จากที่ผมเคยได้ตั้งกระูทู้เกี่ยวกับเรื่องเจ้าของเต้นท์รถยึดเงินมัดจำไม่ครบตามกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/30437548
ไปจนถึงเรื่องราวที่คิดว่าจบแล้วตามกระทู้นี้
http://pantip.com/topic/30545594
ปรากฎว่าวันนี้ยังไม่จบครับ และได้รับรู้ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้เพิ่มเติมให้ได้เป็นความรู้เพิ่มอีกด้วย
วันนี้เจ้าของเต้นท์รถคู่กรณีโทรหาผมแต่ไม่ติดก็เลยโทรหาแฟนผมแทน สรุปใจความสำคัญได้คือเค้าอยากให้ผมถอนแจ้งความ โดยจะขับรถมารับผมที่บ้านเพื่อไปบก.ปคบ.กับเค้า ผมก็เลยโทรปรึกษากับตำรวจเจ้าของคดีก่อน ซึ่งตำรวจแจ้งว่า ผมไม่จำเป็นต้องไปพบกับตำรวจเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมตามที่เจ้าของเต้นท์รถต้องการ ตำรวจอธิบายไว้แบบนี้ครับ
- เรื่องคดีแพ่งที่ผมได้เงินคืนไม่ครบในตอนแรกนั้น คดีจบไปแล้วเพราะเจ้าของเต้นท์คืนเงินส่วนที่เหลือให้ในภายหลังแจ้งความ
- เรื่องคดีอาญา ตำรวจแจ้งว่าไม่สามารถยอมความตามที่เจ้าของเต้นท์รถต้องการได้ เพราะตอนแรกตำรวจเจรจากับเค้าให้ไปเสียค่าปรับกับสคบ.เป็นเงิน 200,000 บาท (ผิดในฐานะนิติบุคคลปรับ 100,000 บาท ,ผิดในฐานะบุคคลธรรมดาปรับ 100,000 บาท ไม่มีโทษจำคุก) แต่ในตอนนั้นเจ้าของเต้นท์รถไม่ยอมจ่าย ท้าให้ตำรวจส่งฟ้องไปเลย ตำรวจก็เลยจะส่งฟ้อง แต่พอเจ้าของเต้นท์รถได้รับแจ้งจากตำรวจว่าคดีนี้เป็นคดีอาญา ถ้าขึ้นศาลจะต้องมีโทษจำคุกด้วย 1 ปี (รอลงอาญา 2 ปี) จากที่เคยลำพองตัวว่าข้าแน่ ข้าเจ๋ง กลายเป็นตอนนี้โทรมาอ้อนวอน ขอร้องแฟนผม เค้าบอกว่าเค้าไม่อยากให้มีโทษทางคดีอาญา เพราะเจ้าของเต้นท์รถกำลังจะไปเป็นที่ปรึกษารมต. ถ้าทางพรรครู้ว่าเค้ามีโทษในคดีอาญาก็จะโดนตัดสิทธิ์การเป็นที่ปรึกษาทันที
ผมกับแฟนก็สงสารเค้านะ แต่จากการที่แฟนผมได้พูดคุยกับเจ้าของเต้นท์รถในครั้งนี้ทำให้ได้รู้ว่าเค้าไม่เคยสำนึกเลยว่าสิ่งที่เค้าทำมันผิด เค้าพร่ำพูดแต่ว่าธุรกิจรถมือสองใครๆก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น แฟนผมก็เลยจัดการอบรมสั่งสอนไปชุดใหญ่ว่าไม่จริงที่จะมีแต่คนแบบคุณ เพราะเราได้รถใหม่มาจากเต้นท์รถอีกที่นึงโดยที่เค้าทำธุรกิจแบบซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา และการที่เจ้าของเต้นท์รถแห่งนี้ต้องเสียเงิน , เสียเวลา กับเรื่องทั้งหมดก็เพราะมีเจตนาที่ไม่ซื่อสัตย์เองตั้งแต่แรก
อยากฝากถึงผู้บริโภคที่ถูกผู้ประกอบการต่างๆเอาเปรียบนะครับว่า อย่าเพิ่งหมดศรัทธากับหน่วยงานของรัฐอย่างสคบ. และอย่าเพิ่งหมดศรัทธากับการทำงานของตำรวจ เพราะอย่างน้อยผมคนนึงที่ยังโชคดีที่ได้เจอตำรวจดีๆ (ถึงจะเคยเจอตำรวจไม่ดีมาบ้าง) คอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคตัวเล็กๆอย่างผม
ปล.ขอบพระคุณตำรวจบก.ปคบ.จริงๆครับที่ซื่อสัตย์ในหน้าที่ ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ถึงแม้คดีของผมจะเป็นคดีเล็กๆที่มีมูลค่าไม่กี่พันบาท คุณพี่ตำรวจก็ยังเต็มใจบริการดำเนินการเอาผิดกับเจ้าของเต้นท์รถให้ผมจนถึงที่สุด
