"ฉันก็ดูทีวีแล้วก็อ่านหนังสือพิมพ์เหมือนกันนะคะ ไม่ใช่เพิ่งออกมาจากถ้ำเสียหน่อย ไม่เห็นต้องทำท่าทางแปลกใจเลย”
“ก็เรายืนคุยกันมาพักหนึ่งแล้ว ผมไม่เห็นคุณจะมีท่าทีตกใจอะไร ยังแอบคิดอยู่เลยว่าสงสัยคุณคงไม่รู้จักผม” คุณชายพชรตอบไปพลางอมยิ้มไปพลาง คีตภาส่งยิ้มแห้งเหือดเพื่อกลบเกลื่อนกลับไป จะให้บอกได้อย่างไรล่ะว่าเธอมัวแต่ตกอยู่ในวังวนเสน่ห์ของเขา จนลืมคิดไปว่าเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน
“ฉันว่าเราไปทำแผลกันดีกว่านะคะ ฉันเริ่มจะแสบแล้ว” คีตภาตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง ตอนนี้เธอได้มายืนอยู่ตรงหน้าผู้ชายที่ผู้หญิงครึ่งค่อนประเทศไทยอยากจะได้เป็นสามี ทั้งใบหน้าที่หล่อเหลา นิสัยที่สุดแสนจะเป็นสุภาบุรุษ หน้าที่การงานและฐานะก็มั่นคง ผู้หญิงที่ไหนก็ต้องอยากจะได้เขามาเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นพ่อของลูกทั้งนั้น แต่ทว่า…ผู้หญิงที่ไม่มีอะไร นามสกุลก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรอย่างเธอ คงไม่เหมาะกับผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างเขาหรอก
คุณชายพชรเดินนำคีตภาไปที่ห้องตรวจส่วนตัวของเขา ก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป ชายหนุ่มก็ได้สั่งให้นางพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์ช่วยนำอุปกรณ์ทำแผลไปให้เขาในห้อง คีตภาได้แต่แค่นยิ้มให้กับนางพยาบาลเหล่านั้น ที่พากันมองเธอเป็นตาเดียวและหันไปซุบซิบกันเมื่อเห็นว่าเธอเดินมากับคุณชายพชร คีตภามู่หน้าเล็กน้อยอย่างไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก ที่ถูกมองเหมือนตัวประหลาดแบบนี้ เธอรีบก้มหน้าก้มตาเดินตามเขาเข้าห้องไปอย่างเร็วรี่
“เชิญคุณคีตภานั่งตรงนี้ก่อนเลยครับ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับผายมือไปยังเก้าอี้ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา
“เรียกครีมเฉยๆก็ได้ค่ะ ฉันไม่ถือหรอก”
“ได้หรือครับ”
“ได้สิคะ ทำไมหรือคะ หน้าตาฉันมันดูเหมือนยักษ์ขมูขีหรืออย่างไร คุณถึงคิดว่าฉันจะไม่อนุญาตให้คนอื่นเรียกชื่อเล่นฉัน”
“งั้นผมควรจะดีใจสินะครับ ที่คุณอนุญาตให้ผมเรียกชื่อเล่นได้”
“ใช่ค่ะ คุณควรจะดีใจให้มากๆเลย” แล้วทั้งสองก็พากันหัวเราะออกมาอย่างขำขัน ชายหนุ่มรู้สึกถูกชะตากับคีตภาเป็นอย่างมาก เขารู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับเธอ
