สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เพิ่งมีโอกาสม่อ่าน หวังว่า จขกท คง/ด้มาเจอนะครับ
1. ทำงาน max ที่ 1000 ชั่วโมงจริง แต่นั่นคือบนฟ้านะครับ รวมเวลาบนพื้นตั้งแต่ report จนกลับบ้านมันบวกไปอีกหลาย รวมๆแล้วไม่ได้สบายนักครับ คุณรับได้มั๊ย กับชีวิตที่ไม่เหมือนชาวบ้าน ตีสี่ขับรถกลับบ้าน มานอน เที่ยงคืนขับรถออกไปบิน วันอังคารตอนสิบโมงคุณไปดูหนัง โรงโล่งสุดๆ แต่วันปีใหม่ คุณอยู่บนฟ้าตอนเค้าเคาดาวน์กัน ถ้ายังไม่มีครอบครัว รักเพื่อนฝูงเป็นอาจิน คุณจะได้เจอเพื่อนน้อยลงแน่นอน ถ้ามีครอบครัวแล้ว ลูกๆคุณจะมึนกับการคงอยู่ของคุณ เพราะถ้าอยากรู้ว่าพรุ่งนี้จุเจอพ่อมั๊ย ต้องไปเปิดดูตาราง
2. เรื่องรายได้ ตอนเป็นโคมันไม่ต่างกันมาก ตกอยู่ที่แสนกลางถึงปลาย มาหนักตรงเสียภาษี ตกเดือนละสองหมื่นอัพ สายการบินบางที่จ่ายให้ หรือบางที่เม็ดให้ ก็ช่วยได้เยอะ. หลังจากเป็นโคไพร มาได้สักหกเจ็ดปี อัพเกรดเป็นกัปตัน เงินก็จะโดดมาอยู่ สองปลายๆไปถึงสามกลางๆจากนั้นก็ขึ้นตามปี แล้วแต่ที่ ปีละห้าพันบ้างหมื่นนึงบ้าง ันนี้คร่าวๆสุดๆ ภาษีก็กระฉูดตามไปเป็นห้าถึงหกหมื่น
3. เส้นทาง career path นะครับ เริ่มจากการเป็นโคไพร คุณก็บินนั่งทางขวาไป อย่างต่ำ ต้องมี หกปีแน่ๆครับ ไม่เร็วกว่านั้น คุณก็จะมีสิทธิ์นะครับ ที่จะได้รับการสอบเพื่อ upgrade เป็นกัปตัน ผู้รับผิดชอบเครื่องลำละพันล้านกับผูโดยอีกนับร้อยชีวิต เป็นงานไม่เหนื่อย แต่พกพามาด้วนความเครียดในระดับร้ายแรงครับ ต่อจากนั้น ชีวิตก็จะเริ่มสบาย ไม่มีใครมากดดัน เงินก็ชักจะเยอะแยะ ต่อมาคุณก้เริ่มขยับตัว ไปเป็นครูการบิน ซึ่งก็มีมากมายหลายสิ่ง เริ่มไปตั้งแต่เแ็นครูกราวน์ หมายถึงสอนแต่ชั้นเรียนในห้องเรียน สอนทฤษฎีให้กับนักบินใหม่ๆหน้าละอ่อนที่เพิ่งเข้ามา ต่อไปก็เป็นครูซิม กดซิม เครื่องบินจำลอง ซึ่งนักบินทุกคนทั้งโลก ต้องเข้ารับการรีเฟรชทุก 6 เดือน เพื่อทบทวนขั้นตอนปฏิบัติในยามฉุกเฉิน
เป็นครูซิมไปจนแก่กล้า ก็ได้เลื่อนขั้น ไปเป็นครูไฟลท์ หมายความว่านั่งฝึกกับศิษย์มือใหม่บนเครื่องจริง ไฟลท์จริง ไฟลท์ที่คุณๆนั่งจ่ายตังค์กันนี่แหละ บางไฟลท์มันเป็นไฟลท์ฝึกนักบินใหม่ ฉะนั้น ก็อย่าแปลกใจถ้าจะมีอะไรรุนแรงกันไปบ้าง 5555
