ขอแชร์ประสบการณ์กับ Galaxy note 2 หน่อยนะคะ เมื่อปีที่แล้วช่วงประมาณเดือนธันวาคม ได้ตัดสินใจซื้อ Samsung galaxy note 2 มาใช้ค่ะ ก่อนที่จะซื้อก็ลังเลมาตลอดว่าจะซื้อ Samsung หรือไอโฟนดี
ซึ่งได้หาข้อมูล แล้วก็สอบถามจากคนที่ใช้ ก็พบว่าSamsung ใช้งานง่ายกว่า หน้าจอใหญ่ เหมาะจะเอาไว้ดูหนัง เล่นเกมส์ แล้วก็ยังมีปากกาเอาไว้จดโน้ตตอนที่เรียนได้อีก เลยตัดสินใจที่จะซื้อ Samsung
หลังจากนั้นก็ใช้งานได้ดีมาโดยตลอด อาจจะมีเวลาที่เครื่องค้างบ้างนิดหน่อย ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากมาย
แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันที่ 2 ตค 56 พบว่าเครื่องมีปัญหามาก คือ ค้างบ่อยกว่าปกติมาก ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ต้องถอดแบตออกอย่างเดียว บางครั้งเครื่องก็ดับไปเลย วันนั้นทั้งวันไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้เลย คนรู้จักก็แนะนำว่าให้ลองกด factory reset แล้วดูว่าหายค้างมั้ย ซึ่งปรากฎว่า เครื่องก็ยังมีอาการเดิมๆ แต่จะค้างน้อยลงเท่านั้น
วันรุ่งขึ้นเลยตัดสินใจนำเครื่องไปเข้าศูนย์ที่รัตนาธิเบศร์ แล้วก็บอกอาการไปว่าเครื่องมีอาการค้าง เครื่องแฮงค์ แล้วก็มีชาร์จแบตไม่เข้าด้วย(เอาที่ชาร์จไปให้ทางศูนย์ดูด้วยเหมือนกันค่ะ) เมื่อศูนย์รับทราบอาการ ก็ได้มีการถามว่าจะลองอัพซอฟแวร์ไปใช้ก่อนมั้ยใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ซึ่งเราคิดว่าไหนๆก็ต้องการรู้อาการที่แน่นอนแล้ว ก็เลยบอกปฏิเสธไปว่าไม่อัพค่ะ ทางศูนย์เลยบอกว่างั้นน้องต้องทิ้งเครื่องไว้กับทางศูนย์นะคะ จะให้ช่างเช็คอาการให้ว่าเครื่องเป็นอะไรกันแน่ ใช้เวลาประมาณ 3-5วัน เมื่อเครื่องซ่อมเสร็จแล้วจะมีพนักงานโทรไปแจ้งนะคะ ซึ่งเราคิดว่าใช้เวลาซ่อมไม่นานมาก เลยตัดสินใจฝากเครื่องไว้กับทางศูนย์
หลังจากนั้นก็รอโทรศัพท์จากศูนย์ว่าจะโทรมาเมื่อไหร่ ปรากฎว่าวันนี้(8 ตค 56)ก็ยังไม่มีพนักงานติดต่อกลับมา เลยตัดสินใจโทรไปทางศูนย์บริการที่รัตนาธิเบศร์ว่าเครื่องเราซ่อมเสร็จรึยัง อาการเป็นยังไงบ้าง ทางพนักงานก็รับโทรศัพท์แล้วก็ถามหมายเลขที่รับซ่อม ถามชื่อ หลังจากนั้นก็บอกว่าเครื่องซ่อมเสร็จแล้วค่ะ มารับได้เลย เราเลยถามว่าเครื่องเป็นอะไร ซ่อมตรงไหนบ้าง ทางพนักงานบอกว่าเราเปลี่ยนหน้าจอให้ใหม่ค่ะ ซึ่งทางเราก็เลยถามกลับไปว่าทำไมถึงต้องเปลี่ยน มันมีอาการอะไรหรอคะ ทางพนักงานก็บอกว่าไม่ทราบว่าเพราะอะไร ให้มาถามช่างตอนที่มารับโทรศัพท์คืนนะคะ ซึ่งเราก็เข้าใจว่าพนักงานอาจจะไม่รู้ว่าเป็นอะไร เราเลยตัดสินใจไปรับเครื่องช่วงเที่ยงของวันนี้เลย
