ผู้นำจีนชม นายกยิ่งลักษณ์ ทุ่มเทพาชาติไทยฝ่าวิกฤตอุทกภัยและเศรษฐกิจการเงินโลกได้



ผู้นำจีนชม "ปู" ทุ่มเท พาปท.ฝ่าวิกฤตอุทกภัย-ศก.การเงินโลกได้
วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม 2556 เวลา 19:49 น.

ผู้นำจีนชม"นายกฯปู"ฝ่าวิกฤตน้ำท่วมใหญ่-เศรษฐกิจการเงินโลก แนะตั้ง“ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย” ด้านนายกฯไทยขอเสียงจีนหนุนชิงเก้าอี้สมาชิกไม่ถาวรใน"ยูเอ็นเอสซี"

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ต.ค. เวลา14.00น.เวลาท้องถิ่นของเกาะบาหลี  น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้เดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติงูระห์ไร บาหลี อินโดนีเซีย  เพื่อเข้าร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชียและแปซิฟิค (เอเปค) ครั้งที่ 21 จากนั้น เวลา 15.30 น. นายกรัฐมนตรี ได้หารือทวิภาคีกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ที่โรงแรมลากูน่า รีสอร์ท ก่อนการร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค


โดยนายธีรัตถ์ รัตนเสวี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีจีนกล่าวชื่นชมบทบาทสำคัญของนายกรัฐมนตรีที่ทุ่มเทพัฒนาความสัมพันธ์กับจีนในทุกด้าน ขณะเดียวกันสามารถนำพาประเทศไทยผ่านวิกฤตต่าง ๆ เช่น อุทกภัย วิกฤตการเงินโลก เป็นต้น ขณะที่นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความยินดีต่อนายสี จิ้นผิง ที่ได้ดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของจีน และนายกรัฐมนตรีได้เชิญประธานาธิบดีจีนเยือนไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเป็นหุ้นส่วนให้ใกล้ชิดยิ่งขึ้น ซึ่งประธานาธิบดีจีนตอบรับยินดีในโอกาสอันใกล้  อีกทั้ง นายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีจีนได้หารือและเห็นพ้องกันถึงความสำคัญของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน โดยจีนได้เสนอให้มีการจัดตั้งธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เอเชียมีการพัฒนาการเชื่อมโยงและผลักดันเศรษฐกิจให้พัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เห็นพ้องและยินดีการจัดตั้งธนาคารดังกล่าว


นายธีรัตถ์ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ ผู้นำทั้ง 2 ประเทศได้หารือถึงการผลักดันความร่วมมือภายใต้เอกสารความตกลงที่สำคัญ โดยไทยมุ่งมั่นที่จะดำเนินการตามเอกสารความตกลงที่ได้ทำขึ้นกับจีน โดยหน่วยงานของทั้ง 2 ฝ่ายจะร่วมมือและเร่งดำเนินการให้ปรากฏผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว เช่น กรอบความร่วมมือตามบันทึกความเข้าใจ(เอ็มโอยู)ว่าด้วยความร่วมมือในสาขาการพัฒนาอย่างยั่งยืนในประเทศไทย ที่ได้มีการลงนามระหว่างการเยือนไทยของประธานาธิบดีฯเมื่อเดือน ธ.ค.2554 ความร่วมมือด้านรถไฟความเร็วสูง พลังงานสะอาด การศึกษาและทรัพยากรมนุษย์ และการบริหารจัดการน้ำ การตั้งเป้ามูลค่าการค้าระหว่างกันให้บรรลุ 1 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ(ประมาณ3 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2558 โดยไทยและจีนจะเพิ่มการค้าขายสินค้าเกษตร เช่น การนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทยมากขึ้น อาทิ ข้าว ยางพารา มันสำปะหลัง และผลไม้ไทย เป็นต้น ด้านความร่วมมือพหุภาคีนั้น ไทยพร้อมให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับจีนในเวทีระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันก็หวังว่าจีนจะให้การสนับสนุนไทยในการลงสมัครรับเลือกตั้งในตำแหน่งสมาชิกไม่ถาวรของคณะ มนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ(ยูเอ็นเอสซี) ในวาระปี 2017-2018.

http://www.dailynews.co.th/politics/238277
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่