดที่ว่า ทำแยกๆ เรื่องไปเถอะ ใครอยากดูตอนไหนก็จะได้เลือกดูเอาแต่ตอนที่ตัวเองอยากดู ซึ่งมันก็จริง ในมุมมองของคนดูที่เป็นผู้บริโภคมีสิทธิ์ที่จะเลือก แต่นั่นคงไม่ใช่จุดประสงค์ของผู้จัดที่คิดจะสร้างละครเรื่องนี้มาให้พวกเราดูตั้งแต่แรกหรอกมั้งคะ ไม่งั้นเขาคงไม่มานั่งเสียเวลาเอานิยาย 5 เรื่องมาเรียบเรียงเป็นบทละครใหม่โดยทำอย่างไรไม่ให้หลุดไปจากนิยายมากเกินไป ซึ่งเราว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แล้วทีมเขียนบทของเรื่องนี้ทำไว้ได้ค่อนข้างดีตั้งแต่ในซีซั่นที่แล้วจนหลายคนออกมาชมกันไปแล้วนั่นแหละ
แต่ก็อีกล่ะ บทละครใหม่ที่ว่าก็คงไม่ได้ถูกใจกันไปซะทุกคน ซึ่งมันก็เป็นปกติ ขนาดละครที่สร้างจากนิยายเรื่องเดียวก็ถูกบ่นเรื่องบทละครหรือบทโทรทัศน์กันไปแล้วนับประสาอะไรกับละครที่พูดง่ายๆ ว่าเกิดจากการยำนิยาย 5 เรื่องมารวมกัน ซึ่งก็ย่อมมีโอกาสที่จะไม่ถูกใจคนหลายคนมากขึ้นไปอีกเป็นธรรมดา
ส่วนตัว เราเองอ่านนิยายครบทั้ง 5 เล่มนะคะ แต่จบก็คือจบ ไม่ได้ประทับใจเรื่องไหนเป็นพิเศษ ไม่ได้สนใจด้วยว่านิยายชุด The sixth sense นี้จะถูกเอามาทำเป็นละครหรือไม่อย่างไร ข่าวอะไรก็ไม่ได้ตาม ละครซึซั่นแรกมาตอนไหนก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกที เราก็เปิดไปเจอละครเรื่องนี้กำลังออนแอร์อยู่แล้ว ยังจำได้อยู่เลยค่ะว่าเปิดทีวีขึ้นมาก็เจอฉากที่ญาณินกำลังฉะกับติณห์ทางโทรศัพท์ก่อนที่ห้าสาวจะพากันเดินทางไปบุกบ้านพระเอกที่กาญจนฯ ตอนนั้นก็นั่งดูเอาเพลินๆ นะคะ ไม่ได้รู้จักนางเอกสักคน จ๊ะก็ไม่รู้จักเพราะก่อนหน้านั้นเราไม่เคยดูละครที่น้องเขาเล่น เรียกว่าดูละครนับเรื่องเลยดีกว่า ทำให้ไม่ติดภาพการแสดงของใครสักคน แต่พอดูเดอะซิกเซ้นส์ ดูไปดูมากลับกลายเป็นว่าติดละครเรื่องนี้ซะงั้น นั่งรอดูทุกวันที่ออกอากาศ ตอนไหนพลาดก็ขวนขวายไปหาดูย้อนหลัง กลายเป็นรักละครเรื่องนี้ไปโดยไม่รู้ตัว ตั้งตารอตอนที่รู้ว่าจะทำซีซั่นสอง แถมยังติดตามข่าวสารของละครเรื่องนี้เป็นระยะๆ ทั้งที่เวลาก็ไม่ค่อยจะมี
แรกๆ ก็มีบ้างที่นึกเปรียบเทียบกับในนิยาย แต่ความที่เราเฉยๆ กับตัวนิยายมาตั้งแต่แรก เราก็เลยไม่ค่อยขัดใจเรื่องบทบาทของตัวละครที่เปลี่ยนไปมากสักเท่าไหร่ อย่างพี่ณัฐที่ในนิยายจริงๆ เป็นเพื่อนกับไตรรัตน์คนเดียว แถมยังไม่ได้เป็นแฟนเก่าหรือชอบพออะไรกับพีชอีก มาเป็นละครกลับถูกทำให้เป็นตัวเชื่อมฝ่ายพระเอกเข้าด้วยกันเสียอย่างนั้น ตรงนี้ในมุมมองของเรา คนเขียนบทเก่งนะคะ แม้จะเปลี่ยนบุคลิกตัวละครอะไรไปบ้าง แต่เชื่อมเรื่องราวโดยไม่ทำให้อรรถรสของนิยายเสียหายเลย (อาจจะมีบ้างแต่สำหรับเรามันอยู่ในขึ้นที่รับได้)