เรื่องเต้นท์รถมือสองที่คิดว่าจบแล้ว....แต่ยังไม่จบ
ไปจนถึงเรื่องราวที่คิดว่าจบแล้วตามกระทู้นี้ http://pantip.com/topic/30545594
ปรากฎว่าวันนี้ยังไม่จบครับ และได้รับรู้ความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีนี้เพิ่มเติมให้ได้เป็นความรู้เพิ่มอีกด้วย
วันนี้เจ้าของเต้นท์รถคู่กรณีโทรหาผมแต่ไม่ติดก็เลยโทรหาแฟนผมแทน สรุปใจความสำคัญได้คือเค้าอยากให้ผมถอนแจ้งความ โดยจะขับรถมารับผมที่บ้านเพื่อไปบก.ปคบ.กับเค้า ผมก็เลยโทรปรึกษากับตำรวจเจ้าของคดีก่อน ซึ่งตำรวจแจ้งว่า ผมไม่จำเป็นต้องไปพบกับตำรวจเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมตามที่เจ้าของเต้นท์รถต้องการ ตำรวจอธิบายไว้แบบนี้ครับ
- เรื่องคดีแพ่งที่ผมได้เงินคืนไม่ครบในตอนแรกนั้น คดีจบไปแล้วเพราะเจ้าของเต้นท์คืนเงินส่วนที่เหลือให้ในภายหลังแจ้งความ
- เรื่องคดีอาญา ตำรวจแจ้งว่าไม่สามารถยอมความตามที่เจ้าของเต้นท์รถต้องการได้ เพราะตอนแรกตำรวจเจรจากับเค้าให้ไปเสียค่าปรับกับสคบ.เป็นเงิน 200,000 บาท (ผิดในฐานะนิติบุคคลปรับ 100,000 บาท ,ผิดในฐานะบุคคลธรรมดาปรับ 100,000 บาท ไม่มีโทษจำคุก) แต่ในตอนนั้นเจ้าของเต้นท์รถไม่ยอมจ่าย ท้าให้ตำรวจส่งฟ้องไปเลย ตำรวจก็เลยจะส่งฟ้อง แต่พอเจ้าของเต้นท์รถได้รับแจ้งจากตำรวจว่าคดีนี้เป็นคดีอาญา ถ้าขึ้นศาลจะต้องมีโทษจำคุกด้วย 1 ปี (รอลงอาญา 2 ปี) จากที่เคยลำพองตัวว่าข้าแน่ ข้าเจ๋ง กลายเป็นตอนนี้โทรมาอ้อนวอน ขอร้องแฟนผม เค้าบอกว่าเค้าไม่อยากให้มีโทษทางคดีอาญา เพราะเจ้าของเต้นท์รถกำลังจะไปเป็นที่ปรึกษารมต. ถ้าทางพรรครู้ว่าเค้ามีโทษในคดีอาญาก็จะโดนตัดสิทธิ์การเป็นที่ปรึกษาทันที
ผมกับแฟนก็สงสารเค้านะ แต่จากการที่แฟนผมได้พูดคุยกับเจ้าของเต้นท์รถในครั้งนี้ทำให้ได้รู้ว่าเค้าไม่เคยสำนึกเลยว่าสิ่งที่เค้าทำมันผิด เค้าพร่ำพูดแต่ว่าธุรกิจรถมือสองใครๆก็ทำแบบนี้กันทั้งนั้น แฟนผมก็เลยจัดการอบรมสั่งสอนไปชุดใหญ่ว่าไม่จริงที่จะมีแต่คนแบบคุณ เพราะเราได้รถใหม่มาจากเต้นท์รถอีกที่นึงโดยที่เค้าทำธุรกิจแบบซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา และการที่เจ้าของเต้นท์รถแห่งนี้ต้องเสียเงิน , เสียเวลา กับเรื่องทั้งหมดก็เพราะมีเจตนาที่ไม่ซื่อสัตย์เองตั้งแต่แรก
อยากฝากถึงผู้บริโภคที่ถูกผู้ประกอบการต่างๆเอาเปรียบนะครับว่า อย่าเพิ่งหมดศรัทธากับหน่วยงานของรัฐอย่างสคบ. และอย่าเพิ่งหมดศรัทธากับการทำงานของตำรวจ เพราะอย่างน้อยผมคนนึงที่ยังโชคดีที่ได้เจอตำรวจดีๆ (ถึงจะเคยเจอตำรวจไม่ดีมาบ้าง) คอยช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้กับผู้บริโภคตัวเล็กๆอย่างผม
ปล.ขอบพระคุณตำรวจบก.ปคบ.จริงๆครับที่ซื่อสัตย์ในหน้าที่ ทำงานอย่างตรงไปตรงมา ถึงแม้คดีของผมจะเป็นคดีเล็กๆที่มีมูลค่าไม่กี่พันบาท คุณพี่ตำรวจก็ยังเต็มใจบริการดำเนินการเอาผิดกับเจ้าของเต้นท์รถให้ผมจนถึงที่สุด