อยากให้กระทู้มีสาระ(กลับมาทบทวนขับขี่ปลอดภัยก่อนต่อ)

กระทู้สนทนา
คอมบังวะ......อะยิโนะโมะโต๊ะและตะเกียบงาตะเกียบคู่ต้องตะเกียบตรามังกรสามขาปากคาบเกี๊ยะตาเดียว.......เอ๊ะมันเกี่ยวกันไหมเนี่ย.....
กลับมาคุยกันใหม่เด้อ.....หลังจากเว็ปเดี้ยงไป2-3วัน.....วันนี้มาต่อกันใหม่........เราคุยกันถึงวิธีเลือกซื้อรถไปแล้ว.....ต่อด้วยการฝึกหัดขับรถบนทางแคบ(เราเรียกกันว่าทำ Balance ).......

ก่อนจะทำการฝึกทรงตัวบนทางแคบ เราก็กำหนดท่านั่งให้น้องๆหลานๆไปแล้วนะครับ......คืออย่านั่งล้นมาข้างหน้า-และอย่านั่งห้อยไปข้างหลัง...ซึ่งในท่าทนั่งดังที่บอกไปแล้วนั้น จะทำให้การบังคับรถนิ่งมากยิ่งขึ้น.....(ผมจะยังไม่ติวเข้มเรื่องท่านั่งให้ลึกไปกว่านี้นะครับ เพราะมันจะเป็นเรื่องซับซ้อน จนผู้ฝึกหลงทิศทาง)......ตัวอย่างง่ายๆก็คือ หากขี่รถก็อย่าโทรศัพท์ เนื่องจากสมาธิในการขับขี่รถของเราจะเสียไปเกินกว่าครึ่ง......

จะยกตัวอย่างเรื่องใกล้ตัวให้เห็นอย่างหนึ่งเด้อ......หลายปีมาแล้วละที่ผมจะต้องขับรถขึ้นสะพานลอยรัชวิภา.....ซึ่งตำรวจจราจรจะผ่อนผันให้รถมอเตอร์ไซค์ขึ้นได้ตอนเช้ารอบหนึ่ง....ตั้งแต่6โมงไปจนถึง9.30 น.และรอบเย็นตั้งแต่15.30-19.30(ทั้งตำรวจและผู้ขับจะรู้กันเอง).......ส่วนวันหยุดราชการก็เพิ่มตอนพักเที่ยงเข้าไปอีก1รอบ(ตำรวจจะมาจับรถตอนนี้-ส่วนเช้าและเย็นไม่จับ)

วันนั้นผมขับรถอาฟริกาทวินข้ามทางแยกรัชวิภา....ในขณะที่กำลังแซงรถที่มีคุณผู้หญิงคนหนึ่งขับอยู่เลนซ้าย.....เธอกำลังปั้นจิ้มปั้นเจ๋อเม้าโทรศัพท์อยู่อย่างเมามัน....มีการปิดปากหัวเราะและชี้มือชี้ไม้-อินกับการคุยไปอย่างที่บอก.......อยู่ดีๆรถของเธอคนนั้นก็เบนขวาออกมา...แล้วกันชนข้างขวาก็หลุดเข้ามาขัดอยู่กับพักเท้าข้างซ้ายของผม

โอ๋ยยยยย..แม่คุลลลลล-ไงไม่เงยหน้าเงยตาขึ้นมาจากพวังค์ของการคุยบ้างเลยล่ะ.....ผมเห็นท่าไม่ดีก็เร่งเครื่องพรวดออกไปข้างหน้าอย่างรุนแรง.....เพราะขืนเกี่ยวกันไปอย่างนี้ โอกาสที่ผมจะกลิ้งลงไปนอนใต้ท้องรถของคันที่ขับอยู่ข้างๆจะมีเปอร์เซ็นต์สูงเอาอย่างมากๆ....พอกระชากคันเร่งออกไปอย่างที่บอก.......กันชนหน้าของรถมหาภัยคันนั้นก็กระเด็นลิ่วไปข้างหน้าแบบง่ายๆงั้นแหละ.....

คุณน้าผู้หญิงคนนั้นไม่ยักรู้ตัวครับ.....พี่แกขับทับเอากันชนรถตัวเองแล้วดันกันชนทั้งดุ้นนั้นห้อยร่องแร่งไปจนลงอีกฝั่งของสะพาน......ฮ่วยๆ....นี่คือตัวอย่างที่บอกให้คุณรู้ว่า.....ผมจะแนะนำไปทีละอย่าง....พอคล่องดีแล้วก็ย้อนกลับมาอธิบายเพิ่มขึ้นไปทีละชั้น.....อย่างนี้ความรู้จะซึมเข้าสมองได้ดีกว่าแนะนำซ้อนๆกันหลายอย่างนะครับ.

สรุปแล้ว-ขอท่านั่งแบบธรรมดาไปก่อน....คือขึ้นไปนั่งบนเบาะตามปกติ........พอเริ่มขี่รถออกไปสัก10-20เมตร(ตั้งสติให้ได้เสียก่อน-ไม่ว่าจะเป็นการไปขับเพื่อสอบทำใบขับขี่ หรือขี่ออกไปทำธุระ/เที่ยว).....จากนั้นก็ยืนบนพักเท้าให้ก้นพ้นเบาะ..แล้วนั่งกลับลงมาใหม่...คราวนี้ทุกอย่างก็จะลงตัวโดยอัตโนมัติ


แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่