พอมาซีซั่นสอง เราก็รู้กันอยู่แล้วไม่ใช่หรือคะว่าละครจะเอาสองเรื่องที่เหลือในนิยายชุดมาทำ และยังคงสามเส้นเรื่องเดิมไว้ไม่ได้ทิ้งไปไหน แต่ก็ไม่วายมีเสียงบ่นว่าจะเพิ่มปมของอีกสามคู่ทำไม จบไปแล้วก็ควรพอได้แล้ว บลาๆๆ...
ในความรู้สึกของเรา เราก็เข้าใจเสียงคนบ่นนะคะ หลายคนที่ตั้งใจจะดูละครซีซั่นนี้ก็เพื่อรอดูตอนที่เหลือ พอเรื่องดำเนินมาไม่ได้ดังใจ ตอนที่ตั้งใจดูก็ออกน้อยเหลือเกินเลยกลายเป็นว่าจะไปเน้นย้ำคู่ที่น่าจะจบไปแล้วกันให้มากมายทำไม มันน่าเบื่อไม่สร้างสรรค์ อยากจะเลิกดูกันให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ทำไมถึงไม่คิดกันบ้างล่ะค่ะว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของการทำละครเรื่องนี้ไม่ได้ต้องการแยกนิยาย 5 เล่มออกเป็นเรื่องใครเรื่องมันตั้งแต่ทีแรกอยู่แล้ว การเพิ่มเส้นเรื่องของตัวละคร 3 คู่ที่จบไปก็เพื่อทำให้นิยายเป็นหนึ่งเดียว และส่วนตัวเราว่าผู้จัดตั้งใจจะเกลี่ยบทบาทตัวละครเอกซึ่งก็คือ 5 สาวให้พอๆ กันนั่นแหละค่ะ ไม่ได้ให้ใครเด่นกว่าใครเลย เพียงแต่แอร์ไทม์ในช่วงนี้อาจจะไปเน้นที่คู่พี่ใหญ่หน่อยเพื่อจะปูทางไปถึงปมใหญ่ปมหนึ่งของเรื่อง ซึ่งเราว่ามันคือไคลแมกซ์สำคัญคือการรวมตัวของกลุ่ม 5 สาว ซึ่งพอเรามองในมุมนี้ การรอดูภารกิจของสองสาวไปพร้อมๆ ลุ้นเรื่องของ 3 คู่ไปด้วยสำหรับเรา ยังไม่เจอจุดไหนที่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย
อย่าเพิ่งกังวลไปก่อนเลยว่าเรื่องของกรรณกับแก้มจะน้อย เดี๋ยวก็ค่อยๆ ทยอยมาให้ดูให้ได้ฟินกันนั่นแหละ ส่วนปมใหม่ๆ ก็ลองเปิดใจกันดู ไม่ยึดติดกับนิยาย เราว่าละครเรื่องนี้ดูสนุกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ
และไหนๆ ก็พูดถึงปมใหม่ เลยอยากชวนคุยเรื่องตัวละครใหม่อย่างเบญจาค่ะ
ในความรู้สึกส่วนตัว เบญจามีอะไรให้น่าติดตามพอสมควรเลยนะคะ การมาที่ดูลึกลับดี เพียงแต่ตอนต้นเราคิดว่าน้องใหม่อาจยังแสดงไม่ถึงไปบ้าง (ได้ข่าวว่าชิปปี้เล่นละครเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก) บางฉากบางซีนที่เบญจาออกมาเลยแอบดูน่ารำคาญไปเสียหน่อย รอดูพัฒนาการของน้องค่ะ คิดว่าน่าจะทำได้ดีขึ้นในตอนหลังๆ ดูภาพไตเติ้ลแล้วน่าจะใช้ได้ทีเดียว
คิดว่าหลายคนคงพอจะเดาออกว่าเบญจามาเพื่อเล่นงานกลุ่ม 5 สาวนี่แหละ น่าจะเป็นตัวแทนของหมอสมคิด ศัตรูที่ยังทิ้งปมมาจากซีซั่นแรกแล้วก็เผยโฉมหน้าให้เห็นมาแล้วในวันแรก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คนจรจัดที่โค-ตะ-ระเท่ที่สุดในสามโลก 
บางคนเกิดคำถามว่า ถ้าเบญจาเป็นตัวแทนหมอสมคิดจริง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้จากเรื่องย่อคือศิษย์เอกและ/หรือเป็นลูกสาวหมอสมคิดด้วย ก็ต้องเป็นพวกเล่นคุณไสย เป็นไสยเวท ทำไมถึงไม่เข้ามาทางสุคนธสซึ่งเป็นหมอไสยเวทเหมือนกัน ส่วนตัวเราวิเคราะห์เอาเองนะคะว่า เบญจามาเพื่อต้องการแก้แค้น การเข้าถึงซึ่งๆ หน้าไม่มีทางทำได้อยู่แล้ว การเผชิญหน้ากับหมอไสยโดยตรงเหมือนกันก็คงจับกันได้ สู้แทรกแซงโดยเข้าทางคนอื่นมันง่ายกว่าอยู่แล้ว และคนที่เราคิดว่าเข้าถึงได้ง่ายที่สุดก็คือญาณินนั่นแหละค่ะ วิเคราะห์ตามนิสัยของตัวละครเลย ญาณินเป็นพี่ใหญ่ ใจดีที่สุด ช่วยเหลือคนโดยไม่คิดเล็กคิดน้อยคิดมากเท่าเพื่อนๆ คนอื่นในกลุ่ม แถมยังอภัยให้คนอื่นโดยง่ายอย่างกำนันพงษ์ ญาณินก็อภัยให้มาแล้ว ซึ่งก็ด้วยนิสัยตรงนี้แหละ การที่เขียนบทให้เบญจาเข้าทางญาณิน มันดูสมเหตุสมผลที่สุดแล้ว กรรณกับแก้มมีภารกิจเป็นของตัวเอง ยายน้องหนูยิ่งไม่ต้องพูดถึง ต่อให้ซีซั่นนี้พี่ณัฐไม่ได้หวงเป็นไข่ในหินอีกแต่ยังไงก็อยู่ภายใต้การดูแลปกป้องจากหมอวรรธอยู่ดี
แล้วทีนี้การมาของเบญจาจะดูเหมือนไปเพิ่มน้ำหนักในคู่ญาณินกับติณห์มากเกินไปใหม่ ทำให้ลดบทบาทของคนที่ควรจะมาเป็นคู่หลักอย่างกรรณหรือแก้มไปหรือเปล่า
ในมุมมองของเรานะคะ ถ้าจะให้คิดว่าเบญจามาแล้วกลายเป็นชูคู่ญาณินเป็นคู่หลักอีกครั้ง มันก็ก้ำกึ่ง เพราะเบญจาเกี่ยวข้องกับคู่ณินกับติณห์พอสมควรเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ในเรื่องย่อก็มีประเด็นรักสามเส้าของคู่นี้ด้วยซ้ำ แต่ถ้ามองเลยจุดนี้ไป ท้ายที่สุดก็คือเรื่องของเบญจามันคือภารกิจของ 5 สาวนั่นแหละค่ะ ทุกคนต้องร่วมมือกันในการต่อกรเบญจาและหมอสมคิดแน่ๆ คิดอีกแง่ เบญจาไม่ใช่ไลน์ของญาณสื่อรัก แต่คือ ปมสำคัญหนึ่งของ "The sixth sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ ซีซั่น 2" ที่เราคิดว่าทางผู้จัดอยากให้คนดูเปิดใจดูค่ะ