ไม่นานนัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดบทสนทนาที่กำลังได้อรรถรสของคนทั้งสอง คุณชายพชรส่งเสียงตอบรับให้ผู้ที่มาเคาะประตูเข้ามาได้ นางพยาบาลเดินถือถาดอุปกรณ์สำหรับทำแผลเข้ามาวางไว้ที่โต๊ะก่อนจะเดินกลับออกไป แต่ก่อนออกจากห้องก็ยังมิวายหันมาชักสีหน้าไม่พอใจให้กับคีตภา คีตภาที่เห็นอย่างนั้นถึงกับอ้าปากหวออย่างงุนงง นี่เธอได้สร้างศัตรูโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่านะ
“คุณชายนี่ท่าทางจะเสน่ห์แรงน่าดูนะคะ”
“หืม? อะไรหรือครับ” ชายหนุ่มที่กำลังง่วนอยู่กับการเปิดฝาแอลกอฮอล์หันกลับมาถาม เขาเลิกคิ้วสูงขึ้นเพราะไม่ทันได้ฟังในสิ่งที่คีตภาพูด
“อ๋อ เปล่าค่ะ ฉันว่าเราทำแผลกันเลยดีกว่านะคะ” คีตภารีบลุกขึ้นไปยืนข้างๆเขาแล้วยื่นแขนข้างที่เป็นแผลส่งให้ ชายหนุ่มส่งยิ้มหวานด้วยความเอ็นดูหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เขาค่อยๆบรรจงทำแผลให้เธออย่างเบามือ คีตภายืนจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างลืมตัว สองมือของเขาค่อยๆทำแผลให้เธอไปทีละจุด คีตภาไม่รู้สึกเจ็บตรงไหนเลยแม้แต่น้อย ความรู้สึกของเธอในตอนนี้คือเหมือนกำลังยืนอยู่บนปุยเมฆสีขาว และมีแสงจากดวงอาทิตย์ส่องประกายระยิบระยับรอบๆตัวของชายหนุ่ม
"เรียบร้อยแล้วครับ คุณครีมครับ เรียบร้อยแล้วครับ” ชายหนุ่มส่งเสียงย้ำอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าคีตภายังเอาแต่จ้องหน้าตนด้วยสีหน้าล่องลอย คีตภาที่สะดุ้งตื่นจากความฝันได้สำเร็จรีบผละตัวออกจากชายหนุ่มอย่างตกใจ เธอยืนเกาท้ายทอยด้วยความเก้อเขินที่เผลอปล่อยไก่ ยืนจ้องหน้าเขาเพลินเสียจนน่าเกลียด
“ขะ…ขอบคุณมากนะคะ ที่อุตส่าห์ช่วยทำแผลให้ คุณชายมือเบามากเลยค่ะ ฉันไม่รู้สึกเจ็บเลย” คีตภารู้สึกอยากจะร้องตะโกนดังๆออกมาเป็นอย่างมาก ยิ่งเห็นใบหน้าที่ดูเหมือนกลั้นขำของชายหนุ่มด้วยแล้ว เธอยิ่งอยากจะมุดดินหนีเสียให้ได้
“งั้นเดี๋ยวผมจะให้ยาล้างแผลเอาไว้ให้คุณไปทำเองที่บ้านด้วยนะครับ ทำได้ใช่ไหมครับ”
“ได้ค่ะได้ แค่นี้สบายมากค่ะ จิ๊บๆ”
“ครับ งั้นเดี๋ยวผมจะให้นางพยาบาลเตรียมไว้ให้คุณด้านนอกละกัน” ชายหนุ่มบอกก่อนจะเดินไปยกหูโทรศัพท์สำหรับใช้ภายในโรงพยาบาลขึ้นมากดโทรหานางพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์ คีตภาอาศัยจังหวะนี้ยกมือขึ้นเขกที่ศรีษะของตัวเองอย่างแรง
“เป็นเอามากแล้วนะยัยครีม นี่แน่ๆ” คีตภาพึมพำอยู่คนเดียวและยังคงเขกหัวตัวเองไปเรื่อยๆราวกับว่าเธอกำลังจะไล่ความคิดแปลกๆในหัวสมองให้หลุดออกไป
“ทำแบบนี้เดี๋ยวก็ความจำเสื่อมหรอกครับ” ความคิดและการกระทำของคีตภาถูกหยุดลงด้วยน้ำเสียงและฝ่ามืออันแสนอบอุ่นของคุณชายพชร คีตภามองไปยังมือของเธอที่ถูกชายหนุ่มจับรั้งเอาไว้ รอยยิ้มอบอุ่นของเขาทำให้เธออ่อนระทวยจนแทบจะลงไปกองอยู่กับพื้น
“ฉัน…ขอตัวก่อนดีกว่านะคะ” คีตภาค่อยๆบิดข้อมือออกจากการเกาะกุของเขา เธอรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองกำลังเต้นแรงเป็นอย่างมาก เหมือนมีอะไรบางอย่างอัดแน่นอยู่ในหัวใจของเธอ
“คุณครีมมีนามบัตรไหมครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามก่อนที่คีตภาจะเปิดประตูห้องออกไป เธอหันส่งยิ้มให้เขาอย่างดีใจที่ถูกถามก่อนจะหยิบนามบัตรจากในกระเป๋าแล้วส่งให้เขา
“ฉันเป็นนักข่าวอยู่ที่หนังสือพิมพ์เป็นไทยค่ะ” คีตภาบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะรีบออกจากห้องไป เธอเดินยิ้มอย่างมีความสุขและไปรับถุงใส่ยาล้างแผลที่เคาน์เตอร์ ทว่านางพยาบาลที่ยืนอยู่ตรงนั้นทุกคน ต่างพากันมองเธอด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก เมื่อเห็นดังนั้น คีตภาก็มู่หน้าลงอย่างเบื่อหน่าย เธอรีบก้าวขาให้ยาวขึ้นเพื่อจะออกจากโรงพยาบาลนี้ให้เร็วที่สุด
“ถึงจะโชคร้ายเจอผู้ชายผีทะเลอย่างอีตาเกียรติกร แต่ก็ยังโชคดีที่ได้เจอเทพบุตรอย่างคุณชายพชรแหละนะ” คีตภาพึมพำคนเดียว ดูท่าทางเธอจะหลงเสน่ห์คุณชายพชรเข้าเสียแล้ว
สาปจันทรา (ตอนที่1 ต่อ)
“ก็เรายืนคุยกันมาพักหนึ่งแล้ว ผมไม่เห็นคุณจะมีท่าทีตกใจอะไร ยังแอบคิดอยู่เลยว่าสงสัยคุณคงไม่รู้จักผม” คุณชายพชรตอบไปพลางอมยิ้มไปพลาง คีตภาส่งยิ้มแห้งเหือดเพื่อกลบเกลื่อนกลับไป จะให้บอกได้อย่างไรล่ะว่าเธอมัวแต่ตกอยู่ในวังวนเสน่ห์ของเขา จนลืมคิดไปว่าเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน
“ฉันว่าเราไปทำแผลกันดีกว่านะคะ ฉันเริ่มจะแสบแล้ว” คีตภาตัดสินใจเปลี่ยนเรื่อง ตอนนี้เธอได้มายืนอยู่ตรงหน้าผู้ชายที่ผู้หญิงครึ่งค่อนประเทศไทยอยากจะได้เป็นสามี ทั้งใบหน้าที่หล่อเหลา นิสัยที่สุดแสนจะเป็นสุภาบุรุษ หน้าที่การงานและฐานะก็มั่นคง ผู้หญิงที่ไหนก็ต้องอยากจะได้เขามาเป็นหัวหน้าครอบครัว เป็นพ่อของลูกทั้งนั้น แต่ทว่า…ผู้หญิงที่ไม่มีอะไร นามสกุลก็ไม่ได้ใหญ่โตอะไรอย่างเธอ คงไม่เหมาะกับผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างเขาหรอก
