Intercontinental Samui Baan Taling Ngam Resort เป็นชื่อเต็มๆของที่พักระดับห้าดาวที่ครองตำแหน่งที่ตั้งวิวทะเลมุมสูงที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ถึงขนาดหนังสือ 1000 places to see before you die หนังสือท่องเที่ยว Bestseller อันดับหนึ่งของ New York Times ฉบับปรับปรุงในปี 2011 แนะนำมา ก็การันตีถึงความงาม ประทับใจ และน่าทึ่งได้อย่างไม่ต้องสงสัย
แท้จริงแล้ว จะพูดว่าโรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมใหม่ก็ได้ไม่เต็มปาก หากแต่เคยเปลี่ยนเจ้าของและเชนผู้บริหารมาแล้วหลายครั้ง อาทิ Le Royal Meridian และ Mandarin Oriental กระทั่งล่าสุดมาอยู่ในมือของตระกูล ศรีวิกรม์ โดยให้ Intercontinental มารีโนเวทใหม่ทั้งหมด และบริหารมาได้ปีกว่าแล้ว
การเดินทางครั้งนี้เราไปกันสองคนเมื่อสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาครับ โดยสายการบินแอร์เอเชีย(เพลียๆก็บินได้) ซื้อตั๋วเครื่องต่อรถต่อเรือเสร็จสรรพ ใช้เวลากว่าครึ่งวัน ถึงท่าเรือลิปะน้อย(ท่าราชาเฟอร์รี) เพราะคิดว่าที่พักอยู่ไม่ไกลกับท่าเรือนัก ใช้บริการรถเช่าของ Hertz ต้องบวกค่าส่งรถไปกลับอีก 535 x 2 ขับถึงรีสอร์ท เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ลองคิดเล่นๆดูว่าหากนั่ง Bangkok Airway ราคาคงไม่หนีกัน แถมไม่ต้องออกเช้ามากด้วย แต่ถ้าคิดว่าได้นั่งเรือเย็นๆใจข้ามมาก็โอเคเหมือนกันครับ
ขับรถมาถึงเพลียๆ ก็มาเจอป้ายทางเข้า มีที่จอดรถเล็กๆด้านข้าง ณ จุดนี้เราจำเป็นต้องอาศัยรถรับส่งไฟฟ้าเล็กๆที่ใช้กันแพร่หลายแบบรูปขวาล่างนี้ แต่ที่น่าตำหนิคือการมารับมาส่งทำได้ล่าช้าเกินกว่ามาตรฐานโรงแรมระดับนี้ครับ(ประมาณ 20 นาที) โดยที่ผู้รักษาความปลอดภัยไม่สามารถแจ้งให้ทราบได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น หรือต้องรอถึงเมื่อใด ทั้งยังต้องรอแถวป้อมยามโดยที่ไม่มีจุดนั่งพักหรืออำนวยสะดวกสำหรับแขกที่ขับรถมาเองเลย ด้วยความเพลียและร้อน จึงขอกลับมารอที่รถเปิดแอร์เย็นๆ พอสตาร์ทรถปุ๊บก็เห็นรถกำลังเคลื่อนมารับอยู่ไม่ไกล(อะนะ) คนขับเป็นกระทาชายนายฝรั่งคนหนึ่ง ด้วยความหงุดหงิดก็บ่นไปว่า"นานจัง" เธอก็ขอโทษแต่โดยดี และได้รับคำอธิบายเสริมว่าช่วงเวลากลางวันคนจะเข้าออกค่อนข้างมาก รถจะไม่พอใช้ เราก็เข้าใจครับ
นั่งรถขึ้นเขาเย็นๆไปด้านบนที่เป็นที่ตั้งของอาคารหลักที่มีส่วนของพื้นที่รับรองอยู่ภายใน ภาพแรกที่เห็นผมร้องว้าว(ในใจนะ) เลยครับ ^^
นับว่าเป็น Lobby ที่มีวิวที่สวยที่สุดเท่าที่เคยไปมาเลย และการออกแบบภายในจะไม่รกเรื้อ ทำให้เอื้อต่อการส่งเสริมทิวทัศน์ให้สวยงามยิ่งขึ้น ณ จุดจุดนี้ ประทับจนลืมความเหนื่อยครึ่งวันที่ผ่านมาเป็นปลิดทิ้ง
