นิทานชาวสวน
หนังสือเล่มเดียวของ"เจียวต้าย"
เมื่อเข้ามาทำความรู้จักกับเวปพันทิปแล้ว ผู้เฒ่าก็สิงสู่อยู่ใน ถนนนักเขียน ของห้องสมุด
เอาเรื่องที่มีอยู่หลายร้อยชิ้น มาวางทุกวัน ตั้งแต่ ๑๕ มกราคม ๒๕๔๘
เมื่อเวลาผ่านไปเกือบปี ก็ได้รู้จักเพื่อนนักเขียน เรื่องสั้น เรื่องยาว และบทกวีหลายคน
ได้นัดพบและทำกิจกรรมร่วมกันตามโอกาส ครั้งหนึ่งเป็นการสังสรรค์เหล่านักเขียน
ที่ภัตตาคารแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิครั้งที่ ๒ เพื่อนท่านหนึ่งที่เป็นบรรณาธิการและเจ้าของสำนักพิมพ์
ได้ปรารภอยากจะได้เร่องที่เกี่ยวกับความกตัญญูในนิยายจีน ที่ผู้เฒ่าได้เอามาวางไว้นั้น
ไปรวมเล่มพ็อกเก็ตบุ๊คส์ ผู้เฒ่าก็บอกว่าสบายมาก เรื่องที่ผมเรียบเรียงนั้น ยกออกมารวมเล่มได้ทันที
แล้วผู้เฒ่าก็ส่งต้นฉบับนิยายจีนจากเรื่อง สามก๊ก ซ้องกั๋ง เปาบุ้นจิ้น ให้เขาพิจารณาร่วม ๒๐ ตอน
เขาอ่านแล้วก็พอใจ และตกลงที่จะพิมพ์รวมเล่ม ผู้เฒ่าก็อนุญาตให้เขาคัดเลือกเรื่องได้ตามชอบใจ
แล้วผู้เฒ่าก็เอามาตรวจแก้ และร่วมกันจัดวางรูปเล่ม กว่าจะเรียบร้อยก็สิ้นปี ๒๕๔๘
บรรณาธิการปรึกษาว่าจะให้ชื่อเล่มว่าอะไร ผู้เฒ่าบอกว่าชื่อนั้นมีอยู่แล้ว คือ "หลากชีวิตในพงศาวดารจีน"
บก.บอกว่าเอาให้มันหวือหวาทันสมัยกว่านี้หน่อยซิ ผู้เฒ่าก็ไม่มีปัญญา จึงบอกว่าเลือกเอาชื่อตอนใดตอนหนึ่ง
ขึ้นไปเป็นชื่อเล่ม อย่างที่เขานิยมทำกันก็ได้ บก.ก็ดำเนินการด้านการจัดพิมพ์ต่อไปจนถึงปรู๊ฟสุดท้าย
จึงได้เห็นว่าชื่อหนังสือเล่มนี้ มิได้ใช้ชื่อตอน แต่ใช้ประโยคหนึ่งในเรื่อง เปาบุ้นจิ้น เอามาเป็นชื่อหนังสือ
ครั้นถึงนามปากกาของผู้เรียบเรียง ผู้เฒ่าก็ให้ใช้ชื่อ "เล่าเซี่ยงชุน" ซึ่งเป็นผู้เรียบเรียงเรื่องทั้งหมดในเล่ม
แต่ บก.ไม่เห็นด้วย บอกว่าจะเอาชื่อ ที่เป็นล็อิคอินของผู้เฒ่า ที่ใช้อยู่ในพันทิป เพราะมีผู้รู้จักมากแล้ว
อาจจะมากกว่า ชื่อ "เล่าเซี่ยงชุน" ด้วยซ้ำ ผู้เฒ่าก็ไม่มีอะไรชัดช้อง นอกจากจะแอบยินดีว่า
จะได้มีชื่อว่าเป็นนักเขียนกะเขาเสียที
หนังสือเล่มนั้น ก็คือ "บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องอภัย" เรียบเรียงโดย "เจียวต้าย"
นั่นคือหนังสือเล่มแรกของ "เจียวต้าย" และคงจะเป็นเล่มเดียว ที่ใช้ชื่ออันเป็นอมตะนี้ ในโลกวรรณของไทยก็ได้
จึงขอบันทึกเป็นอนุสรณ์ ฝากไว้ใน ถนนหนังสือ ห้องสมุด พันทิป หลังจากที่หนังสือได้วางตลาดไปแล้วเป็นเวลา
กว่า ๗ ปี
และขอขอบคุณ บรรณาธิการ ของสำนักพิมพ์ บ้านหนังสือโกสินทร์ ผู้มีคุณ ท่านคือ คุณ รวี ตาวัน
ที่ชาวถนนนักเขียน รู้จักกันเป็นอย่างดี นั่นเอง.
