ถือว่าโชคดีในวันเสาร์แบบนี้ ที่ทางบริษัทได้เชิญดีเจพี่อ้อยจากคลับฟรายเดย์มาให้แนวคิดเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและความรักครับ
เอาคร่าวๆนะครับ หลายๆเรื่องวันนี้ที่ได้ฟังและได้คิดตามมันก็จริงตามที่บอก ถือว่าฮาและได้รับความรู้และแนวคิดเกี่ยวกับความรักไปพอสมควร
"ปัญหาของคนอื่นใช้หัวคิดในการแก้ปัญหา ส่วนปัญหาของตัวเองใช้ใจในการแก้ปัญหา"
มันก็จริงเวลาที่มีคนมาปรึกษาเราเราก็ใช้หัวคิดเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้เค้า
ส่วนปัญหาของตัวเราเองมันไม่ได้ใช้แค่หัวคิดและสมอง ใช้ใจในการแก้ครับผม
"การดูแลความรัก ไม่ต่างกับการดูแลงาน"
ในการทำงานที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้นั้น เราต่างก็ยึดคติความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
ซึ่งบางทีมีเยอะครับ ที่เคยได้ยินว่า งานรุ่ง รักร่วง หรือ งานรุ่ง รักเริ่ด หรืองานร่วง รักร่วง สิ่งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความคิด
และทัศนคติเป็นหลัก พี่อ้อยบอกว่า ถ้าเราเจออะไรที่แย่อยู่แล้วให้คิดซะว่า
เอาน่ะ เจอเรื่องแย่ไปแล้ว ต่อไปก็เป็นเรื่องดีของฉันทั้งวันแน่นอนครับ
แต่กลับกันที่ คติที่ว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" มันก็อาจใช้ไม่ได้กับเรื่องของความรักครับ
หลายคนบอกว่า สามารถแยกงานและความรักออกจากกันได้ แต่ไม่จริงครับ จะเห็นว่า
มีคนอกหักแล้วทำงานไม่ได้ แต่ถ้าเราสามารถดูแลลูกน้องได้ถึงหัวใจเค้า เราจะได้ใจเค้าในการทำงานครับ
สิ่งที่แก้ปัญหาอาการอกหักรักคุด อิงกับหลักศาสนาเลยครับ
คือ "เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป" เพียงแค่ยอมรับให้ได้ว่ามันเกิดขึ้นกับเราแล้วเท่านั้นเองครับ
หลายคนมีคำถามว่า ทำไม ทำไม ทำไม ? (โดยส่วนตัวแล้วเป็นบ่อย)
แค่เปลี่ยนความคิดจากคิดว่าทำไม ? เป็นทำยังไง ทำไงต่อดี จะดีกว่า
"โสดหรือไม่โสด ไม่สำคัญเท่าสุขหรือไม่สุข"
ถ้าเรามีเรื่องเศร้า พี่อ้อยบอกไว้ว่า
"เรื่องเศร้าๆถ้าเราเล่าจะเบาลง" นี่เป็นสาเหตุที่เพศชายมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่าเพศหญิง
เพราะเพศหญิงเป็นเพศที่ชอบระบาย ผ่านโซเชียล บ้างผ่านเพื่อนบ้าง แต่สำหรับเพศชายคือเก็บเงียบไว้คนเดียวครับ
และสุดท้ายครับ ควรปรับความคิดให้คิดบวก
"อย่าให้ปากใครสูงค่า จนทำร้ายเราได้"
ไม่ค่อยได้แวะเวียนมาห้องสยาม ปกติอยู่แต่ห้องเฉลิมกรุง กับตากล้อง และมาบุญครอง
เลยหยิบอะไรมาฝากเล็กๆน้อยๆ ครับ ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้
มีโอกาสได้สัมมนาเกี่ยวกับการดำรงชีวิตและความรักจาก ดีเจ พี่อ้อย คลับ ฟรายเดย์ เลยนำมาแบ่งปันครับ
เอาคร่าวๆนะครับ หลายๆเรื่องวันนี้ที่ได้ฟังและได้คิดตามมันก็จริงตามที่บอก ถือว่าฮาและได้รับความรู้และแนวคิดเกี่ยวกับความรักไปพอสมควร
"ปัญหาของคนอื่นใช้หัวคิดในการแก้ปัญหา ส่วนปัญหาของตัวเองใช้ใจในการแก้ปัญหา"
มันก็จริงเวลาที่มีคนมาปรึกษาเราเราก็ใช้หัวคิดเพื่อช่วยแก้ปัญหาให้เค้า
ส่วนปัญหาของตัวเราเองมันไม่ได้ใช้แค่หัวคิดและสมอง ใช้ใจในการแก้ครับผม
"การดูแลความรัก ไม่ต่างกับการดูแลงาน"
ในการทำงานที่จะทำให้ประสบความสำเร็จได้นั้น เราต่างก็ยึดคติความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
ซึ่งบางทีมีเยอะครับ ที่เคยได้ยินว่า งานรุ่ง รักร่วง หรือ งานรุ่ง รักเริ่ด หรืองานร่วง รักร่วง สิ่งนี้ก็ขึ้นอยู่กับความคิด
และทัศนคติเป็นหลัก พี่อ้อยบอกว่า ถ้าเราเจออะไรที่แย่อยู่แล้วให้คิดซะว่า
เอาน่ะ เจอเรื่องแย่ไปแล้ว ต่อไปก็เป็นเรื่องดีของฉันทั้งวันแน่นอนครับ
แต่กลับกันที่ คติที่ว่า "ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น" มันก็อาจใช้ไม่ได้กับเรื่องของความรักครับ
หลายคนบอกว่า สามารถแยกงานและความรักออกจากกันได้ แต่ไม่จริงครับ จะเห็นว่า
มีคนอกหักแล้วทำงานไม่ได้ แต่ถ้าเราสามารถดูแลลูกน้องได้ถึงหัวใจเค้า เราจะได้ใจเค้าในการทำงานครับ
สิ่งที่แก้ปัญหาอาการอกหักรักคุด อิงกับหลักศาสนาเลยครับ
คือ "เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป" เพียงแค่ยอมรับให้ได้ว่ามันเกิดขึ้นกับเราแล้วเท่านั้นเองครับ
หลายคนมีคำถามว่า ทำไม ทำไม ทำไม ? (โดยส่วนตัวแล้วเป็นบ่อย)
แค่เปลี่ยนความคิดจากคิดว่าทำไม ? เป็นทำยังไง ทำไงต่อดี จะดีกว่า
"โสดหรือไม่โสด ไม่สำคัญเท่าสุขหรือไม่สุข"
ถ้าเรามีเรื่องเศร้า พี่อ้อยบอกไว้ว่า
"เรื่องเศร้าๆถ้าเราเล่าจะเบาลง" นี่เป็นสาเหตุที่เพศชายมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงกว่าเพศหญิง
เพราะเพศหญิงเป็นเพศที่ชอบระบาย ผ่านโซเชียล บ้างผ่านเพื่อนบ้าง แต่สำหรับเพศชายคือเก็บเงียบไว้คนเดียวครับ
และสุดท้ายครับ ควรปรับความคิดให้คิดบวก
"อย่าให้ปากใครสูงค่า จนทำร้ายเราได้"
ไม่ค่อยได้แวะเวียนมาห้องสยาม ปกติอยู่แต่ห้องเฉลิมกรุง กับตากล้อง และมาบุญครอง
เลยหยิบอะไรมาฝากเล็กๆน้อยๆ ครับ ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตรงนี้