เช้านี้ดิฉันตื่นแต่เช้าด้วยความสดชื่น หลังจากฟื้นจากอาการป่วยไข้ที่รุมเร้าเล่นงานอย่างหนักเมื่อหลายวันก่อน หากคิดในแง่ดีก็จะเห็นว่า
ช่วงที่นอนพักรักษาตัวนั้น ทำให้ดิฉันมีเวลาที่จะคิดทบทวนไตร่ตรอง เรื่องราวความเป็นมา ความเป็นจริงและความเป็นไปของชีวิต
ความผิดพลาดต่างๆที่ต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไข การวางแผนการทำงานเลี้ยงชีพในอนาคต หลากหลายเรื่องราวที่ดิฉันต้องรีบเร่งจัดการก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ...

คิดถึงพ่อกับแม่จัง ... หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็กดไปหาทันที พ่อเป็นคนรับสาย ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันตามประสาพ่อลูกเหมือนที่เคยทำ
ได้ฟังน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรักความอาทรความห่วงใยของพ่อกับแม่ทีไร เป็นต้องน้ำตารื้นขึ้นมาทันที ... หัวใจที่อ้างว้างโดดเดี่ยวก็
พลอยอบอุ่นและมีพลัง...

เช้านี้ดิฉันคุยกับพ่อเรื่อง สวนยาง นาข้าว บ่อปลา และนาบัว กับเงินชดเชยการผลิตเกษตรกรชาวสวนยางพารา พ่อบอกว่าปีนี้ข้าวในนา
ของเราได้น้ำดี กอใหญ่งามและกำลังตั้งท้อง ไม่ถูกน้ำท่วมอย่างทางอีสานใต้ซึ่งกำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ คาดว่าปีนี้คงได้ข้าวหลาย
ตันมาจำนำกับรัฐบาล ส่วนสวนยางพารานั้นตอนนี้ฝนซาและเริ่มย่างเข้าสู่หน้าหนาวน้ำยางจึงออกดี สำหรับนาบัวนั้นแนวความคิดมาจาก
ดิฉันและพ่อเพิ่งจะเริ่ม พ่อได้สั่งพันธุ์บัวหลวงทั้งสีแดงและสีขาวมาอย่างละหลายพันบาทแต่เขายังไม่เอามาส่ง ตอนนี้จึงเตรียมดิน
ท้องบ่อให้เป็นโคลนนิดๆ ใส่ปุ๋ยคอกลงไปรอเอาไว้ พันธุ์มาถึงเมื่อไหร่ ก็ลงบ่อได้ทันที ฟังน้ำเสียงที่สดใสเปี่ยมไปด้วยความหวังของพ่อ
แล้วดิฉันก็มีความสุข ...

กลับมาเรื่องเงินชดเชยปัจจัยการผลิตของเกษตรกรชาวสวนยาง พ่อได้นำฉโนดที่ดินไปลงทะเบียนขอรับเงินไว้กับ ธกส.แล้วเรียบร้อย
รอแจ้งผลการตรวจสอบและไปรับเงิน 63,000 บาทกับทางธนาคารเท่านั้น (เต็มจำนวน) ซึ่งในขณะนี้ ทาง ธกส. ได้เริ่มทยอยจ่ายให้กับ
เกษตรกรชาวสวนยางใน จ. นครศรีธรรมราช แถว อ. จุฬาภรณ์ อ. ชะอวด (ม็อบสวนยาง) และ ชาวสวนยางจ.สุราษฏร์ธานี เป็นการนำร่อง
ภายใต้เงินงบประมาณประมาณ 15 ล้านบาท และจะทยอยจ่ายที่เหลืออีก 43 จังหวัดทั่วประเทศ เงินงบประมาณ 2หมื่น 1พันล้านบาท โดย
ธกส. สำรองออกไปก่อน รัฐบาลจะนำเงินเบิกจ่ายงบประมาณปี 57 ชดเขยให้ภายหลัง

ดิฉันถามพ่อว่าที่ดินสวนยางพาราของเรามากเกิน 25 ไร่และแบ่งออกเป็น 2 แปลง แบบนี้เราก็ได้เงินชดเขยมากว่า63,000 บาท พ่อบอกว่า
ฉโนดทั้งสองแปลงเป็นชื่อพ่อทั้งหมด ก็ได้แค่ตามที่รัฐบาลกำหนดคือ 25 ไร่ ดิฉันก็ทำทีเป็นพูดเล่นว่า ถ้าพ่อโอนอีกแปลงมาเป็นชื่อดิฉัน
เราก็จะได้เงินชดเชยมากกว่านี้ ...พ่อก็เลยดุดิฉันว่าพ่อไม่ชอบแนวความคิดแบบนี้ เขาให้แค่นี้ก็ดีแล้ว ได้คืบจะเอาศอกได้ศอกจะเอาวา
แบบนี้แหละ ประเทศถึงไม่ก้าวหน้าไปไหน (โหย..พ่อของดิฉันหรือท่านเปากันเนี่ย !) แค่แหย่เล่นหน่อยเดียว บ่นไกลยาวเป็นกิโล ...
