เพื่อไทยของน้าแมว ใช้เงินหลวงมาซื้อเสียง จึงชนะอย่างที่เห็น

รัฐบาลชนะเลือกตั้ง เป็นตัวตั้งของโครงการประชานิยม ส่วน ภาระการคลัง เป็นอันดับรองๆ ลงไป แล้วมันต่างอะไรกับ การใช้เงินหลวงหาเสียงกับราษฎร แต่ผลกระทบจากประชานิยมคือ ของแพง ค่าครองชีพสูง รายได้ที่เพิ่มวิ่งขับไม่ทันค่าครองชีพ  ม.หอการค้าสำรวจ เกษตรกร ตอนนี้  มีหนี้ เฉลี่ยครัวเรือนละ 2.6 แสนบาท ขายพืชผลได้ราคา  แต่ต้นทุนก็พุ่งขึ้น

นโยบายประชานิยมหลักประกัน ชนะเลือกตั้ง และ สะสมทุนการเมือง จากการเกิดผลประโยชน์กระตุ้นการผลิต  กระตุ้นการขาย ผ่านเครือข่ายหรือนอมินี  10 โครงการ  ของรัฐบาลผ่านไป 1 ปี เกิด  ภาระการคลัง แล้วกว่า 5.4 แสนล้านบาท จากการสรุปของคณะกรรมาธิการการเงินการคลังการธนาคารและสถาบันการเงิน ของ วุฒิสภา

10 โครงการประชานิยมทำให้เกิดภาระการคลัง 9 โครงการนั้นคือ 1.ลดหย่อนภาษีบ้านหลังแรก 1.2 หมื่นล้านบาท 2.คืนภาษีรถยนต์คันแรก 3 หมื่นล้านบาท  3.ลดภาษีเงินได้นิติบุคคล 5.2 หมื่นล้านบาท  4.ลดภาษีน้ำมันดีเซล 9 พันล้านบาท  5.เพิ่มเงินเดือนข้าราชการฯปริญญาตรี เป็นเดือนละ 15,000 บาท 1.8 หมื่นล้านบาท 6.แจกแท็บเล็ตนักเรียน 2 ปี 2,800 ล้านบาท 7.พักชำระหนี้เกษตรกร ใช้งบสนับสนุนปีละ 1.5 หมื่นล้านบาท 8.รับจำนำข้าวเปลือก ช่วงแรก 7 ต.ค. 54 - 15 ก.ย.55 ประมาณการค่าใช้จ่าย 3 แสนล้านบาท 9.ปรับค่าแรงขั้นต่ำเป็นวันละ 300 บาท ภาคธุรกิจเอกชนรับภาระ 10.กองทุนพัฒนาสตรี จังหวัดละ 100 ล้านบาท  รวม 7,700 ล้านบาท

ตัดตอนจากไทยรัฐ