แนะนำตัวก่อนว่าความจริงเป็นสมาชิกพันทิบนานมากแล้ว แต่ว่าไม่ได้เข้ามาตั้งกระทู้ตอบกระทู้พันทิบแบบซีเรียสมาเกือบสิบปีได้แล้วค่ะ บังเอิญเมื่อวานได้ดูหนังเกี่ยวกับสงครามโลกเรื่องนึง แล้วรู้สึกว่าดูคนเดียวไม่มันเลยว่ะ เลยเอารีวิว &สปอย มาแชร์เผื่อจะมีเพื่อนๆที่ชอบหนังแนวสงครามโลกในพันทิบสนใจ หรือถ้าใครเคยดูแล้วก็แสดงตัวหน่อยนะคะ

ความจริงหนังเรื่องนี้สร้างเมื่อปี 2006 เคยเห็นโปสเตอร์เมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่คิดอยากดู เพราะโปสเตอร์ตัวที่เห็นมันคล้าย Pearl Harbor มากจนเหมือนก็อบมา จนพลอยทำให้คิดว่าแค่โปสเตอร์ยังก็อปเขา ตัวหนังก็คงกาก ก็เลยไม่ดู แต่พอได้ดูแล้วรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดไปถนัด
ที่พูดถึงนี้ไม่ใช่ว่าหนังจะดีเลิศเพอร์เฟค แต่สิ่งที่ผิดคาดคือหนังไม่ใช่หนังทุนต่ำ และไม่ได้กาก ก่อนอื่นต้องขอพูดถึงข้อมูลพื้นฐานก่อนว่าหนังเรื่องนี้ความจริงเป็นทีวีซีรี่ของเยอรมัน สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ต่อความสูญเสียของเมือง Dresden ซึ่งมีผู้คนล้มตายถึงสองหมื่นกว่าคนจากการถูกทิ้งระเบิดโดยฝูงบินอังกฤษในระหว่างวันที่ 13-15 กพ 1945 (เท่าที่อ่านมา สาเหตุใหญ่ที่ทำให้คนตายเยอะ เพราะเมืองนี้ไม่เคยโดนระเบิดมาก่อน คนไม่ชินกับการหลบภัยทางอากาศ และมาตรการป้องกันก็ไม่ค่อยดี คือไม่มีบังเกอร์ที่ได้มาตรฐานเพียงพอ พอถูกทิ้งระเบิด คนก็เลยต้องลงไปหลบระเบิดในห้องใต้ดินของบ้าน ซึ่งทำให้ต้องติดอยู่ในห้องใต้ดินซึ่งร้อนเป็นเตาอบเวลาที่บอาคารข้างบนถูกไฟไหม้ถล่มลงมาทับทางออก) นอกจากนั้นก็มีทำเป็นเวอร์ชั่นภาพยนต์ฉายในโรง และมีดีวีดีออกมาด้วย แต่ยังไม่เห็นมีวางขาย ที่ดูนี้ดูจากยูทูป ซับอังกฤษ ตัวหนังถูกจัดอยู่ในประเภท โรแมนติก ดราม่า และสงคราม ซึ่งข้อนี้เป็นเรื่องที่ดูแล้วไม่รู้จะชมหรือจะด่าดี ซึ่งเดี๋ยวจะทั้งชมและด่าให้ฟังต่อไป
เรื่องย่อ
หนังเริ่มในปี 1945 ไม่กี่เดือนก่อนที่เยอรมันจะแพ้สงคราม เซ็ตในเมือง Dresden ในโรงพยาบาลที่วุ่นวายอยู่ตลอดเพราะเต็มไปด้วยทหารบาดเจ็บ แอนนา นางเอกเป็นลูกสาวคนโตของผู้จัดการโรงพยาบาล และทำงานเป็นนางพยาบาลในโรงพยาบาลของพ่อด้วย นางเอกมีแฟนอยู่แล้ว เป็นหมอที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน หมออเล็กซานเดอร์ แฟนของนางเอกนี้เป็นผู้ชายซีเรียส ทำงานหนักไม่ค่อยโรแมนติก แต่แอนนานิสัยยังเป็นเด็กชอบสนุกอยู่ก็เลยรู้สึกยังมีช่องว่างอยู่ (อะไรประมาณนั้น) แล้วเรื่องก็ตัดไปที่อังกฤษซึ่งส่งนักบินมาทิ้งระเบิดเยอรมัน โรเบิร์ต นิวแมน พระเอกซึ่งเป็นนักบิน บังเอิญถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตี โดดล่มลงมาในเขตเยอรมัน แล้วก็ไปเจอนางเอก จนพบรักกันในที่สุด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ต่อไปนี้คือมหกรรมสปอย โรเบิร์ต นิวแมน พระเอกซึ่งเป็นนักบิน บังเอิญถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตี โดดล่มลงมาในเขตเยอรมัน หลบเข้าไปในกระท่อมเลี้ยงสัตว์ เปลี่ยนชุดเป็นพลเรือนได้ แล้วก็เดินเข้าเมือง ปนๆไปกับคนไร้บ้าน แล้วก็อาศัยช่วงชุลมุนเข้าไปอาศัยในห้องใต้ดินโรงพยาบาล นางเอกบังเอิญไปเจอ ไม่รู้ว่าเป็นใคร เห็นบาดเจ็บก็สงสาร ช่วยทำแผลให้ ระหว่างที่พระเอกแอบอยู่ในห้องใต้ดินก็บังเอิญเห็นว่ามีคนแอบกั๊กเวชภัณฑ์ไว้เต็มตู้ ไม่เอาออกไปแจกจ่าย ซึ่งคนที่กั๊กนี้คือพ่อของนางเอกเอง เพราะรู้ว่าเยอรมันกำลังจะแพ้ ก็เลยแอบกั๊กยากับมอร์ฟีนไปขาย เอาเงินไปซื้อที่ดินเตรียมตัวย้ายไปสวิสเซอร์แลนด์
ช่วงที่พระเอกรู้จักกับนางเอกแล้วหนังพยายามลดความสำคัญของหมออเล็ก ด้วยการเปลี่ยนคาแรคเตอร์ให้เป็นตัวโกงด้วยการให้ความร่วมมือกับพ่อของนางเอกด้านการกั๊กยา และพยายามสร้างจุดสะเทือนใจด้วยฉากของเด็กชายสองพี่น้องที่ถูกส่งมาที่โรงพยาบาล คนพี่ถูกระเบิดแผลใหญ่มาก แต่หมอเห็นแล้วไม่ยอมรักษา บอกว่าเปลืองยาเปล่า คนน้องที่มาด้วยเห็นว่าพี่ตายแล้วเลยเอาปืนพกที่ถือมาจ่อใส่ตัวเอง จะยิงตัวตาย แต่บังเอิญพระเอก ซึ่งสวมรอยเป็นนายทหารเยอรมันคนหนึ่งในโรงพยาบาลที่เพิ่งตาย มาเห็นก่อนก็เลยไปคุยด้วย จนเด็กเลิกคิดฆ่าตัวตาย ซึ่งนางเอกมาเจอพอดีเลยเกิดความประทับใจ แต่ฟังสำเนียงพูดแล้วรู้ว่าเป็นคนอังกฤษ หลังจากนั้นนางเอกก็เจอผู้หญิงที่อาการประสาทไม่ดีในโรงพยาบาล โดนทหารตามมาจับข้อหาให้ที่ซ่อนแก่ผู้หลบหนี นางเอกพยายามจะช่วย แต่กลายเป็นว่าโดนจับไปด้วย กำลังจะโดนยิงเป้าที่ลานนอกโรงพยาบาล แต่หมออเล็กมาช่วยไว้พอดี เลยไม่โดนยิง ฉากนี้หนังเหมือนจะทำให้หมอดูเลว เพราะช่วยแต่นางเอก ไม่ช่วยผู้หญิงอีกคนที่โดนยิงไปต่อหน้าต่อตา