ยาวหน่อยนะคะ
คือตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 21 สัปดาห์แล้วค่ะ ทำงานออฟฟิส หน้าที่ของเราคือแอดมิน คือเป็นธุรการน่ะค่ะ ( บริษัทเราเป็นบริษัทเล็กๆนะคะ พนักงานมีแค่ 3 คนเองค่ะ ) แต่ธุรการนี่มันครอบคลุมมากเลย ทั้ง จัดซื้อ , บัญชี , ดูแลลูกค้า , เช็คสต็อก นับของ ตรวจของ ตรวจดูสินค้าที่นำไปฝากขายที่หน้าร้านอื่นๆ ( มีหน้าร้านที่ฝากขายสองที่ ต้องเช็คยอดกันทุกเดือน) manage งานทุกอย่างให้ออฟฟิส ต้องรักษาผลประโยชน์ให้ออฟฟิสคือ เจ้านายซีเรียสมากคือเรื่องเงิน เงินหายไปนิดนึงนี่ไม่ได้เลย คือต้องทำงานละเอียดมากนะคะ ตรวจทุกบาททุกสตางค์ แล้วเราไม่ได้ทำงานหน้าเดียว จัดซื้อ จัดหาของก็ต้องทำต้องดู ไหนต้องมาดูบัญชีอีก บอกตรงๆว่าเราปวดหัวมากตอนนี้ เมื่อวันพฤหัส เช็คยอดสินค้าผิดไปตัวนึง คือ หน้าร้านโอนมาขาดไป 1,4xx.- เจ้านายเค้ามาตรวจบอกว่าเราไม่ละเอียด ต้องละเอียดกว่านี้ ( โห...พี่ไม่ได้ดูเลยนะคะ หน้างานความรับผิดชอบหนูมันขนาดไหน คือเค้าคิดว่า เมื่อก่อน เค้าทำมากันเองได้สองคนกับแฟนเค้า ยังทำกันได้ แต่ถามหน่อยว่าตอนนี้มันเหมือนกันไหม ยอดขายทำเพิ่มจากเดิมเป็นเท่าตัว งานฝากขายหน้าร้านอื่นก็เพิ่มมากขึ้น ไหนจะเอกสารบัญชี ไหนจะต้องเปิด POสั่งของ เข้ามา สากกะเบือยันเรือรบมากอ่ะ ) เราบอกตรงๆว่าเราละเอียดกว่านี้ไม่ไหวแล้ว เงินเดือน 12500.- ทำงานเหมือนเงินเดือน 3หมื่น และเค้าก็ชอบมาจี้ มากดดัน เราก็ยอมรับว่าเราอาจจะไม่ได้ทำงานตรงใจเค้า 100% เพราะเค้าเป็นเจ้าของ เค้าต้องทุ่มเท ต้องละเอียด คิดถึงผลประโยชน์ของเค้าเป็นหลักอยู่แล้ว แต่เราเนี่ยให้ทำให้ตาย เราก็ได้แค่นี้ เมื่อก่อนเราทนได้นะ แต่ตอนนี้ ด้วยลักษณะทางกายภาพท้องเริ่มใหญ่ขึ้น เราเริ่มอึดอัด เริ่มเครียดค่ะ เครียดมากเลย ร่างกายปฏิเสธงานนี้มาก ตอนนี้มันรู้สึกไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากเห็นหน้าเจ้านาย ไม่อยากได้ยินเสียงที่เค้าสั่งๆๆๆ มันหลอนมากอ่ะ จิตตกไปเลย เราเข้าใจว่ามันเป็นที่ฮอร์โมนนะ แต่เราควบคุมไม่ได้จะให้กลับไปรับคำสั่งจี้ๆๆ แบบนั้น เราทำไม่ได้ เมื่อวันพฤหัสเราขับรถกลับบ้าน ร้องไห้มาเลยอ่ะ แอบเหม่อ เกือบฝ่าไฟแดงด้วย กลับมาถึงบ้าน มานอนตาห้อยๆๆ สามีเรามาถามว่าเราเป็นอะไร เราบอกเค้าไปว่าเราไม่อยากทำงานนี้แล้ว เราจะลาออก เราเครียด ( เราก็รู้นะ ว่าถ้าเราลาออก สามีเราก็ต้องลำบากขึ้น คือต้องรับผิดชอบ อะไรเพิ่มขึ้น ไหนจะค่าผ่อนรถ ซื้อมา เค้าก็ไม่ได้ขับนะ ให้เราขับเพราะเราท้อง เค้าขี่มอไซด์แทน , ค่าเช่าห้องเดือนละ 4 พัน , ค่าพาเราไปฝากท้อง ครั้งนึงก็สองพันกว่าบาท , ค่าซื้อของมาบำรุงเรา นม-น้ำผลไม้-ของมีประโยชน์อย่างอื่น ฯลฯ ) เงินเดือนเค้าแค่ 3หมื่น กับภาระทั้งหมดนี้ เราสงสารเค้ามาก รู้ว่าเค้าเหนื่อย แต่เราทนเครียดต่อไปไม่ไหวจริงๆ เค้าบอกเราว่าไม่ไหวก็ลาออก อย่าเครียด แล้วมาลูบหัวเราเบาๆ น้ำตาไหลเลย คือลาออกแล้วเราไม่คิดจะอยู่เฉยๆหรอกนะคะ เราคิดจะหาอะไรทำ คือ ออกมาขายของก๊อกๆแก๊กๆ ทางเน็ต แล้ว ปลายปีนี้มีงานเกษตรแฟร์ที่กำแพงแสน นครปฐม เรามีสินค้าอยู่ แค่เราไปประมูลที่ให้ได้ แล้วเราจะได้ขายของ กำไรจากงานนี้ น่าจะทำให้เราพออยู่ได้จนถึงคลอดและคงมีเงินค่าคลอดด้วย เงินเก็บเราพอมี หลังจากนี้เราก็จะได้มีเวลาคิดว่าเราจะทำอะไรต่อไป
แล้วก็มีจะขอคำปรึกษา คุณพ่อคุณแม่ในนี้ด้วยค่ะว่า
1. เราอยากย้ายโรงพยาบาล ตอนนี้เราฝากท้องที่โรงพยาบาลรามคำแหง ซึ่งถ้าคลอดที่นี่คลอดปกติ 36,000.- ผ่าคลอด 49,000.- แต่คือยังไงมันก็น่าจะเกินอยู่แล้วค่าอะไรจุกจิกๆมันเยอะ เราว่าค่าใช้จ่ยมันสูง อยากย้าย คิดอยู่ว่าจะกลับไปคลอดที่บ้าน คือ ที่ จ.นครปฐม รพ.นครปฐมน่ะค่ะ เพื่อนเราบอกว่า ถ้าจะย้ายไปฝากที่โน่น ต้องขอประวัติ และก็ให้ไปฝากพิเศษกับหมอที่เค้าทำคลอดใน รพ.นครปฐม (เพื่อนบอกว่ายังไงค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่า รพ.ราม แน่นนอน ) เผื่อมีใครที่อยู่ นครปฐมเหมือนเรา เราอยากทราบว่า มีใครพอทราบไหมคะ ว่า มีคุณหมอท่านไหนที่เปิดคลีนิคฝากครรภ์อยู่ที่นครปฐม และหมอท่านนั้นทำคลอดใน รพ.นครปฐมด้วยน่ะค่ะ
2. เรื่องประกันสังคม ถ้าเราลาออก เราจะไปขึ้นทะเบียนคนว่างงานแล้วขอรับเงินชดเชยตอนตกงานเดือนละ 30% ของเงินเดือน เป็นเวลา 3 เดือน อันนี้เราทำได้ใช่ไหมคะ ( เราทำงานที่นี่มา 1 ปี 4 เดือนค่ะ ) แล้วก็ สิทธิประกันสังคมที่เราจะสามารถเบิกค่าคลอดบุตร 13,000 บาทนี่ มันจะคลอบคลุมอยู่ถึงเราคลอดไหมคะ กำหนดคลอดเรา 4 ก.พ.2557 ค่ะ หรือว่าเราต้องมาทำเรื่องส่งต่อประกันสังคมเองหลังจากลาออกจากงานก่อน ใครพอทราบช่วยแนะนำเราด้วยค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ เราแค่อยากหาที่ระบายความอัดอั้นตันใจ และหาที่ปรึกษา น่ะค่ะ พอได้ระบายแล้วมันจะหายเครียด เหมือนได้เล่าให้เพื่อนฟัง และ ถ้ามีเพื่อนดีๆ มานั่งคุย ปลอบใจ แนะนำ เราจะรู้สึกดีมากเลยค่ะ เมื่อก่อนไม่เป็นนะคะ เพิ่งมาเป็นตอนท้องนี่แหละ ^ ^
