ตอนนี้จะมีเริ่มมีรายละเอียดเนื้อเรื่องเยอะ ถ้าผมตกหล่นจุดสำคัญตรงไหนไปรบกวนช่วยเสริมด้วยนะครับ
เริ่มตอนมาด้วยกองพรางตัวลอบโจมตีของฝั่ง Walgaru ล่าถอยออไป
ตัดมาทางอิซุรุที่ลอยเท้งเต้งอยู่เพราะเครื่องไม่ยอมสตาร์ต
สมาชิกทีมกระต่ายที่เหลือติดต่อเข้ามาด้วยความเป็นห่วงแต่ก่อนที่อิซุรุจะได้พูดอะไรไปมาก รินติดต่อเข้ามาสั่งห้ามไม่ให้อิซุรุคุยกับทีมต่อ
(เรื่อง Walgaru นั้นคล้ายคนเป็นเรื่องที่ถูกเก็บเป็นความลับและมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ ผมคิดว่ารินเองก็คงรู้เหมือนกันเลยรีบระงับการสื่อสาร)
ฝั่ง Walgaru นั้นอยู่ๆ ก็ถอยทัพกลับไปท้งความประหลาดใจให้กับฝั่งโลกเพราะทางกองทัพโลกนั้นโดนถล่มย่อยยับอย่างมาก
เคย์กลับมาถึงก็ถามหาอิซุรุก่อนเลยนะ อิอิ แต่จะเห็นได้ว่าเธอค่อนข้างล้าไม่น้อยเลยทีเดียวส่วนตัวผมคิดว่าการรบแต่ละครั้งนี่เธอคือคนที่ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง แม้ไม่มีบทรบมากนักแต่การวางแผนของทีมและรายงานการเคลื่อนไหวของศัตรูล้วนแล้วแต่เป็นผลงานของเธอทั้งสิ้น เป็นหูและตาของทีมกระต่ายก็ว่าได้
ขณะที่อาซากิกลับไปก็โดนตัวเล็กโวยเข้าใส่ เข้าใจว่าโวยตอนที่อิซุรุไม่อยู่แล้วพากันเละ
ทางอิซุรุนั้นได้ชื่อเล่นใหม่จากทีมซัพว่าอิช์จัง ขณะที่แต่ละคนกำลังถามเรื่องคู่ต่อสู้ของเขานั้นเรย์กะก็ได้มาช่วยตัดบทให้
เมื่อมาพบรินและเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วเธอสั่งให้เขาไม่แพร่พรายเรื่องนี้ให้แก่ใครแม้แต่เพื่อนในทีมกระต่ายเองก็ตาม
อิซุรุพยายามจะถามถึงผู้หญิงที่เขาเจอที่สระน้ำที่รีสอตว่าทำไมถึงมีลักษณะเหมือน Walgaru ที่เขาสู้ด้วยแต่รินไม่ยอมตอบคำถามใดๆ เพิ่มเติม
ขณะที่สาวที่อิซุรุพูดถึงนั้นได้นั่งดูรายงานและภาพการรบระหว่างอิซุรุและ Jiart ซึ่งเธอได้แปลคำพูดของ Jiart ให้ลุงชิม่อนฟัง
หลังจากพิจารณาสถานะการณ์แล้วเธอให้ความเห็นแก่ลุงชิม่อนว่าควรให้ทีมกระต่ายได้รู้เรื่องนี้เพื่อเตรียมพร้อมศึกหนักในอนาคต
ณ จุดนี้เป็นจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งซึ่งเปิดเผยว่าเธอและอิซุรุนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดีมาก่อน นอกจากนี้เธอนั้นยังเป็นห่วงเป็นใยและอยากเจออิซุรุแต่ก็ไม่สามารถทำได้