ดิฉันถามพ่อต่อว่า แล้วเอกสารสิทธิ์ไหนจึงจะขึ้นทะเบียนได้ พ่อบอกว่าใช้ได้ทั้งหมด ตั้งแต่ ฉโนด ใบจอง น.ส 3, น.ส 4,น.ส 5 ไปถึง
คุณป้าขายผัดไทย อ้าว ไม่ใช่ ไปถึง ส.ป.ก , ก.ส.น. ภ.ท.บ. ดิฉันเลยต้องบอกพ่อว่าพอแล้วไม่ต้องบอกทั้งหมดก็ได้ พ่อยังบอกต่อไปว่า
ไม่เว้นแม้กระทั่งเขตป่าสงวนหรือกรมอุทยานแห่งชาติด้วย ... ดิฉันก็บอกว่า แล้วแบบนี้จะเป็นการสนับสนุนกลุ่มนายทุนที่ไปกว้านซื้อที่
บนภูเขาเขตอุทยานหรือป่าสงวนเพื่อปลูกยางไหม ? พ่อบอกว่ามันครอบคลุมไปทั้งหมดแยกไม่ออกหรอกว่าใครเป็นเกษตรกรตัวจริงหรือ
เป็นนายทุน
...ดิฉันเลยคิดซื่อๆไปตามประสาเด็ก(ซะเมื่อไหร่) นึกไปถึงเขาสอยดาว เขายายเที่ยง แล้วก็ได้แต่ปลง....(เก่วไรด้วยหว่า?)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
+ + + + + กระทู้นี้ดราม่านิดหน่อย ..... ลูกชาวนา + + + + +
ช่วงที่นอนพักรักษาตัวนั้น ทำให้ดิฉันมีเวลาที่จะคิดทบทวนไตร่ตรอง เรื่องราวความเป็นมา ความเป็นจริงและความเป็นไปของชีวิต
ความผิดพลาดต่างๆที่ต้องได้รับการปรับปรุงแก้ไข การวางแผนการทำงานเลี้ยงชีพในอนาคต หลากหลายเรื่องราวที่ดิฉันต้องรีบเร่งจัดการก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินไป ...
คิดถึงพ่อกับแม่จัง ... หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก็กดไปหาทันที พ่อเป็นคนรับสาย ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันตามประสาพ่อลูกเหมือนที่เคยทำ
ได้ฟังน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความรักความอาทรความห่วงใยของพ่อกับแม่ทีไร เป็นต้องน้ำตารื้นขึ้นมาทันที ... หัวใจที่อ้างว้างโดดเดี่ยวก็
พลอยอบอุ่นและมีพลัง...
เช้านี้ดิฉันคุยกับพ่อเรื่อง สวนยาง นาข้าว บ่อปลา และนาบัว กับเงินชดเชยการผลิตเกษตรกรชาวสวนยางพารา พ่อบอกว่าปีนี้ข้าวในนา
ของเราได้น้ำดี กอใหญ่งามและกำลังตั้งท้อง ไม่ถูกน้ำท่วมอย่างทางอีสานใต้ซึ่งกำลังเป็นปัญหาอยู่ในขณะนี้ คาดว่าปีนี้คงได้ข้าวหลาย
ตันมาจำนำกับรัฐบาล ส่วนสวนยางพารานั้นตอนนี้ฝนซาและเริ่มย่างเข้าสู่หน้าหนาวน้ำยางจึงออกดี สำหรับนาบัวนั้นแนวความคิดมาจาก
ดิฉันและพ่อเพิ่งจะเริ่ม พ่อได้สั่งพันธุ์บัวหลวงทั้งสีแดงและสีขาวมาอย่างละหลายพันบาทแต่เขายังไม่เอามาส่ง ตอนนี้จึงเตรียมดิน
ท้องบ่อให้เป็นโคลนนิดๆ ใส่ปุ๋ยคอกลงไปรอเอาไว้ พันธุ์มาถึงเมื่อไหร่ ก็ลงบ่อได้ทันที ฟังน้ำเสียงที่สดใสเปี่ยมไปด้วยความหวังของพ่อ
แล้วดิฉันก็มีความสุข ...