มาถึงแล้วคุณพนักงานต้อนรับก็จัดแจงได้อย่างรวดเร็วพร้อม Welcome Drink ที่มาประเคนให้อย่างทันทีทันใจ นั่งชมวิวไปเรื่อยๆแทบอยากจะนอนมันตรงนี้เลยทีเดียว สักพักเธอก็เข้ามาแนะนำห้องพักครับ เรื่อง Agoda ทำพิษมันมาทำเอาตอนนี้นี่เอง
ผมจองที่พักผ่านเวบยอดฮิตตลาดแตก Agoda และทุกๆครั้งที่จองผ่านเวบนี้ ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรให้รำคาญใจ ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งโรงแรมไม่กี่ดาวถึงหลายดาว ทุกๆครั้งก็ไม่จำเป็นต้องยืนยันกับทางโรงแรมโดยตรงอะไร แต่คราวนี้มันไม่เป็นอย่างที่คิด คือ ตอนที่จองนั้น ผมเลือกห้อง One Bedroom Panoramic Ocean View Suite ซึ่งเป็นห้องกว้างใหญ่มีส่วนของห้องรับแขกและห้องนอน จุดเด่นคือ อ่างอาบน้ำที่สามารถชมวิวแบบเปิดโล่งแบบ Panoramic ไม่มีอะไรมาบังให้รำคาญใจ ซึ่งห้องชนิดนี้น่าจะมีอยู่สามห้องบนตึกหลักเท่านั้น แต่เธอก็ยืนยันว่าห้องที่จองมานั้นเป็น One Bedroom ในส่วนของชั้นบนสุดของวิลล่า หมายความว่า ต้องนั่งรถรับส่งออกไปที่ส่วนของวิลล่าอีกครั้ง ณ ตอนนี้ ผมตามเธอไปแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งครับ
รถจอดปุ๊บเธอก็พาเราไปที่ห้องชั้นบนสุดของวิลล่า ซึ่งได้แก่ห้องที่เห็นในภาพครับ แต่ผมยืนยันว่าไม่น่าตรงกับที่จองนะครับ เพราะห้องที่มีเสาม่วงๆขึ้นอยู่สี่เสาแบบนี้มันห้อง Ocean View Junior Suite ชัดๆ แต่คุณเธอก็ยืนยันกลับนะครับว่า คุณจองห้องนี้มานั่นแหละ เพียงแต่รูปที่ลงใน Agoda น่าจะผิดพลาด ไม่ได้ตามที่ลงไว้ ผมเองก็ยังสงสัยอยู่ในใจอย่างมาก จนเธอลาลับไปปล่อยให้เราสองคนอยู่ในห้องคนเดียว
ลองสำรวจดูห้องทั่วๆไปแล้ว ห้องนี้ไม่มีจุดเด่นอะไรเป็นพิเศษ รวมทั้งวิวติดต้นมะพร้าวและหลังคาวิลล่าหลังอื่นๆ เห็นทะเลน้อยกว่าที่คาดหวัง ก็มาปรึกษากันครับ ลองเอาภาพจากเวบไซต์ของโรงแรมมาเปรียบเทียบ และคิดทบทวนดูดีๆว่าเราไม่ได้พลาดอะไรไปใช่ไหม...
คิดดีแล้วยังไงเราก็ทำถูกต้องทุกอย่าง แต่มาให้ห้องอื่นเราแบบนี้ถือเป็นความผิดมหันต์ ยอมรับไม่ได้ ยกโทรศัพท์ถึงฟร้อนต์เลยครับ ได้เรื่องได้ราวว่า เธอจะเรียนผู้จัดการให้ เราขอกลับไปรอที่ Lobby ก่อน โดยที่เรายังไม่ได้แตะต้องเคลื่อนย้ายของในห้องนี้เลย
ถึงตอนนี้ออกอาการเซ็งละครับ แต่ยังดีที่ได้วิวช่วยให้ผ่อนคลายลงได้บ้าง เราตรงไปที่เคาท์เตอร์ตรง Lobby พบกับผู้หญิงอีกท่านหนึ่ง เธอแจ้งให้ทราบว่า บัดนี้ได้เรียนทางผู้จัดการให้แล้ว เขาจะตรวจสอบดูอีกครั้ง เราก็เอาภาพจากเวบของโรงแรมมายืนยันอีกครั้ง เธอก็แค่ชำเลืองมองและพูดประมาณว่า "ทางคุณจองมาถูกต้องแล้ว แต่ทาง Agoda ส่งเรื่อง type ห้องมาผิดให้ค่ะ และเจ้าหน้าที่ Reservation ลาหยุดวันนี้" อันนี้เราเข้าใจแล้ว(แต่ก็เซ็งอย่างมากนะ) แต่เธอยังพูดเสริมว่า
"แต่ต้องเข้าใจนะคะว่า นี่ไม่ใช่ความผิดของเรา"
ครับ มันไม่ใช่ความผิดของโรงแรมแน่นอน แต่เธอจะพูดเพื่อวัตถุประสงค์อะไรหรอ กลัวเราจะวีนแบบไร้เหตุผลหรอ?
