เรื่องมีอยู่ว่า
บริษัท ก ได้ ตั้ง บริษัท ข มาเป็นบริษัท รับงาน ส่งคนงานไห้ กับงานโครงการ .......ของฝรั่ง โดยมีระยะเวลา 2 ปีครึ่ง เริ่มตั้งแต่ปี 2554 และได้จ้างงานแบบ พนักงานชั่วคราว ทั้งหมด สัญญาบอกไว้แค่ว่าวันเริ่มงานแต่ไม่มีวันเลิกจ้าง ตอนนั้นเซ็นครับคิดกันแต่ว่างานเขาอาจจะช้ากว่ากำหนด เลย ต้องเปิดไว้ ทำงานมาก้อเยอะแล้วมาเสียรู้ พวกนายทุนอีกจนได้ แต่แล้วพองานนั้นแล้วเสร็จ พนักงาน ก็สอบถามไปยังฝ่ายบุคคล จะว่ามีการปลด มั้ย (เพราะว่าบริษัทอื่นที่ทำด้วยกันเสร็จงานได้เงินชดเชยทุกบริษัท) แต่ได้รับคำตอบว่ามามีนโยบาย ปลด ได้แต่บอกว่า มีงาน โครงการตัวใหม่จะขึ้นต่อจากโครงการแรกที่แล้วเสร็จ มีบางส่วนที่จะไปสมัครงานกับบริษัทใกล้เคียงกัน ก็มีรายชื่อ แบลคลิส ทำไห้ไม่สามารถลาออกได้ (พนักงานอย่างพวกผมเป็นแบบพวกล่าคอนแทรก ที่ไหนจ้างดี โอทีงาม ราคาได้ ไปหมด มาหาเงินครับ....... เลยต้องจำทนอยู่ต่อ ตาม ความเป็นจริงไม่มีไครอยากอยู่หรอกที่อยู่เพราะรองานที่ใกล้ๆเปิดรับแล้วจะลาออกเกือบหมดแหละงานชนิดเดียวกันทำเหมือนกันที่อื่นจ้างแพงกว่าครับ)
แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทาง บริษัท ก ได้ออกมาประกาศว่า บริษัท ข นั้นจะปิดตัวลง ใน กลางเดือน ต .ค. นี้ ให้พนักงานที่ทำงานในโครงการ......ที่ยังเหลืออยู่จะต้องเซ็นโอนย้ายบริษัทมาเป็น บริษัท ค ไม่ใช่ บริษัท ก ตามที่พนักงานเข้าใจพนักงานจึงยังไม่ยอมเซ็นสัญญาเพราะว่า สัญญาจ้างนั้นแนบใบยินยอมมาให้เซ็นก่อนจึงจะได้เซ็นสัญญา พนักงานส่วนใหญ่ไม่เซ็นรวมถึงผมด้วย บางคนที่เซ็นไปแล้วนั้นบอกว่าตัวแทน บริษัท ค ที่ได้รับมอบอำนาจมาและพยานยังคงเป็นชุดเดียวกับบริษัทเดิมคือ บริษัท ข แทนโดยอ้างว่า ทุกอย่างเหมือนเดิม ‘’วันแรกพวกพนักงานได้รวมตัวกันไปสอบถามว่าแล้ว บริษัท ข ปิดไปไหนกลับไม่ได้ได้รับคำตอบกลับมา บอกแค่เพียงว่าเพื่อสะดวกในการบริหาร” พอมาวันที่สองพนักงานจึงหยุดงานเพื่อพูดคุยเจรจา ตอบข้อสงสัย แต่ ไม่มีผู้บริหารที่มีอำนาจตัดสินใจลงมาแต่อย่างใด มีแต่ผู้จัดการฝ่ายก่อสร้าง มารับข้อรองเรียนกับคำถาม บอกว่าจะไปคุยไห้ แค่นั้น แค่นั้น และถ้ายังไม่เซ็นจะทำไห้พวกกระผมนั้นจะไม่มีบริษัทอยู่ ตอนนี้รอฟังคำตอบอยู่ครับ เหตุการณ์ก็เป็นทำนองนี้แหละครับ เลยอยากปรึกษาขอความคิดเห็น ครับ.....................
