ด้วยความอึดอัด ขัดในหัวอก มานานแสนนาน วันนี้ ผมจะไม่ทน
โดยปกติผมจะเป็นคนไม่ค่อยจะอะไร ยังไง กับใคร ซักเท่าไหร่ อย่างพวกบุตรปีเตอร์ที่อยู่ในน้ำแข็งบ้าง อยู่ตามซอกหลืบของซาบูชิบ้าง อยู่ตามเพดาน ฝาผนัง หรืออยู่ในกล้องไก่ทอด หรือพวกเศษผม ขน ยาง พลาสติก ผมก็จะเขี่ย ๆ ออก แล้วกินต่อ หรืออย่างร้านไม่สะอาด ร้านที่กินแล้วท้องเสีย ก็เลี่ยงที่จะไม่ไปกินอีก คือเป็นพวกไม่ค่อยอยากก่อปัญหาให้กับตัวเองซักเท่าไหร่ ทำงานก็ปวดหัวมาทั้งวันแล้ว อีกอย่าง มันก็ไม่บ่อย ไม่ได้เจอเป็นปกติ
แต่
สำหรับกรณี หัวแม่โป้งนี้ใครครอง มันเจอบ่อย เจอร้อยละ 90 ของร้านตามสั่งที่ไปนั่งกิน ไม่ว่าจะเป็นร้านแบกะดิน หรือร้านอาหารเลิศหรูปานใดก็ตาม ที่มีเด็กเสริฟเป็นชาวต่างชาติ (ก็มันทุกร้านนั่นแหละ) น้อง พี่ ป้า ท่านจะต้องเอาร้อยละ 95 ของหัวแม่โป้ง ตั้งแต่โคนยันเล็บ จิ้มลงไปในอาหารที่ยกมาเสริฟเราทุกคราไป ไม่ว่าจะเป็นข้าวสวย ต้ม ผัด แกง ทอด อาหารร้อน อุ่น เย็น ท่านแม่มจิ้มหมด นิ้วหัวแม่โป้งท่านช่างสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกซะยิ่งกะไร ช่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรจะปานนั้น ต้มยำร้อน ๆ ท่านก็ยังจิ้มลงไปได้ ป๊าดโถ๊ะ (ความร้อนฆ่าเชื้อโรคในนิ้ว ลงไปในอาหารเราเรียบร้อย ซู๊ดดๆ อาหย่อย)
ทีนี้ไอ้ที่จะให้หยวน ๆ นั้น แหม๋ ก็ถ้าจะให้สำรวจภูมิประเทศของนิ้วหัวแม่โป้งที่ทำตัวเป็นปรอทวัดอุณหภูมิอาหารแล้วไซร้ ร้อยละ 100 จะตะปุ่มตะป่ำ กระดำกระด่าง หนังนิ้วด้าน ๆ (นึกภาพตาม) ฉายภาพมายังเล็บ ส่วนที่อยู่กับอาหารที่กำลังจะลงท้องเราอย่างใกล้ชิดที่สุด บางท่านเล็บแหว่ง บางท่านเพล้ซ้าย บางท่านก็ย้ายขวา แต่ที่เหมือนกันหมดคือ ดำปี๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บางทีมีเศษอะไรก็ไม่รู้ติดอยู่บนเล็บประดับความงามให้เราผะอืดผะอมอีกต่างหาก
เคยเจอถึงกระทั่ง ท่านชาวต่างชาติเหล่านั้น ยกข้าวเปล่ามาเสริฟ แล้วนิ้วหัวแม่โป้งจิกลงบนข้าวขาวๆ แต่ที่สุดยอดของยอดธง คือ มีน้ำจากง่ามนิ้ว ไหลหยดลงบนจาน ตามทางที่นิ้วหัวแม่โป้งพาดผ่าน ไอ้ผมเองก็จ้อง แล้วรีบเอาทิชชู่เช็ดอย่างว่องไว ดีว่า น้ำอมฤตนั่น ยังไม่โดนข้าว
ขอเถอะครับท่านเจ้าของร้านทั้งหลายทั้งปวง รบกวนท่านได้กำชับกำชา ลูกน้องชาวต่างชาติของท่านทั้งหลาย ให้ดูแลเรื่องความสะอาดของนิ้วทั้ง 10 สอนวิธีการยกอาหารไปเสริฟ หรือใส่ถาดแล้วยกไปเสริฟก็ได้ ท่านจะจิ้มตอนเอาวางบนถาด ก็ช่างเถอะ เราไม่เห็น มันก็พอหยวน ๆ แต่ทำมาให้เห็นนี่ มันพาลจะกลืนลงท้องไม่ลงนะครับท่าน
นึกว่าสงสารลูกค้าตาดำ ๆ เถอะครับ
แซร๊งกิ๊ว ทรีทรามม์
ปล. อาหารเจปีนี้ แพ๊งแพงขึ้นกว่าปีที่แล้ว จานนึงเฉลี่ย 5-10 บาทเลยนะครับ