แท้จริงถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่จะสร้างความผิดหวังให้กับแขก แม้ไม่ใช่ความผิดของทางโรงแรม ก็ไม่ควรพูดประโยคนี้ออกมา โดยเฉพาะโรงแรมระดับนี้ เพราะอย่างน้อยแขกก็เป็นลูกค้าที่ได้ชำระเงินกับโรงแรมคุณไปเรียบร้อยแล้ว ควรจะจัดการตามมาตรฐานของโรงแรมทันที ไม่ต้องร้อนตัวพูดทำนองปัดความรับผิดชอบก่อนจะทำอะไรทั้งปวง...
ณ จุดจุดนี้ ก็ควรปรับปรุงนิดนึงนะครับ
รอไม่นานคุณผู้จัดการฝรั่งก็เข้ามาแจ้งข้อผิดพลาด ซึ่งเป็นไปตามที่บอกไว้ข้างต้น คุณผู้จัดการฝรั่งยกมือไหว้ขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ แต่มีข่าวร้ายคือ ห้องที่เราได้จองไว้เต็มแล้ว แต่เขาจะอัพเกรดให้เป็น 2 Bedroom Panoramic Ocean View Villa แทน ซึ่งจริงๆเราไม่ได้ต้องการวิลล่าใหญ่ขนาดนั้นหรอก เรามายด์เรื่องวิวมากกว่า คุณผู้จัดการรับประกันว่า ไม่ต้องห่วง ห้องนี้วิวสวยแน่นอน แต่ต้องรอเตรียมห้องหน่อยนะ
เราก็ โอเคเลย เดี๋ยวออกไปร่อนรอก่อน ถ้าห้องเรียบร้อยแล้ว ให้โทรศัพท์ตามไปที่เบอร์ทีเราทิ้งไว้กับพนักงานหญิงไทยเมื่อครู่ เธอก็รับปากว่าจะติดต่อไปทันทีที่ห้องเสร็จ
ร่อนแล้วร่อนเล่า ร่อนไปไกล โรงแรมก็ยังไม่ติดต่อมา เราเลยกลับมาซะเอง นั่งชมบรรยากาศยามเย็นไปเรื่อยเปื่อย โรงแรมนี้ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของเกาะสมุยครับ ทำให้ได้บรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินเต็มๆ
มองไปที่ส่วนของ Sky Bar มุมที่เห็นนี้ ถ้าได้จิบค็อกเทลชมท้องฟ้าและผืนน้ำไกลสุดลูกหูลูกตา จะสุขใจแค่ไหนนะ
กลับมาที่วิลล่าที่ได้ใหม่ครับ คุณเจ้าหน้าที่ฝรั่งหนุ่ม 2 คน อาสาพาไปเปิดห้องใหม่ให้ ทั้งสองทำหน้าที่ได้อย่างมีอัธยาศัยไมตรีมากครับ ชุดเครื่องเสียง Bose ที่เสียก็จัดการซ่อมให้ตรงนั้น รวมถึงการยิ้มแย้มแจ่มใสดูไม่ชักสีหน้าแม้แต่นิด จนรู้สึกว่าเราคนไทยถูกเจ้าหน้าที่คนไทยด้วยกันเอง บริการได้ไม่รู้สึกเป็นมิตรเท่าฝรั่งเลย
ที่วิลล่าสองห้องนอนนี้กว้างมาก ยอมรับเลยว่าร้อง ว้าว (ออกมาเลย) เดี๋ยวจะพาชมรอบๆนะครับ
วิลล่านี้ชั้นบนเป็นห้องรับแขกและรับประทานอาหารครับ มีเครื่องใช้ไม้สอยครบครัน ที่ชอบคือโต๊ะรับประทานอาหาร 6 ที่นั่ง
ส่วนของที่เอกเขนกชมโทรทัศน์ ก็มีวิวชั้นยอดอยู่ด้านหลังครับ
ส่วนของบาร์ก็ครบครันเช่นกัน Snack ใช้ของ Dean and Deluca ส่วนชากาแฟหลากรสที่แถมให้ใช้ของ TWG และ MAISON RICHARD FONDÉE EN 1892 DOSE D'EXPRESS ขอบอกว่าเปรมมาก ณ จุดนี้ ^^ แก้วไวน์แดง ขาว ฟอง วิสกี้ ให้มาสองชุดไม่ขาดครับ
ตามมาชมวิวกันบ้างครับ