แต่จริงๆแล้วหมอไม่ได้ทำอะไรผิดเลย เพราะอำนาจของหมอในสถานการณ์นั้นคือช่วยได้แค่นางพยาบาลในสังกัดตัวเอง และไม่ได้เป็นคนใหญ่คนโตพอที่จะห้ามเจ้าหน้าที่ไม่ให้ลงโทษคนอื่นได้ ต่อจากฉากนี้นางเอกก็ไปหาพระเอกที่เป็นคนไข้อยู่ในโรงพยาบาล แล้วก็ได้เสียกันซะเฉยๆ ทั้งๆที่เพิ่งเจอกัน ไม่รู้จักชื่อกันด้วยซ้ำ และสถานการณ์ที่นางเอกเพิ่งเจอเรื่องสะเทือนอารมณ์มาหมาดๆ ถ้าจะหันเข้าหาใครเพื่อรับการปลอบขวัญก็ควรจะเป็นหมอมากกว่า หรือถ้าจะพึงพระเอกก็ควรจะเป็นแค่การพูดคุยกัน ไม่ควรจะไปไกลมาก เลยทำให้เซ็กซีนที่ใส่เข้ามาดูเหมือนยัดเยียด จนกลายเป็นจุดด้อยอย่างรุนแรงของหนัง ที่จะบีบให้เรื่องโรแมนติก แต่มันไม่มีเหตุผลรองรับมากพอ
ต่อจากนั้นที่บ้านนางเอกก็จัดงานประกาศหมั้นกับหมออเล็ก ฉากนี้พระเอกเอาเครื่องแบบทหารแวร์มัคที่ขโมยมาใส่เดินเข้าไปในงานหมั้นของนางเอก ซึ่งมันก็ดูดีนะ แต่มันดูรู้ว่าไม่สมจริง คือหนีหัวซุกหัวซุน หลบๆซ่อนๆ อาศัยอยู่ในห้องคนไข้รวม เครื่องแบบขโมยคนตายในโรงพยาบาลมาใส่ แต่พอไปปรากฏตัวในงานคือเสื้อผ้าหน้าผมเป๊ะ สะอาดเอี่ยม หล่อสว่างวิ๊งๆ แล้วก็ไปเปิดโปงให้นางเอกฟังว่าพ่อนางเอกกั๊กเวชภัณฑ์ ไม่เอามาแจกจ่าย นางเอกถึงกับจี๊ดแตก จะหนีตามพระเอก แล้วก็ลงไปแอบห้องใต้ดิน ได้กันอีกรอบ หมออเล็กมาเจอพอดี จับพระเอกฉีดยาสลบ นางเอกโดนพ่อขังไว้ในห้อง เตรียมตัวจะย้ายหนีไปสวิส แต่เครื่องบินอังกฤษมาทิ้งระเบิดก่อน เลยไม่ได้ไป ระหว่างที่ชุลมุนจะลงหลุมหลบภัย นางเอกวิ่งหนีกลับไปที่บ้านเพื่อไปช่วยพระเอก คือดูแล้วรู้สึกว่าไม่เมคเซนส์มาก ความจริงจะไม่ไปก็ได้นะ มันบิ๊วเกินไป คนเพิ่งรู้จักกัน ที่ได้คุยกันยาวๆมีแค่ฉากเดียว ไม่รู้ไปรักกันตอนไหนอะไรกันนักกันหนา ซึ่งถ้าคิดว่าตรงนี้ไม่เมคเซนส์แล้ว ต่อจากนี้ไม่เมคเซนส์ยิ่งกว่า ระหว่างที่วิ่งหลบลูกระเบิดไปนี้หมออเล็กก็วิ่งตามไปด้วย ยังไม่ทันถึงบ้าน หมอลากลงไปในหลุมหลบภัยได้ก่อน ตอนนี้บทตัวร้ายของหมอรู้สึกว่าจะหมดอายุ กลับมาเป็นหมอนิสัยดี เล่นกับเด็ก ช่วยทำคลอดคนท้องในหลุมหลบภัย แต่นางเอกก็ทำเฉยๆอยู่ คือประมาณเอ็งไม่ใช่พระเอก ทำอะไรชั้นก็ไม่ซาบซึ้ง สักพักขึ้นมาจากบังเกอร์ นางเอกเจอพ่อโดนระเบิดจะตายหันไปหาหมอให้ช่วย หมอบอกว่าช่วยไม่ได้ ดูเลวทันที (เป็นหมอนี่จะรักษาคนได้ก็ต้องใช้อุปกรณ์พยาบาลนะ ไม่ใช่แตะๆแล้วหายเลย ไม่ใช่เกมออนไลน์) วิ่งต่อไปเจอพระเอกพอดี (พระเอกเรื่องนี้ทนกว่าอาร์โนล ชะวานชะเน้กเก้อ ต้นเรื่องโดดร่มลงมา โดนยิงเฉียดตับ ยังไม่ทันทำแผล ไม่ได้กินอะไร เดินได้อย่างคล่อง กลางเรื่องโดนฉีดยาสลบ ไม่ได้กินอะไรทั้งคืน ตื่นขึ้นมาวิ่งได้เลย) นางเอกจะทิ้งหมอตามพระเอกไปหน้าตาเฉย แต่เอาไปเอามาคือตกลงไปด้วยกันมันทั้งสามคนนั่นแหละ ความจริงจะเดินไปปกติก็ได้ แต่ไม่ตื่นเต้น เลยลงไปทางใต้ดิน ระหว่างทางมีทางตัน มีถล่ม แทนที่พระเอกจะโชว์ฝีมือ คนที่ทุบผนัง ฝ่าอันตราย ทุกอย่างคือหมอ พระเอกยืนดูอยู่เฉยๆ คือเค้าจ้างข้ามาเป็นพระเอกยืนหล่อเฉยๆก็ได้ จนไปถึงสุดทาง นางเอกกับหมอลอดออกไปได้แล้ว แต่พระเอกขาเจ็บ ให้นางเอกหนีไป นางเอกก็ไม่ยอมไป ย้อนกลับมาตายด้วยกัน แต่หมอไปแล้ว ไม่รอ (คงเซ็งกับอี่นี่เต็มทน) พระเอกนางเอกก็อยู่ด้วยกันในซากอุโมงถล่ม ประมาณจะบิ๊วให้คนดูรู้สึกซาบซึ้งว่ากำลังจะขาดอ็อกซิเจนตายไปด้วยกัน แต่พอหมดบ็อม พระเอกมีเรี่ยวแรงลุกขึ้นมาทุบกำแพงได้เฉย แล้วก็เจอทางออก ขาหายเจ็บเป็นปลิดทิ้ง สรุปจบคือได้อยู่ด้วยกัน หลังสงครามพระเอกบินกลับไปอังกฤษ แต่ขาบินกลับมาตอนที่นางเอกเพิ่งคลอดลูกสาวก้เครื่องบินตก หาศพไม่เจอ ส่วนหมอ ตอนจบเรื่องแกก็ไม่ตาย ยังช่วยคนบาดเจ็บต่อไป ไม่ได้สรุปว่ากลับมาเจอนางเอกหรือไม่เจอ
นอกเหนือจากเรื่องบทที่ขาดความสมจริงในการเดินเรื่อง และความพยายามยัดเยียดความโรแมนติกลงไปแบบไม่เมคเซนส์จนกลายเป็นจุดด้อยแล้ว หนังมีข้อดีอยู่หลายอย่างเช่นเรื่องความสมจริงทางรายละเอียด เพราะว่าหนังเป็นหนังที่สร้างโดยเยอรมัน จึงทำให้คนดูได้เห็นสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนเยอรมันในช่วงสงครามโลกได้อย่างละเอียดและแม่นยำอย่างที่ไม่เคยได้เห็นในหนังเรื่องไหนมาก่อน และในความรู้สึกส่วนตัว หนังเรื่องนี้เหมือนจะเป็นเสียงจากฝ่ายเยอรมันที่เราซึ่งเป็นผู้ชมทั่วไปไม่เคยได้ยินมาก่อน เพราะตามปกติแล้วหนังเกี่ยวกับสงครามโลกที่เราดูจนเคยชินมักสร้างโดยอเมริกา หรืออังกฤษ ซึ่งจะได้เห็นเยอรมันแค่ในบทของทหาร หรือผู้รุกราน แต่หนังเรื่องนี้นำเสนอคนเยอรมันจริงๆที่ถึงประเทศของเขาจะมีภาพพจน์เป็นผู้ร้ายในสงคราม แต่จริงๆแล้วคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เป็นทหารหรือนักการเมืองก็เป็นคนธรรมดาที่มีเลือดมีเนื้อ มีความรู้สึกเหมือนเราทุกๆคน และได้รับความสูญเสียจากสงครามไม่น้อยไปกว่าคนในประเทศอื่น