ปมอื่นๆ อย่างน้องสาวไตรรัตน์ อันนี้เราเห็นด้วยว่าเปิดเรื่องนี้ช้าไป แถมถ้าใครเข้าไปอ่านในเว็บเมเนเจอร์แล้วจะเห็นว่าพอเปิดเสร็จก็ทิ้งไว้นานมาก เรื่องนี้เราเดาทางไม่ค่อยถูกนะคะ เรื่องย่อก็สั้นเกินแล้วไม่ค่อยจะพูดถึง แต่ที่น่าสนใจสำหรับเราคือ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เปิดปมมาว่าวิญญาณน้องสาวไตรรัตน์ถูกขังไว้ด้วยอาคมของหมอสมคิด แล้วรสเป็นคนไปถอนอาคมออกโดยบังเอิญทำให้ได้เจอ ซึ่งเราไม่แน่ใจว่าจุดนี้ในนิยายมีหรือเปล่า แล้วละครจะเล่าเรื่องไปอย่างไร ถ้ามันมากกว่าแค่ช่วยตามหาของขวัญของน้องโบตั๋น มีหมอสมคิดมาเกี่ยวด้วย มันก็ดูน่าติดตามพอควรเลย
คู่เนตรกับหมอตาหนู อาจดูเหมือนจะกลายเป็นอีกคู่ที่น่าเบื่อไหมในเรื่องของพี่ณัฐกับสุพิชชา คงต้องรอดูกันไปก่อนค่ะ แต่อีกประเด็นหนึ่งที่เราอยากเห็นคือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีหนูเนตรที่จบไปแล้วมากกว่า ซึ่งไม่แน่ใจว่ามีไหม แต่แอบไปเห็นในเพจชลลัมพี
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้มีนายลาภ ซึ่งเป็นฆาตรกรโรคจิตในคดีใบหม่อมที่หนูเนตรรับเคส ซีซั่นนี้กลายเป็นผีลาภ อยากเห็นว่าจะเอามาเกี่ยวข้องกับละครไหม หรือนักแสดงแค่แต่งตัวเล่นๆ เราก็ยังไม่รู้ เรื่องย่อก็มีไม่ถึง
สุดท้าย ใครมีอะไรอยากแชร์ก็ลองคุยกันมาได้เลยนะคะ (จะมีใครอยากคุยด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้

) ถ้ามีเวลาเราก็อาจจะเข้ามาตอบ หรือไม่ก็คิดเสียว่าได้อ่านมุมมองหนึ่งของคนดูละครเหมือนกันก็แล้วกันค่ะ
{กระทู้ชวนคุย} การมาของเบญจากับปมที่ยังเหลืออยู่(The Sixth Sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ)
จุดประสงค์คืออยากหาเพื่อนชวนคุยในอีกมุมมองหนึ่ง ซึ่งอาจตรงกันข้มกับหลายๆ คนไปบ้างก็ถือว่าฟังความเห็นที่ต่างกันออกไปก็แล้วกันนะคะ
ก่อนจะคุยถึงหัวข้อกระทู้ของเรา ขอพูดถึงละครก่อน จริงอยู่ที่ละครเรื่อง "The sixth sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ" เกิดจากการเอานิยายชุด 5 เล่มมาทำ ฉะนั้นในความรู้สึกของหลายๆ คน ละครก็ควรดำเนินล้อไปตามนิยาย เมื่อซีซั่นนี้เหลือเรื่องในนิยายที่ยังไม่มาทำอยู่ 2 เรื่อง หลายคนจึงมองเห็นว่าก็ควรจะเอา 2 เรื่องนั้นมาทำเป็นหลัก เรื่องของคนอื่นที่จบไปแล้วก็ไม่ควรเพิ่มประเด็นอะไรขึ้นมาอีก เราก็เห็นด้วยส่วนหนึ่งนะคะ แต่...
