โรงพยาบาลกลมขนาดนี้ ไม่ให้แอบปลื้มคุณหมอได้ไง

อยากจะเล่าอาการนี้สาวโสดน่าจะเป็นกันเยอะน่ะค่ะ ^^

เรื่องมันยาวขอเล่าสั้นๆ (สั้นแล้วจริงๆน่ะค่ะ)
ทั้งเดือนที่ผ่านมา เราเข้าออกโรงพยาบาล คลินิก สถานีอนามัย รวม 12 ครั้ง
ซึ่งปัญหาที่พบเริ่มแรกเลย คือ ขาเป็นจ้ำเลือด – ไปหาหมอ – เจาะเลือด กินยา หมอแนะนำให้ไปพบหมอกระดูก เพราะเราบอกว่าปวดเข่ามาก เดินแทบไม่ได้
2 วันต่อมา ไปหา คลินิกเฉพาะทางด้านกระดูก คุณหมอ บอกว่า ไม่น่าจะเกี่ยวกับกระดูก อาจจะเป็นโรคผิวหนัง (เอาซิ  เราคิดว่าไม่ไหวแล้ว เบื่อการไปหาแล้วไม่รู้เป็นอะไร)

5 วันต่อมา อาการดีขึ้น จ้ำหาย แต่ขายังปวดอยู่ แล้วอาการแทรกซ้อนก็เพิ่มขึ้น เนื่องจากประมาณ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมากินอะไรไม่ได้เลย เบื่ออาหาร
ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็นโรคกระเพาะ ซื้อยามาทาน แต่ไม่ดีขึ้น
วันที่ 17 กันยายน  พอไปถึงที่ทำงานอาการทรุดมาก พี่ๆเลยจัดส่ง เข้าฉุกเฉิน รพ.รัฐของจังหวัด คุณหมอตรวจ เจาะเลือด นอนดูอาการ ครึ่งวัน สรุป ไม่มีอะไร Emergency อืม แล้วที่อิฉันปวดท้องยังไม่หายล่ะค่ะ คุณหมอห้องฉุกเฉินเลยส่งไปตรวจสูตินารีแพทย์ ประมาณ บ่าย 2 อาจารย์หมอ (อายุมากแล้ว) ถามคำถามหลายอย่าง
1.ปจด.มาเมื่อไหร่ – ต้นเดือนค่ะ แต่เป็นคนมาไม่ปกติค่ะ 2 เดือนมาครั้ง
2.เคยทำแท้งไหม – ไม่ค่ะ ()
3.เคยท้องไหม – ไม่ค่ะ
4.มีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้ายเมื่อไหร่ – หนูจิ้นค่ะหมอ (ตอบแบบเฉยๆน่ะค่ะ คือปวดท้องจนไม่มีอารมณ์คิดมาก) คุณหมอเหลือบตามอง “อย่าโกหกหมอน่ะ” ณ จุดๆนี้ ก็เริ่มคิดได้ และตอบแบบสะดุดๆ “ไม่คะหมอ”
และอีกหลายคำถามแต่จำไม่ได้
คุณหมออัลตร้าซาวด์ดู แต่เพราะไม่ได้กลั่นปัจสาวะ ทำให้ไม่เห็นอะไร
คุณหมอนัดอัลตร้าซาวด์อีกที อาทิตย์หน้า และให้ยา (พารา) มาทาน
สุดท้ายเราก็ยังปวดท้อง ปวดขา อยู่ดี (ในใจคิดว่า จะ)
วันเสาร์มีเรียน ทนจนไม่ไหว 4 โมงเย็นเลยให้พี่ๆที่เรียนมาส่งฉุกเฉิน (ที่เดิม) แต่คุณหมอ Intern ชุดใหม่ วันนี้คนไข้น้อยเลยทำให้ได้ตรวจทันที
คุณหมอ ก็ให้ขึ้นไปนอนบนเตียง และตรวจท้อง กดและถามว่าจุดนี้เจ็บไหมครับ  ตรงนี้เป็นไงบ้าง พอเสร็จก็มานั่งรอฟังผล คุณหมอก็ทักมาว่า “ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เหรอครับ” หน้าตาไม่ค่อยจะตกใจน้อยเลยน่ะค่ะ อิฉันคิดในใจ แต่ก็ตอบไปแบบสุภาพและยิ้มอ่อนโยน เท่าที่ทำได้ แอบอายคนหล่อนิดหน่อย  (แอบปลื้มคุณหมอมาก พูดเพราะสุดๆ ชอบเสียงและรอยยิ้มอ่ะค่ะ) คุณหมอให้ยาโรคกระเพาะมาทานเพิ่ม และดุเรื่องไม่ค่อยทานอาหารเช้าและงดดื่มกาแฟซะ
แต่ด้วยความเครียดและอะไรหลายๆอย่าง ทั้งเรื่องมดลูกด้วย (หาข้อมูลในอินเตอร์ เกี่ยวกับโรคด้านนี้ และคำบอกเล่ามากมาย)
ในวันที่หมอนัดอัลตร้าซาวด์ คือนั่งรองไห้ตั้งแต่รอตรวจ ตอนนี้หายปวดท้องไปบางส่วน แต่ด้วยกินไม่ได้ ทำให้หน้ามืดบ่อยมาก คุณหมอที่อัลตร้าซาวด์บอกว่าไม่มีอะไรน่าห่วง มดลูกปกติ (คำถามคือทำไมยังปวดท้องไม่หาย)