ตัดมาทางทีมกระต่ายที่มารวมตัวกันอยู่ห้องของอาซากิเพื่อดูยานที่กลับมาจากการรบ
จากที่ผมสังเกตุจะเห็นว่าอาซากินั้นชอบใช้เครื่องหอมยาดมคลายเครียดบ่อยๆ ตั้งแต่ตอนแสดงสาธิตแล้ว ตอนนี้ในห้องนั้นของเกี่ยวกับพวกเครื่องหอมเพียบเลยทีเดียว
ยานส่วนใหญ่นั้นกลับมาในสภาพที่โดนยำเละเทะมาทั้งนั้น
ทามากิได้กลิ่นหอมจากเทียนหอมเลยลองไปดมดูใกล้ๆ ส่วนผลก็ตามรูปครับ ฮาๆ
ไม่นานนักทั้งทามากิและสุรุกะก็ผล่อยหลับไปจากความเพลีย เหลือเคย์ที่ตั้งหน้าตั้งตารออิซุรุ
และอาซากิที่เครียดว่าตัวเองนั้นยังทำหน้าที่หัวหน้าได้ไม่ดีพอแม้แต่ตัวเล็กยังต่อว่าเอาให้
เคย์เลยพูดให้กำลังใจอาซากิพร้อมปักธงไปในตัว หุหุ
บรรยากาศเป็นใจเลยทีเดียว
แต่อาซากิดันบ่นว่าอิซุรุหายไปไหนนานนัก เคย์เลยวิ่งแจ้นออกไปตามหา
(อาซากิ : ไม่น่าเลยเรา...ปากหนอปาก)
ระหว่างทางเคย์เจอกับอิซุรุที่นั่งกลุ้มอยู่ทั้งเรื่องศัตรูและทำไมเขาถึงจำผู้หญิงคนนั้นได้ทั้งๆ ที่โดนลบความทรงจำแล้วไม่น่าจะจำใครที่เคยเจอก่อนเข้าโรงเรียนได้อีก เคย์พยายามถามแต่อิซุรุนั้นกลับไม่สนใจจนเธอเผลอกระชากคอเสื้ออิซุรุเลยทีเดียว
ขณะที่เคย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงอิซุรุได้ สถานะการณ์กลับเลวร้ายลงกว่าเดิมเมื่อสาวที่อิซุรุคิดถึงนั้นเดินผ่านมาพอได้(เธอแค่ตั้งใจจะแอบมาดูอิซุรุอยู่ไกลๆ แค่นั้น)
อิซุรุวิ่งไล่ตามเธอคนนั้นไปทิ้งเคย์ไว้ข้างหลังอย่างไม่ใยดีแต่อย่างใดจนเคย์นั้นงอนตุ๊บป่องเลย
ภาพสวยๆ ขณะเปลี่ยนจากกลางวันเป็นกลางคืนบน Star Rose
วันต่อมาทีมกระต่ายก็มานั่งกินข้าวร่วมกันโดยที่อิซุรุยังกลุ้มไม่หาย ส่วนเคย์งอนมาตั้งแต่เมื่อวาน
ขณะที่รอบตัวพวกเขาล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยเสียงความกังวล หวาดกลัวและไม่มั่นใจในอนาคตของเหล่าทหารของกองกำลังป้องกันกลาง
อิซุรุก็โดนถาดฟาดหัวเข้าให้เต็มๆ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน สาวโรงอาหารจากโรงเรียนเก่าของพวกเขานั่นเอง