ในตอนท้ายๆเรื่องที่เมืองถูกทิ้งระเบิดเป็นช่วงชุลมุน หนังนำเสนอเหตุการณ์จริงที่ชวนสะเทือนใจหลายอย่าง ตอนที่หมอกับนางเอกอยู่ในบังเกอร์ หมอรู้ว่าข้างบนซากอาคารโดนระเบิดไฟไหม้ ควรจะรีบออกไปจากบังเกอร์ในช่วงที่ฝูงบินแรกบอมเสร็จ เพราะถ้าอยู่นานบังเกอร์จะร้อนเป็นเตาอบและขาดอ็อกซิเจนตาย แต่ทหารคุมบังเกอร์ไม่ยอมให้ออก สุดท้ายร้อนมากจนแยม(หรืออะไรสักอย่าง)ในโถร้อนเดือด โถระเบิด ถึงได้พากันออกไป ตอนที่พระเอกนางเอกกับหมอทุบกำแพงทะลุเข้าไปในบังเกอร์อีกที่ คนในบังเกอร์ตายหมดเพราะขาดอากาศ ฉากนี้สะเทือนใจมาก ส่วนบังเกอร์อีกที่หนึ่งนั้นติดอยู่ใต้ซากตึกไฟไหม้ ร้อนมาก คนในบังเกอร์รู้แล้ว่ายังไงก็ตายแน่นอน ขอให้ทหารคุมบังเกอร์ยิงให้ตายไปเลย จะได้ไม่ทรมาน ทหารก็ยิงไล่ไปทีละคนแล้วก็ยิงตัวเองคนสุดท้าย
อย่างที่พูดไว้แล้วตอนต้นว่าหนังเรื่องนี้ตัดสินลำบากว่าดีหรือไม่ดี เพราะการเดินเรื่องนั้นบทอ่อนปวกเปียก เหมือนค้นหาตัวเองไม่เจอว่าจะเอายังไง อยากให้โรแมนติกแปลกใหม่ เป็นรักระหว่างรบ แต่ก็ไม่มีเวลาพอที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกนางเอก แล้วยังมีหมอที่มาแชร์บทพระเอกอีก ก็หนังเยอรมันสร้าง จะให้พระเอกเป็นอังกฤษแล้วเยอรมันเป็นตัวโกงก็กะไรอยู่ เลยให้เป็นคนดีที่นางเอกไม่รักแทน สุดท้ายกลายเป็นว่าคนดูสงสารหมอ เกลียดนางเอกซะงั้น แต่ถ้าดูในแง่รายละเอียดทางประวัติศาสตร์แล้วจัดว่าเป็นหนังที่ดีและสะเทือนอารมณ์มากๆ เรื่องหนึ่ง ซึ่งถ้าถามคนเขียนว่าแนะนำให้ดูไหม? ก็คิดว่าเป็นหนังที่อยากแนะนำต่อเหมือนกัน แต่ต้องดูแบบไม่ซีเรียสกับบทมาก จะได้ไม่ต้องมานั่งน้ำต่เล็ดสงสารหมอทีหลัง
[SR] DRESDEN 2006 - รีวิวหนังสงครามโลกครั้งที่สอง (ใครเคยดู แสดงตัวหน่อยนะคะ)
ความจริงหนังเรื่องนี้สร้างเมื่อปี 2006 เคยเห็นโปสเตอร์เมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่คิดอยากดู เพราะโปสเตอร์ตัวที่เห็นมันคล้าย Pearl Harbor มากจนเหมือนก็อบมา จนพลอยทำให้คิดว่าแค่โปสเตอร์ยังก็อปเขา ตัวหนังก็คงกาก ก็เลยไม่ดู แต่พอได้ดูแล้วรู้สึกว่าตัวเองคิดผิดไปถนัด