ตรวจเสร็จเอาผลไปหาคุณหมอสูติต่อ ระหว่างที่รออาจารย์หมอก็ไม่ไหว คุณพยาบาลเลยให้นอนรอในห้องตรวจภายใน และก็เชิญคุณหมอ Intern ข้างๆมาดูก่อน คำถามแรกของหมอคือ เจอกันอีกแล้วน่ะ (ในใจเราร้องไห้หนักกว่าเดิม ทำไมโลกกลมขนาดนี้ และดูสภาพอันหน้าเวทนาของอิฉัน น้ำตานองหน้า หน้าไม่ได้แต่ง ได้แต่พยายามกลั่นน้ำตา )
คุณหมอถามว่าวันนี้เป็นยังไงบ้าง ขอบอกเลยว่าร้องไห้อย่างเดียว คืออารมณ์มันเศร้ายังไงไม่รู้ กว่าจะตอบได้คุณหมอก็ปลอบแล้ว ปลอบอีก และอิฉันก็พูดอะไรแบบตลกๆไปเยอะมาก “คุณหมอฉันก็มีลูกได้ไหมค่ะ” เป้นต้น
คุณหมอดูผลตรวจอัลตร้าซาวด์ ก็บอกว่าไม่มีปัญหาอะไร มดลูกยังใช้งานได้อยู่
ประมาณ 20 นาที อาจารย์หมอก็เข้ามาตรวจและสรุปอาการคร่าวๆว่าไม่มีปัญหาอะไร แต่อิฉันทั้งเหนื่อย ทั้งเพลียและจะเป็นลม สุดท้ายก็โดนส่งตัวเข้าห้องฉุกเฉินอีกครั้ง คือเย็นแล้วค่ะ
ณ จุดๆนี้ คงไม่มีอะไรจะบังเอิญกว่าวันนี้อีกแล้ว คุณหมอ Intern คนเดิม อยู่เวรตอนเย็นที่ห้องนี้ต่อ อิฉันนอนไปหลายนาทีก็ไม่ได้รับความสนใจจากคุณมากท่านใด  ภาวนาและบอกเพื่อนที่ดูแลว่า ขอร้องอย่าให้คุณหมอคนเดิมเลย ฉันไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว (คิดถึงเรื่องในห้องสูติแล้วได้แต่ปิดหน้า)
สุดท้ายสวรรค์ก็ไม่เป็นใจให้อิฉัน คุณหมอท่านเดิม “ยังไม่ดีขึ้นเลยเหรอ เด่วรอผลตรวจเลือดก่อนน่ะ จะให้พยาบาลฉีดยาแก้ปวดให้ก่อน”
เดือนเดียว เจาะเลือด 9 ครั้ง ฉีดยาแก้ปวด ประมาณ 6 เข็ม T_________T
คุณหมอก็ให้นอนดูอาการก่อน เวลา ประมาณ 2 ทุ่ม อยากกลับบ้านมากเริ่มงอแง (คนไข้เยอะมาก คุณหมอก็ไม่ได้สนใจอิฉันอีกเลย) คุณหมอเดินมาถามว่าดีขึ้นไหม ก็ตอบไปว่าโอเคค่ะ ดีมาก ขอกลับเลยได้ไหมค่ะ แต่ดูเหมือนจะแสดงความอยากกลับมากเกินไป เลยได้นอนรอดูหมอรักษาต่อ
พอ 3 ทุ่ม เริ่มรู้สึกหิวมาก พายายามส่งพลังจิตไปหาคุณหมอหลายครั้ง 20 นาทีถึงได้ผล คุณหมอหันมามอง และอิฉันก็ตะโกนออกไป คุณหมอค่ะหิวแล้ว (คิดว่าทำหน้าอ้อนสุดๆ ณ ตอนนั้นอ่ะค่ะ) แต่คุณหมอร้ายกาจกว่า ยิ้มส่งกลับมาและตอบว่า “หมอก็หิว”
(ด้วยที่เจอคุณหมอตั้งแต่บ่ายกว่า เลยพอจะทราบว่า ณ ตอนนี้คุณหมอก็ยังไม่ได้กินข้าวเลยเหมือนกัน)
กว่าจะได้กลับก็ 4 ทุ่มกว่าๆ ทั้งนี้ เพราะในห้องฉุกเฉินคนไข้เยอะมาก สมควรมีใครออกไปได้แล้ว อิฉันพอจะเข้าใจว่าคุณหมอไม่อยากให้อิฉันกลับหรอกค่ะ เพราะไข้ขึ้นสูงอีกในเวลาต่อมา (สารพัดโรคมากๆ)

ในวันนี้พยายามกินให้มากขึ้น เพราะไม่อยากไปเจอคุณหมออีกแล้ว (แต่ลึกๆก็อยากเจอน่ะค่ะ แค่ไม่ป่วยไปจะดีกว่า 5555)
ตอนนี้พยายามนั่งสมาธิ ทำใจ (ไม่ให้ชอบหมอ)
เข้าใจที่ว่า ยิ่งรู้จักยิ่งรักเธอ ก็วันนี้ พอดีมีแหล่งข่าวภายใน รพ. ทำให้ทราบว่าคุณหมอมีแฟนแล้ว (อกหักเบาๆ)
ในอีกหลายวันต่อมาก็เอาขนมไปฝากให้คุณหมอ (ทำได้แค่นี้)
และคงไม่เข้า รพ.อีกนาน เม่านอนไม่หลับ



ขอบคุณที่อุตส่าห์อ่านข้อความสั้น (ตัดช่วงป่วยต้นๆไปประมาณ 3 หน้ากระดาษ หุหุ)

พาพันขอบคุณ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่