วันนี้(7ต.ค.)นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยภายหลังการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ที่ประชุมได้มีการหยิบยกเรื่องการเลื่อนเปิดและปิดภาคเรียนของสถานศึกษาในสังกัดศธ.ตามประเทศในกลุ่มอาเซียน และมติที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย (ทปอ.) ซึ่งจะเริ่มในปีการศึกษา 2557 โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) มีความเห็นไปในทางเดียวกัน และมีแนวโน้มที่จะให้สถานศึกษาในสังกัดเปิดภาคเรียนเหมือนเดิมในช่วงวันที่ 16-17 พ.ค.ของทุกปี แม้ว่าก่อนหน้านี้ สพฐ. และ สอศ.จะมีประกาศเลื่อนเปิดภาคเรียนเป็นวันที่ 10 มิ.ย.57 แล้วก็ตาม ทั้งนี้แนวคิดที่จะให้กลับมาเปิดภาคเรียนในช่วงเวลาเดิมนั้นไม่ได้เป็นนโยบายของตน แต่เป็นเพราะผลจากการสำรวจความคิดเห็นผู้ที่เกี่ยวข้อง และผลจากการวิจัยต่างๆ ที่ผู้รับผิดชอบไปดำเนินการ ดังนั้นเพื่อให้เรื่องนี้มีข้อสรุปที่ชัดเจน ตนจะเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาหารือร่วมกันอีกครั้งในวันที่ 9 ต.ค.นี้
"ไม่ใช่ว่าเมื่อเปลี่ยนตัว รมว.ศึกษาธิการ แล้วจะมาเปลี่ยนวันเปิดเทอมกันอีก แต่เป็นเพราะผลจากการสำรวจความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในวันที่ 9 ต.ค.นี้ ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องมานำเสนอความคิดเห็นเรื่องการเลื่อนเปิดภาคเรียนอย่างเป็นระบบ และชัดเจน รวมถึงข้อดีและข้อเสียของการเลื่อนเปิดภาคเรียน เพื่อจะได้เป็นข้อยุติทั้งในการตัดสินใจ และเรื่องของเหตุผลที่จะใช้ในการตัดสินใจ โดยเมื่อได้ข้อยุติแล้วจะได้ประกาศชี้แจงให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบอย่างเป็นทางการต่อไป ทั้งนี้ที่ผ่านมาในการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. ได้มีการหารือเรื่องนี้เป็นระยะอยู่แล้ว แต่ผมต้องการให้เป็นเหตุผลร่วมกันของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และตอนนี้ต้องได้ข้อสรุปที่เป็นระบบและมีเหตุผลที่ชัดเจนได้แล้ว" นายจาตุรนต์กล่าว
วันนี้(7ต.ค.) ผศ.ดร.สุรวาท ทองบุ คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย(ส.ค.ศ.ท.) กล่าวถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) มีแนวคิดยกเลิกนโยบายการปรับวันเปิดปิดเทอมให้ตรงกับประเทศในอาเซียนว่า ตนเห็นด้วยถ้าจะมีการทบทวนนโยบายดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาการปรับวันเปิดเทอมระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จากวันที่ 16 พฤษภาคม ไปเป็นวันที่ 10 มิถุนายนนั้น ถือว่าไม่ตอบโจทย์กับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งกรณีที่จะมีการปรับหรือไม่ปรับวันเปิดเทอมควรต้องตั้งโจทย์ดูว่าจะทำเพื่ออะไร หากต้องการปรับให้สอดคล้องกับประเทศในอาเซียนเพื่อประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนนักเรียนระหว่างกันก็ควรปรับวันให้ตรงกับประเทศต่างๆ มากที่สุด
"อย่างไรก็ตามขณะนี้การเปิดเทอมของแต่ละประเทศในอาเซียนรวมถึงไทย ถึงแม้จะมีการปรับวันเปิดเทอมเป็น 10 มิถุนายน ก็ยังไม่ตรงกันสักประเทศอยู่ดี นอกจากนี้นโยบายปรับวันเปิดเทอมในช่วงวันดังกล่าวซึ่งไม่ห่างกันมากนักก็เหมือนไม่ได้เปลี่ยนอะไร รวมถึงไม่ได้สอดคล้องกับนโยบายปรับวันเปิดเทอมของระดับอุดมศึกษาด้วย ดังนั้นตนจึงเห็นด้วยหากจะยกเลิกนโยบายการปรับวันเปิดเทอมและให้ใช้กำหนดการเดิมเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อจะได้ไม่ต้องประสบกับปัญหาเรื่องสภาพอากาศร้อนในช่วงเดือนเมษายนและปัญหาน้ำท่วมที่มักเกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมด้วย"ผศ.ดร.สุรวาทกล่าว.
http://www.dailynews.co.th/
ทบทวนวันเปิดภาคเรียนเหมือนเดิม 16 พ.ค.