ระเบียงชั้นบนของวิลล่าจะเปิดกว้างแบบนี้ เห็นหลังคา กับต้นมะพร้าวแซมๆบ้าง แต่ด้วยระเบียงที่กว้างและยาวมาก ทำให้มีมุมให้มองทะเลได้ไม่รู้เบื่อเลย
ภาพวิวที่ห้องครับ ถ่ายจากเวลาต่างๆกัน ช่วงปลายกันยายน ฟ้าฉ่ำฝนได้มุมมองที่สวยไปอีกแบบ มองไกลๆเห็นสะพานเดินเรือและเกาะสี่เกาะห้านั้นด้วย เดี๋ยววันรุ่งขึ้นจะพาเดินไปครับ
กลับมาที่ตัวบ้าน ลงบันไดกลางมาที่ส่วนของห้องนอนบ้าง มีทั้งห้องนอนเตียงเดี่ยว และเตียงคู่ครับ แต่เรามาแค่สองคนจึงขอปิดห้องเตียงคู่ไว้ เพราะมันเกินความจำเป็นไปหน่อย ปลายเตียงมีหน้าต่างให้ตื่นขึ้นมาชมวิวตอนเช้าได้เลยนะครับ
สักพัก พนักงานก็เข้ามาทำเตียงให้ครับ ตุ๊กตาลิงที่เห็น 350 บาทนี้บริจาคให้กับบ้านเด็กออทิสติกของเกาะสมุยครับ(วันกลับแอบลืมหยิบ) และที่เก๋ไก๋คือเมนูหมอน อยากได้หมอนแบบไหนก็เลือกได้เลยครับ(ซึ่งเราก็ใช้โอกาสนี้เลือกในคืนที่สอง) ดูเตียงสิ น่านอนไหม ^^
ห้องอาบน้ำครับ มีทุกอย่างครบครัน ผลิตภัณฑ์ต่างๆใช้ของ HARNN ทั้งหมด ^^ กลิ่นที่ได้จะสดชื่นและธรรมชาติอย่างมาก
แม้ว่าอ่างจะไม่ได้เห็นวิวอะไรเหมือนที่ตั้งใจไว้ แต่ ณ จุดจุดนี้ ก็ไม่อะไรแล้วล่ะครับ สบายยยยยย 555
รุ่งเช้าตื่นมารับประทานอาหารที่ห้องอาหาร Amber ครับ ซึ่งจะต้องอยู่ใต้ชั้น Lobby ลงมาหนึ่งชั้น วันที่ไป แขกส่วนใหญ่เป็นคนจีนครับ ส่วนใหญ่มาเป็นคู่ๆก็เรียบร้อยดี มีบ้างที่เป็นครอบครัวจะเสียงดังหน่อย
ไลน์อาหารมีให้เลือกมากมายทั้งไทย สากล และญี่ปุ่น ซุ้มเมนูไข่ตามสั่งก็มีครับ ก็เลยนึกลองของ Egg Benedict พ่อครัวก็นิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่ช้านานก็จัดให้ได้ครับ เยี่ยมจริงๆขอชม ที่ชอบอีกประการคือ บาร์ผลไม้ ทั้งน้ำผลไม้คั้นสดๆ มะพร้าวเป็นลูกๆ(คนจีนคนฝรั่งชอบมากกกก) น้ำแร่ซ่า เป็นต้น ชาที่ห้องอาหารนี้ใช้ของ Ronnefeldt ครับ
มาดูส่วนของสระน้ำกันบ้าง ว่ากันว่าที่นี่มีสระทั้งหมด 7 สี 7 สระ แต่ตามไปเก็บไม่หมด ^^ ชมสระที่เด่นที่สุดไปก่อนครับ กับ Infinity Edge Pool
พามาชมสะพานเดินเรือกันครับ ภาพนี้ถ่ายไว้ตอนโพล้เพล้(ภาพแต่ละเซตไม่เรียงช่วงเวลากันนะครับ)
ช่วงกลางวันน้ำจะใสแจ๋ว มีเรือของทางโรงแรมบริการด้วย ทั้งรับส่งไปเที่ยวเกาะใกล้ๆ(ในราคาหูฉี่^^) กับรับส่งสนามบินทางน้ำด้วยนะครับ
[CR]รีวิวอย่างเป็นกลางที่สุด Agoda ทำพิษได้จริงที่ INTERCONTINENTAL สมุย แถมพาเที่ยวเกาะมัดสุมคร้าบ
Intercontinental Samui Baan Taling Ngam Resort เป็นชื่อเต็มๆของที่พักระดับห้าดาวที่ครองตำแหน่งที่ตั้งวิวทะเลมุมสูงที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย ถึงขนาดหนังสือ 1000 places to see before you die หนังสือท่องเที่ยว Bestseller อันดับหนึ่งของ New York Times ฉบับปรับปรุงในปี 2011 แนะนำมา ก็การันตีถึงความงาม ประทับใจ และน่าทึ่งได้อย่างไม่ต้องสงสัย
