ผมกับ B อายุประมาณ 30 ปี เราทั้งคู่เจอกันโดยบังเอิญ ด้วยการสวนทางกันแถว ๆ บ้าน และทักทาย
แม้ผมจะชอบ B ตั้งแต่แรกพบ แต่ช่วงแรก ๆ ผมก็ไม่ได้คิดไรเท่าไหร่ เพราะ B ไม่ค่อยว่าง
พอผมห่างไป B ก็โทรมาหาตอนเขาไม่สบาย หลังจากนั้นเราก็สนิทกันมากขึ้น ด้วยบ้านอยู่ใกล้กัน เราจึงเที่ยวเล่นและมีเร่ืองให้จิ้นบ่อย ๆ
เช่น
- B เคยมารับผมไปวิ่งที่สวนสาธารณะและมาส่งผมที่บ้าน (เล่นเอาพ่อแม่น้องผมงงเลยทีเดียว ฮ่า ๆ)
- B เคยป้อนลูกชิ้นให้ผมกินในที่ลับตาริมแม่น้ำ
- B เคยเล่นมุกบ่อย ๆ ว่าจะอยู่เป็นเพื่อนผมจนแก่
- B ไปต่างจังหวัดจะซื้อของฝากผมเป็นประจำ
- B ให้ผมดูหนังซีรีย์ ซึ่งมีตัวละครเป็นเกย์ หรือเป็นไบ มาปรากฏแว๊บ ๆ ทำให้ผมแอบเอะใจ.. เพราะบีก็เล่าว่าชอบผู้หญิง
- ผมเลยให้ดู Club Friday บ้าง ที่เป็นเรื่องของชายรักชาย B ดูเสร็จแล้วบอกว่า เขาหล่อกว่าพระเอกที่เป็นเกย์ในเรื่องเสียอีก เล่นเอาผมแอบคิดไปเองอีกแล้ว ว่าบีเป็น
- ผมเคยนั่งซ้อนมอไซค์ B ตอนกลางคืน แล้วลองเอามือกอดรอบเอว B ๆ ก็ไม่ว่า
- ผมเองไม่อยากเลยเถิด เลยเปรยว่าผมอาจจะไม่ได้ชอบผู้หญิงนะ
ผมเริ่มสับสน เพราะผมเป็นเกย์ แต่ผมไม่เข้าใจการกระทำของ B เลย และวันหนึ่งผมก็บอก B ไปตรง ๆ ว่าผมชอบผู้ชาย ซึ่ง B ก็ไม่ว่าอะไร แต่ B นั้นเขาชอบผู้หญิง เพราะเคยมีแฟน ญ และมีไรกันแล้ว
จนกระทั่งวันหนึ่งผมกับ B ไปขี่จักรยานเล่นกันและนอนเล่นริมแม่น้ำ ผมก็แซวเขาว่า "ทำไมแขนมีขนเยอะจัง?" B ก็ตอบว่า "แขนเป็นฟอ" (ผมลองผวนกลับคือ ขอเป็นแฟน) เมื่อยินดังนั้นผมก็ตกใจ แต่ด้วยความที่แอบงง จึงตอบไปว่า "บ้าป่าว ผู้ชายจะเป็นแฟนกันได้ไงล่ะ" (ผมชอบผู้ชาย แต่ไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชาย และแม้ผมจะเคยมีแฟน ญ แต่ก็ไม่เคยมีไรกับผู้หญิงมาก่อน)
ไม่รู้ว่า B คิดไรอยู่ แต่ผมแอบฟินมากเลย กลับบ้านถึงกับแต่งกลอนเกี่ยวกับความรักเป็นฉาก ๆ ลงเฟสกันเลย
และในคืนนั้น ผมรู้สึกว่าน่าจะชอบ Bได้ จึงได้เอ่ยออกไปทาง Line..
