“ทุกคนพนมมือเตรียมตัวสวดมนต์”
กิตติกรอกเสียงผ่านไมโครโฟนหน้าเสาธง ซึ่งนักเรียนทุกคน
รวมทั้งคุณครูส่วนใหญ่รวมตัวกันทุกๆเช้าที่สนามหน้าโรงเรียนก่อนเข้าเรียน
สมาชิกทุกคนในที่นั้นต่างพนมมือรูปดอกบัวตูมระหว่างอกกันพร้อมเพรียง
ปากขยับพูดตามบทสวดที่กิตติกล่าวนำเป็นห้วงๆ
แต่จะมีสักกี่คนที่สวดมนต์เพราะตั้งใจสวดเพื่อระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย???
แม้แต่กิตติเองก็เถอะ...ถึงจะต้องนำสวดมนต์ทุกเช้าในฐานะประธานนักเรียน
เขายอมรับอย่างไม่อาย...
ว่าในขณะสวดมนต์ใจไม่เคยคิดใคร่ครวญในความหมายที่แท้จริงของบทสวด...
สักแต่ว่าทำไปให้จบหน้าที่ประธานนักเรียน...เท่านั้น
บางวันที่ใจมีเรื่องสำคัญกว่าต้องทำ?????
อาทิมีการบ้านที่ยังทำไม่เสร็จ
หรือในวันนั้นมีสอบเก็บคะแนนย่อยยิ่งทำให้กิตติใจว้าวุ่นพะว้าพะวง
จนเกือบจะกล่าวบทสวดมนต์ผิดหลายครั้ง..ดีที่อาศัยความชำนาญ
พอประคับประคองเอาตัวรอดไปได้..
กาญจนาแม่ของกิตติซึ่งเป็นครูสอนวิชาพระพุทธศาสนา
มองกิตติซึ่งเป็นลูกชาย
ด้วยใจปลื้มปริ่มภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
กิตติไม่เคยทำให้แม่ผิดหวัง...
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนหรือกิจกรรมต่างๆ
แม้ว่าในแต่ละวันเธอจะมีโอกาสพบหน้าและพูดคุยกับลูกน้อยมากก็ตาม
ช่วงเวลาของครอบครัวมีเพียงระยะสั้นๆระหว่างที่เธอขับรถมาโรงเรียนเท่านั้น....
ถ้าถามว่าเธอกับลูกชายห่างเหินกันหรือไม่
คงตอบได้ยาก...
ตัวอยู่ใกล้แต่ใจอยู่ห่าง...นั้นเรียกว่าห่างเหินหรือไม่
“ธรรมะคือคุณากร ส่วนชอบสาคร ดุจดวงประทีบชัชวาล....”
กาญจนาได้ยินเสียงบทสวดมนต์กระทบโสตประสาทแว่วๆ
เธอไม่ได้กล่าวตาม..
แค่พนมมือขึ้นพร้อมกับหลับตาทำกริยาท่าทางให้ดูสำรวม
เธอแสดงกริยานั้นด้วยหน้าที่ความเป็นครูซึ่งต้องทำในสิ่งที่ดีงามให้เด็กดูเป็นตัวอย่าง
หรือพนมมือขึ้นตามสัญชาตญาณความเคยชิน
เธอหาได้ตรึกตรองไม่...
เพราะในใจกำลังครุ่นคิดว่าเย็นนี้จะทำกับข้าวอะไรดี????
“ธรรมใดนับโดยมรรคผล เป็นแปดพึงยล และเก้ากับทั้งนฤพาน”
กิตติยังคงกล่าวนำบทสวดมนต์ต่อไปจากช่วงแรก
มีเสียงอื้ออึงดังขึ้นทั่วบริเวณสนามโรงเรียน พร้อมกับเสียงพึมพำเบาๆ
“สวดผิดหรือเปล่า..หายไปส่วนหนึ่ง..”
แล้วคุณล่ะ ...
อ่านบทสวดมนต์เพียงผ่านๆเพราะอยากอ่านเนื้อหาเรื่องสั้นเรื่องนี้
ว่าจะกล่าวถึงเรื่องอะไรต่อไปด้วยใจจดจ่อในบรรทัดอนาคต..ที่ยังมาไม่ถึง
หรือจับได้ในทันทีว่ามีบางส่วนของบทสวดมนต์หายไป
ไม่ต้องตอบหรอกค่ะ เพียงแค่อยากให้ ลองถามใจตัวเองดู....
ว่าการที่ผู้เขียนตั้งชื่อเรื่องว่า “ความห่างเหิน”นั้นสมควรหรือไม่...
(ปล.ยิ้มๆนะคะ ล้อเล่นเบาๆ อย่าเพิ่งนึกอยากกระโดดเตะก้านคอ
คนโพสต์กระทู้...ขอเตรียมหามุมที่หลบภัยก่อน ชะแว้บ!!!)
