ตอนนี้เดินทางมาถึงไทยได้ 1 สัปดาห์แล้ว เพิ่งมีเวลามาเขียนค่ะ เป็นคนหนึ่งที่เคยเข้ามาหาความรู้และข้อมูลในห้องชานเรือนบ่อย ๆ ช่วงท้อง พอมีโอกาสก็อยากแชร์บ้าง เผื่อเป็นประโยชน์กับคุณแม่ท่านอื่นที่กำลังจะเดินทางกับลูกสองคน ก่อนเดินทางเราก็เสริทอ่านโพสเก่า ๆ ของคุณแม่หลายคนที่มาโพสเล่าสู่กันฟังไว้ซึ่งมีประโยชน์มาก ๆ ส่วนเรื่องการเดินทางของเราก็ไม่มีอะไรเลยหวือหวาน่าตื่นเต้นเลยค่ะ และเราคงไม่แยกเป็นข้อ ๆ นะคะ แต่ก็จะเล่าไปตามที่อยากเล่า
เราต่อเครื่อง 3 ลำจากเมืองนีซประเทศฝรั่งเศสถึงเชียงราย ก่อนเดินทางเราไม่ได้กังวลหรือเครียดอะไรเพราะเป็นคนที่ชิวและชินกับการเดินทาง แต่สิ่งที่แอบกังวลนิดหน่อยคือเรื่องเหนื่อย กลัวไม่ไหวและเป็นลมไปเสียก่อน 555 แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดี การเดินทางราบรื่นและไม่มีปัญหาอะไรเลย ลูกก็ให้ความร่วมมือตลอดการเดินทาง จากนีซมากรุงเทพฯไม่มีไฟล์ทตรง เลยเลือกเดินทางกับเอมิเรตส์ เดินทาง 6 ชม. ไปพักเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ แล้วต่ออีก 6 ชม. ไปสุวรรณภูมิ และต่อเครื่องอีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งกับการบินไทยถึงเชียงราย
เลือกเที่ยวบินรอบบ่ายเพราะลูกจะได้นอนกลางวันบนเครื่อง พอต่อลำที่สองก็จะเป็นกลางคืนเผื่อน้องจะหลับตลอดทาง พยายามหาเที่ยวบินช่วงเวลานอนลูกตอนกลางคืนแล้วแต่ไม่ลงตัว วันที่เดินทางลูกอายุ 10 เดือน 3 วัน น้ำหนัก 10 กก. สูง 75 ซม. ไม่ได้เอารถเข็นไปด้วยเพราะยุ่งยาก อีกอย่างสายการบินมีบริการรถเข็นให้ใช้ฟรีช่วงพักที่สนามบินนานาชาติดูไบ อีกทั้งลูกเราชอบนั่งบนเป้อุ้ม จะสะพายหน้า หลัง ข้าง ฮีชอบหมด สะดวกแม่ด้วย ก็กระเตงกันขึ้นเครื่องกับเป้อุ้มไปเลย สัมภาระตอนขึ้นเครื่องก็ไม่มีอะไรเยอะ แค่กระเป๋าเดินทางเด็ก 1 ใบ ใส่ของเล่นของใช้จำเป็นลูก(น้ำดื่ม ผ้าอ้อม ของกิน ฯลฯ) น้ำนมนั้นก็ไร้ปัญหาเพราะเข้าเต้านมแม่ล้วน แล้วก็มีกระเป๋าแม่สะพายข้างใบเล็ก ๆ อีก 1 ใบ ลูกอยู่บนเป้อุ้ม แล้วก็ลากกระเป๋าเดินทางเด็กกระเตงกันไป แค่นี้ก็พร้อมออกเดินทาง
ชุดแต่งกายในการเดินทางก็เลือกเอาที่มันสบายที่สุด ให้ฉี่ง่ายถอดไว เราก็ใส่เลกกิ้ง รองเท้าก็ไม่มีส้น เอาที่มันสวมใส่สบายเดินคล่อง เสื้อก็เลือกที่เปิดอกให้ลูกเข้าเต้าง่าย ๆ จากด้านบน จะได้ไม่ต้องถลกด้านล่างขึ้น ลูกเราก็ให้ใส่เลกกิ้งไม่ได้ใส่บอดี้เพราะน้องขี้ร้อน บนเครื่องก็ไม่ได้หนาวอะไรเลย อีกอย่างเวลาอึจะได้ตรวจเช็คง่าย แต่โชคดีหน่อยที่ลูกอึเป็นเวลาคือเช้ากับบ่าย ดังนั้นตลอดการเดินทางน้องเลยมีแค่ฉี่เพียงอย่างเดียว มาอึอีกทีก็ตอนถึงไทยแล้ว ไม่งั้นยุ่งยากน่าดูเพราะลูกไม่ชอบให้เปลี่ยนเพิสในห้องน้ำบนเครื่องเลย ที่มันแคบ แถมยังน้องหันข้างเปลี่ยนด้วย