--------------
ผม "พี่ชอบบีนะ"
B "ขอบคุณครับ"
ผม "แล้วบีล่ะ คิดยังไงกันแน่"
B "ดูจากการกระทำแล้วกันครับ"
ผมอึ้งสิครับ! ได้แต่ตอบไปว่า "โอเคครับ"
--------------
ตอนนั้นผมคิด ๆ อย่างหนักหน่วง มีหลายคำตอบที่เป็นไปได้
1. วูบแรก ดีใจนะ แสงแห่งความหวังเจิดจรัสทั่วท้องฟ้า หากแต่สักพักก็ได้สติ คำพูดที่ดูเหมือนให้ความหวัง ซึ่งผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยจริง ๆ เพราะผมค่อยข้างตรงไปตรงมา เกลียดการเล่นเกม เป็นเกย์ก็บอกว่าเป็น ชอบก็บอกว่าชอบ ก่อนหน้านี้มีสาวที่ทำงานมาชอบ ผมก็บอกว่าชอบไม่ได้หรอก ผมคงชอบผู้ชายมากกว่า พอผมได้คำตอบของบีแบบนี้มา มันทั้งแอบมีความหวังและก็รู้สึกเจ็บปวดสุด ๆ พร้อม ๆ กัน
2. ที่ผ่านมา การแสดงออกของ B ก้ำ ๆ กึ่ง ๆ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า B อาจไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร เลยให้ดูจากการกระทำดีกว่า ถ้าทำตัวห่าง ๆ อีกไม่นาน ผมน่าจะทำใจได้ ซึ่งถ้าเป็นข้อนี้จริง ๆ ผมอยากจะบอก B ว่า ไม่ต้องคิดอะไรให้มันยากนัก แค่บอกมาตรง ๆ ว่าเป็นไปไม่ได้ ผมก็เข้าใจ และจะได้ไม่เลยเถิด
3. B อาจจะชอบผมบ้าง แต่ไม่มั่นใจ ขอให้เวลากับตัวเองและคบไปเรื่อย ๆ ดีกว่า ถ้าเป็นข้อนี้ ใบ้ให้ผมรู้มากกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือ เพราะอย่างที่บอกผมเป็นคนซื่อ ๆ ไม่เคยมีแฟน (หรือ B พยายามบอกแล้ว แต่ผมไม่เก็ต)
------------------------
ทว่า..หลังจากวันนั้นมา B ก็พูดจาน่ารักกับผมมากขึ้น มีเค้า มีตัวเอง ยิ่งชวนผมจิ้นไปใหญ่ เป็นช่วงที่ผมรู้สึกดีสุด ๆ
เมื่อผมรู้สึกดี ก็อยากใกล้ชิดกับ B มากขึ้น แต่ทว่าเหมือนทุกอย่างก็ยังห่างเท่าเดิม เช่น ชวนไปเที่ยวต่างจังหวัด B ก็ไม่ว่างซะที บางที B ก็ไปอยู่บ้านเพ่ือนฝูงของเขา
"บ้านเราก็อยู่ใกล้กัน แต่ดูเหมือนไกลกันเลยเนอะ" ผมเอ่ยผ่านไลน์
"พูดเหมือนประชดนะครับ" บีตอบ
ผมคิดในใจ ก็ใช่สิวะ
ตอนนั้นผมปรี๊ดมาก ๆ ๆ ไม่ได้เจอบีสองสามอาทิตย์แล้ว และผมยังต้องไปต่างประเทศอีกเดือนนึงอีก บียังไม่คิดจะหาเวลาว่างมาหาผมเลย ทีไปบ้านเพื่อนเขายังแบ่งเวลาไปได้ ผมก็เลยแอบเซ็งมาก ๆ และ
แล้วด้วยความเยอะนิด ๆ และคำว่า "รอดูการกระทำแล้วกันครับ" ของ B มันคงหมายความว่า B ไม่ได้คิดอะไรกับผมจริง ๆ ถึงได้ปล่อยให้ผมรู้สึก "เหงา" แบบนี้ ผมจึงบอก B อีกครั้ง ด้วยอยากให้ B รู้ว่า ถ้าเขาชอบผมจริง สิ่งที่เขาแสดงให้ผมมานั้น มันไม่พอกับหัวใจที่โหยหาความรักของผม
"เราสองคนเป็นพี่น้องกันน่าจะดีที่สุด" ผมบอกประโยคนี้ไปด้วยใจที่เจ็บปวด แต่จริง ๆ อยากให้ B รู้และเข้าใกล้ผมมากกว่านี้ต่างหาก แต่ด้วยความเยอะอันเป็นนิสัย จึงทำให้ปากไม่ตรงกับใจ อาการงอนกำเริบ