สุรุกะได้ช่องแซวเธอว่ามาตามหาเขาเหรอแต่พูดยังไม่ทันสุดคำก็ได้ถาดเต็มหน้าเข้าไปแทน ก่อนที่เธอจะอธิบายว่าโดนย้ายมาประจำที่นี่หลังจากที่ทีมกระต่ายจบออกมา
(จุดนี้ผมว่าน่าสนใจเหมือนกัน เธอไม่ได้ตอบปฏิเสธสุรุกะโดยตรงแต่อย่างใด เป็นได้ว่าเธออาจเป็นคนในครอบครัวอุปถัมภ์ของสุรุกะก็ได้ ส่วนตัวผมว่าเธอบทเยอะเกินกว่าความจำเป็นของตัวประกอบทั่วไปมาก)
คุยกันได้ซักพัก 2 หนุ่มโอเปอเรเตอร์ประจำยาน Godinion ก็เข้ามาขอนั่งด้วย
ทามากิหลุดไปเป็นที่เรียบร้อย
จุดประสงค์จริงๆ ของสองคนนี้คือเข้ามาช่วยเบนความสนใจของทีมจากเรื่องของอิซุรุให้ คาดว่าอาจเป็นไอเดียของรินอีกทีหนึ่ง
ทั้งสองเสนอจะเลี้ยงของหวาน ซึ่งเคย์ก็ไม่พลาดขอสั่งขอสั่งถ้วยใหญ่สุดเลยทีเดียว(อย่างเร็วด้วยจนเจ้าตัวเองเขินถึงกับเอาเมนูที่ถืออยู่มาปิดหน้าเลยทีเดียว)
แต่เรื่องของหวานก็ต้องโดนพักไว้ก่อนเมื่อเปโกะซัง ผู้จัดการส่วนตัวทีมกระต่ายได้มาเรียกให้ทุกคนไปประชุมด่วน
ซึ่งเมื่อเข้ามายังห้องก็ต้องผงะกันเมื่อเจอลุงชิม่อนแกยืนรออยู่แล้วก็ได้อธิบายเรื่องที่ให้อิซุรุเก็บเป็นความลับ
ตลอดจนอธิบายว่าเทคโนโลยีของ MJP นั้นมาจากของ Walgaru ซึ่งมาดัดแปลงให้เข้ากับมนุษย์
จุดนี้ผมของมารค์ไว้เลยนะครับว่าสำคัญมาก ข้ามไปอาจทำให้สับสนในตอนหลังๆ ได้
JURIA-SYSTEM นั้นถูกพัฒนาขึ้นโดย สมาชิกในองค์กร MJP ซึ่งชื่อของผู้พัฒนาระบบนี้นั้น
ไม่น่าเป็นอื่นไปได้นอกจาก
Juria และคาดว่าเธอน่าจะ
ตายไปแล้ว
ทางทีมกระต่ายได้สงสัยว่าเอาเทคโนโลยีของ Wulgaru มาได้ยังไง ลุงชิม่อนเองแกก็ได้ตอบว่ามีคนแปรพักตร์จากฝั่งนั้น
ซึ่งได้ให้ข้อมูลเรื่องที่ Wulgaru จะบุกโจมตีโลกและเทคโนโลทีใช้เป็นฐานในการสร้างหุ่น AHSMBs ที่ทีมกระต่ายนั้นใช้อยู่
และคนแปรพักตร์ที่ว่านั้นก็หาใช่ใครที่ไหน
ผมคิดว่าเรื่องนี้ให้มุมมองระหว่างนักบินและทีมช่างซัพพอร์ตนั้นเหมือนกับนักแข่งและทีมพิทในรถแข่งมากกว่าแค่ทหารกับหน่วยซ่อมบำรุงเหมือนเรื่องอื่นๆ ซึ่งหลายเรื่องไม่พูดถึงทีมงานเบื้องหลังเลยด้วยซ้ำทั้งๆ ที่เป็นส่วนสำคัญในการทำให้หุ่นนั้นพร้อมรบเสมอ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นเอกลักษณ์ของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้