ทั้งนี้ทั้งนั้น เราได้ทำความเข้าใจกันบ้างแล้วหรือยังว่าทำไมผู้จัดเขาถึงได้นำนิยาย 5 เรื่องมารวมกันเป็นละครเรื่องหนึ่ง ไม่ได้ทำแยกเรื่องเป็นเรื่องๆ ไป
ส่วนตัวเลย จากที่เคยตามดูพวกรายการเบื้องหลังต่างๆ ของ The sixth sense ตั้งแต่ซีซั่นที่แล้ว ทั้งเปิดกองวิก 3 ทูไนท์โชว์ หรือแม้แต่เว็บเพจของชลลัมพีบ้าง สิ่งที่เราได้ยินจากนักแสดง ทีมงาน ก็คือ อยากให้คนอ่านนิยายเปิดใจให้กับละครเรื่องนี้
ทำไมต้องเปิดใจ... การนำนิยาย 5 เรื่องมารวมกันเป็นละครเรื่องเดียว เนื้อหาก็ต้องถุกปรับเปลี่ยนไปมากพอสมควรอยู่แล้วเพื่อให้บทละครที่ถูกเรียบเรียงใหม่นี้ดำเนินไปได้อย่างสมูทที่สุด แต่เท่าที่สังเกตเห็น หลายคนยังไม่เปิดใจกันอยู่เลย ไม่งั้นคงไม่มีคำพูดที่ว่า ทำแยกๆ เรื่องไปเถอะ ใครอยากดูตอนไหนก็จะได้เลือกดูเอาแต่ตอนที่ตัวเองอยากดู ซึ่งมันก็จริง ในมุมมองของคนดูที่เป็นผู้บริโภคมีสิทธิ์ที่จะเลือก แต่นั่นคงไม่ใช่จุดประสงค์ของผู้จัดที่คิดจะสร้างละครเรื่องนี้มาให้พวกเราดูตั้งแต่แรกหรอกมั้งคะ ไม่งั้นเขาคงไม่มานั่งเสียเวลาเอานิยาย 5 เรื่องมาเรียบเรียงเป็นบทละครใหม่โดยทำอย่างไรไม่ให้หลุดไปจากนิยายมากเกินไป ซึ่งเราว่ามันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แล้วทีมเขียนบทของเรื่องนี้ทำไว้ได้ค่อนข้างดีตั้งแต่ในซีซั่นที่แล้วจนหลายคนออกมาชมกันไปแล้วนั่นแหละ
แต่ก็อีกล่ะ บทละครใหม่ที่ว่าก็คงไม่ได้ถูกใจกันไปซะทุกคน ซึ่งมันก็เป็นปกติ ขนาดละครที่สร้างจากนิยายเรื่องเดียวก็ถูกบ่นเรื่องบทละครหรือบทโทรทัศน์กันไปแล้วนับประสาอะไรกับละครที่พูดง่ายๆ ว่าเกิดจากการยำนิยาย 5 เรื่องมารวมกัน ซึ่งก็ย่อมมีโอกาสที่จะไม่ถูกใจคนหลายคนมากขึ้นไปอีกเป็นธรรมดา
