(ถ้าซ้ำ ขออภัยด้วยค่ะ)
ต้องชื่นชมรัฐบาลจีน ที่กล้าเผชิญกับความจริง ว่า นักท่องเที่ยวของตน ที่ไปตระเวนทั่วโลกขณะนี้ ยังมีปัญหาเรื่อง “กิริยามารยาท” อยู่ไม่น้อย จึงออกคู่มือหนา 64 หน้า เป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้นักท่องเที่ยวของชาวจีนได้ตระหนักถึงความสำคัญของ “การท่องเที่ยวอย่างมีอารยะ”
ผมยังไม่เคยเห็นประเทศไหนที่ออกมายอมรับว่า คนของตัวเองมีปัญหาในการแสดงออกในที่สาธารณะ โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ
อันเป็นที่มาของการทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศตนเสียหาย
จีน รู้ตัวว่ากำลังเป็นมหาอำนาจในหลายๆ ด้าน และคนจีนก็จะไปปรากฏตัวในที่ต่างๆ ที่รัฐบาลจีนไม่มีทางรู้ว่าจะไปแสดงพฤติกรรมอย่างไร ที่จะทำให้คนอื่นเขามองจีนอย่างหงุดหงิด
ประเทศอื่นๆ ทั้งหลายก็ต้องการนักท่องเที่ยวจีน เพราะว่าได้กลายเป็นนักช้อปที่ใช้เงินมากที่สุดประเทศหนึ่ง กำลังจะแซงหน้าอเมริกันและญี่ปุ่นแล้ว ตัวเลขล่าสุด บอกว่า ปีที่แล้วนักท่องเที่ยวจีนออกไปนอกประเทศกว่า 83 ล้านคน และใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 120,000 ล้านดอลลาร์และยิ่งนับวันจำนวนคนและเงินที่ออกจากประเทศจีนไปอุดหนุนต่างประเทศ ก็จะยิ่งมากขึ้น
แต่เสียงบ่นจากคนข้างนอกเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีน ก็มากตามมาด้วย ร้อนถึงรองนายกฯ หวังหยาง ต้องออกมาพูดเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนจำนวนไม่น้อย กำลังทำให้ชื่อเสียงของประเทศเสียหาย ต้องมีการรณรงค์ให้ทำตัวให้น่ารัก และ “เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม” กันขนานใหญ่
“คู่มือ” ที่ออกมาล่าสุด กล่าวเตือนคนของตัวเองว่าอย่าได้ทำอะไรที่ทำให้ผู้คนรังเกียจ แม้ว่าจะเป็นนิสัยที่มีมายาวนานในบ้านก็ตาม เช่น
•อย่าถ่ม

กลางถนน
•อย่าทิ้งรอยเท้าไว้บนโถส้วม
•อย่าใช้ส้วมสาธารณะยาวนานเหมือนบ้านตัวเอง
•อย่าฉี่ในสระว่ายน้ำ
•อย่าเอาเสื้อชูชีพบนเครื่องบินกลับบ้านด้วย
•อย่าให้ลูกฉี่ใส่ขวดในภัตตาคาร
•อย่าแคะขี้มูก แคะขี้ฟันในที่สาธารณะ
•อย่าหยิบฉวยเอาข้าวของในห้องโรงแรมที่พักกลับบ้าน
ผมเอาข่าวคราวเรื่องนี้ขึ้นทวิตเตอร์กับเฟซบุ๊ค ก็มีข้อเสนอเพิ่มเติมในประเด็น “อย่าทำอย่างนี้” จากคนไทย ที่มีประสบการณ์กับนักท่องเที่ยวจีน จึงร่วมเสนอความเห็นว่า
•อย่าเดินชนคนอื่น อย่าดึงมือคนอื่นที่ไม่รู้จัก