สุดท้าย คุณก็กลายเป็นครูอาวุโส กลายไปเป็น checker ผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบ ให้คุณให้โทษ กับนักบิน ที่บินปกติอยู่ได้ ห้ามบินได้ ถ้าเข้าไปนั่งตรวจสอบแล้วบินไม่ได้ตามมาตรฐาน
รวมๆหมดก็แก่แล้วครับฉะนั้น เส้นทาง ผมว่าทางไปมันมากกว่าอาชีพอื่นๆเสียอีก
ไปกดซิม ได้เพิ่มอีกวันละหมื่นนะครับ ไปฝึกศิษย์มีได่อีกชั่วโมงละ 400
รวมๆมา ถ้าคุณเป็นครูไฟลท์ เดือนๆนึง รวมกับบินปกติด้วย มีถึง 4 แสน แต่หักภาษีไปก็ประมาณ 7-8 หมื่นน่ะครับ ได้จริงๆเท่าไหร่ ก็ลองหักลบเอาเอง
สุดท้าย ที่จะพูดถึง ก็คือสังคม คุณบินกับคนแทบไม่ซ้ำหน้า เดือนนึงบินไม่เกิน 15 วัน แต่นักบินมีเป็นร้อยครับ การจัดบิน จัดด้วยคอม แรนด้อมมา บางที กว่าจะเจอกันอีกที ก็อาจผ่านไปเป็นหลายๆเดือน คุณสมบัติเด่นของคุณจึงกลายเป็น จิ้งจกครับ ทนได้ทุกสภาวะ นั่งอยู่กับใครสักคนได้นานนับหลายๆชั่วโมง แม้ไม่ชอบหน้ามัน และห้ามลุกไปไหนด้วย คุยกับคนได้ทุกประเภท ทนการพูดจาแย่ได้ ทนกับการที่คุณเถียงกัน เสร็จ ก็ยังต้องนั่งกับคนๆนั้นไปได้อีกแปดชั่วโมง เป็นต้น
ส่วนเพื่อนๆ ก็จะเริ่มมลายสลายไป กว่าจาไปรวมกับเค้าได้ เค้านัดกันไปอาทิตย์ละครั้ง คุณก็อาจได้ไปในครั้งที่ห้าเข้าไปนู่น
กินเหล่าเมายาก็ลำบาก เพราะวันรุ่งขึ้นไปจะบินก็กินไม่ได้เลย
สุดท้าย ที่จะมาแชร์ให้ฟัง ก็คือ มันเป็นงานความรับผิดชอบสูง ไม่ได้สนุก เพราะถ้าจะเอาสนุก ก็ไปฝึกบินผลาดแผลง บินแอร์ไลน์เค้าจ้างคุณมานั่งดูคอมพิวเตอร์บิน และคอยควบคุมให้เึรื่องมันบินอยู่ในกฎหมายและข้อบังคับของแต่ละน่านฟ้า ซึ่งยุ่บยั่บน่าเบื่ิอมากมาย กฎระเบียบมีมากจนคุณต้องเรียนตลอดเวลา คุณมีคลาสเรียนเกือบทุกเดือน เรียนนั่นนี่โน่นนี่เยอะแยะไปหมด หนังสือมีให้อ่านระดับที่เท็กซ์บุ๊คตอนเรียนแคลคูลัสกลายเป็นบางๆเลย
ถ้าอ่านมาถึงนี่ แล้วยังคิดว่า ใช่ ก็เชิญมาร่วมวงครับ
สายการบินยังคงขาดแคลนนักบินอีกมาก ถ้าสอบผ่าน เค้ารับหมดอยู่แล้ว