หัวแม่โป้งนั้น สำคัญไฉน
โดยปกติผมจะเป็นคนไม่ค่อยจะอะไร ยังไง กับใคร ซักเท่าไหร่ อย่างพวกบุตรปีเตอร์ที่อยู่ในน้ำแข็งบ้าง อยู่ตามซอกหลืบของซาบูชิบ้าง อยู่ตามเพดาน ฝาผนัง หรืออยู่ในกล้องไก่ทอด หรือพวกเศษผม ขน ยาง พลาสติก ผมก็จะเขี่ย ๆ ออก แล้วกินต่อ หรืออย่างร้านไม่สะอาด ร้านที่กินแล้วท้องเสีย ก็เลี่ยงที่จะไม่ไปกินอีก คือเป็นพวกไม่ค่อยอยากก่อปัญหาให้กับตัวเองซักเท่าไหร่ ทำงานก็ปวดหัวมาทั้งวันแล้ว อีกอย่าง มันก็ไม่บ่อย ไม่ได้เจอเป็นปกติ
แต่
สำหรับกรณี หัวแม่โป้งนี้ใครครอง มันเจอบ่อย เจอร้อยละ 90 ของร้านตามสั่งที่ไปนั่งกิน ไม่ว่าจะเป็นร้านแบกะดิน หรือร้านอาหารเลิศหรูปานใดก็ตาม ที่มีเด็กเสริฟเป็นชาวต่างชาติ (ก็มันทุกร้านนั่นแหละ) น้อง พี่ ป้า ท่านจะต้องเอาร้อยละ 95 ของหัวแม่โป้ง ตั้งแต่โคนยันเล็บ จิ้มลงไปในอาหารที่ยกมาเสริฟเราทุกคราไป ไม่ว่าจะเป็นข้าวสวย ต้ม ผัด แกง ทอด อาหารร้อน อุ่น เย็น ท่านแม่มจิ้มหมด นิ้วหัวแม่โป้งท่านช่างสะเทิ้นน้ำสะเทิ้นบกซะยิ่งกะไร ช่างไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรจะปานนั้น ต้มยำร้อน ๆ ท่านก็ยังจิ้มลงไปได้ ป๊าดโถ๊ะ (ความร้อนฆ่าเชื้อโรคในนิ้ว ลงไปในอาหารเราเรียบร้อย ซู๊ดดๆ อาหย่อย)
ทีนี้ไอ้ที่จะให้หยวน ๆ นั้น แหม๋ ก็ถ้าจะให้สำรวจภูมิประเทศของนิ้วหัวแม่โป้งที่ทำตัวเป็นปรอทวัดอุณหภูมิอาหารแล้วไซร้ ร้อยละ 100 จะตะปุ่มตะป่ำ กระดำกระด่าง หนังนิ้วด้าน ๆ (นึกภาพตาม) ฉายภาพมายังเล็บ ส่วนที่อยู่กับอาหารที่กำลังจะลงท้องเราอย่างใกล้ชิดที่สุด บางท่านเล็บแหว่ง บางท่านเพล้ซ้าย บางท่านก็ย้ายขวา แต่ที่เหมือนกันหมดคือ ดำปี๊ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ บางทีมีเศษอะไรก็ไม่รู้ติดอยู่บนเล็บประดับความงามให้เราผะอืดผะอมอีกต่างหาก
เคยเจอถึงกระทั่ง ท่านชาวต่างชาติเหล่านั้น ยกข้าวเปล่ามาเสริฟ แล้วนิ้วหัวแม่โป้งจิกลงบนข้าวขาวๆ แต่ที่สุดยอดของยอดธง คือ มีน้ำจากง่ามนิ้ว ไหลหยดลงบนจาน ตามทางที่นิ้วหัวแม่โป้งพาดผ่าน ไอ้ผมเองก็จ้อง แล้วรีบเอาทิชชู่เช็ดอย่างว่องไว ดีว่า น้ำอมฤตนั่น ยังไม่โดนข้าว
ขอเถอะครับท่านเจ้าของร้านทั้งหลายทั้งปวง รบกวนท่านได้กำชับกำชา ลูกน้องชาวต่างชาติของท่านทั้งหลาย ให้ดูแลเรื่องความสะอาดของนิ้วทั้ง 10 สอนวิธีการยกอาหารไปเสริฟ หรือใส่ถาดแล้วยกไปเสริฟก็ได้ ท่านจะจิ้มตอนเอาวางบนถาด ก็ช่างเถอะ เราไม่เห็น มันก็พอหยวน ๆ แต่ทำมาให้เห็นนี่ มันพาลจะกลืนลงท้องไม่ลงนะครับท่าน
นึกว่าสงสารลูกค้าตาดำ ๆ เถอะครับ
แซร๊งกิ๊ว ทรีทรามม์
ปล. อาหารเจปีนี้ แพ๊งแพงขึ้นกว่าปีที่แล้ว จานนึงเฉลี่ย 5-10 บาทเลยนะครับ