เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพื่อนพุทธศาสนิกชน สมาชิกชมรมมุสลิมเพื่อสันติภาพไม่นิยมความรุนแรง ได้มีโอกาศเดินทางเข้าไปยังประเทศพม่า ซึ่งกำลังมีข้อพิพาท ระหว่างชนต่างศรัทธากัน เธอ ผู้นี้ได้เอามาเล่าให้เพื่อนๆฟังกันในบอร์ดของชมรมฯ โดยมีเรื่องราวดังต่อไปนี้คือ
มีเรื่องมาเล่าสู่กันอ่าน เมื่อวานตอนข้ามไปเมียวดี พี่เขยให้ลูกน้องขับรถพาไปเพราะกลัวเราหลง และตัวด๋าเองก็พูดภาษาของเขาไม่ได้ พอดีเจอคนมุสลิมพม่าครอบครัวหนึ่ง สามคนพ่อแม่กะลูกสาวตัวแดงๆก็เลยรับขึ้นรถไปด้วย เพราะสงสารเด็ก
ตัวภรรยาพูดไทยเก่งมาก พูดเพราะด้วย เขาเล่าให้เราฟังว่า สามีเขาเป็นครูสอนศาสนาที่เขากะเร็กเลยเมียวดีไปหน่อย เขาอยากจะขอร้องเราให้ไปส่งถึงที่ได้ไหม เพราะเขากลัว ตอนนี้มุสลิมในพม่าถูกรุกรานมากจากกลุ่มของพระวีรธุ เขากลัวเดินทางไปถึงบ้านช้าและไม่ปลอดภัย ลูกก็ยังเล็ก
ด๊ะด๋าเลยสั่งให้คนขับรถแวะเติมน้ำมันและซื้อน้ำดื่มเพิ่มเติม คนขับรถเขาเลยบอกด๊ะด๋าว่า ถ้ามัมม่าจะไปเขากะเร็ก มัมม่าต้องไปบอกนายเซนตู (ลูกเขย)ของมัมม่าก่อน ต้องเอาทหารไปด้วย ไม่งั้นจะไม่ปลอดภัย พอไปถึงบ้านลูกเขย เล่าให้ลูกเขยฟัง
เซนเลยรับอาสาไปกับมามาเอง ระหว่างที่นั่งรถไปเซนกะวินเพียวสองคนผัวเมียก็นั่งคุยไปกับครูสอนศาสนาในรถ
ด๋าสังเกตุว่าลูกเขยเครียดมาก แต่ก็ยังไม่ได้ถาม อะไร แต่ที่ผิดปกติคือ ลูกน้องของเซนที่ตามไปมีการเตรียมพร้อมมากขึ้น เปลียนไปขับรถเอง และยื่นปืนพกให้คนขับไว้
เมื่อเราไปถึงบ้านครูสอนศาสนา พอรถจอดได้เรื่องเลย พวกชาวบ้านแห่มาล้อมรถไว้ เพราะเห็นที่คอเราห้อยพระ
ครูสอนศาสนากับเมียรีบเข้ามาขวางไว้ พร้อมกับตะโกนบอกชาวบ้านว่า
"ด๊ะด๋าเป็นคนไทย" ที่ช่วยมาส่งพวกเขาให้ถึงบ้าน ชาวบ้านจึงสงบ
ด๋าเลยให้เซนกะทหารกะเหรี่ยงสอบถามชาวบ้านว่าเกิดอะไรขึ้น ผลสรุปก็คือ
มีคนเสี้ยม ให้พุทธในพม่ารบกับมุสลิม ด๋าฟังแล้วปวดใจ ขากลับก่อนที่จะขึ้นรถ พ่อแก่แม่แก่ในหมู่บ้าน มาดุอาให้ก่อนขึ้นรถ
เซนแปลให้ฟังด๋าถึงกับน้ำตาไหล เขาบอกว่าไทยพุทธน่ารักมาก ไม่ทำร้ายมุสลิม แถมยังช่วยเหลือตลอดมา
แต่ที่นี่ (พม่า) พวกเขาต้องระวังตัว ไม่เหมือนฝั่งไทย ที่สามารถทำนะมาซบูชาอัลลอฮได้อย่างเสรี เขาอยากเป็นคนไทยเหลือเกิน อิจฉาคนไทยมากๆ