ลูกเราเป็นเด็กเลี้ยงง่ายและไม่งอแงค่ะ ตลอดการเดินทางน้องไม่ร้องไห้เลย ยิ้มแย้มดีดดิ้นมองนู่นนี่นั่นปกติ ไม่มีกรี๊ดหรือวีนแตก เราแทบไม่ได้อุ้มเดินบนเครื่องเลย ช่วงเครื่องขึ้นเราก็ให้จุ๊บเต้า ช่วงบินปกติน้องก็ไม่มีอาการปวดหูหรือหงุดหงิดอะไร ขึ้นเครื่องลำแรกน้องนอน 2 ชม. จอดเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ 3 ชม. น้องไม่นอน เราก็เข็นรถไปรอบ ๆ ดูของซื้อของอะไรไป พอนั่งจนเบื่อก็ใส่เป้อุ้ม เวลามันจะผ่านไปเร็วมาก ขึ้นเครื่องลำที่ 2 น้องนอน 4 ชม. เอมิเรตส์ให้นอนใน bassinet seat ได้ถึง 11 กก. เราเลยได้พักดูหนังช่วงน้องนอนในตะกร้า จะหลับก็หลับไม่ลง กลัวลูกตื่น กลัวลูกตกตะกร้า แต่จะยุ่งย่างหน่อยช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวน ก็จำเป็นต้องอุ้มลงมาทั้งหลับมาวางตัก แล้วพอผ่านช่วงนี้ไปถึงจะเอากลับไปใส่ตะกร้านอนใหม่ได้ ลำสุดท้ายต่อมาเชียงรายน้องหลับไปตั้งแต่ยังไม่ take off ไปตื่นเอาตอนถึงปลายทางแล้วตอนเราอุ้มใส่เป้จะลงเครื่อง อันนี้เราก็ไม่ได้สะกิดให้ตื่นมาจุ๊บเต้าเลยช่วงเครื่องทะยานขึ้นเพราะเห็นว่าน้องหลับสนิทดี
ช่วงนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น เราจะรู้อยู่แล้วว่าเครื่องจากยุโรปมาจะไม่ค่อยเต็มลำ ที่นั่งเราก็จะเลือกออนไลน์ไว้ก่อน เอาตรงที่นั่งที่มันมี bassinet seat และใกล้ห้องน้ำ พอไปโหลดกระเป๋าก็ถามเขาอีกทีว่าคนที่นั่งข้าง ๆ เป็นผู้หญิงหรือเปล่า ขอผู้หญิงเพราะเข้าเต้าจะได้สะดวกใจ เรื่องเช็คอินออนไลน์ไม่จำเป็นอย่าเพิ่งก็ได้ตามความคิดเห็นของเรานะ เพราะเดี๋ยวมันอาจจะเปลี่ยนที่ไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้วก็เห็นเขาเปลี่ยนกันอยู่ก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ
เล่าปสก.นั่งเครื่องจากยุโรปมาไทยกับลูกชายวัย 10 เดือน
เราต่อเครื่อง 3 ลำจากเมืองนีซประเทศฝรั่งเศสถึงเชียงราย ก่อนเดินทางเราไม่ได้กังวลหรือเครียดอะไรเพราะเป็นคนที่ชิวและชินกับการเดินทาง แต่สิ่งที่แอบกังวลนิดหน่อยคือเรื่องเหนื่อย กลัวไม่ไหวและเป็นลมไปเสียก่อน 555 แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ผ่านพ้นไปด้วยดี การเดินทางราบรื่นและไม่มีปัญหาอะไรเลย ลูกก็ให้ความร่วมมือตลอดการเดินทาง จากนีซมากรุงเทพฯไม่มีไฟล์ทตรง เลยเลือกเดินทางกับเอมิเรตส์ เดินทาง 6 ชม. ไปพักเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ แล้วต่ออีก 6 ชม. ไปสุวรรณภูมิ และต่อเครื่องอีกหนึ่งชั่วโมงครึ่งกับการบินไทยถึงเชียงราย