กลับมาเรื่องเงินชดเชยปัจจัยการผลิตของเกษตรกรชาวสวนยาง พ่อได้นำฉโนดที่ดินไปลงทะเบียนขอรับเงินไว้กับ ธกส.แล้วเรียบร้อย
รอแจ้งผลการตรวจสอบและไปรับเงิน 63,000 บาทกับทางธนาคารเท่านั้น (เต็มจำนวน) ซึ่งในขณะนี้ ทาง ธกส. ได้เริ่มทยอยจ่ายให้กับ
เกษตรกรชาวสวนยางใน จ. นครศรีธรรมราช แถว อ. จุฬาภรณ์ อ. ชะอวด (ม็อบสวนยาง) และ ชาวสวนยางจ.สุราษฏร์ธานี เป็นการนำร่อง
ภายใต้เงินงบประมาณประมาณ 15 ล้านบาท และจะทยอยจ่ายที่เหลืออีก 43 จังหวัดทั่วประเทศ เงินงบประมาณ 2หมื่น 1พันล้านบาท โดย
ธกส. สำรองออกไปก่อน รัฐบาลจะนำเงินเบิกจ่ายงบประมาณปี 57 ชดเขยให้ภายหลัง
ดิฉันถามพ่อว่าที่ดินสวนยางพาราของเรามากเกิน 25 ไร่และแบ่งออกเป็น 2 แปลง แบบนี้เราก็ได้เงินชดเขยมากว่า63,000 บาท พ่อบอกว่า
ฉโนดทั้งสองแปลงเป็นชื่อพ่อทั้งหมด ก็ได้แค่ตามที่รัฐบาลกำหนดคือ 25 ไร่ ดิฉันก็ทำทีเป็นพูดเล่นว่า ถ้าพ่อโอนอีกแปลงมาเป็นชื่อดิฉัน
เราก็จะได้เงินชดเชยมากกว่านี้ ...พ่อก็เลยดุดิฉันว่าพ่อไม่ชอบแนวความคิดแบบนี้ เขาให้แค่นี้ก็ดีแล้ว ได้คืบจะเอาศอกได้ศอกจะเอาวา
แบบนี้แหละ ประเทศถึงไม่ก้าวหน้าไปไหน (โหย..พ่อของดิฉันหรือท่านเปากันเนี่ย !) แค่แหย่เล่นหน่อยเดียว บ่นไกลยาวเป็นกิโล ...
ดิฉันถามพ่อต่อว่า แล้วเอกสารสิทธิ์ไหนจึงจะขึ้นทะเบียนได้ พ่อบอกว่าใช้ได้ทั้งหมด ตั้งแต่ ฉโนด ใบจอง น.ส 3, น.ส 4,น.ส 5 ไปถึง
คุณป้าขายผัดไทย อ้าว ไม่ใช่ ไปถึง ส.ป.ก , ก.ส.น. ภ.ท.บ. ดิฉันเลยต้องบอกพ่อว่าพอแล้วไม่ต้องบอกทั้งหมดก็ได้ พ่อยังบอกต่อไปว่า
ไม่เว้นแม้กระทั่งเขตป่าสงวนหรือกรมอุทยานแห่งชาติด้วย ... ดิฉันก็บอกว่า แล้วแบบนี้จะเป็นการสนับสนุนกลุ่มนายทุนที่ไปกว้านซื้อที่
บนภูเขาเขตอุทยานหรือป่าสงวนเพื่อปลูกยางไหม ? พ่อบอกว่ามันครอบคลุมไปทั้งหมดแยกไม่ออกหรอกว่าใครเป็นเกษตรกรตัวจริงหรือ
เป็นนายทุน
...ดิฉันเลยคิดซื่อๆไปตามประสาเด็ก(ซะเมื่อไหร่) นึกไปถึงเขาสอยดาว เขายายเที่ยง แล้วก็ได้แต่ปลง....(เก่วไรด้วยหว่า?)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้