เราเพิ่งกลับจาก IMAX มาสด ๆ ร้อน ๆ ค่ะ พร้อมกับเปิดคอมพิวเตอร์ เพื่อที่จะบอกเล่าความรู้สึกใหม่ สด หลังจากที่ดูหนังเรื่องนี้กลับมาใหม่ ๆ ในชั่วโมงแรก
เราไม่รู้ว่าคนที่ไปดูคนอื่น ๆ คิดอย่างไร แต่กับเรา การที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจใ้ห้เราได้มากค่ะ
ิจริงอยู่ ที่ฉากในหนังเป็นอวกาศ แต่เรากลับรู้สึกว่าหลาย ๆ อย่าง เล่าเรื่องความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์และการต่อสู้
วินาทีที่คนบางคน คิดว่าจะไม่รอด ยอมถอดใจจากชีวิตแล้ว โดนมรสุมซ้ำแล้วซ้ำอีก หากมีความแข็งแกร่ง กำลังใจ หรือเรี่ยวแรงอันน้อยนิด และการดิ้นรนที่เต็มไปด้วยน้ำตา (คงจะเ้ห็นน้ำตาของนางเอกชัดเจนค่ะ ถ้าดูไอแมกซ์ ลอยมาที่หน้าเลยทีเดียว) จะทำใ้ห้ได้ชีวิตกลับคืนมา กลับมายืนได้อีกครั้ง มันก็คุ้มที่จะสู้
ถ้าเราจะเล่าทั้งหมดก็จะทำใ้ห้เสียอรรถรสของหนังไป แต่ ณ จุด ๆ หนึ่ง ที่คนเราไม่มีใคร ไม่เหลืออะไรเป็นที่พึ่ง แม้ในอวกาศที่อ้างว้าง หรือบนโลกที่แสนจะทรหดก็ตาม ณ จุดที่เราไม่ศรัทธาตัวเอง ขอใ้ห้เราศรัทธาในบางสิ่ง และใช้กำลังทั้งหมดที่มี เดินตามศรัทธานั้น
เหตุผลที่เราแทกห้องศาสนาไว้สองศาสนา ก็เพราะหากคุณได้ดูหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ ภาพไม่กี่วินาทีของ "สองสิ่งนั้น" เป็นกำลังใจได้อย่างดีเยี่ยม แต่ในที่สุดแล้ว ก็ต้องกลับมาที่ความพยายามของตัวเราเอง ในการที่จะทำอะไรใ้ห้สำเร็จ
เราบอกตามตรงว่า เราน้ำตาเอ่อ ๆ กับบางฉาก เพราะยิ่งเราดู เราก็ยิ่งคิดถึงชีวิตของคนเรา กว่าจะผ่าน จะพ้น จะ่ฝ่าฟันอะไรมาได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นในอวกาศที่เวิ้งว้าง และโดดเดี่ยว ไม่รู้จะไปทางไหน แต่แม้แต่บนโลก หลายสิ่งก็เิวิ้งว้างไม่ต่างกับอวกาศ เวิ้งว้างจนบางคนไม่รูุ้จะไปทางไหน จะทำยังไง (ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่นการหางานตอนตกงาน,การสูญเสียคนที่รัก
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้และสำหรับนางเอก ก่อนจะมาเป็นนักบินอวกาศ ชีวิตของเธอก็แทบไม่เหลืออะไร แต่เธอยังยืนหยัดเพื่อกลับมาที่โลกให้ได้) เมื่อสูญเสียทุกอย่าง จะต้องสู้เพื่ออะไร แต่ตราบใดที่เราไม่ทิ้งชีวิตของตัวเอง ไม่ยอมแพ้ แม้เมื่ออยู่ในทางตัน ก็จะมีช่องทางให้เราออกมาได้ ถ้าเราค่อย ๆ มองหาด้วยสติ ตราบใดที่ยังมีสมอง สองมือ (คงจำสิ่งที่จอร์จพูดได้นะคะ) ความศรัทธา และความพยายามให้ถึงที่สุดตามสิ่งที่ศรัทธานั้น ก็จะมีช่องทาง ใ้ห้เราเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งสิ่งนี้ เป็นสิ่งที่คนที่ยังมีลมหายใจ ยังต่อสู้อยู่เท่านั้น จึงจะไ้ด้มา