แท้จริงแล้ว จะพูดว่าโรงแรมแห่งนี้เป็นโรงแรมใหม่ก็ได้ไม่เต็มปาก หากแต่เคยเปลี่ยนเจ้าของและเชนผู้บริหารมาแล้วหลายครั้ง อาทิ Le Royal Meridian และ Mandarin Oriental กระทั่งล่าสุดมาอยู่ในมือของตระกูล ศรีวิกรม์ โดยให้ Intercontinental มารีโนเวทใหม่ทั้งหมด และบริหารมาได้ปีกว่าแล้ว
การเดินทางครั้งนี้เราไปกันสองคนเมื่อสิ้นเดือนกันยายนที่ผ่านมาครับ โดยสายการบินแอร์เอเชีย(เพลียๆก็บินได้) ซื้อตั๋วเครื่องต่อรถต่อเรือเสร็จสรรพ ใช้เวลากว่าครึ่งวัน ถึงท่าเรือลิปะน้อย(ท่าราชาเฟอร์รี) เพราะคิดว่าที่พักอยู่ไม่ไกลกับท่าเรือนัก ใช้บริการรถเช่าของ Hertz ต้องบวกค่าส่งรถไปกลับอีก 535 x 2 ขับถึงรีสอร์ท เล่นเอาเหนื่อยเหมือนกัน ลองคิดเล่นๆดูว่าหากนั่ง Bangkok Airway ราคาคงไม่หนีกัน แถมไม่ต้องออกเช้ามากด้วย แต่ถ้าคิดว่าได้นั่งเรือเย็นๆใจข้ามมาก็โอเคเหมือนกันครับ
ขับรถมาถึงเพลียๆ ก็มาเจอป้ายทางเข้า มีที่จอดรถเล็กๆด้านข้าง ณ จุดนี้เราจำเป็นต้องอาศัยรถรับส่งไฟฟ้าเล็กๆที่ใช้กันแพร่หลายแบบรูปขวาล่างนี้ แต่ที่น่าตำหนิคือการมารับมาส่งทำได้ล่าช้าเกินกว่ามาตรฐานโรงแรมระดับนี้ครับ(ประมาณ 20 นาที) โดยที่ผู้รักษาความปลอดภัยไม่สามารถแจ้งให้ทราบได้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น หรือต้องรอถึงเมื่อใด ทั้งยังต้องรอแถวป้อมยามโดยที่ไม่มีจุดนั่งพักหรืออำนวยสะดวกสำหรับแขกที่ขับรถมาเองเลย ด้วยความเพลียและร้อน จึงขอกลับมารอที่รถเปิดแอร์เย็นๆ พอสตาร์ทรถปุ๊บก็เห็นรถกำลังเคลื่อนมารับอยู่ไม่ไกล(อะนะ) คนขับเป็นกระทาชายนายฝรั่งคนหนึ่ง ด้วยความหงุดหงิดก็บ่นไปว่า"นานจัง" เธอก็ขอโทษแต่โดยดี และได้รับคำอธิบายเสริมว่าช่วงเวลากลางวันคนจะเข้าออกค่อนข้างมาก รถจะไม่พอใช้ เราก็เข้าใจครับ
นั่งรถขึ้นเขาเย็นๆไปด้านบนที่เป็นที่ตั้งของอาคารหลักที่มีส่วนของพื้นที่รับรองอยู่ภายใน ภาพแรกที่เห็นผมร้องว้าว(ในใจนะ) เลยครับ ^^
นับว่าเป็น Lobby ที่มีวิวที่สวยที่สุดเท่าที่เคยไปมาเลย และการออกแบบภายในจะไม่รกเรื้อ ทำให้เอื้อต่อการส่งเสริมทิวทัศน์ให้สวยงามยิ่งขึ้น ณ จุดจุดนี้ ประทับจนลืมความเหนื่อยครึ่งวันที่ผ่านมาเป็นปลิดทิ้ง
มาถึงแล้วคุณพนักงานต้อนรับก็จัดแจงได้อย่างรวดเร็วพร้อม Welcome Drink ที่มาประเคนให้อย่างทันทีทันใจ นั่งชมวิวไปเรื่อยๆแทบอยากจะนอนมันตรงนี้เลยทีเดียว สักพักเธอก็เข้ามาแนะนำห้องพักครับ เรื่อง Agoda ทำพิษมันมาทำเอาตอนนี้นี่เอง