1. ทำงาน max ที่ 1000 ชั่วโมงจริง แต่นั่นคือบนฟ้านะครับ รวมเวลาบนพื้นตั้งแต่ report จนกลับบ้านมันบวกไปอีกหลาย รวมๆแล้วไม่ได้สบายนักครับ คุณรับได้มั๊ย กับชีวิตที่ไม่เหมือนชาวบ้าน ตีสี่ขับรถกลับบ้าน มานอน เที่ยงคืนขับรถออกไปบิน วันอังคารตอนสิบโมงคุณไปดูหนัง โรงโล่งสุดๆ แต่วันปีใหม่ คุณอยู่บนฟ้าตอนเค้าเคาดาวน์กัน ถ้ายังไม่มีครอบครัว รักเพื่อนฝูงเป็นอาจิน คุณจะได้เจอเพื่อนน้อยลงแน่นอน ถ้ามีครอบครัวแล้ว ลูกๆคุณจะมึนกับการคงอยู่ของคุณ เพราะถ้าอยากรู้ว่าพรุ่งนี้จุเจอพ่อมั๊ย ต้องไปเปิดดูตาราง
2. เรื่องรายได้ ตอนเป็นโคมันไม่ต่างกันมาก ตกอยู่ที่แสนกลางถึงปลาย มาหนักตรงเสียภาษี ตกเดือนละสองหมื่นอัพ สายการบินบางที่จ่ายให้ หรือบางที่เม็ดให้ ก็ช่วยได้เยอะ. หลังจากเป็นโคไพร มาได้สักหกเจ็ดปี อัพเกรดเป็นกัปตัน เงินก็จะโดดมาอยู่ สองปลายๆไปถึงสามกลางๆจากนั้นก็ขึ้นตามปี แล้วแต่ที่ ปีละห้าพันบ้างหมื่นนึงบ้าง ันนี้คร่าวๆสุดๆ ภาษีก็กระฉูดตามไปเป็นห้าถึงหกหมื่น
3. เส้นทาง career path นะครับ เริ่มจากการเป็นโคไพร คุณก็บินนั่งทางขวาไป อย่างต่ำ ต้องมี หกปีแน่ๆครับ ไม่เร็วกว่านั้น คุณก็จะมีสิทธิ์นะครับ ที่จะได้รับการสอบเพื่อ upgrade เป็นกัปตัน ผู้รับผิดชอบเครื่องลำละพันล้านกับผูโดยอีกนับร้อยชีวิต เป็นงานไม่เหนื่อย แต่พกพามาด้วนความเครียดในระดับร้ายแรงครับ ต่อจากนั้น ชีวิตก็จะเริ่มสบาย ไม่มีใครมากดดัน เงินก็ชักจะเยอะแยะ ต่อมาคุณก้เริ่มขยับตัว ไปเป็นครูการบิน ซึ่งก็มีมากมายหลายสิ่ง เริ่มไปตั้งแต่เแ็นครูกราวน์ หมายถึงสอนแต่ชั้นเรียนในห้องเรียน สอนทฤษฎีให้กับนักบินใหม่ๆหน้าละอ่อนที่เพิ่งเข้ามา ต่อไปก็เป็นครูซิม กดซิม เครื่องบินจำลอง ซึ่งนักบินทุกคนทั้งโลก ต้องเข้ารับการรีเฟรชทุก 6 เดือน เพื่อทบทวนขั้นตอนปฏิบัติในยามฉุกเฉิน
เป็นครูซิมไปจนแก่กล้า ก็ได้เลื่อนขั้น ไปเป็นครูไฟลท์ หมายความว่านั่งฝึกกับศิษย์มือใหม่บนเครื่องจริง ไฟลท์จริง ไฟลท์ที่คุณๆนั่งจ่ายตังค์กันนี่แหละ บางไฟลท์มันเป็นไฟลท์ฝึกนักบินใหม่ ฉะนั้น ก็อย่าแปลกใจถ้าจะมีอะไรรุนแรงกันไปบ้าง 5555
สุดท้าย คุณก็กลายเป็นครูอาวุโส กลายไปเป็น checker ผู้ทำหน้าที่ตรวจสอบ ให้คุณให้โทษ กับนักบิน ที่บินปกติอยู่ได้ ห้ามบินได้ ถ้าเข้าไปนั่งตรวจสอบแล้วบินไม่ได้ตามมาตรฐาน