เราบอกตามตรงว่า เริ่มต้น ตัดสินใจไปดู เพราะความสวยของฉากในรูปแบบสามมิติ เราอยากเห็นโลก เราอยากเห็นน้ำทะเลจากอวกาศ อยากเห็นบ้านที่เราทุกคนอยู่ด้วยกัน ผ่านอะไรมาด้วยกัน บ้านหลังกลม ๆ หลังคาสีฟ้า แบบชัด ๆ ที่อีกไม่นาน เราก็จะต้องจากบ้านหลังนี้ไป
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ("เราทุกคนต้องตาย" คำพูดจากในหนัง) ซึ่งเป็นภาพที่หาดูที่อื่นไม่ได้ แต่สิ่งที่ได้กลับมา กลับไม่ใช่เพียงเรื่องของภาพ 3 มิติ แต่เป็นมิติของชีวิต ที่เราได้ขยายออกไปมากกว่าเดิม
หลังจากที่เราดูจนจบ เหมือนว่าหนังเรื่องนี้ เป็นธรรมะข้อหนึ่ง ที่สอนใ้ห้มนุษย์ดิ้นรน เพื่อพ้นจากความทุกข์ทรมาน ณ จุดที่ตัวเองยืนอยู่ (ศาสนาำพุทธสอนว่า บุคคลย่อมก้าวพ้นความทุกข์ได้ด้วยความเพียร ถ้ามองให้ลึกลงไปอีก บางท่านคงจำได้ว่าพระมหาชนกว่ายน้ำกลางมหาสมุทรที่ไกลสุดสายตา หลังจากที่เรือแตก คำถามคือ ท่านว่ายทำไมถึงเจ็ดวัน ทั้งที่ทุกอย่างรอบตัวเวิ้งว้าง ฝั่งไม่มี ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่น่าจะมีชีวิตรอด) แม้จะมองไม่เห็นหนทาง แต่บนยานอวกาศ ก็ยังมีสองสิ่งนั้นนำทาง (ไม่เล่านะคะ ไม่เปิดเผยเนื้อหา) หากเพื่อน ๆ ห้องศาสนาท่านใด ทั้งสองศาสนา ชาวคริสต์ และชาวพุทธ ได้ดู เชื่อว่า เมื่อเห็น "สองสิ่งนั้น" แล้ว จากภาพยนตร์ (ในฉากที่แยกกัน สองฉาก เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนา เห็นแ้ล้วอ๋อเลย) อาจจะได้กำลังใจเหมือนเราค่ะ
ใครที่ยังไม่ได้ดู ชวนไปดูกันนะคะ หนังดีมาก แต่ไม่แนะนำสองอย่างค่ะ อย่างแรก คือ หนึ่ง ไม่แนะนำให้ดูในโรงธรรมดาและสองโรงสามมิติปรกติ เพราะคุณจะไม่ได้สัมผัสความกลัวเลย หรือน้อยมาก เราแนะนำโรง IMAX เพราะภาพจาก IMAX สามมิติ จะทำใ้ห้สัมผัสได้ถึงความโดดเดี่ยว เวิ้งว้าง และยิ่งใหญ่ ของอวกาศนอกโลก ที่จะทำใ้ห้เข้าใจถึงความรู้สึกนางเอกได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ อวกาศ นอกโลก ที่ดูเหมือนว่าจะกว้างใหญ่ อิสระ แต่สำหรับคนที่หมดกำลังใจ มันคือทางตัน และบางที การเข้าใจความรู้สึกของนางเอก ก็จะทำให้เราได้มองตัวเองได้ดี เพราะเมื่อมองย้อนกลับมาที่บนโลกแล้ว เชื่อว่าคนหลาย ๆ คน เคยผ่านเรื่องแบบนางเอกมา...