เรื่องสั้น "ความห่างเหิน"
กิตติกรอกเสียงผ่านไมโครโฟนหน้าเสาธง ซึ่งนักเรียนทุกคน
รวมทั้งคุณครูส่วนใหญ่รวมตัวกันทุกๆเช้าที่สนามหน้าโรงเรียนก่อนเข้าเรียน
สมาชิกทุกคนในที่นั้นต่างพนมมือรูปดอกบัวตูมระหว่างอกกันพร้อมเพรียง
ปากขยับพูดตามบทสวดที่กิตติกล่าวนำเป็นห้วงๆ
แต่จะมีสักกี่คนที่สวดมนต์เพราะตั้งใจสวดเพื่อระลึกถึงคุณพระรัตนตรัย???
แม้แต่กิตติเองก็เถอะ...ถึงจะต้องนำสวดมนต์ทุกเช้าในฐานะประธานนักเรียน
เขายอมรับอย่างไม่อาย...
ว่าในขณะสวดมนต์ใจไม่เคยคิดใคร่ครวญในความหมายที่แท้จริงของบทสวด...
สักแต่ว่าทำไปให้จบหน้าที่ประธานนักเรียน...เท่านั้น
บางวันที่ใจมีเรื่องสำคัญกว่าต้องทำ?????
อาทิมีการบ้านที่ยังทำไม่เสร็จ
หรือในวันนั้นมีสอบเก็บคะแนนย่อยยิ่งทำให้กิตติใจว้าวุ่นพะว้าพะวง
จนเกือบจะกล่าวบทสวดมนต์ผิดหลายครั้ง..ดีที่อาศัยความชำนาญ
พอประคับประคองเอาตัวรอดไปได้..
กาญจนาแม่ของกิตติซึ่งเป็นครูสอนวิชาพระพุทธศาสนา
มองกิตติซึ่งเป็นลูกชาย
ด้วยใจปลื้มปริ่มภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
กิตติไม่เคยทำให้แม่ผิดหวัง...
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียนหรือกิจกรรมต่างๆ
แม้ว่าในแต่ละวันเธอจะมีโอกาสพบหน้าและพูดคุยกับลูกน้อยมากก็ตาม
ช่วงเวลาของครอบครัวมีเพียงระยะสั้นๆระหว่างที่เธอขับรถมาโรงเรียนเท่านั้น....
ถ้าถามว่าเธอกับลูกชายห่างเหินกันหรือไม่
คงตอบได้ยาก...
ตัวอยู่ใกล้แต่ใจอยู่ห่าง...นั้นเรียกว่าห่างเหินหรือไม่
“ธรรมะคือคุณากร ส่วนชอบสาคร ดุจดวงประทีบชัชวาล....”
กาญจนาได้ยินเสียงบทสวดมนต์กระทบโสตประสาทแว่วๆ
เธอไม่ได้กล่าวตาม..
แค่พนมมือขึ้นพร้อมกับหลับตาทำกริยาท่าทางให้ดูสำรวม
เธอแสดงกริยานั้นด้วยหน้าที่ความเป็นครูซึ่งต้องทำในสิ่งที่ดีงามให้เด็กดูเป็นตัวอย่าง
หรือพนมมือขึ้นตามสัญชาตญาณความเคยชิน
เธอหาได้ตรึกตรองไม่...
เพราะในใจกำลังครุ่นคิดว่าเย็นนี้จะทำกับข้าวอะไรดี????
“ธรรมใดนับโดยมรรคผล เป็นแปดพึงยล และเก้ากับทั้งนฤพาน”
กิตติยังคงกล่าวนำบทสวดมนต์ต่อไปจากช่วงแรก
มีเสียงอื้ออึงดังขึ้นทั่วบริเวณสนามโรงเรียน พร้อมกับเสียงพึมพำเบาๆ
“สวดผิดหรือเปล่า..หายไปส่วนหนึ่ง..”
แล้วคุณล่ะ ...
อ่านบทสวดมนต์เพียงผ่านๆเพราะอยากอ่านเนื้อหาเรื่องสั้นเรื่องนี้
ว่าจะกล่าวถึงเรื่องอะไรต่อไปด้วยใจจดจ่อในบรรทัดอนาคต..ที่ยังมาไม่ถึง
หรือจับได้ในทันทีว่ามีบางส่วนของบทสวดมนต์หายไป
ไม่ต้องตอบหรอกค่ะ เพียงแค่อยากให้ ลองถามใจตัวเองดู....
ว่าการที่ผู้เขียนตั้งชื่อเรื่องว่า “ความห่างเหิน”นั้นสมควรหรือไม่...
(ปล.ยิ้มๆนะคะ ล้อเล่นเบาๆ อย่าเพิ่งนึกอยากกระโดดเตะก้านคอ
คนโพสต์กระทู้...ขอเตรียมหามุมที่หลบภัยก่อน ชะแว้บ!!!)