แบบนี้ เราสามารถไม่ต่อหรือเซ็นต่อได้หรือป่าวครับ
จาก
คนทำมาหากิน หาเช้ากินค่ำ
ไครพอรู้บ้าง การโอนย้ายพนักงาน กลับไปกลับมา เราไม่เซนต์สัญญาต่อได้มั้ย
บริษัท ก ได้ ตั้ง บริษัท ข มาเป็นบริษัท รับงาน ส่งคนงานไห้ กับงานโครงการ .......ของฝรั่ง โดยมีระยะเวลา 2 ปีครึ่ง เริ่มตั้งแต่ปี 2554 และได้จ้างงานแบบ พนักงานชั่วคราว ทั้งหมด สัญญาบอกไว้แค่ว่าวันเริ่มงานแต่ไม่มีวันเลิกจ้าง ตอนนั้นเซ็นครับคิดกันแต่ว่างานเขาอาจจะช้ากว่ากำหนด เลย ต้องเปิดไว้ ทำงานมาก้อเยอะแล้วมาเสียรู้ พวกนายทุนอีกจนได้ แต่แล้วพองานนั้นแล้วเสร็จ พนักงาน ก็สอบถามไปยังฝ่ายบุคคล จะว่ามีการปลด มั้ย (เพราะว่าบริษัทอื่นที่ทำด้วยกันเสร็จงานได้เงินชดเชยทุกบริษัท) แต่ได้รับคำตอบว่ามามีนโยบาย ปลด ได้แต่บอกว่า มีงาน โครงการตัวใหม่จะขึ้นต่อจากโครงการแรกที่แล้วเสร็จ มีบางส่วนที่จะไปสมัครงานกับบริษัทใกล้เคียงกัน ก็มีรายชื่อ แบลคลิส ทำไห้ไม่สามารถลาออกได้ (พนักงานอย่างพวกผมเป็นแบบพวกล่าคอนแทรก ที่ไหนจ้างดี โอทีงาม ราคาได้ ไปหมด มาหาเงินครับ....... เลยต้องจำทนอยู่ต่อ ตาม ความเป็นจริงไม่มีไครอยากอยู่หรอกที่อยู่เพราะรองานที่ใกล้ๆเปิดรับแล้วจะลาออกเกือบหมดแหละงานชนิดเดียวกันทำเหมือนกันที่อื่นจ้างแพงกว่าครับ)
แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทาง บริษัท ก ได้ออกมาประกาศว่า บริษัท ข นั้นจะปิดตัวลง ใน กลางเดือน ต .ค. นี้ ให้พนักงานที่ทำงานในโครงการ......ที่ยังเหลืออยู่จะต้องเซ็นโอนย้ายบริษัทมาเป็น บริษัท ค ไม่ใช่ บริษัท ก ตามที่พนักงานเข้าใจพนักงานจึงยังไม่ยอมเซ็นสัญญาเพราะว่า สัญญาจ้างนั้นแนบใบยินยอมมาให้เซ็นก่อนจึงจะได้เซ็นสัญญา พนักงานส่วนใหญ่ไม่เซ็นรวมถึงผมด้วย บางคนที่เซ็นไปแล้วนั้นบอกว่าตัวแทน บริษัท ค ที่ได้รับมอบอำนาจมาและพยานยังคงเป็นชุดเดียวกับบริษัทเดิมคือ บริษัท ข แทนโดยอ้างว่า ทุกอย่างเหมือนเดิม ‘’วันแรกพวกพนักงานได้รวมตัวกันไปสอบถามว่าแล้ว บริษัท ข ปิดไปไหนกลับไม่ได้ได้รับคำตอบกลับมา บอกแค่เพียงว่าเพื่อสะดวกในการบริหาร” พอมาวันที่สองพนักงานจึงหยุดงานเพื่อพูดคุยเจรจา ตอบข้อสงสัย แต่ ไม่มีผู้บริหารที่มีอำนาจตัดสินใจลงมาแต่อย่างใด มีแต่ผู้จัดการฝ่ายก่อสร้าง มารับข้อรองเรียนกับคำถาม บอกว่าจะไปคุยไห้ แค่นั้น แค่นั้น และถ้ายังไม่เซ็นจะทำไห้พวกกระผมนั้นจะไม่มีบริษัทอยู่ ตอนนี้รอฟังคำตอบอยู่ครับ เหตุการณ์ก็เป็นทำนองนี้แหละครับ เลยอยากปรึกษาขอความคิดเห็น ครับ.....................
แบบนี้ เราสามารถไม่ต่อหรือเซ็นต่อได้หรือป่าวครับ
จาก
คนทำมาหากิน หาเช้ากินค่ำ