"ไม่ใช่ว่าเมื่อเปลี่ยนตัว รมว.ศึกษาธิการ แล้วจะมาเปลี่ยนวันเปิดเทอมกันอีก แต่เป็นเพราะผลจากการสำรวจความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งในวันที่ 9 ต.ค.นี้ ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องจะต้องมานำเสนอความคิดเห็นเรื่องการเลื่อนเปิดภาคเรียนอย่างเป็นระบบ และชัดเจน รวมถึงข้อดีและข้อเสียของการเลื่อนเปิดภาคเรียน เพื่อจะได้เป็นข้อยุติทั้งในการตัดสินใจ และเรื่องของเหตุผลที่จะใช้ในการตัดสินใจ โดยเมื่อได้ข้อยุติแล้วจะได้ประกาศชี้แจงให้ผู้ที่เกี่ยวข้องรับทราบอย่างเป็นทางการต่อไป ทั้งนี้ที่ผ่านมาในการประชุมผู้บริหารองค์กรหลักของ ศธ. ได้มีการหารือเรื่องนี้เป็นระยะอยู่แล้ว แต่ผมต้องการให้เป็นเหตุผลร่วมกันของผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด และตอนนี้ต้องได้ข้อสรุปที่เป็นระบบและมีเหตุผลที่ชัดเจนได้แล้ว" นายจาตุรนต์กล่าว
วันนี้(7ต.ค.) ผศ.ดร.สุรวาท ทองบุ คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม และประธานสภาคณบดีคณะครุศาสตร์/ศึกษาศาสตร์แห่งประเทศไทย(ส.ค.ศ.ท.) กล่าวถึงกรณีที่นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) มีแนวคิดยกเลิกนโยบายการปรับวันเปิดปิดเทอมให้ตรงกับประเทศในอาเซียนว่า ตนเห็นด้วยถ้าจะมีการทบทวนนโยบายดังกล่าว เนื่องจากที่ผ่านมาการปรับวันเปิดเทอมระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน จากวันที่ 16 พฤษภาคม ไปเป็นวันที่ 10 มิถุนายนนั้น ถือว่าไม่ตอบโจทย์กับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน ซึ่งกรณีที่จะมีการปรับหรือไม่ปรับวันเปิดเทอมควรต้องตั้งโจทย์ดูว่าจะทำเพื่ออะไร หากต้องการปรับให้สอดคล้องกับประเทศในอาเซียนเพื่อประโยชน์ในการแลกเปลี่ยนนักเรียนระหว่างกันก็ควรปรับวันให้ตรงกับประเทศต่างๆ มากที่สุด
"อย่างไรก็ตามขณะนี้การเปิดเทอมของแต่ละประเทศในอาเซียนรวมถึงไทย ถึงแม้จะมีการปรับวันเปิดเทอมเป็น 10 มิถุนายน ก็ยังไม่ตรงกันสักประเทศอยู่ดี นอกจากนี้นโยบายปรับวันเปิดเทอมในช่วงวันดังกล่าวซึ่งไม่ห่างกันมากนักก็เหมือนไม่ได้เปลี่ยนอะไร รวมถึงไม่ได้สอดคล้องกับนโยบายปรับวันเปิดเทอมของระดับอุดมศึกษาด้วย ดังนั้นตนจึงเห็นด้วยหากจะยกเลิกนโยบายการปรับวันเปิดเทอมและให้ใช้กำหนดการเดิมเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้เพื่อจะได้ไม่ต้องประสบกับปัญหาเรื่องสภาพอากาศร้อนในช่วงเดือนเมษายนและปัญหาน้ำท่วมที่มักเกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมด้วย"ผศ.ดร.สุรวาทกล่าว.
http://www.dailynews.co.th/