ตอนนี้คุณแม่เครียดมากค่ะ อยากระบายและขอคำปรึกษา
คือตอนนี้ตั้งครรภ์ได้ 21 สัปดาห์แล้วค่ะ ทำงานออฟฟิส หน้าที่ของเราคือแอดมิน คือเป็นธุรการน่ะค่ะ ( บริษัทเราเป็นบริษัทเล็กๆนะคะ พนักงานมีแค่ 3 คนเองค่ะ ) แต่ธุรการนี่มันครอบคลุมมากเลย ทั้ง จัดซื้อ , บัญชี , ดูแลลูกค้า , เช็คสต็อก นับของ ตรวจของ ตรวจดูสินค้าที่นำไปฝากขายที่หน้าร้านอื่นๆ ( มีหน้าร้านที่ฝากขายสองที่ ต้องเช็คยอดกันทุกเดือน) manage งานทุกอย่างให้ออฟฟิส ต้องรักษาผลประโยชน์ให้ออฟฟิสคือ เจ้านายซีเรียสมากคือเรื่องเงิน เงินหายไปนิดนึงนี่ไม่ได้เลย คือต้องทำงานละเอียดมากนะคะ ตรวจทุกบาททุกสตางค์ แล้วเราไม่ได้ทำงานหน้าเดียว จัดซื้อ จัดหาของก็ต้องทำต้องดู ไหนต้องมาดูบัญชีอีก บอกตรงๆว่าเราปวดหัวมากตอนนี้ เมื่อวันพฤหัส เช็คยอดสินค้าผิดไปตัวนึง คือ หน้าร้านโอนมาขาดไป 1,4xx.- เจ้านายเค้ามาตรวจบอกว่าเราไม่ละเอียด ต้องละเอียดกว่านี้ ( โห...พี่ไม่ได้ดูเลยนะคะ หน้างานความรับผิดชอบหนูมันขนาดไหน คือเค้าคิดว่า เมื่อก่อน เค้าทำมากันเองได้สองคนกับแฟนเค้า ยังทำกันได้ แต่ถามหน่อยว่าตอนนี้มันเหมือนกันไหม ยอดขายทำเพิ่มจากเดิมเป็นเท่าตัว งานฝากขายหน้าร้านอื่นก็เพิ่มมากขึ้น ไหนจะเอกสารบัญชี ไหนจะต้องเปิด POสั่งของ เข้ามา สากกะเบือยันเรือรบมากอ่ะ ) เราบอกตรงๆว่าเราละเอียดกว่านี้ไม่ไหวแล้ว เงินเดือน 12500.- ทำงานเหมือนเงินเดือน 3หมื่น และเค้าก็ชอบมาจี้ มากดดัน เราก็ยอมรับว่าเราอาจจะไม่ได้ทำงานตรงใจเค้า 100% เพราะเค้าเป็นเจ้าของ เค้าต้องทุ่มเท ต้องละเอียด คิดถึงผลประโยชน์ของเค้าเป็นหลักอยู่แล้ว แต่เราเนี่ยให้ทำให้ตาย เราก็ได้แค่นี้ เมื่อก่อนเราทนได้นะ แต่ตอนนี้ ด้วยลักษณะทางกายภาพท้องเริ่มใหญ่ขึ้น เราเริ่มอึดอัด เริ่มเครียดค่ะ เครียดมากเลย ร่างกายปฏิเสธงานนี้มาก ตอนนี้มันรู้สึกไม่อยากไปทำงาน ไม่อยากเห็นหน้าเจ้านาย ไม่อยากได้ยินเสียงที่เค้าสั่งๆๆๆ มันหลอนมากอ่ะ จิตตกไปเลย เราเข้าใจว่ามันเป็นที่ฮอร์โมนนะ แต่เราควบคุมไม่ได้จะให้กลับไปรับคำสั่งจี้ๆๆ แบบนั้น เราทำไม่ได้ เมื่อวันพฤหัสเราขับรถกลับบ้าน ร้องไห้มาเลยอ่ะ แอบเหม่อ เกือบฝ่าไฟแดงด้วย กลับมาถึงบ้าน มานอนตาห้อยๆๆ สามีเรามาถามว่าเราเป็นอะไร เราบอกเค้าไปว่าเราไม่อยากทำงานนี้แล้ว เราจะลาออก เราเครียด ( เราก็รู้นะ ว่าถ้าเราลาออก สามีเราก็ต้องลำบากขึ้น คือต้องรับผิดชอบ อะไรเพิ่มขึ้น ไหนจะค่าผ่อนรถ ซื้อมา เค้าก็ไม่ได้ขับนะ ให้เราขับเพราะเราท้อง เค้าขี่มอไซด์แทน , ค่าเช่าห้องเดือนละ 4 พัน , ค่าพาเราไปฝากท้อง ครั้งนึงก็สองพันกว่าบาท , ค่าซื้อของมาบำรุงเรา นม-น้ำผลไม้-ของมีประโยชน์อย่างอื่น ฯลฯ ) เงินเดือนเค้าแค่ 3หมื่น กับภาระทั้งหมดนี้ เราสงสารเค้ามาก รู้ว่าเค้าเหนื่อย แต่เราทนเครียดต่อไปไม่ไหวจริงๆ เค้าบอกเราว่าไม่ไหวก็ลาออก อย่าเครียด แล้วมาลูบหัวเราเบาๆ น้ำตาไหลเลย คือลาออกแล้วเราไม่คิดจะอยู่เฉยๆหรอกนะคะ เราคิดจะหาอะไรทำ คือ ออกมาขายของก๊อกๆแก๊กๆ ทางเน็ต แล้ว ปลายปีนี้มีงานเกษตรแฟร์ที่กำแพงแสน นครปฐม เรามีสินค้าอยู่ แค่เราไปประมูลที่ให้ได้ แล้วเราจะได้ขายของ กำไรจากงานนี้ น่าจะทำให้เราพออยู่ได้จนถึงคลอดและคงมีเงินค่าคลอดด้วย เงินเก็บเราพอมี หลังจากนี้เราก็จะได้มีเวลาคิดว่าเราจะทำอะไรต่อไป
แล้วก็มีจะขอคำปรึกษา คุณพ่อคุณแม่ในนี้ด้วยค่ะว่า
1. เราอยากย้ายโรงพยาบาล ตอนนี้เราฝากท้องที่โรงพยาบาลรามคำแหง ซึ่งถ้าคลอดที่นี่คลอดปกติ 36,000.- ผ่าคลอด 49,000.- แต่คือยังไงมันก็น่าจะเกินอยู่แล้วค่าอะไรจุกจิกๆมันเยอะ เราว่าค่าใช้จ่ยมันสูง อยากย้าย คิดอยู่ว่าจะกลับไปคลอดที่บ้าน คือ ที่ จ.นครปฐม รพ.นครปฐมน่ะค่ะ เพื่อนเราบอกว่า ถ้าจะย้ายไปฝากที่โน่น ต้องขอประวัติ และก็ให้ไปฝากพิเศษกับหมอที่เค้าทำคลอดใน รพ.นครปฐม (เพื่อนบอกว่ายังไงค่าใช้จ่ายก็ถูกกว่า รพ.ราม แน่นนอน ) เผื่อมีใครที่อยู่ นครปฐมเหมือนเรา เราอยากทราบว่า มีใครพอทราบไหมคะ ว่า มีคุณหมอท่านไหนที่เปิดคลีนิคฝากครรภ์อยู่ที่นครปฐม และหมอท่านนั้นทำคลอดใน รพ.นครปฐมด้วยน่ะค่ะ
2. เรื่องประกันสังคม ถ้าเราลาออก เราจะไปขึ้นทะเบียนคนว่างงานแล้วขอรับเงินชดเชยตอนตกงานเดือนละ 30% ของเงินเดือน เป็นเวลา 3 เดือน อันนี้เราทำได้ใช่ไหมคะ ( เราทำงานที่นี่มา 1 ปี 4 เดือนค่ะ ) แล้วก็ สิทธิประกันสังคมที่เราจะสามารถเบิกค่าคลอดบุตร 13,000 บาทนี่ มันจะคลอบคลุมอยู่ถึงเราคลอดไหมคะ กำหนดคลอดเรา 4 ก.พ.2557 ค่ะ หรือว่าเราต้องมาทำเรื่องส่งต่อประกันสังคมเองหลังจากลาออกจากงานก่อน ใครพอทราบช่วยแนะนำเราด้วยค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ เราแค่อยากหาที่ระบายความอัดอั้นตันใจ และหาที่ปรึกษา น่ะค่ะ พอได้ระบายแล้วมันจะหายเครียด เหมือนได้เล่าให้เพื่อนฟัง และ ถ้ามีเพื่อนดีๆ มานั่งคุย ปลอบใจ แนะนำ เราจะรู้สึกดีมากเลยค่ะ เมื่อก่อนไม่เป็นนะคะ เพิ่งมาเป็นตอนท้องนี่แหละ ^ ^