ด๋านั่งร้องไห้มาตลอดทาง ยิ่งฟังลูกเขยกะลูกสาวเล่ายิ่งช้ำใจ คนเราหนอ อยากได้ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ความน่ารักของ พุทธศาสนิกชน กับ มุสลิม
มีเรื่องมาเล่าสู่กันอ่าน เมื่อวานตอนข้ามไปเมียวดี พี่เขยให้ลูกน้องขับรถพาไปเพราะกลัวเราหลง และตัวด๋าเองก็พูดภาษาของเขาไม่ได้ พอดีเจอคนมุสลิมพม่าครอบครัวหนึ่ง สามคนพ่อแม่กะลูกสาวตัวแดงๆก็เลยรับขึ้นรถไปด้วย เพราะสงสารเด็ก
ตัวภรรยาพูดไทยเก่งมาก พูดเพราะด้วย เขาเล่าให้เราฟังว่า สามีเขาเป็นครูสอนศาสนาที่เขากะเร็กเลยเมียวดีไปหน่อย เขาอยากจะขอร้องเราให้ไปส่งถึงที่ได้ไหม เพราะเขากลัว ตอนนี้มุสลิมในพม่าถูกรุกรานมากจากกลุ่มของพระวีรธุ เขากลัวเดินทางไปถึงบ้านช้าและไม่ปลอดภัย ลูกก็ยังเล็ก
ด๊ะด๋าเลยสั่งให้คนขับรถแวะเติมน้ำมันและซื้อน้ำดื่มเพิ่มเติม คนขับรถเขาเลยบอกด๊ะด๋าว่า ถ้ามัมม่าจะไปเขากะเร็ก มัมม่าต้องไปบอกนายเซนตู (ลูกเขย)ของมัมม่าก่อน ต้องเอาทหารไปด้วย ไม่งั้นจะไม่ปลอดภัย พอไปถึงบ้านลูกเขย เล่าให้ลูกเขยฟัง
เซนเลยรับอาสาไปกับมามาเอง ระหว่างที่นั่งรถไปเซนกะวินเพียวสองคนผัวเมียก็นั่งคุยไปกับครูสอนศาสนาในรถ
ด๋าสังเกตุว่าลูกเขยเครียดมาก แต่ก็ยังไม่ได้ถาม อะไร แต่ที่ผิดปกติคือ ลูกน้องของเซนที่ตามไปมีการเตรียมพร้อมมากขึ้น เปลียนไปขับรถเอง และยื่นปืนพกให้คนขับไว้
เมื่อเราไปถึงบ้านครูสอนศาสนา พอรถจอดได้เรื่องเลย พวกชาวบ้านแห่มาล้อมรถไว้ เพราะเห็นที่คอเราห้อยพระ
ครูสอนศาสนากับเมียรีบเข้ามาขวางไว้ พร้อมกับตะโกนบอกชาวบ้านว่า
"ด๊ะด๋าเป็นคนไทย" ที่ช่วยมาส่งพวกเขาให้ถึงบ้าน ชาวบ้านจึงสงบ
ด๋าเลยให้เซนกะทหารกะเหรี่ยงสอบถามชาวบ้านว่าเกิดอะไรขึ้น ผลสรุปก็คือ
มีคนเสี้ยม ให้พุทธในพม่ารบกับมุสลิม ด๋าฟังแล้วปวดใจ ขากลับก่อนที่จะขึ้นรถ พ่อแก่แม่แก่ในหมู่บ้าน มาดุอาให้ก่อนขึ้นรถ
เซนแปลให้ฟังด๋าถึงกับน้ำตาไหล เขาบอกว่าไทยพุทธน่ารักมาก ไม่ทำร้ายมุสลิม แถมยังช่วยเหลือตลอดมา
แต่ที่นี่ (พม่า) พวกเขาต้องระวังตัว ไม่เหมือนฝั่งไทย ที่สามารถทำนะมาซบูชาอัลลอฮได้อย่างเสรี เขาอยากเป็นคนไทยเหลือเกิน อิจฉาคนไทยมากๆ
ด๋านั่งร้องไห้มาตลอดทาง ยิ่งฟังลูกเขยกะลูกสาวเล่ายิ่งช้ำใจ คนเราหนอ อยากได้ไม่มีที่สิ้นสุดจริงๆ
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
พี่จิม
ประธานชมรมมุสลิมเพื่อสันติภาพไม่นิยมความรุนแรง
https://www.facebook.com/groups/492824780735210/