ตอนหน้าเนื้อหารายละเอียดหนังอึ้งไม่น้อยทีเดียว หวังว่าคนอ่านกระทู้ผมคงไม่หนีหายกันไปหมดนะครับ
[วิเคราะห์เก็บตกหลังดูจบเรื่อง] Ginga Kikoutai Majestic Prince ตอนที่ 9
เริ่มตอนมาด้วยกองพรางตัวลอบโจมตีของฝั่ง Walgaru ล่าถอยออไป
ตัดมาทางอิซุรุที่ลอยเท้งเต้งอยู่เพราะเครื่องไม่ยอมสตาร์ต
สมาชิกทีมกระต่ายที่เหลือติดต่อเข้ามาด้วยความเป็นห่วงแต่ก่อนที่อิซุรุจะได้พูดอะไรไปมาก รินติดต่อเข้ามาสั่งห้ามไม่ให้อิซุรุคุยกับทีมต่อ
(เรื่อง Walgaru นั้นคล้ายคนเป็นเรื่องที่ถูกเก็บเป็นความลับและมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนหนึ่งเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ ผมคิดว่ารินเองก็คงรู้เหมือนกันเลยรีบระงับการสื่อสาร)
ฝั่ง Walgaru นั้นอยู่ๆ ก็ถอยทัพกลับไปท้งความประหลาดใจให้กับฝั่งโลกเพราะทางกองทัพโลกนั้นโดนถล่มย่อยยับอย่างมาก
เคย์กลับมาถึงก็ถามหาอิซุรุก่อนเลยนะ อิอิ แต่จะเห็นได้ว่าเธอค่อนข้างล้าไม่น้อยเลยทีเดียวส่วนตัวผมคิดว่าการรบแต่ละครั้งนี่เธอคือคนที่ปิดทองหลังพระอย่างแท้จริง แม้ไม่มีบทรบมากนักแต่การวางแผนของทีมและรายงานการเคลื่อนไหวของศัตรูล้วนแล้วแต่เป็นผลงานของเธอทั้งสิ้น เป็นหูและตาของทีมกระต่ายก็ว่าได้
ขณะที่อาซากิกลับไปก็โดนตัวเล็กโวยเข้าใส่ เข้าใจว่าโวยตอนที่อิซุรุไม่อยู่แล้วพากันเละ
ทางอิซุรุนั้นได้ชื่อเล่นใหม่จากทีมซัพว่าอิช์จัง ขณะที่แต่ละคนกำลังถามเรื่องคู่ต่อสู้ของเขานั้นเรย์กะก็ได้มาช่วยตัดบทให้
เมื่อมาพบรินและเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดแล้วเธอสั่งให้เขาไม่แพร่พรายเรื่องนี้ให้แก่ใครแม้แต่เพื่อนในทีมกระต่ายเองก็ตาม
อิซุรุพยายามจะถามถึงผู้หญิงที่เขาเจอที่สระน้ำที่รีสอตว่าทำไมถึงมีลักษณะเหมือน Walgaru ที่เขาสู้ด้วยแต่รินไม่ยอมตอบคำถามใดๆ เพิ่มเติม
ขณะที่สาวที่อิซุรุพูดถึงนั้นได้นั่งดูรายงานและภาพการรบระหว่างอิซุรุและ Jiart ซึ่งเธอได้แปลคำพูดของ Jiart ให้ลุงชิม่อนฟัง
หลังจากพิจารณาสถานะการณ์แล้วเธอให้ความเห็นแก่ลุงชิม่อนว่าควรให้ทีมกระต่ายได้รู้เรื่องนี้เพื่อเตรียมพร้อมศึกหนักในอนาคต