นิทานชาวสวน ๔ ต.ค.๕๖
หนังสือเล่มเดียวของ"เจียวต้าย"
เมื่อเข้ามาทำความรู้จักกับเวปพันทิปแล้ว ผู้เฒ่าก็สิงสู่อยู่ใน ถนนนักเขียน ของห้องสมุด
เอาเรื่องที่มีอยู่หลายร้อยชิ้น มาวางทุกวัน ตั้งแต่ ๑๕ มกราคม ๒๕๔๘
เมื่อเวลาผ่านไปเกือบปี ก็ได้รู้จักเพื่อนนักเขียน เรื่องสั้น เรื่องยาว และบทกวีหลายคน
ได้นัดพบและทำกิจกรรมร่วมกันตามโอกาส ครั้งหนึ่งเป็นการสังสรรค์เหล่านักเขียน
ที่ภัตตาคารแถวอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิครั้งที่ ๒ เพื่อนท่านหนึ่งที่เป็นบรรณาธิการและเจ้าของสำนักพิมพ์
ได้ปรารภอยากจะได้เร่องที่เกี่ยวกับความกตัญญูในนิยายจีน ที่ผู้เฒ่าได้เอามาวางไว้นั้น
ไปรวมเล่มพ็อกเก็ตบุ๊คส์ ผู้เฒ่าก็บอกว่าสบายมาก เรื่องที่ผมเรียบเรียงนั้น ยกออกมารวมเล่มได้ทันที
แล้วผู้เฒ่าก็ส่งต้นฉบับนิยายจีนจากเรื่อง สามก๊ก ซ้องกั๋ง เปาบุ้นจิ้น ให้เขาพิจารณาร่วม ๒๐ ตอน
เขาอ่านแล้วก็พอใจ และตกลงที่จะพิมพ์รวมเล่ม ผู้เฒ่าก็อนุญาตให้เขาคัดเลือกเรื่องได้ตามชอบใจ
แล้วผู้เฒ่าก็เอามาตรวจแก้ และร่วมกันจัดวางรูปเล่ม กว่าจะเรียบร้อยก็สิ้นปี ๒๕๔๘
บรรณาธิการปรึกษาว่าจะให้ชื่อเล่มว่าอะไร ผู้เฒ่าบอกว่าชื่อนั้นมีอยู่แล้ว คือ "หลากชีวิตในพงศาวดารจีน"
บก.บอกว่าเอาให้มันหวือหวาทันสมัยกว่านี้หน่อยซิ ผู้เฒ่าก็ไม่มีปัญญา จึงบอกว่าเลือกเอาชื่อตอนใดตอนหนึ่ง
ขึ้นไปเป็นชื่อเล่ม อย่างที่เขานิยมทำกันก็ได้ บก.ก็ดำเนินการด้านการจัดพิมพ์ต่อไปจนถึงปรู๊ฟสุดท้าย
จึงได้เห็นว่าชื่อหนังสือเล่มนี้ มิได้ใช้ชื่อตอน แต่ใช้ประโยคหนึ่งในเรื่อง เปาบุ้นจิ้น เอามาเป็นชื่อหนังสือ
ครั้นถึงนามปากกาของผู้เรียบเรียง ผู้เฒ่าก็ให้ใช้ชื่อ "เล่าเซี่ยงชุน" ซึ่งเป็นผู้เรียบเรียงเรื่องทั้งหมดในเล่ม
แต่ บก.ไม่เห็นด้วย บอกว่าจะเอาชื่อ ที่เป็นล็อิคอินของผู้เฒ่า ที่ใช้อยู่ในพันทิป เพราะมีผู้รู้จักมากแล้ว
อาจจะมากกว่า ชื่อ "เล่าเซี่ยงชุน" ด้วยซ้ำ ผู้เฒ่าก็ไม่มีอะไรชัดช้อง นอกจากจะแอบยินดีว่า
จะได้มีชื่อว่าเป็นนักเขียนกะเขาเสียที
หนังสือเล่มนั้น ก็คือ "บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องอภัย" เรียบเรียงโดย "เจียวต้าย"
นั่นคือหนังสือเล่มแรกของ "เจียวต้าย" และคงจะเป็นเล่มเดียว ที่ใช้ชื่ออันเป็นอมตะนี้ ในโลกวรรณของไทยก็ได้
จึงขอบันทึกเป็นอนุสรณ์ ฝากไว้ใน ถนนหนังสือ ห้องสมุด พันทิป หลังจากที่หนังสือได้วางตลาดไปแล้วเป็นเวลา
กว่า ๗ ปี
และขอขอบคุณ บรรณาธิการ ของสำนักพิมพ์ บ้านหนังสือโกสินทร์ ผู้มีคุณ ท่านคือ คุณ รวี ตาวัน
ที่ชาวถนนนักเขียน รู้จักกันเป็นอย่างดี นั่นเอง.