รวมๆหมดก็แก่แล้วครับฉะนั้น เส้นทาง ผมว่าทางไปมันมากกว่าอาชีพอื่นๆเสียอีก
ไปกดซิม ได้เพิ่มอีกวันละหมื่นนะครับ ไปฝึกศิษย์มีได่อีกชั่วโมงละ 400
รวมๆมา ถ้าคุณเป็นครูไฟลท์ เดือนๆนึง รวมกับบินปกติด้วย มีถึง 4 แสน แต่หักภาษีไปก็ประมาณ 7-8 หมื่นน่ะครับ ได้จริงๆเท่าไหร่ ก็ลองหักลบเอาเอง
สุดท้าย ที่จะพูดถึง ก็คือสังคม คุณบินกับคนแทบไม่ซ้ำหน้า เดือนนึงบินไม่เกิน 15 วัน แต่นักบินมีเป็นร้อยครับ การจัดบิน จัดด้วยคอม แรนด้อมมา บางที กว่าจะเจอกันอีกที ก็อาจผ่านไปเป็นหลายๆเดือน คุณสมบัติเด่นของคุณจึงกลายเป็น จิ้งจกครับ ทนได้ทุกสภาวะ นั่งอยู่กับใครสักคนได้นานนับหลายๆชั่วโมง แม้ไม่ชอบหน้ามัน และห้ามลุกไปไหนด้วย คุยกับคนได้ทุกประเภท ทนการพูดจาแย่ได้ ทนกับการที่คุณเถียงกัน เสร็จ ก็ยังต้องนั่งกับคนๆนั้นไปได้อีกแปดชั่วโมง เป็นต้น
ส่วนเพื่อนๆ ก็จะเริ่มมลายสลายไป กว่าจาไปรวมกับเค้าได้ เค้านัดกันไปอาทิตย์ละครั้ง คุณก็อาจได้ไปในครั้งที่ห้าเข้าไปนู่น
กินเหล่าเมายาก็ลำบาก เพราะวันรุ่งขึ้นไปจะบินก็กินไม่ได้เลย
สุดท้าย ที่จะมาแชร์ให้ฟัง ก็คือ มันเป็นงานความรับผิดชอบสูง ไม่ได้สนุก เพราะถ้าจะเอาสนุก ก็ไปฝึกบินผลาดแผลง บินแอร์ไลน์เค้าจ้างคุณมานั่งดูคอมพิวเตอร์บิน และคอยควบคุมให้เึรื่องมันบินอยู่ในกฎหมายและข้อบังคับของแต่ละน่านฟ้า ซึ่งยุ่บยั่บน่าเบื่ิอมากมาย กฎระเบียบมีมากจนคุณต้องเรียนตลอดเวลา คุณมีคลาสเรียนเกือบทุกเดือน เรียนนั่นนี่โน่นนี่เยอะแยะไปหมด หนังสือมีให้อ่านระดับที่เท็กซ์บุ๊คตอนเรียนแคลคูลัสกลายเป็นบางๆเลย
ถ้าอ่านมาถึงนี่ แล้วยังคิดว่า ใช่ ก็เชิญมาร่วมวงครับ
สายการบินยังคงขาดแคลนนักบินอีกมาก ถ้าสอบผ่าน เค้ารับหมดอยู่แล้ว
สมาชิกหมายเลข 5270649 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5701454 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 5101019 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 902161 ถูกใจ, 2click2008 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 4874559 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 738367 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 3661901 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 1815149 ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2233768 ถูกใจรวมถึงอีก 13 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