จากนั้น..ไม่รู้ B จะโกรธหรือเปล่า หรืออาจเป็นสิ่งที่ B ต้องการแต่ไม่กล้าพูดก็ได้ เพราะหลังจากนั้น...คำพูดหยอกล้อชวนจิ้นก็ "มลาย" หายไปจาก B
อีกทั้ง B ก็ไม่ทักผมก่อนในเฟสหรือไลน์ จนกระทั่งผมทักไปแบบง๊อง ๆ แง๊ง ๆ เหมือนเด็ก ซึ่งเป็นบุคลิกของผม B ก็ถามผมกลับว่า หายงอนแล้วเหรอ
ผมก็ตอบไปว่าหายแล้ว แต่เหมือนว่า B ก็ไม่เคยพูดจาชวนจิ้นให้ผมดีใจอีกเลย แถมเวลาผมพูดหยอด ๆ ไป B ก็เงียบทุกครั้ง
แต่บีก็ยังมาหาผม ไม่ก็ผมไปบ้านบีเหมือนเคย (เราไปมาหาสู่บ้านของกันและกันบ่อย ๆ ครับ แม่ผมชอบบีมากๆ เพราะบีตลก คุยเก่ง สร้างความบันเทิงได้ชั้นยอด พ่อผมก็ชอบบี เพราะบีเป็นลูกชาวสวนและเรียนพวกช่างมาเลยคุยกับพ่อรู้เร่ือง)
แต่ด้วยความที่ยังไม่ชัดเจน ผมจึงโคตรสับสนและนอยด์เลย อยากได้อารมณ์ฟิน ๆ กลับคืนมา จนวันนึงขณะขี่จักรยานเล่นกันอยู่ ผมทนไม่ไหวแบบสุด ๆ เลยถามเค้าไปตรง ๆ
ผม : "ตกลง ตอนนี้นายคบใครอยู่อ่ะ"
B ตอบมาอย่างไม่คิด : ก็พี่ไง
ผมก็งงดิ : "อ่าว…? แล้วตกลง B ชอบผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่??"
B มองตาผม แล้วตอบไรไม่รู้ไม่ได้ยิน เพราะลมพัดแรง…แต่ได้ยินอีกที เขาก็บอกว่า "ผมผู้ชาย 100% ชอบผู้หญิงแน่นอน"
ตอนนั้น ผมเสียใจดิ แต่ก็คิดในใจว่าดีแล้ว จะได้ทำใจได้ซะที ตัดใจ ๆ อย่างน้อย เราก็จะเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อน ได้เที่ยวเล่น ได้พูดคุย และอาจมีน้องแบบ B แบบนี้ไปจนแก่
แต่เอาเข้าจริง ๆ ผมยังคิดถึงเขามากเลย อยากรักแบบแฟนมากกว่า แม้ตอนนี้ยังเจอกัน ไปออกกำลังกายด้วยกัน แต่ว่า..เหมือนว่าเค้าไม่เคยพูดอะไรชวนจิ้นอีกแล้ว ฮือ ๆ
สุดท้ายนี้ เขาไม่ใช่เกย์ใช่ไหมครับ แล้วผมคงจะต้องตัดใจจริง ๆ ใช่ไหม... ผมอยากมีแฟนบ้างจริง ๆ สักที ผมอยากจะถามเค้าให้ชัด อยากไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเขา อยากลองจับปล้ำดู แต่ไม่รู้จะมีวันนั้นไหม ฮือ ๆ วันที่ได้ถามต่อหน้า ในวันเวลาที่ฟ้าฝนเป็นใจ อากาศโรแมนติก อยากกางเต้นท์นอนด้วยกัน
แต่ถ้าเขาเป็นชายแท้ อย่างน้อยผมควรขอบคุณเขาใช่ไหมครับ ที่เขาใจกว้าง เป็นเพื่อนกับผมมาตลอดโดยไม่รังเกียจ และถ้าไปจับเค้าปล้ำ คงโดนเค้าถีบยอดหน้าแน่นอน
ผมควรจะถามเค้าให้ชัดอีกดีไหม ก่อนที่เราจะมีโอกาสได้ไปเที่ยวด้วยกัน ซึ่ง B เคยเปรยไว้ว่าจะไปด้วยกันใกล้ ๆ สิ้นปี
(แต่ผมก็แอบนอยด์อีกแล้ว ตะกี้ก่อนที่บีจะกลับบ้านไป บีบอกว่าอีกสองอาทิตย์จะไปเที่ยวล่องแพกับเพื่อน ...ทำไมบีไม่ยอมชวนผมไปบ้างเลย ผมนี่ขี้น้อยใจมากเลยใช่ไหมครับ)
ผมอยากรู้จริง ๆ ครับ ว่าสิ่งที่ "เขา" แสดงกับผม แสดงถึงความรักแบบไหนกันแน่ ??