ผมจองที่พักผ่านเวบยอดฮิตตลาดแตก Agoda และทุกๆครั้งที่จองผ่านเวบนี้ ก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรให้รำคาญใจ ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งโรงแรมไม่กี่ดาวถึงหลายดาว ทุกๆครั้งก็ไม่จำเป็นต้องยืนยันกับทางโรงแรมโดยตรงอะไร แต่คราวนี้มันไม่เป็นอย่างที่คิด คือ ตอนที่จองนั้น ผมเลือกห้อง One Bedroom Panoramic Ocean View Suite ซึ่งเป็นห้องกว้างใหญ่มีส่วนของห้องรับแขกและห้องนอน จุดเด่นคือ อ่างอาบน้ำที่สามารถชมวิวแบบเปิดโล่งแบบ Panoramic ไม่มีอะไรมาบังให้รำคาญใจ ซึ่งห้องชนิดนี้น่าจะมีอยู่สามห้องบนตึกหลักเท่านั้น แต่เธอก็ยืนยันว่าห้องที่จองมานั้นเป็น One Bedroom ในส่วนของชั้นบนสุดของวิลล่า หมายความว่า ต้องนั่งรถรับส่งออกไปที่ส่วนของวิลล่าอีกครั้ง ณ ตอนนี้ ผมตามเธอไปแบบเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งครับ
รถจอดปุ๊บเธอก็พาเราไปที่ห้องชั้นบนสุดของวิลล่า ซึ่งได้แก่ห้องที่เห็นในภาพครับ แต่ผมยืนยันว่าไม่น่าตรงกับที่จองนะครับ เพราะห้องที่มีเสาม่วงๆขึ้นอยู่สี่เสาแบบนี้มันห้อง Ocean View Junior Suite ชัดๆ แต่คุณเธอก็ยืนยันกลับนะครับว่า คุณจองห้องนี้มานั่นแหละ เพียงแต่รูปที่ลงใน Agoda น่าจะผิดพลาด ไม่ได้ตามที่ลงไว้ ผมเองก็ยังสงสัยอยู่ในใจอย่างมาก จนเธอลาลับไปปล่อยให้เราสองคนอยู่ในห้องคนเดียว
ลองสำรวจดูห้องทั่วๆไปแล้ว ห้องนี้ไม่มีจุดเด่นอะไรเป็นพิเศษ รวมทั้งวิวติดต้นมะพร้าวและหลังคาวิลล่าหลังอื่นๆ เห็นทะเลน้อยกว่าที่คาดหวัง ก็มาปรึกษากันครับ ลองเอาภาพจากเวบไซต์ของโรงแรมมาเปรียบเทียบ และคิดทบทวนดูดีๆว่าเราไม่ได้พลาดอะไรไปใช่ไหม...
คิดดีแล้วยังไงเราก็ทำถูกต้องทุกอย่าง แต่มาให้ห้องอื่นเราแบบนี้ถือเป็นความผิดมหันต์ ยอมรับไม่ได้ ยกโทรศัพท์ถึงฟร้อนต์เลยครับ ได้เรื่องได้ราวว่า เธอจะเรียนผู้จัดการให้ เราขอกลับไปรอที่ Lobby ก่อน โดยที่เรายังไม่ได้แตะต้องเคลื่อนย้ายของในห้องนี้เลย
ถึงตอนนี้ออกอาการเซ็งละครับ แต่ยังดีที่ได้วิวช่วยให้ผ่อนคลายลงได้บ้าง เราตรงไปที่เคาท์เตอร์ตรง Lobby พบกับผู้หญิงอีกท่านหนึ่ง เธอแจ้งให้ทราบว่า บัดนี้ได้เรียนทางผู้จัดการให้แล้ว เขาจะตรวจสอบดูอีกครั้ง เราก็เอาภาพจากเวบของโรงแรมมายืนยันอีกครั้ง เธอก็แค่ชำเลืองมองและพูดประมาณว่า "ทางคุณจองมาถูกต้องแล้ว แต่ทาง Agoda ส่งเรื่อง type ห้องมาผิดให้ค่ะ และเจ้าหน้าที่ Reservation ลาหยุดวันนี้" อันนี้เราเข้าใจแล้ว(แต่ก็เซ็งอย่างมากนะ) แต่เธอยังพูดเสริมว่า
"แต่ต้องเข้าใจนะคะว่า นี่ไม่ใช่ความผิดของเรา"
ครับ มันไม่ใช่ความผิดของโรงแรมแน่นอน แต่เธอจะพูดเพื่อวัตถุประสงค์อะไรหรอ กลัวเราจะวีนแบบไร้เหตุผลหรอ?