....บนโลกแล้วเหมือนกัน
ปล.สำหรับชาวคริสต์และชาวพุทธห้องศาสนา ลองค้นหาภาพสองภาพนั้นกันค่ะ ในโรง IMAX (เท่านั้น)
ภาพยนตร์เรื่อง Gravity กับมุมมองทางจิตวิญญาณ
เราไม่รู้ว่าคนที่ไปดูคนอื่น ๆ คิดอย่างไร แต่กับเรา การที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ถือเป็นแรงบันดาลใจใ้ห้เราได้มากค่ะ
ิจริงอยู่ ที่ฉากในหนังเป็นอวกาศ แต่เรากลับรู้สึกว่าหลาย ๆ อย่าง เล่าเรื่องความเป็นจริงของชีวิตมนุษย์และการต่อสู้
วินาทีที่คนบางคน คิดว่าจะไม่รอด ยอมถอดใจจากชีวิตแล้ว โดนมรสุมซ้ำแล้วซ้ำอีก หากมีความแข็งแกร่ง กำลังใจ หรือเรี่ยวแรงอันน้อยนิด และการดิ้นรนที่เต็มไปด้วยน้ำตา (คงจะเ้ห็นน้ำตาของนางเอกชัดเจนค่ะ ถ้าดูไอแมกซ์ ลอยมาที่หน้าเลยทีเดียว) จะทำใ้ห้ได้ชีวิตกลับคืนมา กลับมายืนได้อีกครั้ง มันก็คุ้มที่จะสู้
ถ้าเราจะเล่าทั้งหมดก็จะทำใ้ห้เสียอรรถรสของหนังไป แต่ ณ จุด ๆ หนึ่ง ที่คนเราไม่มีใคร ไม่เหลืออะไรเป็นที่พึ่ง แม้ในอวกาศที่อ้างว้าง หรือบนโลกที่แสนจะทรหดก็ตาม ณ จุดที่เราไม่ศรัทธาตัวเอง ขอใ้ห้เราศรัทธาในบางสิ่ง และใช้กำลังทั้งหมดที่มี เดินตามศรัทธานั้น
เหตุผลที่เราแทกห้องศาสนาไว้สองศาสนา ก็เพราะหากคุณได้ดูหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์ ภาพไม่กี่วินาทีของ "สองสิ่งนั้น" เป็นกำลังใจได้อย่างดีเยี่ยม แต่ในที่สุดแล้ว ก็ต้องกลับมาที่ความพยายามของตัวเราเอง ในการที่จะทำอะไรใ้ห้สำเร็จ
เราบอกตามตรงว่า เราน้ำตาเอ่อ ๆ กับบางฉาก เพราะยิ่งเราดู เราก็ยิ่งคิดถึงชีวิตของคนเรา กว่าจะผ่าน จะพ้น จะ่ฝ่าฟันอะไรมาได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นในอวกาศที่เวิ้งว้าง และโดดเดี่ยว ไม่รู้จะไปทางไหน แต่แม้แต่บนโลก หลายสิ่งก็เิวิ้งว้างไม่ต่างกับอวกาศ เวิ้งว้างจนบางคนไม่รูุ้จะไปทางไหน จะทำยังไง (ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่นการหางานตอนตกงาน,การสูญเสียคนที่รัก [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ) เมื่อสูญเสียทุกอย่าง จะต้องสู้เพื่ออะไร แต่ตราบใดที่เราไม่ทิ้งชีวิตของตัวเอง ไม่ยอมแพ้ แม้เมื่ออยู่ในทางตัน ก็จะมีช่องทางให้เราออกมาได้ ถ้าเราค่อย ๆ มองหาด้วยสติ ตราบใดที่ยังมีสมอง สองมือ (คงจำสิ่งที่จอร์จพูดได้นะคะ) ความศรัทธา และความพยายามให้ถึงที่สุดตามสิ่งที่ศรัทธานั้น ก็จะมีช่องทาง ใ้ห้เราเดินหน้าต่อไปได้ ซึ่งสิ่งนี้ เป็นสิ่งที่คนที่ยังมีลมหายใจ ยังต่อสู้อยู่เท่านั้น จึงจะไ้ด้มา