คุณชายพชรเดินนำคีตภาไปที่ห้องตรวจส่วนตัวของเขา ก่อนจะเปิดประตูห้องเข้าไป ชายหนุ่มก็ได้สั่งให้นางพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์ช่วยนำอุปกรณ์ทำแผลไปให้เขาในห้อง คีตภาได้แต่แค่นยิ้มให้กับนางพยาบาลเหล่านั้น ที่พากันมองเธอเป็นตาเดียวและหันไปซุบซิบกันเมื่อเห็นว่าเธอเดินมากับคุณชายพชร คีตภามู่หน้าเล็กน้อยอย่างไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่นัก ที่ถูกมองเหมือนตัวประหลาดแบบนี้ เธอรีบก้มหน้าก้มตาเดินตามเขาเข้าห้องไปอย่างเร็วรี่
“เชิญคุณคีตภานั่งตรงนี้ก่อนเลยครับ” ชายหนุ่มบอกพร้อมกับผายมือไปยังเก้าอี้ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับเขา
“เรียกครีมเฉยๆก็ได้ค่ะ ฉันไม่ถือหรอก”
“ได้หรือครับ”
“ได้สิคะ ทำไมหรือคะ หน้าตาฉันมันดูเหมือนยักษ์ขมูขีหรืออย่างไร คุณถึงคิดว่าฉันจะไม่อนุญาตให้คนอื่นเรียกชื่อเล่นฉัน”
“งั้นผมควรจะดีใจสินะครับ ที่คุณอนุญาตให้ผมเรียกชื่อเล่นได้”
“ใช่ค่ะ คุณควรจะดีใจให้มากๆเลย” แล้วทั้งสองก็พากันหัวเราะออกมาอย่างขำขัน ชายหนุ่มรู้สึกถูกชะตากับคีตภาเป็นอย่างมาก เขารู้สึกสบายใจที่ได้คุยกับเธอ
ไม่นานนัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดบทสนทนาที่กำลังได้อรรถรสของคนทั้งสอง คุณชายพชรส่งเสียงตอบรับให้ผู้ที่มาเคาะประตูเข้ามาได้ นางพยาบาลเดินถือถาดอุปกรณ์สำหรับทำแผลเข้ามาวางไว้ที่โต๊ะก่อนจะเดินกลับออกไป แต่ก่อนออกจากห้องก็ยังมิวายหันมาชักสีหน้าไม่พอใจให้กับคีตภา คีตภาที่เห็นอย่างนั้นถึงกับอ้าปากหวออย่างงุนงง นี่เธอได้สร้างศัตรูโดยไม่รู้ตัวหรือเปล่านะ
“คุณชายนี่ท่าทางจะเสน่ห์แรงน่าดูนะคะ”
“หืม? อะไรหรือครับ” ชายหนุ่มที่กำลังง่วนอยู่กับการเปิดฝาแอลกอฮอล์หันกลับมาถาม เขาเลิกคิ้วสูงขึ้นเพราะไม่ทันได้ฟังในสิ่งที่คีตภาพูด
“อ๋อ เปล่าค่ะ ฉันว่าเราทำแผลกันเลยดีกว่านะคะ” คีตภารีบลุกขึ้นไปยืนข้างๆเขาแล้วยื่นแขนข้างที่เป็นแผลส่งให้ ชายหนุ่มส่งยิ้มหวานด้วยความเอ็นดูหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า เขาค่อยๆบรรจงทำแผลให้เธออย่างเบามือ คีตภายืนจ้องหน้าชายหนุ่มอย่างลืมตัว สองมือของเขาค่อยๆทำแผลให้เธอไปทีละจุด คีตภาไม่รู้สึกเจ็บตรงไหนเลยแม้แต่น้อย ความรู้สึกของเธอในตอนนี้คือเหมือนกำลังยืนอยู่บนปุยเมฆสีขาว และมีแสงจากดวงอาทิตย์ส่องประกายระยิบระยับรอบๆตัวของชายหนุ่ม
"เรียบร้อยแล้วครับ คุณครีมครับ เรียบร้อยแล้วครับ” ชายหนุ่มส่งเสียงย้ำอีกครั้ง เมื่อเห็นว่าคีตภายังเอาแต่จ้องหน้าตนด้วยสีหน้าล่องลอย คีตภาที่สะดุ้งตื่นจากความฝันได้สำเร็จรีบผละตัวออกจากชายหนุ่มอย่างตกใจ เธอยืนเกาท้ายทอยด้วยความเก้อเขินที่เผลอปล่อยไก่ ยืนจ้องหน้าเขาเพลินเสียจนน่าเกลียด
“ขะ…ขอบคุณมากนะคะ ที่อุตส่าห์ช่วยทำแผลให้ คุณชายมือเบามากเลยค่ะ ฉันไม่รู้สึกเจ็บเลย” คีตภารู้สึกอยากจะร้องตะโกนดังๆออกมาเป็นอย่างมาก ยิ่งเห็นใบหน้าที่ดูเหมือนกลั้นขำของชายหนุ่มด้วยแล้ว เธอยิ่งอยากจะมุดดินหนีเสียให้ได้
“งั้นเดี๋ยวผมจะให้ยาล้างแผลเอาไว้ให้คุณไปทำเองที่บ้านด้วยนะครับ ทำได้ใช่ไหมครับ”
“ได้ค่ะได้ แค่นี้สบายมากค่ะ จิ๊บๆ”
“ครับ งั้นเดี๋ยวผมจะให้นางพยาบาลเตรียมไว้ให้คุณด้านนอกละกัน” ชายหนุ่มบอกก่อนจะเดินไปยกหูโทรศัพท์สำหรับใช้ภายในโรงพยาบาลขึ้นมากดโทรหานางพยาบาลที่หน้าเคาน์เตอร์ คีตภาอาศัยจังหวะนี้ยกมือขึ้นเขกที่ศรีษะของตัวเองอย่างแรง
“เป็นเอามากแล้วนะยัยครีม นี่แน่ๆ” คีตภาพึมพำอยู่คนเดียวและยังคงเขกหัวตัวเองไปเรื่อยๆราวกับว่าเธอกำลังจะไล่ความคิดแปลกๆในหัวสมองให้หลุดออกไป
“ทำแบบนี้เดี๋ยวก็ความจำเสื่อมหรอกครับ” ความคิดและการกระทำของคีตภาถูกหยุดลงด้วยน้ำเสียงและฝ่ามืออันแสนอบอุ่นของคุณชายพชร คีตภามองไปยังมือของเธอที่ถูกชายหนุ่มจับรั้งเอาไว้ รอยยิ้มอบอุ่นของเขาทำให้เธออ่อนระทวยจนแทบจะลงไปกองอยู่กับพื้น
“ฉัน…ขอตัวก่อนดีกว่านะคะ” คีตภาค่อยๆบิดข้อมือออกจากการเกาะกุของเขา เธอรู้สึกว่าหัวใจของตัวเองกำลังเต้นแรงเป็นอย่างมาก เหมือนมีอะไรบางอย่างอัดแน่นอยู่ในหัวใจของเธอ
“คุณครีมมีนามบัตรไหมครับ” ชายหนุ่มเอ่ยถามก่อนที่คีตภาจะเปิดประตูห้องออกไป เธอหันส่งยิ้มให้เขาอย่างดีใจที่ถูกถามก่อนจะหยิบนามบัตรจากในกระเป๋าแล้วส่งให้เขา
“ฉันเป็นนักข่าวอยู่ที่หนังสือพิมพ์เป็นไทยค่ะ” คีตภาบอกพร้อมกับส่งยิ้มให้กับชายหนุ่มเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะรีบออกจากห้องไป เธอเดินยิ้มอย่างมีความสุขและไปรับถุงใส่ยาล้างแผลที่เคาน์เตอร์ ทว่านางพยาบาลที่ยืนอยู่ตรงนั้นทุกคน ต่างพากันมองเธอด้วยสีหน้าไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่นัก เมื่อเห็นดังนั้น คีตภาก็มู่หน้าลงอย่างเบื่อหน่าย เธอรีบก้าวขาให้ยาวขึ้นเพื่อจะออกจากโรงพยาบาลนี้ให้เร็วที่สุด
“ถึงจะโชคร้ายเจอผู้ชายผีทะเลอย่างอีตาเกียรติกร แต่ก็ยังโชคดีที่ได้เจอเทพบุตรอย่างคุณชายพชรแหละนะ” คีตภาพึมพำคนเดียว ดูท่าทางเธอจะหลงเสน่ห์คุณชายพชรเข้าเสียแล้ว