ที่พูดถึงนี้ไม่ใช่ว่าหนังจะดีเลิศเพอร์เฟค แต่สิ่งที่ผิดคาดคือหนังไม่ใช่หนังทุนต่ำ และไม่ได้กาก ก่อนอื่นต้องขอพูดถึงข้อมูลพื้นฐานก่อนว่าหนังเรื่องนี้ความจริงเป็นทีวีซีรี่ของเยอรมัน สร้างขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ต่อความสูญเสียของเมือง Dresden ซึ่งมีผู้คนล้มตายถึงสองหมื่นกว่าคนจากการถูกทิ้งระเบิดโดยฝูงบินอังกฤษในระหว่างวันที่ 13-15 กพ 1945 (เท่าที่อ่านมา สาเหตุใหญ่ที่ทำให้คนตายเยอะ เพราะเมืองนี้ไม่เคยโดนระเบิดมาก่อน คนไม่ชินกับการหลบภัยทางอากาศ และมาตรการป้องกันก็ไม่ค่อยดี คือไม่มีบังเกอร์ที่ได้มาตรฐานเพียงพอ พอถูกทิ้งระเบิด คนก็เลยต้องลงไปหลบระเบิดในห้องใต้ดินของบ้าน ซึ่งทำให้ต้องติดอยู่ในห้องใต้ดินซึ่งร้อนเป็นเตาอบเวลาที่บอาคารข้างบนถูกไฟไหม้ถล่มลงมาทับทางออก) นอกจากนั้นก็มีทำเป็นเวอร์ชั่นภาพยนต์ฉายในโรง และมีดีวีดีออกมาด้วย แต่ยังไม่เห็นมีวางขาย ที่ดูนี้ดูจากยูทูป ซับอังกฤษ ตัวหนังถูกจัดอยู่ในประเภท โรแมนติก ดราม่า และสงคราม ซึ่งข้อนี้เป็นเรื่องที่ดูแล้วไม่รู้จะชมหรือจะด่าดี ซึ่งเดี๋ยวจะทั้งชมและด่าให้ฟังต่อไป
เรื่องย่อ
หนังเริ่มในปี 1945 ไม่กี่เดือนก่อนที่เยอรมันจะแพ้สงคราม เซ็ตในเมือง Dresden ในโรงพยาบาลที่วุ่นวายอยู่ตลอดเพราะเต็มไปด้วยทหารบาดเจ็บ แอนนา นางเอกเป็นลูกสาวคนโตของผู้จัดการโรงพยาบาล และทำงานเป็นนางพยาบาลในโรงพยาบาลของพ่อด้วย นางเอกมีแฟนอยู่แล้ว เป็นหมอที่ทำงานอยู่ในโรงพยาบาลเดียวกัน หมออเล็กซานเดอร์ แฟนของนางเอกนี้เป็นผู้ชายซีเรียส ทำงานหนักไม่ค่อยโรแมนติก แต่แอนนานิสัยยังเป็นเด็กชอบสนุกอยู่ก็เลยรู้สึกยังมีช่องว่างอยู่ (อะไรประมาณนั้น) แล้วเรื่องก็ตัดไปที่อังกฤษซึ่งส่งนักบินมาทิ้งระเบิดเยอรมัน โรเบิร์ต นิวแมน พระเอกซึ่งเป็นนักบิน บังเอิญถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตี โดดล่มลงมาในเขตเยอรมัน แล้วก็ไปเจอนางเอก จนพบรักกันในที่สุด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
นอกเหนือจากเรื่องบทที่ขาดความสมจริงในการเดินเรื่อง และความพยายามยัดเยียดความโรแมนติกลงไปแบบไม่เมคเซนส์จนกลายเป็นจุดด้อยแล้ว หนังมีข้อดีอยู่หลายอย่างเช่นเรื่องความสมจริงทางรายละเอียด เพราะว่าหนังเป็นหนังที่สร้างโดยเยอรมัน จึงทำให้คนดูได้เห็นสภาพชีวิตความเป็นอยู่ของคนเยอรมันในช่วงสงครามโลกได้อย่างละเอียดและแม่นยำอย่างที่ไม่เคยได้เห็นในหนังเรื่องไหนมาก่อน