ณ จุดนี้เป็นจุดสำคัญอีกจุดหนึ่งซึ่งเปิดเผยว่าเธอและอิซุรุนั้นรู้จักกันเป็นอย่างดีมาก่อน นอกจากนี้เธอนั้นยังเป็นห่วงเป็นใยและอยากเจออิซุรุแต่ก็ไม่สามารถทำได้
ตัดมาทางทีมกระต่ายที่มารวมตัวกันอยู่ห้องของอาซากิเพื่อดูยานที่กลับมาจากการรบ
จากที่ผมสังเกตุจะเห็นว่าอาซากินั้นชอบใช้เครื่องหอมยาดมคลายเครียดบ่อยๆ ตั้งแต่ตอนแสดงสาธิตแล้ว ตอนนี้ในห้องนั้นของเกี่ยวกับพวกเครื่องหอมเพียบเลยทีเดียว
ยานส่วนใหญ่นั้นกลับมาในสภาพที่โดนยำเละเทะมาทั้งนั้น
ทามากิได้กลิ่นหอมจากเทียนหอมเลยลองไปดมดูใกล้ๆ ส่วนผลก็ตามรูปครับ ฮาๆ
ไม่นานนักทั้งทามากิและสุรุกะก็ผล่อยหลับไปจากความเพลีย เหลือเคย์ที่ตั้งหน้าตั้งตารออิซุรุ
และอาซากิที่เครียดว่าตัวเองนั้นยังทำหน้าที่หัวหน้าได้ไม่ดีพอแม้แต่ตัวเล็กยังต่อว่าเอาให้
เคย์เลยพูดให้กำลังใจอาซากิพร้อมปักธงไปในตัว หุหุ
บรรยากาศเป็นใจเลยทีเดียว
แต่อาซากิดันบ่นว่าอิซุรุหายไปไหนนานนัก เคย์เลยวิ่งแจ้นออกไปตามหา
(อาซากิ : ไม่น่าเลยเรา...ปากหนอปาก)
ระหว่างทางเคย์เจอกับอิซุรุที่นั่งกลุ้มอยู่ทั้งเรื่องศัตรูและทำไมเขาถึงจำผู้หญิงคนนั้นได้ทั้งๆ ที่โดนลบความทรงจำแล้วไม่น่าจะจำใครที่เคยเจอก่อนเข้าโรงเรียนได้อีก เคย์พยายามถามแต่อิซุรุนั้นกลับไม่สนใจจนเธอเผลอกระชากคอเสื้ออิซุรุเลยทีเดียว
ขณะที่เคย์นั้นไม่สามารถเข้าถึงอิซุรุได้ สถานะการณ์กลับเลวร้ายลงกว่าเดิมเมื่อสาวที่อิซุรุคิดถึงนั้นเดินผ่านมาพอได้(เธอแค่ตั้งใจจะแอบมาดูอิซุรุอยู่ไกลๆ แค่นั้น)
อิซุรุวิ่งไล่ตามเธอคนนั้นไปทิ้งเคย์ไว้ข้างหลังอย่างไม่ใยดีแต่อย่างใดจนเคย์นั้นงอนตุ๊บป่องเลย
ภาพสวยๆ ขณะเปลี่ยนจากกลางวันเป็นกลางคืนบน Star Rose
วันต่อมาทีมกระต่ายก็มานั่งกินข้าวร่วมกันโดยที่อิซุรุยังกลุ้มไม่หาย ส่วนเคย์งอนมาตั้งแต่เมื่อวาน
ขณะที่รอบตัวพวกเขาล้วนแล้วแต่เต็มไปด้วยเสียงความกังวล หวาดกลัวและไม่มั่นใจในอนาคตของเหล่าทหารของกองกำลังป้องกันกลาง
อิซุรุก็โดนถาดฟาดหัวเข้าให้เต็มๆ ซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน สาวโรงอาหารจากโรงเรียนเก่าของพวกเขานั่นเอง
สุรุกะได้ช่องแซวเธอว่ามาตามหาเขาเหรอแต่พูดยังไม่ทันสุดคำก็ได้ถาดเต็มหน้าเข้าไปแทน ก่อนที่เธอจะอธิบายว่าโดนย้ายมาประจำที่นี่หลังจากที่ทีมกระต่ายจบออกมา