•อย่าฉี่และอึในห้องลองเสื้อผ้าตามห้าง (เจอมาเอง)
•อย่าเอารองเท้าไปแกว่งล้างในสระว่ายน้ำ
•อย่าจอดรถเลนขวาแล้วลงมาถ่ายรูป
จะว่าไปแล้ว ทุกชาติก็มีนักท่องเที่ยวที่มีความประพฤติที่เป็นปัญหา แต่ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าจะไม่มีชาติไหนกล้ายอมรับปัญหาของตัวเองอย่างเปิดเผยเช่นนี้
รัฐบาลจีนคงจะเห็นว่าถ้าไม่ “สั่งสอน” คนของตัวเอง ก็จะถูกคนทั้งโลกแสดงความรังเกียจ ซึ่งจะมีผลกระทบทางลบที่กว้างไกล ทำให้นโยบายต่างประเทศและการเผยแพร่วัฒนธรรมของตนต้องเผชิญกับอุปสรรคมากขึ้น
คนใน social media ของเรา บอกว่า คนไทยเองก็ควรจะมี “คู่มือ” สำหรับนักท่องเที่ยวไทยในต่างแดนเหมือนกัน
โดยเฉพาะกรณีที่มีภาพลักษณ์ว่าคนไทยบางคนชอบอวดร่ำอวดรวยในต่างประเทศ เข้าคิวไปซื้อสินค้ายี่ห้อแพงแสนแพงกันอย่างบ้าคลั่ง จนกลายเป็นที่นินทาของคนที่นั่นว่าคนไทยมีเงินแต่ไม่มีสมอง และรสนิยมวัตถุนิยมที่น่าดูถูกเหยียดหยาม
เขาอยากได้เงินเรา แต่พอหันหลังเขากระซิบกระซาบกันว่าคนไทยนี่อวดความรู้ไม่เป็น อวดได้แต่ยี่ห้อที่ไม่ใช่ของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
ใครก็ได้...รีบออก “คู่มือท่องเที่ยวอย่างมีอารยะ” ให้กับคนไทยด่วน!
คู่มือสำหรับการท่องเที่ยว อย่างมีอารยะของจีน...และไทย? โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
ต้องชื่นชมรัฐบาลจีน ที่กล้าเผชิญกับความจริง ว่า นักท่องเที่ยวของตน ที่ไปตระเวนทั่วโลกขณะนี้ ยังมีปัญหาเรื่อง “กิริยามารยาท” อยู่ไม่น้อย จึงออกคู่มือหนา 64 หน้า เป็นกรณีพิเศษ เพื่อให้นักท่องเที่ยวของชาวจีนได้ตระหนักถึงความสำคัญของ “การท่องเที่ยวอย่างมีอารยะ”
ผมยังไม่เคยเห็นประเทศไหนที่ออกมายอมรับว่า คนของตัวเองมีปัญหาในการแสดงออกในที่สาธารณะ โดยเฉพาะเมื่อเดินทางไปต่างประเทศ
อันเป็นที่มาของการทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศตนเสียหาย
จีน รู้ตัวว่ากำลังเป็นมหาอำนาจในหลายๆ ด้าน และคนจีนก็จะไปปรากฏตัวในที่ต่างๆ ที่รัฐบาลจีนไม่มีทางรู้ว่าจะไปแสดงพฤติกรรมอย่างไร ที่จะทำให้คนอื่นเขามองจีนอย่างหงุดหงิด
ประเทศอื่นๆ ทั้งหลายก็ต้องการนักท่องเที่ยวจีน เพราะว่าได้กลายเป็นนักช้อปที่ใช้เงินมากที่สุดประเทศหนึ่ง กำลังจะแซงหน้าอเมริกันและญี่ปุ่นแล้ว ตัวเลขล่าสุด บอกว่า ปีที่แล้วนักท่องเที่ยวจีนออกไปนอกประเทศกว่า 83 ล้านคน และใช้จ่ายไม่น้อยกว่า 120,000 ล้านดอลลาร์และยิ่งนับวันจำนวนคนและเงินที่ออกจากประเทศจีนไปอุดหนุนต่างประเทศ ก็จะยิ่งมากขึ้น