พอไปถึงศูนย์บริการ พนง. ก็รับไปซ่อมของเราไป แล้วก็หาโทรศัพท์ของเราให้ แต่เหมือนว่าพนง. หาไม่เจอ แล้วก็หันกลับมาถามเราว่าทางพนง. บอกว่าเครื่องซ่อมเสร็จแล้วหรอคะ เราก็ตอบไปว่าค่ะ ซ่อมเสร็จแล้ว ได้โทรมาสอบถามกับพนง.แล้วค่ะ พนง.คนนี้ก็เลยเดินไปหาใหม่ แล้วก็ไปหาในห้องที่ช่างทำงานกัน หลังจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ของเราออกมา แล้วก็บอกว่าช่างมีการเปลี่ยนขั้วสำหรับชาร์จแบตให้นะคะ เราก็เอาเครื่องมาลองใช้ดู เล่นไปเล่นมา ก็งงว่าทำไมพวกแอพต่างๆที่เราลงไว้ยังอยู่ครบถ้วน ก็เลยสอบถามกับนางพนง. ว่าช่างไม่ได้ซ่อมอะไรกับบอร์ดหรือพวกโปรแกรมเลยหรอ(เราเคยลองเซิชหาเคสคล้ายๆกัน ส่วนมากทางศูนย์มักจะเปลี่ยนบอร์ดให้เลย) พนง.ก็ตอบมาว่าเปล่าค่ะ เราก็เริ่มงง เพราะคิดว่าเครื่องน่าจะมีปัญหาเครื่องมันแฮงค์ ค้าง แล้วก็ดับเอง เราก็ถามไปว่าทำไมถึงให้ทิ้งเครื่องไว้นานขนาดนี้ ทางพนง.เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวจะให้ช่างอัพซอฟแวร์ให้นะคะ(อัพซอฟแวร์อันนี้คิดว่าน่าจะทำก่อนที่ลูกค้าจะมารับเครื่องนะคะ แถมพนง.ในสายก็ยังบอกซ่อมเสร็จแล้วอีก)
พออัพเสร็จพนง.ก็เอาเครื่องมาคืนให้ ก็เลยถามพนง.ต่อว่าได้มีการเปลี่ยนหน้าจอให้ด้วยมั้ย พนง.บอกว่าไม่ได้เปลี่ยนค่ะ เราเลยงงว่าตกลงแล้วได้เปลี่ยนอะไรไปบ้าง ตอนโทรคุยกันบอกอย่างนึง พอมาหน้างานบอกอีกอย่าง พนง.คนนี้เลยบอกว่างั้นพนง.ที่บอกทางโทรศัพท์คงบอกผิดละมั้งคะ คือตรงนี่ไม่เข้าใจว่าเวลาได้รับเคสซ่อมจะไม่มีการบันทึกอาการเสียไว้เป็นโน๊ทสั้นๆหรอคะ ถึงได้เข้าใจผิดกันขนาดนี้ ตรงนี้เราค่อนข้างผิดหวังกับการให้บริการของทางศูนย์พอสมควรนะคะ เครื่องซ่อมเสร็จก็ควรจะโทรมาแจ้งลูกค้าบ้าง แถมการสื่อสารกันระหว่างพนง.ก็ดูจะงงๆ และที่สำคัญคือ เมื่อเอากลับมาใช้ อาการเดิมก็เริ่มออกลาย ค้างบ้าง รีเซทตัวเองบ้าง ชาร์จไม่เข้าบ้าง(ทั้งๆที่ทางศูนย์บอกว่าที่ชาร์จแบตเราไม่ได้เสีย แถมเปลี่ยนขั้วสำหรับชาร์จแบตให้ด้วย)
(ตกลงแล้วได้ดูอาการเครื่องจริงๆรึปล่าวเนี่ย)
เราเลยอยากจะถามเพื่อนๆว่าเคยเจอแบบนี้มั่งมั้ยคะ แล้วถ้าเครื่องของเรามีอาการค้างอีก เราก็ต้องย้อนกลับไปที่ศูนย์เหมือนเดิม เราคิดว่ามันเสียเวลามาก ทางศูนย์ก็ต้องรับเคสซ่อมเพิ่ม ส่วนเราก็กังวลว่าตกลงแล้วเครื่องเป็นอะไรกันแน่
ขอบคุณที่รับฟังค่ะ อาจจะยาวไปหน่อย ทั้งนี้ไม่ได้จะมาดิสเครดิตอะไรกันนะคะ เพียงแค่อยากจะแชร์ประสบการณ์ที่พบเจอกับตัวเอง และอยากให้ทางศูนย์นำข้อดีข้อเสียของตัวเองไปปรับปรุงนะคะ
ปล. ถ้าใครพอจะมีคำแนะนำหรือการแก้ไขเบื้องต้น ก็ขอรบกวนให้คำแนะนำทีนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ
ขอแชร์ประสบการณ์กับ Galaxy note2 ค่ะ
ซึ่งได้หาข้อมูล แล้วก็สอบถามจากคนที่ใช้ ก็พบว่าSamsung ใช้งานง่ายกว่า หน้าจอใหญ่ เหมาะจะเอาไว้ดูหนัง เล่นเกมส์ แล้วก็ยังมีปากกาเอาไว้จดโน้ตตอนที่เรียนได้อีก เลยตัดสินใจที่จะซื้อ Samsung
หลังจากนั้นก็ใช้งานได้ดีมาโดยตลอด อาจจะมีเวลาที่เครื่องค้างบ้างนิดหน่อย ก็ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรมากมาย
แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว วันที่ 2 ตค 56 พบว่าเครื่องมีปัญหามาก คือ ค้างบ่อยกว่าปกติมาก ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ต้องถอดแบตออกอย่างเดียว บางครั้งเครื่องก็ดับไปเลย วันนั้นทั้งวันไม่สามารถใช้โทรศัพท์ได้เลย คนรู้จักก็แนะนำว่าให้ลองกด factory reset แล้วดูว่าหายค้างมั้ย ซึ่งปรากฎว่า เครื่องก็ยังมีอาการเดิมๆ แต่จะค้างน้อยลงเท่านั้น
วันรุ่งขึ้นเลยตัดสินใจนำเครื่องไปเข้าศูนย์ที่รัตนาธิเบศร์ แล้วก็บอกอาการไปว่าเครื่องมีอาการค้าง เครื่องแฮงค์ แล้วก็มีชาร์จแบตไม่เข้าด้วย(เอาที่ชาร์จไปให้ทางศูนย์ดูด้วยเหมือนกันค่ะ) เมื่อศูนย์รับทราบอาการ ก็ได้มีการถามว่าจะลองอัพซอฟแวร์ไปใช้ก่อนมั้ยใช้เวลาประมาณ 1 ชม. ซึ่งเราคิดว่าไหนๆก็ต้องการรู้อาการที่แน่นอนแล้ว ก็เลยบอกปฏิเสธไปว่าไม่อัพค่ะ ทางศูนย์เลยบอกว่างั้นน้องต้องทิ้งเครื่องไว้กับทางศูนย์นะคะ จะให้ช่างเช็คอาการให้ว่าเครื่องเป็นอะไรกันแน่ ใช้เวลาประมาณ 3-5วัน เมื่อเครื่องซ่อมเสร็จแล้วจะมีพนักงานโทรไปแจ้งนะคะ ซึ่งเราคิดว่าใช้เวลาซ่อมไม่นานมาก เลยตัดสินใจฝากเครื่องไว้กับทางศูนย์
หลังจากนั้นก็รอโทรศัพท์จากศูนย์ว่าจะโทรมาเมื่อไหร่ ปรากฎว่าวันนี้(8 ตค 56)ก็ยังไม่มีพนักงานติดต่อกลับมา เลยตัดสินใจโทรไปทางศูนย์บริการที่รัตนาธิเบศร์ว่าเครื่องเราซ่อมเสร็จรึยัง อาการเป็นยังไงบ้าง ทางพนักงานก็รับโทรศัพท์แล้วก็ถามหมายเลขที่รับซ่อม ถามชื่อ หลังจากนั้นก็บอกว่าเครื่องซ่อมเสร็จแล้วค่ะ มารับได้เลย เราเลยถามว่าเครื่องเป็นอะไร ซ่อมตรงไหนบ้าง ทางพนักงานบอกว่าเราเปลี่ยนหน้าจอให้ใหม่ค่ะ ซึ่งทางเราก็เลยถามกลับไปว่าทำไมถึงต้องเปลี่ยน มันมีอาการอะไรหรอคะ ทางพนักงานก็บอกว่าไม่ทราบว่าเพราะอะไร ให้มาถามช่างตอนที่มารับโทรศัพท์คืนนะคะ ซึ่งเราก็เข้าใจว่าพนักงานอาจจะไม่รู้ว่าเป็นอะไร เราเลยตัดสินใจไปรับเครื่องช่วงเที่ยงของวันนี้เลย