ส่วนตัว เราเองอ่านนิยายครบทั้ง 5 เล่มนะคะ แต่จบก็คือจบ ไม่ได้ประทับใจเรื่องไหนเป็นพิเศษ ไม่ได้สนใจด้วยว่านิยายชุด The sixth sense นี้จะถูกเอามาทำเป็นละครหรือไม่อย่างไร ข่าวอะไรก็ไม่ได้ตาม ละครซึซั่นแรกมาตอนไหนก็ไม่รู้ รู้ตัวอีกที เราก็เปิดไปเจอละครเรื่องนี้กำลังออนแอร์อยู่แล้ว ยังจำได้อยู่เลยค่ะว่าเปิดทีวีขึ้นมาก็เจอฉากที่ญาณินกำลังฉะกับติณห์ทางโทรศัพท์ก่อนที่ห้าสาวจะพากันเดินทางไปบุกบ้านพระเอกที่กาญจนฯ ตอนนั้นก็นั่งดูเอาเพลินๆ นะคะ ไม่ได้รู้จักนางเอกสักคน จ๊ะก็ไม่รู้จักเพราะก่อนหน้านั้นเราไม่เคยดูละครที่น้องเขาเล่น เรียกว่าดูละครนับเรื่องเลยดีกว่า ทำให้ไม่ติดภาพการแสดงของใครสักคน แต่พอดูเดอะซิกเซ้นส์ ดูไปดูมากลับกลายเป็นว่าติดละครเรื่องนี้ซะงั้น นั่งรอดูทุกวันที่ออกอากาศ ตอนไหนพลาดก็ขวนขวายไปหาดูย้อนหลัง กลายเป็นรักละครเรื่องนี้ไปโดยไม่รู้ตัว ตั้งตารอตอนที่รู้ว่าจะทำซีซั่นสอง แถมยังติดตามข่าวสารของละครเรื่องนี้เป็นระยะๆ ทั้งที่เวลาก็ไม่ค่อยจะมี
แรกๆ ก็มีบ้างที่นึกเปรียบเทียบกับในนิยาย แต่ความที่เราเฉยๆ กับตัวนิยายมาตั้งแต่แรก เราก็เลยไม่ค่อยขัดใจเรื่องบทบาทของตัวละครที่เปลี่ยนไปมากสักเท่าไหร่ อย่างพี่ณัฐที่ในนิยายจริงๆ เป็นเพื่อนกับไตรรัตน์คนเดียว แถมยังไม่ได้เป็นแฟนเก่าหรือชอบพออะไรกับพีชอีก มาเป็นละครกลับถูกทำให้เป็นตัวเชื่อมฝ่ายพระเอกเข้าด้วยกันเสียอย่างนั้น ตรงนี้ในมุมมองของเรา คนเขียนบทเก่งนะคะ แม้จะเปลี่ยนบุคลิกตัวละครอะไรไปบ้าง แต่เชื่อมเรื่องราวโดยไม่ทำให้อรรถรสของนิยายเสียหายเลย (อาจจะมีบ้างแต่สำหรับเรามันอยู่ในขึ้นที่รับได้)
พอมาซีซั่นสอง เราก็รู้กันอยู่แล้วไม่ใช่หรือคะว่าละครจะเอาสองเรื่องที่เหลือในนิยายชุดมาทำ และยังคงสามเส้นเรื่องเดิมไว้ไม่ได้ทิ้งไปไหน แต่ก็ไม่วายมีเสียงบ่นว่าจะเพิ่มปมของอีกสามคู่ทำไม จบไปแล้วก็ควรพอได้แล้ว บลาๆๆ...