[[กระทู้พลีชีพ]] เป็นนักบินดีไหมครับ
ขออนุญาตถอด login นะครับ ยังไม่สะดวกจะเปิดเผยตัวตนครับ
เกริ่น background ตัวเองก่อนเลยว่า ตอนนี้กำลังประกอบวิชาชีพนึงอยู่ และกำลังจะไปเรียนต่อ พร้อมๆกับแอบสอบ SP(student pilot) ไปด้วยครับ
ซึ่งตอนนี้ผมยังไม่ผ่านการเป็นนักบินครบถ้วนทุกกระบวนการ แต่มาถึงรอบสุดท้ายของสายการบินนึงแล้วครับ ซึ่งถือว่า"พอมีโอกาส"จะผ่านครับ(อาจจะไม่ผ่านก็ได้นะ)
แต่ปัญหาก็คือผมไม่สามารถหารายละเอียดการทำงานและชีวิตของนักบินให้เพียงพอต่อการตัดสินใจได้เลยครับ
อ่านถึงตรงนี้หลายๆคนคงมีคำถามในใจ และถามพร้อมด่าผมในใจว่า ไม่มั่นใจแล้วเอ็งไปสอบทำมะเขือเผาอะไรฟระ ???
ดังนั้นผมขอคั่นเวลาตอบก่อนแล้วกันครับ
ขอตอบอย่างแรกเลยว่า ผมเริ่มรู้สึกเบื่อกับอาชีพที่ทำอยู่ครับ เลยคิดว่าไม่เปลี่ยนอาชีพก็คงไปเรียนต่อในสายอาชีพเดิม
แต่แน่นอนว่าถึงไม่ได้ชอบไม่ได้รักในอาชีพเดิมเท่าไหร่(พยายามปรับ attitude อยู่) แต่อาชีพเดิมที่ทำมันก็พอเลี้ยงปากเลี้ยงท้องได้อย่างไม่เคอะเขิน แถมมีเกียรติในสังคมอยู่ในระดับนึง ไม่ได้แตกต่างกับนักบินที่มีเกียรติและเงินเหมือนๆกันครับ
แถมนักบินผมจะชอบไหมก็ไม่รู้ เพราะอย่างที่บอก มันไม่มีเข้าค่ายนักบิน ไม่มีลองงานก่อน 1 ปี แต่ถ้าคุณเซ็นสัญญาคุณจะมีค่าหัวทันที 12 ล้านเบรีพร้อมกับสัญญากุ๊กกิ๊กกับแอร์ 10 ปีเต็มๆ
ถึงเวลานั้นอายุผมคง 3X กลางๆ จะกลับมาเริ่มอาชีพใหม่คงเหนื่อยไม่น้อย
ดังนั้นที่ผมอยากจะทราบจากนักบินก็คือ
1. การทำงานเป็นอย่างไรครับ เห็นว่าเต็ม max คือทำงาน 1,000 ชม/ปี หรือบ้างก็ 15-17 วัน/เดือน แล้วช่วงที่ไม่ได้ทำงาน อยู่ต่างถิ่นนานไหมครับ ได้กลับบ้านบ่อยไหม(ส่วนเรื่องทำงานไม่เป็นเวลาหรือทำงานหนักไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ไม่มีอาชีพไหนทำงานไม่เป็นเวลาและหนักเท่าอาชีพผมแล้ว)
เพราะอย่างไรผมก็อยากเจอคนที่รักหลายๆคนด้วย ถ้าไม่ต้องทำงานแต่ต้องไปอยู่ต่างแดนนานๆ ไม่เจอคนในครอบครัวบ่อยๆมันก็น่าคิดครับ