แม้ผมจะชอบ B ตั้งแต่แรกพบ แต่ช่วงแรก ๆ ผมก็ไม่ได้คิดไรเท่าไหร่ เพราะ B ไม่ค่อยว่าง
พอผมห่างไป B ก็โทรมาหาตอนเขาไม่สบาย หลังจากนั้นเราก็สนิทกันมากขึ้น ด้วยบ้านอยู่ใกล้กัน เราจึงเที่ยวเล่นและมีเร่ืองให้จิ้นบ่อย ๆ
เช่น
- B เคยมารับผมไปวิ่งที่สวนสาธารณะและมาส่งผมที่บ้าน (เล่นเอาพ่อแม่น้องผมงงเลยทีเดียว ฮ่า ๆ)
- B เคยป้อนลูกชิ้นให้ผมกินในที่ลับตาริมแม่น้ำ
- B เคยเล่นมุกบ่อย ๆ ว่าจะอยู่เป็นเพื่อนผมจนแก่
- B ไปต่างจังหวัดจะซื้อของฝากผมเป็นประจำ
- B ให้ผมดูหนังซีรีย์ ซึ่งมีตัวละครเป็นเกย์ หรือเป็นไบ มาปรากฏแว๊บ ๆ ทำให้ผมแอบเอะใจ.. เพราะบีก็เล่าว่าชอบผู้หญิง
- ผมเลยให้ดู Club Friday บ้าง ที่เป็นเรื่องของชายรักชาย B ดูเสร็จแล้วบอกว่า เขาหล่อกว่าพระเอกที่เป็นเกย์ในเรื่องเสียอีก เล่นเอาผมแอบคิดไปเองอีกแล้ว ว่าบีเป็น
- ผมเคยนั่งซ้อนมอไซค์ B ตอนกลางคืน แล้วลองเอามือกอดรอบเอว B ๆ ก็ไม่ว่า
- ผมเองไม่อยากเลยเถิด เลยเปรยว่าผมอาจจะไม่ได้ชอบผู้หญิงนะ
ผมเริ่มสับสน เพราะผมเป็นเกย์ แต่ผมไม่เข้าใจการกระทำของ B เลย และวันหนึ่งผมก็บอก B ไปตรง ๆ ว่าผมชอบผู้ชาย ซึ่ง B ก็ไม่ว่าอะไร แต่ B นั้นเขาชอบผู้หญิง เพราะเคยมีแฟน ญ และมีไรกันแล้ว
จนกระทั่งวันหนึ่งผมกับ B ไปขี่จักรยานเล่นกันและนอนเล่นริมแม่น้ำ ผมก็แซวเขาว่า "ทำไมแขนมีขนเยอะจัง?" B ก็ตอบว่า "แขนเป็นฟอ" (ผมลองผวนกลับคือ ขอเป็นแฟน) เมื่อยินดังนั้นผมก็ตกใจ แต่ด้วยความที่แอบงง จึงตอบไปว่า "บ้าป่าว ผู้ชายจะเป็นแฟนกันได้ไงล่ะ" (ผมชอบผู้ชาย แต่ไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชาย และแม้ผมจะเคยมีแฟน ญ แต่ก็ไม่เคยมีไรกับผู้หญิงมาก่อน)
ไม่รู้ว่า B คิดไรอยู่ แต่ผมแอบฟินมากเลย กลับบ้านถึงกับแต่งกลอนเกี่ยวกับความรักเป็นฉาก ๆ ลงเฟสกันเลย
และในคืนนั้น ผมรู้สึกว่าน่าจะชอบ Bได้ จึงได้เอ่ยออกไปทาง Line..