และในความรู้สึกส่วนตัว หนังเรื่องนี้เหมือนจะเป็นเสียงจากฝ่ายเยอรมันที่เราซึ่งเป็นผู้ชมทั่วไปไม่เคยได้ยินมาก่อน เพราะตามปกติแล้วหนังเกี่ยวกับสงครามโลกที่เราดูจนเคยชินมักสร้างโดยอเมริกา หรืออังกฤษ ซึ่งจะได้เห็นเยอรมันแค่ในบทของทหาร หรือผู้รุกราน แต่หนังเรื่องนี้นำเสนอคนเยอรมันจริงๆที่ถึงประเทศของเขาจะมีภาพพจน์เป็นผู้ร้ายในสงคราม แต่จริงๆแล้วคนส่วนใหญ่ที่ไม่ได้เป็นทหารหรือนักการเมืองก็เป็นคนธรรมดาที่มีเลือดมีเนื้อ มีความรู้สึกเหมือนเราทุกๆคน และได้รับความสูญเสียจากสงครามไม่น้อยไปกว่าคนในประเทศอื่น
ในตอนท้ายๆเรื่องที่เมืองถูกทิ้งระเบิดเป็นช่วงชุลมุน หนังนำเสนอเหตุการณ์จริงที่ชวนสะเทือนใจหลายอย่าง ตอนที่หมอกับนางเอกอยู่ในบังเกอร์ หมอรู้ว่าข้างบนซากอาคารโดนระเบิดไฟไหม้ ควรจะรีบออกไปจากบังเกอร์ในช่วงที่ฝูงบินแรกบอมเสร็จ เพราะถ้าอยู่นานบังเกอร์จะร้อนเป็นเตาอบและขาดอ็อกซิเจนตาย แต่ทหารคุมบังเกอร์ไม่ยอมให้ออก สุดท้ายร้อนมากจนแยม(หรืออะไรสักอย่าง)ในโถร้อนเดือด โถระเบิด ถึงได้พากันออกไป ตอนที่พระเอกนางเอกกับหมอทุบกำแพงทะลุเข้าไปในบังเกอร์อีกที่ คนในบังเกอร์ตายหมดเพราะขาดอากาศ ฉากนี้สะเทือนใจมาก ส่วนบังเกอร์อีกที่หนึ่งนั้นติดอยู่ใต้ซากตึกไฟไหม้ ร้อนมาก คนในบังเกอร์รู้แล้ว่ายังไงก็ตายแน่นอน ขอให้ทหารคุมบังเกอร์ยิงให้ตายไปเลย จะได้ไม่ทรมาน ทหารก็ยิงไล่ไปทีละคนแล้วก็ยิงตัวเองคนสุดท้าย
อย่างที่พูดไว้แล้วตอนต้นว่าหนังเรื่องนี้ตัดสินลำบากว่าดีหรือไม่ดี เพราะการเดินเรื่องนั้นบทอ่อนปวกเปียก เหมือนค้นหาตัวเองไม่เจอว่าจะเอายังไง อยากให้โรแมนติกแปลกใหม่ เป็นรักระหว่างรบ แต่ก็ไม่มีเวลาพอที่จะพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกนางเอก แล้วยังมีหมอที่มาแชร์บทพระเอกอีก ก็หนังเยอรมันสร้าง จะให้พระเอกเป็นอังกฤษแล้วเยอรมันเป็นตัวโกงก็กะไรอยู่ เลยให้เป็นคนดีที่นางเอกไม่รักแทน สุดท้ายกลายเป็นว่าคนดูสงสารหมอ เกลียดนางเอกซะงั้น แต่ถ้าดูในแง่รายละเอียดทางประวัติศาสตร์แล้วจัดว่าเป็นหนังที่ดีและสะเทือนอารมณ์มากๆ เรื่องหนึ่ง ซึ่งถ้าถามคนเขียนว่าแนะนำให้ดูไหม? ก็คิดว่าเป็นหนังที่อยากแนะนำต่อเหมือนกัน แต่ต้องดูแบบไม่ซีเรียสกับบทมาก จะได้ไม่ต้องมานั่งน้ำต่เล็ดสงสารหมอทีหลัง