(จุดนี้ผมว่าน่าสนใจเหมือนกัน เธอไม่ได้ตอบปฏิเสธสุรุกะโดยตรงแต่อย่างใด เป็นได้ว่าเธออาจเป็นคนในครอบครัวอุปถัมภ์ของสุรุกะก็ได้ ส่วนตัวผมว่าเธอบทเยอะเกินกว่าความจำเป็นของตัวประกอบทั่วไปมาก)
คุยกันได้ซักพัก 2 หนุ่มโอเปอเรเตอร์ประจำยาน Godinion ก็เข้ามาขอนั่งด้วย
ทามากิหลุดไปเป็นที่เรียบร้อย
จุดประสงค์จริงๆ ของสองคนนี้คือเข้ามาช่วยเบนความสนใจของทีมจากเรื่องของอิซุรุให้ คาดว่าอาจเป็นไอเดียของรินอีกทีหนึ่ง
ทั้งสองเสนอจะเลี้ยงของหวาน ซึ่งเคย์ก็ไม่พลาดขอสั่งขอสั่งถ้วยใหญ่สุดเลยทีเดียว(อย่างเร็วด้วยจนเจ้าตัวเองเขินถึงกับเอาเมนูที่ถืออยู่มาปิดหน้าเลยทีเดียว)
แต่เรื่องของหวานก็ต้องโดนพักไว้ก่อนเมื่อเปโกะซัง ผู้จัดการส่วนตัวทีมกระต่ายได้มาเรียกให้ทุกคนไปประชุมด่วน
ซึ่งเมื่อเข้ามายังห้องก็ต้องผงะกันเมื่อเจอลุงชิม่อนแกยืนรออยู่แล้วก็ได้อธิบายเรื่องที่ให้อิซุรุเก็บเป็นความลับ
ตลอดจนอธิบายว่าเทคโนโลยีของ MJP นั้นมาจากของ Walgaru ซึ่งมาดัดแปลงให้เข้ากับมนุษย์
จุดนี้ผมของมารค์ไว้เลยนะครับว่าสำคัญมาก ข้ามไปอาจทำให้สับสนในตอนหลังๆ ได้
JURIA-SYSTEM นั้นถูกพัฒนาขึ้นโดย สมาชิกในองค์กร MJP ซึ่งชื่อของผู้พัฒนาระบบนี้นั้น
ไม่น่าเป็นอื่นไปได้นอกจาก Juria และคาดว่าเธอน่าจะตายไปแล้ว
ทางทีมกระต่ายได้สงสัยว่าเอาเทคโนโลยีของ Wulgaru มาได้ยังไง ลุงชิม่อนเองแกก็ได้ตอบว่ามีคนแปรพักตร์จากฝั่งนั้น
ซึ่งได้ให้ข้อมูลเรื่องที่ Wulgaru จะบุกโจมตีโลกและเทคโนโลทีใช้เป็นฐานในการสร้างหุ่น AHSMBs ที่ทีมกระต่ายนั้นใช้อยู่
และคนแปรพักตร์ที่ว่านั้นก็หาใช่ใครที่ไหน
ผมคิดว่าเรื่องนี้ให้มุมมองระหว่างนักบินและทีมช่างซัพพอร์ตนั้นเหมือนกับนักแข่งและทีมพิทในรถแข่งมากกว่าแค่ทหารกับหน่วยซ่อมบำรุงเหมือนเรื่องอื่นๆ ซึ่งหลายเรื่องไม่พูดถึงทีมงานเบื้องหลังเลยด้วยซ้ำทั้งๆ ที่เป็นส่วนสำคัญในการทำให้หุ่นนั้นพร้อมรบเสมอ เป็นอีกหนึ่งจุดที่ผมคิดว่าน่าจะเป็นเอกลักษณ์ของเรื่องนี้เลยก็ว่าได้
ตอนหน้าเนื้อหารายละเอียดหนังอึ้งไม่น้อยทีเดียว หวังว่าคนอ่านกระทู้ผมคงไม่หนีหายกันไปหมดนะครับ