--------------
ผม "พี่ชอบบีนะ"
B "ขอบคุณครับ"
ผม "แล้วบีล่ะ คิดยังไงกันแน่"
B "ดูจากการกระทำแล้วกันครับ"
ผมอึ้งสิครับ! ได้แต่ตอบไปว่า "โอเคครับ"
--------------
ตอนนั้นผมคิด ๆ อย่างหนักหน่วง มีหลายคำตอบที่เป็นไปได้
1. วูบแรก ดีใจนะ แสงแห่งความหวังเจิดจรัสทั่วท้องฟ้า หากแต่สักพักก็ได้สติ คำพูดที่ดูเหมือนให้ความหวัง ซึ่งผมไม่ชอบอะไรแบบนี้เลยจริง ๆ เพราะผมค่อยข้างตรงไปตรงมา เกลียดการเล่นเกม เป็นเกย์ก็บอกว่าเป็น ชอบก็บอกว่าชอบ ก่อนหน้านี้มีสาวที่ทำงานมาชอบ ผมก็บอกว่าชอบไม่ได้หรอก ผมคงชอบผู้ชายมากกว่า พอผมได้คำตอบของบีแบบนี้มา มันทั้งแอบมีความหวังและก็รู้สึกเจ็บปวดสุด ๆ พร้อม ๆ กัน
2. ที่ผ่านมา การแสดงออกของ B ก้ำ ๆ กึ่ง ๆ ทำให้อดคิดไม่ได้ว่า B อาจไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร เลยให้ดูจากการกระทำดีกว่า ถ้าทำตัวห่าง ๆ อีกไม่นาน ผมน่าจะทำใจได้ ซึ่งถ้าเป็นข้อนี้จริง ๆ ผมอยากจะบอก B ว่า ไม่ต้องคิดอะไรให้มันยากนัก แค่บอกมาตรง ๆ ว่าเป็นไปไม่ได้ ผมก็เข้าใจ และจะได้ไม่เลยเถิด
3. B อาจจะชอบผมบ้าง แต่ไม่มั่นใจ ขอให้เวลากับตัวเองและคบไปเรื่อย ๆ ดีกว่า ถ้าเป็นข้อนี้ ใบ้ให้ผมรู้มากกว่านี้หน่อยไม่ได้หรือ เพราะอย่างที่บอกผมเป็นคนซื่อ ๆ ไม่เคยมีแฟน (หรือ B พยายามบอกแล้ว แต่ผมไม่เก็ต)
------------------------
ทว่า..หลังจากวันนั้นมา B ก็พูดจาน่ารักกับผมมากขึ้น มีเค้า มีตัวเอง ยิ่งชวนผมจิ้นไปใหญ่ เป็นช่วงที่ผมรู้สึกดีสุด ๆ
เมื่อผมรู้สึกดี ก็อยากใกล้ชิดกับ B มากขึ้น แต่ทว่าเหมือนทุกอย่างก็ยังห่างเท่าเดิม เช่น ชวนไปเที่ยวต่างจังหวัด B ก็ไม่ว่างซะที บางที B ก็ไปอยู่บ้านเพ่ือนฝูงของเขา
"บ้านเราก็อยู่ใกล้กัน แต่ดูเหมือนไกลกันเลยเนอะ" ผมเอ่ยผ่านไลน์
"พูดเหมือนประชดนะครับ" บีตอบ
ผมคิดในใจ ก็ใช่สิวะ
ตอนนั้นผมปรี๊ดมาก ๆ ๆ ไม่ได้เจอบีสองสามอาทิตย์แล้ว และผมยังต้องไปต่างประเทศอีกเดือนนึงอีก บียังไม่คิดจะหาเวลาว่างมาหาผมเลย ทีไปบ้านเพื่อนเขายังแบ่งเวลาไปได้ ผมก็เลยแอบเซ็งมาก ๆ และ
แล้วด้วยความเยอะนิด ๆ และคำว่า "รอดูการกระทำแล้วกันครับ" ของ B มันคงหมายความว่า B ไม่ได้คิดอะไรกับผมจริง ๆ ถึงได้ปล่อยให้ผมรู้สึก "เหงา" แบบนี้ ผมจึงบอก B อีกครั้ง ด้วยอยากให้ B รู้ว่า ถ้าเขาชอบผมจริง สิ่งที่เขาแสดงให้ผมมานั้น มันไม่พอกับหัวใจที่โหยหาความรักของผม
"เราสองคนเป็นพี่น้องกันน่าจะดีที่สุด" ผมบอกประโยคนี้ไปด้วยใจที่เจ็บปวด แต่จริง ๆ อยากให้ B รู้และเข้าใกล้ผมมากกว่านี้ต่างหาก แต่ด้วยความเยอะอันเป็นนิสัย จึงทำให้ปากไม่ตรงกับใจ อาการงอนกำเริบ