แต่เสียงบ่นจากคนข้างนอกเกี่ยวกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีน ก็มากตามมาด้วย ร้อนถึงรองนายกฯ หวังหยาง ต้องออกมาพูดเมื่อเร็วๆ นี้ ว่า พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวจีนจำนวนไม่น้อย กำลังทำให้ชื่อเสียงของประเทศเสียหาย ต้องมีการรณรงค์ให้ทำตัวให้น่ารัก และ “เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม” กันขนานใหญ่
“คู่มือ” ที่ออกมาล่าสุด กล่าวเตือนคนของตัวเองว่าอย่าได้ทำอะไรที่ทำให้ผู้คนรังเกียจ แม้ว่าจะเป็นนิสัยที่มีมายาวนานในบ้านก็ตาม เช่น
•อย่าถ่ม
•อย่าทิ้งรอยเท้าไว้บนโถส้วม
•อย่าใช้ส้วมสาธารณะยาวนานเหมือนบ้านตัวเอง
•อย่าฉี่ในสระว่ายน้ำ
•อย่าเอาเสื้อชูชีพบนเครื่องบินกลับบ้านด้วย
•อย่าให้ลูกฉี่ใส่ขวดในภัตตาคาร
•อย่าแคะขี้มูก แคะขี้ฟันในที่สาธารณะ
•อย่าหยิบฉวยเอาข้าวของในห้องโรงแรมที่พักกลับบ้าน
ผมเอาข่าวคราวเรื่องนี้ขึ้นทวิตเตอร์กับเฟซบุ๊ค ก็มีข้อเสนอเพิ่มเติมในประเด็น “อย่าทำอย่างนี้” จากคนไทย ที่มีประสบการณ์กับนักท่องเที่ยวจีน จึงร่วมเสนอความเห็นว่า
•อย่าเดินชนคนอื่น อย่าดึงมือคนอื่นที่ไม่รู้จัก
•อย่าฉี่และอึในห้องลองเสื้อผ้าตามห้าง (เจอมาเอง)
•อย่าเอารองเท้าไปแกว่งล้างในสระว่ายน้ำ
•อย่าจอดรถเลนขวาแล้วลงมาถ่ายรูป
จะว่าไปแล้ว ทุกชาติก็มีนักท่องเที่ยวที่มีความประพฤติที่เป็นปัญหา แต่ที่ผ่านมาดูเหมือนว่าจะไม่มีชาติไหนกล้ายอมรับปัญหาของตัวเองอย่างเปิดเผยเช่นนี้
รัฐบาลจีนคงจะเห็นว่าถ้าไม่ “สั่งสอน” คนของตัวเอง ก็จะถูกคนทั้งโลกแสดงความรังเกียจ ซึ่งจะมีผลกระทบทางลบที่กว้างไกล ทำให้นโยบายต่างประเทศและการเผยแพร่วัฒนธรรมของตนต้องเผชิญกับอุปสรรคมากขึ้น
คนใน social media ของเรา บอกว่า คนไทยเองก็ควรจะมี “คู่มือ” สำหรับนักท่องเที่ยวไทยในต่างแดนเหมือนกัน
โดยเฉพาะกรณีที่มีภาพลักษณ์ว่าคนไทยบางคนชอบอวดร่ำอวดรวยในต่างประเทศ เข้าคิวไปซื้อสินค้ายี่ห้อแพงแสนแพงกันอย่างบ้าคลั่ง จนกลายเป็นที่นินทาของคนที่นั่นว่าคนไทยมีเงินแต่ไม่มีสมอง และรสนิยมวัตถุนิยมที่น่าดูถูกเหยียดหยาม
เขาอยากได้เงินเรา แต่พอหันหลังเขากระซิบกระซาบกันว่าคนไทยนี่อวดความรู้ไม่เป็น อวดได้แต่ยี่ห้อที่ไม่ใช่ของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
ใครก็ได้...รีบออก “คู่มือท่องเที่ยวอย่างมีอารยะ” ให้กับคนไทยด่วน!