ในความรู้สึกของเรา เราก็เข้าใจเสียงคนบ่นนะคะ หลายคนที่ตั้งใจจะดูละครซีซั่นนี้ก็เพื่อรอดูตอนที่เหลือ พอเรื่องดำเนินมาไม่ได้ดังใจ ตอนที่ตั้งใจดูก็ออกน้อยเหลือเกินเลยกลายเป็นว่าจะไปเน้นย้ำคู่ที่น่าจะจบไปแล้วกันให้มากมายทำไม มันน่าเบื่อไม่สร้างสรรค์ อยากจะเลิกดูกันให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ทำไมถึงไม่คิดกันบ้างล่ะค่ะว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงของการทำละครเรื่องนี้ไม่ได้ต้องการแยกนิยาย 5 เล่มออกเป็นเรื่องใครเรื่องมันตั้งแต่ทีแรกอยู่แล้ว การเพิ่มเส้นเรื่องของตัวละคร 3 คู่ที่จบไปก็เพื่อทำให้นิยายเป็นหนึ่งเดียว และส่วนตัวเราว่าผู้จัดตั้งใจจะเกลี่ยบทบาทตัวละครเอกซึ่งก็คือ 5 สาวให้พอๆ กันนั่นแหละค่ะ ไม่ได้ให้ใครเด่นกว่าใครเลย เพียงแต่แอร์ไทม์ในช่วงนี้อาจจะไปเน้นที่คู่พี่ใหญ่หน่อยเพื่อจะปูทางไปถึงปมใหญ่ปมหนึ่งของเรื่อง ซึ่งเราว่ามันคือไคลแมกซ์สำคัญคือการรวมตัวของกลุ่ม 5 สาว ซึ่งพอเรามองในมุมนี้ การรอดูภารกิจของสองสาวไปพร้อมๆ ลุ้นเรื่องของ 3 คู่ไปด้วยสำหรับเรา ยังไม่เจอจุดไหนที่น่าเบื่อเลยแม้แต่น้อย
อย่าเพิ่งกังวลไปก่อนเลยว่าเรื่องของกรรณกับแก้มจะน้อย เดี๋ยวก็ค่อยๆ ทยอยมาให้ดูให้ได้ฟินกันนั่นแหละ ส่วนปมใหม่ๆ ก็ลองเปิดใจกันดู ไม่ยึดติดกับนิยาย เราว่าละครเรื่องนี้ดูสนุกเรื่องหนึ่งเลยทีเดียวค่ะ
และไหนๆ ก็พูดถึงปมใหม่ เลยอยากชวนคุยเรื่องตัวละครใหม่อย่างเบญจาค่ะ
ในความรู้สึกส่วนตัว เบญจามีอะไรให้น่าติดตามพอสมควรเลยนะคะ การมาที่ดูลึกลับดี เพียงแต่ตอนต้นเราคิดว่าน้องใหม่อาจยังแสดงไม่ถึงไปบ้าง (ได้ข่าวว่าชิปปี้เล่นละครเรื่องนี้เป็นเรื่องแรก) บางฉากบางซีนที่เบญจาออกมาเลยแอบดูน่ารำคาญไปเสียหน่อย รอดูพัฒนาการของน้องค่ะ คิดว่าน่าจะทำได้ดีขึ้นในตอนหลังๆ ดูภาพไตเติ้ลแล้วน่าจะใช้ได้ทีเดียว
คิดว่าหลายคนคงพอจะเดาออกว่าเบญจามาเพื่อเล่นงานกลุ่ม 5 สาวนี่แหละ น่าจะเป็นตัวแทนของหมอสมคิด ศัตรูที่ยังทิ้งปมมาจากซีซั่นแรกแล้วก็เผยโฉมหน้าให้เห็นมาแล้วในวันแรก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ บางคนเกิดคำถามว่า ถ้าเบญจาเป็นตัวแทนหมอสมคิดจริง [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ก็ต้องเป็นพวกเล่นคุณไสย เป็นไสยเวท ทำไมถึงไม่เข้ามาทางสุคนธสซึ่งเป็นหมอไสยเวทเหมือนกัน ส่วนตัวเราวิเคราะห์เอาเองนะคะว่า เบญจามาเพื่อต้องการแก้แค้น