แท้จริงถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่จะสร้างความผิดหวังให้กับแขก แม้ไม่ใช่ความผิดของทางโรงแรม ก็ไม่ควรพูดประโยคนี้ออกมา โดยเฉพาะโรงแรมระดับนี้ เพราะอย่างน้อยแขกก็เป็นลูกค้าที่ได้ชำระเงินกับโรงแรมคุณไปเรียบร้อยแล้ว ควรจะจัดการตามมาตรฐานของโรงแรมทันที ไม่ต้องร้อนตัวพูดทำนองปัดความรับผิดชอบก่อนจะทำอะไรทั้งปวง...
ณ จุดจุดนี้ ก็ควรปรับปรุงนิดนึงนะครับ
รอไม่นานคุณผู้จัดการฝรั่งก็เข้ามาแจ้งข้อผิดพลาด ซึ่งเป็นไปตามที่บอกไว้ข้างต้น คุณผู้จัดการฝรั่งยกมือไหว้ขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ แต่มีข่าวร้ายคือ ห้องที่เราได้จองไว้เต็มแล้ว แต่เขาจะอัพเกรดให้เป็น 2 Bedroom Panoramic Ocean View Villa แทน ซึ่งจริงๆเราไม่ได้ต้องการวิลล่าใหญ่ขนาดนั้นหรอก เรามายด์เรื่องวิวมากกว่า คุณผู้จัดการรับประกันว่า ไม่ต้องห่วง ห้องนี้วิวสวยแน่นอน แต่ต้องรอเตรียมห้องหน่อยนะ
เราก็ โอเคเลย เดี๋ยวออกไปร่อนรอก่อน ถ้าห้องเรียบร้อยแล้ว ให้โทรศัพท์ตามไปที่เบอร์ทีเราทิ้งไว้กับพนักงานหญิงไทยเมื่อครู่ เธอก็รับปากว่าจะติดต่อไปทันทีที่ห้องเสร็จ
ร่อนแล้วร่อนเล่า ร่อนไปไกล โรงแรมก็ยังไม่ติดต่อมา เราเลยกลับมาซะเอง นั่งชมบรรยากาศยามเย็นไปเรื่อยเปื่อย โรงแรมนี้ตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันตกของเกาะสมุยครับ ทำให้ได้บรรยากาศพระอาทิตย์ตกดินเต็มๆ
มองไปที่ส่วนของ Sky Bar มุมที่เห็นนี้ ถ้าได้จิบค็อกเทลชมท้องฟ้าและผืนน้ำไกลสุดลูกหูลูกตา จะสุขใจแค่ไหนนะ
กลับมาที่วิลล่าที่ได้ใหม่ครับ คุณเจ้าหน้าที่ฝรั่งหนุ่ม 2 คน อาสาพาไปเปิดห้องใหม่ให้ ทั้งสองทำหน้าที่ได้อย่างมีอัธยาศัยไมตรีมากครับ ชุดเครื่องเสียง Bose ที่เสียก็จัดการซ่อมให้ตรงนั้น รวมถึงการยิ้มแย้มแจ่มใสดูไม่ชักสีหน้าแม้แต่นิด จนรู้สึกว่าเราคนไทยถูกเจ้าหน้าที่คนไทยด้วยกันเอง บริการได้ไม่รู้สึกเป็นมิตรเท่าฝรั่งเลย
ที่วิลล่าสองห้องนอนนี้กว้างมาก ยอมรับเลยว่าร้อง ว้าว (ออกมาเลย) เดี๋ยวจะพาชมรอบๆนะครับ
วิลล่านี้ชั้นบนเป็นห้องรับแขกและรับประทานอาหารครับ มีเครื่องใช้ไม้สอยครบครัน ที่ชอบคือโต๊ะรับประทานอาหาร 6 ที่นั่ง
ส่วนของที่เอกเขนกชมโทรทัศน์ ก็มีวิวชั้นยอดอยู่ด้านหลังครับ
ส่วนของบาร์ก็ครบครันเช่นกัน Snack ใช้ของ Dean and Deluca ส่วนชากาแฟหลากรสที่แถมให้ใช้ของ TWG และ MAISON RICHARD FONDÉE EN 1892 DOSE D'EXPRESS ขอบอกว่าเปรมมาก ณ จุดนี้ ^^ แก้วไวน์แดง ขาว ฟอง วิสกี้ ให้มาสองชุดไม่ขาดครับ