2. รายได้เป็นอย่างไรกันแน่ครับ อันนี้ผมพยายาม search หาจากอากู๋หลายที่แล้ว ขออ้างอิงจากแอร์เอเชียเลยนะครับ เพราะผมไม่ได้สอบที่อื่น
บ้างก็ว่ารวมทุกอย่างราวๆ 150k ตอนเป็นกัปตัน(co-pilot 60k)
บ้างอันบอกว่าได้ 280k ตอนเป็นกัปตัน(co-pilot 1XX k)
บ้างก็ว่า 200k นิดๆ
ใครไม่สะดวกในกระทู้อยากให้หลังไมค์มาเล่าให้ฟังครับ อยากทราบจริงๆ เพราะผมยอมรับว่าเงินเดือนมีส่วนสำคัญในการตัดสินใจครับ
ถ้าเป็นไปได้อยากทราบด้วยว่าโบนัสเนี่ยให้กันประมาณกี่เดือน
ไม่ได้โอ้อวดหรืออะไรนะครับ แต่ของผมถ้าทนเรียนต่อ 4 ปี จบออกมาเงินเดือนก็ start 200k เหมือนกัน ถ้าถึกขึ้นก็อาจจะได้เพิ่มขึ้นอีก
ดังนั้นถ้าขึ้นไปถึงกัปตัน แต่มันต่างกับอีกอาชีพนึงมากเกินไป มันก็น่าคิดล่ะครับ
3. ความก้าวหน้าทางอาชีพมันไปถึงไหนครับ มันจะน่าเบื่อไหม คือสมมติไปตันที่กัปตัน ต่อให้งานสบายรายได้เยอะ ผมว่าถึงจุดๆนึงมันก็คงน่าเบื่อหรือเปล่า(เหมือนที่ผมทำตอนนี้)
หรือมันจะยังสนุกไปได้กับการไปเที่ยวรอบโลกครับ
แล้วไต่เป็นกัปตันยากไหม คนที่ติดอยู่ที่ co-pilot ไม่ได้เป็นกัปตัน ติดเพราะอะไร(เห็นว่าแอร์เอเชียเป็นกัปตันใช้เวลาประมาณ 5-6 ปี)
4. สังคมเป็นงัยบ้างครับ อย่างอาชีพผมสังคมโดยรวมไม่ค่อยดีเลย แต่ถ้าเป็นเฉพาะบางกลุ่มอาจจะโอเคขึ้นมานิดนึง
แต่ผมว่าสังคมนักบินแมนๆ ก็น่าจะโอเคหรือเปล่าครับ
5. อยากฟังประสบการณ์อื่นๆน่ะครับ ใครมีคำเตือนอะไรหรือคำแนะนำอะไรโดยตรงกับอาชีพนี้บอกมาได้นะครับ
ไม่สะดวกหลังไมค์ได้ครับ
6. เหตุผลที่สำคัญของผมคือ ความสบาย + รายได้ + สังคมครับ ขอถกบนประเด็นนี้เป็นหลักนะครับ
ส่วนผมจะรักอาชีพนักบินไหมบอกยากครับ ผมก็ได้แต่จินตนการเองไปส่วนนึง ส่วนที่เป็นความจริงยังไม่รู้เลยครับ ถ้าจะเอาให้รู้แน่ชัดคงถึงจุดที่มันหันหลังกลับยากแล้วน่ะครับ
p.s.1 ย้ำอีกครั้งว่ายังไม่ได้นะครับ(อาจจะตกด้วยเอ้า) แต่มันถึงเวลาต้องตัดสินใจหลายๆอย่างเลยรีบออกตัวมาถามก่อน เพื่อหาข้อมูลประกอบการตัดสินใจให้ดีที่สุดครับ
p.s.2 เรื่องความหนัก ความเหนื่อย ความรับผิดชอบ ผมมั่นใจว่าอาชีพเดิมผมมีไม่น้อยกว่านักบินเหมือนกันครับ