เราบอกตามตรงว่า เริ่มต้น ตัดสินใจไปดู เพราะความสวยของฉากในรูปแบบสามมิติ เราอยากเห็นโลก เราอยากเห็นน้ำทะเลจากอวกาศ อยากเห็นบ้านที่เราทุกคนอยู่ด้วยกัน ผ่านอะไรมาด้วยกัน บ้านหลังกลม ๆ หลังคาสีฟ้า แบบชัด ๆ ที่อีกไม่นาน เราก็จะต้องจากบ้านหลังนี้ไป[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ ซึ่งเป็นภาพที่หาดูที่อื่นไม่ได้ แต่สิ่งที่ได้กลับมา กลับไม่ใช่เพียงเรื่องของภาพ 3 มิติ แต่เป็นมิติของชีวิต ที่เราได้ขยายออกไปมากกว่าเดิม
หลังจากที่เราดูจนจบ เหมือนว่าหนังเรื่องนี้ เป็นธรรมะข้อหนึ่ง ที่สอนใ้ห้มนุษย์ดิ้นรน เพื่อพ้นจากความทุกข์ทรมาน ณ จุดที่ตัวเองยืนอยู่ (ศาสนาำพุทธสอนว่า บุคคลย่อมก้าวพ้นความทุกข์ได้ด้วยความเพียร ถ้ามองให้ลึกลงไปอีก บางท่านคงจำได้ว่าพระมหาชนกว่ายน้ำกลางมหาสมุทรที่ไกลสุดสายตา หลังจากที่เรือแตก คำถามคือ ท่านว่ายทำไมถึงเจ็ดวัน ทั้งที่ทุกอย่างรอบตัวเวิ้งว้าง ฝั่งไม่มี ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่น่าจะมีชีวิตรอด) แม้จะมองไม่เห็นหนทาง แต่บนยานอวกาศ ก็ยังมีสองสิ่งนั้นนำทาง (ไม่เล่านะคะ ไม่เปิดเผยเนื้อหา) หากเพื่อน ๆ ห้องศาสนาท่านใด ทั้งสองศาสนา ชาวคริสต์ และชาวพุทธ ได้ดู เชื่อว่า เมื่อเห็น "สองสิ่งนั้น" แล้ว จากภาพยนตร์ (ในฉากที่แยกกัน สองฉาก เป็นสัญลักษณ์ทางศาสนา เห็นแ้ล้วอ๋อเลย) อาจจะได้กำลังใจเหมือนเราค่ะ
ใครที่ยังไม่ได้ดู ชวนไปดูกันนะคะ หนังดีมาก แต่ไม่แนะนำสองอย่างค่ะ อย่างแรก คือ หนึ่ง ไม่แนะนำให้ดูในโรงธรรมดาและสองโรงสามมิติปรกติ เพราะคุณจะไม่ได้สัมผัสความกลัวเลย หรือน้อยมาก เราแนะนำโรง IMAX เพราะภาพจาก IMAX สามมิติ จะทำใ้ห้สัมผัสได้ถึงความโดดเดี่ยว เวิ้งว้าง และยิ่งใหญ่ ของอวกาศนอกโลก ที่จะทำใ้ห้เข้าใจถึงความรู้สึกนางเอกได้เป็นอย่างดีเลยค่ะ อวกาศ นอกโลก ที่ดูเหมือนว่าจะกว้างใหญ่ อิสระ แต่สำหรับคนที่หมดกำลังใจ มันคือทางตัน และบางที การเข้าใจความรู้สึกของนางเอก ก็จะทำให้เราได้มองตัวเองได้ดี เพราะเมื่อมองย้อนกลับมาที่บนโลกแล้ว เชื่อว่าคนหลาย ๆ คน เคยผ่านเรื่องแบบนางเอกมา...
....บนโลกแล้วเหมือนกัน
ปล.สำหรับชาวคริสต์และชาวพุทธห้องศาสนา ลองค้นหาภาพสองภาพนั้นกันค่ะ ในโรง IMAX (เท่านั้น)