เลือกเที่ยวบินรอบบ่ายเพราะลูกจะได้นอนกลางวันบนเครื่อง พอต่อลำที่สองก็จะเป็นกลางคืนเผื่อน้องจะหลับตลอดทาง พยายามหาเที่ยวบินช่วงเวลานอนลูกตอนกลางคืนแล้วแต่ไม่ลงตัว วันที่เดินทางลูกอายุ 10 เดือน 3 วัน น้ำหนัก 10 กก. สูง 75 ซม. ไม่ได้เอารถเข็นไปด้วยเพราะยุ่งยาก อีกอย่างสายการบินมีบริการรถเข็นให้ใช้ฟรีช่วงพักที่สนามบินนานาชาติดูไบ อีกทั้งลูกเราชอบนั่งบนเป้อุ้ม จะสะพายหน้า หลัง ข้าง ฮีชอบหมด สะดวกแม่ด้วย ก็กระเตงกันขึ้นเครื่องกับเป้อุ้มไปเลย สัมภาระตอนขึ้นเครื่องก็ไม่มีอะไรเยอะ แค่กระเป๋าเดินทางเด็ก 1 ใบ ใส่ของเล่นของใช้จำเป็นลูก(น้ำดื่ม ผ้าอ้อม ของกิน ฯลฯ) น้ำนมนั้นก็ไร้ปัญหาเพราะเข้าเต้านมแม่ล้วน แล้วก็มีกระเป๋าแม่สะพายข้างใบเล็ก ๆ อีก 1 ใบ ลูกอยู่บนเป้อุ้ม แล้วก็ลากกระเป๋าเดินทางเด็กกระเตงกันไป แค่นี้ก็พร้อมออกเดินทาง
ชุดแต่งกายในการเดินทางก็เลือกเอาที่มันสบายที่สุด ให้ฉี่ง่ายถอดไว เราก็ใส่เลกกิ้ง รองเท้าก็ไม่มีส้น เอาที่มันสวมใส่สบายเดินคล่อง เสื้อก็เลือกที่เปิดอกให้ลูกเข้าเต้าง่าย ๆ จากด้านบน จะได้ไม่ต้องถลกด้านล่างขึ้น ลูกเราก็ให้ใส่เลกกิ้งไม่ได้ใส่บอดี้เพราะน้องขี้ร้อน บนเครื่องก็ไม่ได้หนาวอะไรเลย อีกอย่างเวลาอึจะได้ตรวจเช็คง่าย แต่โชคดีหน่อยที่ลูกอึเป็นเวลาคือเช้ากับบ่าย ดังนั้นตลอดการเดินทางน้องเลยมีแค่ฉี่เพียงอย่างเดียว มาอึอีกทีก็ตอนถึงไทยแล้ว ไม่งั้นยุ่งยากน่าดูเพราะลูกไม่ชอบให้เปลี่ยนเพิสในห้องน้ำบนเครื่องเลย ที่มันแคบ แถมยังน้องหันข้างเปลี่ยนด้วย
ลูกเราเป็นเด็กเลี้ยงง่ายและไม่งอแงค่ะ ตลอดการเดินทางน้องไม่ร้องไห้เลย ยิ้มแย้มดีดดิ้นมองนู่นนี่นั่นปกติ ไม่มีกรี๊ดหรือวีนแตก เราแทบไม่ได้อุ้มเดินบนเครื่องเลย ช่วงเครื่องขึ้นเราก็ให้จุ๊บเต้า ช่วงบินปกติน้องก็ไม่มีอาการปวดหูหรือหงุดหงิดอะไร ขึ้นเครื่องลำแรกน้องนอน 2 ชม. จอดเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ 3 ชม. น้องไม่นอน เราก็เข็นรถไปรอบ ๆ ดูของซื้อของอะไรไป พอนั่งจนเบื่อก็ใส่เป้อุ้ม เวลามันจะผ่านไปเร็วมาก ขึ้นเครื่องลำที่ 2 น้องนอน 4 ชม. เอมิเรตส์ให้นอนใน bassinet seat ได้ถึง 11 กก. เราเลยได้พักดูหนังช่วงน้องนอนในตะกร้า จะหลับก็หลับไม่ลง กลัวลูกตื่น กลัวลูกตกตะกร้า แต่จะยุ่งย่างหน่อยช่วงที่สภาพอากาศแปรปรวน ก็จำเป็นต้องอุ้มลงมาทั้งหลับมาวางตัก แล้วพอผ่านช่วงนี้ไปถึงจะเอากลับไปใส่ตะกร้านอนใหม่ได้ ลำสุดท้ายต่อมาเชียงรายน้องหลับไปตั้งแต่ยังไม่ take off ไปตื่นเอาตอนถึงปลายทางแล้วตอนเราอุ้มใส่เป้จะลงเครื่อง อันนี้เราก็ไม่ได้สะกิดให้ตื่นมาจุ๊บเต้าเลยช่วงเครื่องทะยานขึ้นเพราะเห็นว่าน้องหลับสนิทดี
ช่วงนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น เราจะรู้อยู่แล้วว่าเครื่องจากยุโรปมาจะไม่ค่อยเต็มลำ ที่นั่งเราก็จะเลือกออนไลน์ไว้ก่อน เอาตรงที่นั่งที่มันมี bassinet seat และใกล้ห้องน้ำ พอไปโหลดกระเป๋าก็ถามเขาอีกทีว่าคนที่นั่งข้าง ๆ เป็นผู้หญิงหรือเปล่า ขอผู้หญิงเพราะเข้าเต้าจะได้สะดวกใจ เรื่องเช็คอินออนไลน์ไม่จำเป็นอย่าเพิ่งก็ได้ตามความคิดเห็นของเรานะ เพราะเดี๋ยวมันอาจจะเปลี่ยนที่ไม่ได้ แต่จริง ๆ แล้วก็เห็นเขาเปลี่ยนกันอยู่ก็ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