การเข้าถึงซึ่งๆ หน้าไม่มีทางทำได้อยู่แล้ว การเผชิญหน้ากับหมอไสยโดยตรงเหมือนกันก็คงจับกันได้ สู้แทรกแซงโดยเข้าทางคนอื่นมันง่ายกว่าอยู่แล้ว และคนที่เราคิดว่าเข้าถึงได้ง่ายที่สุดก็คือญาณินนั่นแหละค่ะ วิเคราะห์ตามนิสัยของตัวละครเลย ญาณินเป็นพี่ใหญ่ ใจดีที่สุด ช่วยเหลือคนโดยไม่คิดเล็กคิดน้อยคิดมากเท่าเพื่อนๆ คนอื่นในกลุ่ม แถมยังอภัยให้คนอื่นโดยง่ายอย่างกำนันพงษ์ ญาณินก็อภัยให้มาแล้ว ซึ่งก็ด้วยนิสัยตรงนี้แหละ การที่เขียนบทให้เบญจาเข้าทางญาณิน มันดูสมเหตุสมผลที่สุดแล้ว กรรณกับแก้มมีภารกิจเป็นของตัวเอง ยายน้องหนูยิ่งไม่ต้องพูดถึง ต่อให้ซีซั่นนี้พี่ณัฐไม่ได้หวงเป็นไข่ในหินอีกแต่ยังไงก็อยู่ภายใต้การดูแลปกป้องจากหมอวรรธอยู่ดี
แล้วทีนี้การมาของเบญจาจะดูเหมือนไปเพิ่มน้ำหนักในคู่ญาณินกับติณห์มากเกินไปใหม่ ทำให้ลดบทบาทของคนที่ควรจะมาเป็นคู่หลักอย่างกรรณหรือแก้มไปหรือเปล่า
ในมุมมองของเรานะคะ ถ้าจะให้คิดว่าเบญจามาแล้วกลายเป็นชูคู่ญาณินเป็นคู่หลักอีกครั้ง มันก็ก้ำกึ่ง เพราะเบญจาเกี่ยวข้องกับคู่ณินกับติณห์พอสมควรเลย [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ แต่ถ้ามองเลยจุดนี้ไป ท้ายที่สุดก็คือเรื่องของเบญจามันคือภารกิจของ 5 สาวนั่นแหละค่ะ ทุกคนต้องร่วมมือกันในการต่อกรเบญจาและหมอสมคิดแน่ๆ คิดอีกแง่ เบญจาไม่ใช่ไลน์ของญาณสื่อรัก แต่คือ ปมสำคัญหนึ่งของ "The sixth sense สื่อรักสัมผัสหัวใจ ซีซั่น 2" ที่เราคิดว่าทางผู้จัดอยากให้คนดูเปิดใจดูค่ะ
ปมอื่นๆ อย่างน้องสาวไตรรัตน์ อันนี้เราเห็นด้วยว่าเปิดเรื่องนี้ช้าไป แถมถ้าใครเข้าไปอ่านในเว็บเมเนเจอร์แล้วจะเห็นว่าพอเปิดเสร็จก็ทิ้งไว้นานมาก เรื่องนี้เราเดาทางไม่ค่อยถูกนะคะ เรื่องย่อก็สั้นเกินแล้วไม่ค่อยจะพูดถึง แต่ที่น่าสนใจสำหรับเราคือ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คู่เนตรกับหมอตาหนู อาจดูเหมือนจะกลายเป็นอีกคู่ที่น่าเบื่อไหมในเรื่องของพี่ณัฐกับสุพิชชา คงต้องรอดูกันไปก่อนค่ะ แต่อีกประเด็นหนึ่งที่เราอยากเห็นคือเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคดีหนูเนตรที่จบไปแล้วมากกว่า ซึ่งไม่แน่ใจว่ามีไหม แต่แอบไปเห็นในเพจชลลัมพี [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดท้าย ใครมีอะไรอยากแชร์ก็ลองคุยกันมาได้เลยนะคะ (จะมีใครอยากคุยด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้