ตามมาชมวิวกันบ้างครับ
ระเบียงชั้นบนของวิลล่าจะเปิดกว้างแบบนี้ เห็นหลังคา กับต้นมะพร้าวแซมๆบ้าง แต่ด้วยระเบียงที่กว้างและยาวมาก ทำให้มีมุมให้มองทะเลได้ไม่รู้เบื่อเลย
ภาพวิวที่ห้องครับ ถ่ายจากเวลาต่างๆกัน ช่วงปลายกันยายน ฟ้าฉ่ำฝนได้มุมมองที่สวยไปอีกแบบ มองไกลๆเห็นสะพานเดินเรือและเกาะสี่เกาะห้านั้นด้วย เดี๋ยววันรุ่งขึ้นจะพาเดินไปครับ
กลับมาที่ตัวบ้าน ลงบันไดกลางมาที่ส่วนของห้องนอนบ้าง มีทั้งห้องนอนเตียงเดี่ยว และเตียงคู่ครับ แต่เรามาแค่สองคนจึงขอปิดห้องเตียงคู่ไว้ เพราะมันเกินความจำเป็นไปหน่อย ปลายเตียงมีหน้าต่างให้ตื่นขึ้นมาชมวิวตอนเช้าได้เลยนะครับ
สักพัก พนักงานก็เข้ามาทำเตียงให้ครับ ตุ๊กตาลิงที่เห็น 350 บาทนี้บริจาคให้กับบ้านเด็กออทิสติกของเกาะสมุยครับ(วันกลับแอบลืมหยิบ) และที่เก๋ไก๋คือเมนูหมอน อยากได้หมอนแบบไหนก็เลือกได้เลยครับ(ซึ่งเราก็ใช้โอกาสนี้เลือกในคืนที่สอง) ดูเตียงสิ น่านอนไหม ^^
ห้องอาบน้ำครับ มีทุกอย่างครบครัน ผลิตภัณฑ์ต่างๆใช้ของ HARNN ทั้งหมด ^^ กลิ่นที่ได้จะสดชื่นและธรรมชาติอย่างมาก
แม้ว่าอ่างจะไม่ได้เห็นวิวอะไรเหมือนที่ตั้งใจไว้ แต่ ณ จุดจุดนี้ ก็ไม่อะไรแล้วล่ะครับ สบายยยยยย 555
รุ่งเช้าตื่นมารับประทานอาหารที่ห้องอาหาร Amber ครับ ซึ่งจะต้องอยู่ใต้ชั้น Lobby ลงมาหนึ่งชั้น วันที่ไป แขกส่วนใหญ่เป็นคนจีนครับ ส่วนใหญ่มาเป็นคู่ๆก็เรียบร้อยดี มีบ้างที่เป็นครอบครัวจะเสียงดังหน่อย
ไลน์อาหารมีให้เลือกมากมายทั้งไทย สากล และญี่ปุ่น ซุ้มเมนูไข่ตามสั่งก็มีครับ ก็เลยนึกลองของ Egg Benedict พ่อครัวก็นิ่งไปครู่หนึ่ง ไม่ช้านานก็จัดให้ได้ครับ เยี่ยมจริงๆขอชม ที่ชอบอีกประการคือ บาร์ผลไม้ ทั้งน้ำผลไม้คั้นสดๆ มะพร้าวเป็นลูกๆ(คนจีนคนฝรั่งชอบมากกกก) น้ำแร่ซ่า เป็นต้น ชาที่ห้องอาหารนี้ใช้ของ Ronnefeldt ครับ
มาดูส่วนของสระน้ำกันบ้าง ว่ากันว่าที่นี่มีสระทั้งหมด 7 สี 7 สระ แต่ตามไปเก็บไม่หมด ^^ ชมสระที่เด่นที่สุดไปก่อนครับ กับ Infinity Edge Pool
พามาชมสะพานเดินเรือกันครับ ภาพนี้ถ่ายไว้ตอนโพล้เพล้(ภาพแต่ละเซตไม่เรียงช่วงเวลากันนะครับ)
ช่วงกลางวันน้ำจะใสแจ๋ว มีเรือของทางโรงแรมบริการด้วย ทั้งรับส่งไปเที่ยวเกาะใกล้ๆ(ในราคาหูฉี่^^) กับรับส่งสนามบินทางน้ำด้วยนะครับ