พอไปถึงศูนย์บริการ พนง. ก็รับไปซ่อมของเราไป แล้วก็หาโทรศัพท์ของเราให้ แต่เหมือนว่าพนง. หาไม่เจอ แล้วก็หันกลับมาถามเราว่าทางพนง. บอกว่าเครื่องซ่อมเสร็จแล้วหรอคะ เราก็ตอบไปว่าค่ะ ซ่อมเสร็จแล้ว ได้โทรมาสอบถามกับพนง.แล้วค่ะ พนง.คนนี้ก็เลยเดินไปหาใหม่ แล้วก็ไปหาในห้องที่ช่างทำงานกัน หลังจากนั้นก็หยิบโทรศัพท์ของเราออกมา แล้วก็บอกว่าช่างมีการเปลี่ยนขั้วสำหรับชาร์จแบตให้นะคะ เราก็เอาเครื่องมาลองใช้ดู เล่นไปเล่นมา ก็งงว่าทำไมพวกแอพต่างๆที่เราลงไว้ยังอยู่ครบถ้วน ก็เลยสอบถามกับนางพนง. ว่าช่างไม่ได้ซ่อมอะไรกับบอร์ดหรือพวกโปรแกรมเลยหรอ(เราเคยลองเซิชหาเคสคล้ายๆกัน ส่วนมากทางศูนย์มักจะเปลี่ยนบอร์ดให้เลย) พนง.ก็ตอบมาว่าเปล่าค่ะ เราก็เริ่มงง เพราะคิดว่าเครื่องน่าจะมีปัญหาเครื่องมันแฮงค์ ค้าง แล้วก็ดับเอง เราก็ถามไปว่าทำไมถึงให้ทิ้งเครื่องไว้นานขนาดนี้ ทางพนง.เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวจะให้ช่างอัพซอฟแวร์ให้นะคะ(อัพซอฟแวร์อันนี้คิดว่าน่าจะทำก่อนที่ลูกค้าจะมารับเครื่องนะคะ แถมพนง.ในสายก็ยังบอกซ่อมเสร็จแล้วอีก)
พออัพเสร็จพนง.ก็เอาเครื่องมาคืนให้ ก็เลยถามพนง.ต่อว่าได้มีการเปลี่ยนหน้าจอให้ด้วยมั้ย พนง.บอกว่าไม่ได้เปลี่ยนค่ะ เราเลยงงว่าตกลงแล้วได้เปลี่ยนอะไรไปบ้าง ตอนโทรคุยกันบอกอย่างนึง พอมาหน้างานบอกอีกอย่าง พนง.คนนี้เลยบอกว่างั้นพนง.ที่บอกทางโทรศัพท์คงบอกผิดละมั้งคะ คือตรงนี่ไม่เข้าใจว่าเวลาได้รับเคสซ่อมจะไม่มีการบันทึกอาการเสียไว้เป็นโน๊ทสั้นๆหรอคะ ถึงได้เข้าใจผิดกันขนาดนี้ ตรงนี้เราค่อนข้างผิดหวังกับการให้บริการของทางศูนย์พอสมควรนะคะ เครื่องซ่อมเสร็จก็ควรจะโทรมาแจ้งลูกค้าบ้าง แถมการสื่อสารกันระหว่างพนง.ก็ดูจะงงๆ และที่สำคัญคือ เมื่อเอากลับมาใช้ อาการเดิมก็เริ่มออกลาย ค้างบ้าง รีเซทตัวเองบ้าง ชาร์จไม่เข้าบ้าง(ทั้งๆที่ทางศูนย์บอกว่าที่ชาร์จแบตเราไม่ได้เสีย แถมเปลี่ยนขั้วสำหรับชาร์จแบตให้ด้วย)
(ตกลงแล้วได้ดูอาการเครื่องจริงๆรึปล่าวเนี่ย)
เราเลยอยากจะถามเพื่อนๆว่าเคยเจอแบบนี้มั่งมั้ยคะ แล้วถ้าเครื่องของเรามีอาการค้างอีก เราก็ต้องย้อนกลับไปที่ศูนย์เหมือนเดิม เราคิดว่ามันเสียเวลามาก ทางศูนย์ก็ต้องรับเคสซ่อมเพิ่ม ส่วนเราก็กังวลว่าตกลงแล้วเครื่องเป็นอะไรกันแน่
ขอบคุณที่รับฟังค่ะ อาจจะยาวไปหน่อย ทั้งนี้ไม่ได้จะมาดิสเครดิตอะไรกันนะคะ เพียงแค่อยากจะแชร์ประสบการณ์ที่พบเจอกับตัวเอง และอยากให้ทางศูนย์นำข้อดีข้อเสียของตัวเองไปปรับปรุงนะคะ
ปล. ถ้าใครพอจะมีคำแนะนำหรือการแก้ไขเบื้องต้น ก็ขอรบกวนให้คำแนะนำทีนะคะ
ขอบคุณมากค่ะ