จากนั้น..ไม่รู้ B จะโกรธหรือเปล่า หรืออาจเป็นสิ่งที่ B ต้องการแต่ไม่กล้าพูดก็ได้ เพราะหลังจากนั้น...คำพูดหยอกล้อชวนจิ้นก็ "มลาย" หายไปจาก B
อีกทั้ง B ก็ไม่ทักผมก่อนในเฟสหรือไลน์ จนกระทั่งผมทักไปแบบง๊อง ๆ แง๊ง ๆ เหมือนเด็ก ซึ่งเป็นบุคลิกของผม B ก็ถามผมกลับว่า หายงอนแล้วเหรอ
ผมก็ตอบไปว่าหายแล้ว แต่เหมือนว่า B ก็ไม่เคยพูดจาชวนจิ้นให้ผมดีใจอีกเลย แถมเวลาผมพูดหยอด ๆ ไป B ก็เงียบทุกครั้ง
แต่บีก็ยังมาหาผม ไม่ก็ผมไปบ้านบีเหมือนเคย (เราไปมาหาสู่บ้านของกันและกันบ่อย ๆ ครับ แม่ผมชอบบีมากๆ เพราะบีตลก คุยเก่ง สร้างความบันเทิงได้ชั้นยอด พ่อผมก็ชอบบี เพราะบีเป็นลูกชาวสวนและเรียนพวกช่างมาเลยคุยกับพ่อรู้เร่ือง)
แต่ด้วยความที่ยังไม่ชัดเจน ผมจึงโคตรสับสนและนอยด์เลย อยากได้อารมณ์ฟิน ๆ กลับคืนมา จนวันนึงขณะขี่จักรยานเล่นกันอยู่ ผมทนไม่ไหวแบบสุด ๆ เลยถามเค้าไปตรง ๆ
ผม : "ตกลง ตอนนี้นายคบใครอยู่อ่ะ"
B ตอบมาอย่างไม่คิด : ก็พี่ไง
ผมก็งงดิ : "อ่าว…? แล้วตกลง B ชอบผู้หญิงหรือผู้ชายกันแน่??"
B มองตาผม แล้วตอบไรไม่รู้ไม่ได้ยิน เพราะลมพัดแรง…แต่ได้ยินอีกที เขาก็บอกว่า "ผมผู้ชาย 100% ชอบผู้หญิงแน่นอน"
ตอนนั้น ผมเสียใจดิ แต่ก็คิดในใจว่าดีแล้ว จะได้ทำใจได้ซะที ตัดใจ ๆ อย่างน้อย เราก็จะเป็นพี่น้อง เป็นเพื่อน ได้เที่ยวเล่น ได้พูดคุย และอาจมีน้องแบบ B แบบนี้ไปจนแก่
แต่เอาเข้าจริง ๆ ผมยังคิดถึงเขามากเลย อยากรักแบบแฟนมากกว่า แม้ตอนนี้ยังเจอกัน ไปออกกำลังกายด้วยกัน แต่ว่า..เหมือนว่าเค้าไม่เคยพูดอะไรชวนจิ้นอีกแล้ว ฮือ ๆ
สุดท้ายนี้ เขาไม่ใช่เกย์ใช่ไหมครับ แล้วผมคงจะต้องตัดใจจริง ๆ ใช่ไหม... ผมอยากมีแฟนบ้างจริง ๆ สักที ผมอยากจะถามเค้าให้ชัด อยากไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเขา อยากลองจับปล้ำดู แต่ไม่รู้จะมีวันนั้นไหม ฮือ ๆ วันที่ได้ถามต่อหน้า ในวันเวลาที่ฟ้าฝนเป็นใจ อากาศโรแมนติก อยากกางเต้นท์นอนด้วยกัน
แต่ถ้าเขาเป็นชายแท้ อย่างน้อยผมควรขอบคุณเขาใช่ไหมครับ ที่เขาใจกว้าง เป็นเพื่อนกับผมมาตลอดโดยไม่รังเกียจ และถ้าไปจับเค้าปล้ำ คงโดนเค้าถีบยอดหน้าแน่นอน
ผมควรจะถามเค้าให้ชัดอีกดีไหม ก่อนที่เราจะมีโอกาสได้ไปเที่ยวด้วยกัน ซึ่ง B เคยเปรยไว้ว่าจะไปด้วยกันใกล้ ๆ สิ้นปี
(แต่ผมก็แอบนอยด์อีกแล้ว ตะกี้ก่อนที่บีจะกลับบ้านไป บีบอกว่าอีกสองอาทิตย์จะไปเที่ยวล่องแพกับเพื่อน ...ทำไมบีไม่ยอมชวนผมไปบ้างเลย ผมนี่ขี้น้อยใจมากเลยใช่ไหมครับ)