ผู้นำชิลี-เปรูเยือนประเทศไทยเป็นทางการ วันที่ 4-5 ต.ค.นี้
วันพุธที่ 02 ตุลาคม 2013 เวลา 17:56 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - คอลัมน์ : ข่าวในประเทศ
ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า นายเซบัสเตียน ปิเญรา เอเชนีเก ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐชิลี
และนายโอยันตา อุมาลา ตัสโซ ประธานาธิบดีเปรู จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาลไทย ระหว่างวันที่ 4-5 ต.ค.นี้ ก่อนการร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชียและแปซิฟิค(เอเปค) ครั้งที่ 21 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
การเยือนของประธานาธิบดีชิลี ถือเป็นการเยือนไทยเป็นทางการครั้งแรก นับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างชิลีกับไทย ตั้งแต่ปี 2506 โดยประธานาธิบดีชิลีและภริยา จะเดินทางถึงท่าอากาศยานดอนเมืองโดยเที่ยวบินพิเศษ ในวันที่ 4 ต.ค. เวลา 09.00 น. โดยมีผู้แทนรัฐบาลรอต้อนรับ
จากนั้น เวลา 17.00 น. ประธานาธิบดีชิลีและภริยา จะเดินทางถึงทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนจะหารือข้อราชการเต็มคณะระหว่างผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี การเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกัน การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของทั้ง 2 ประเทศ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีสาธารณรัฐชิลี จะเป็นสักขีพยานการลงนาม3 ฉบับ ได้แก่ (1) ความตกลงการค้าเสรีไทย-ชิลี (2) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการไตรภาคี และ (2) หนังสือแสดงเจตจำนงความร่วมมือดาราศาสตร์ จากนั้น มีการแถลงข่าวร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีสาธารณรัฐชิลี ณ ตึกสันติไมตรีหลังใน
สำหรับประธานาธิบดีเปรู จะเดินทางมาถึงประเทศไทยในวันที่ 4 ต.ค. เวลา 22.00 น. โดยถือเป็นการเยือนประเทศไทยของผู้นำเปรูอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 4 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและแนบแน่นระหว่างไทยกับเปรู และการที่ไทยเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของเปรูในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังสะท้อนถึงการเติบโตของความเชื่อมโยงระหว่างไทยกับภูมิภาคลาตินอเมริกา รวมถึงยังเป็นการเปิดบทสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกบทหนึ่งของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเปรู และในระหว่างการเยือนครั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้ประธานาธิบดีเปรู เข้าเฝ้าฯ ในวันที่ 5 ต.ค.นี้ เวลาประมาณ 12.00 น.
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเปรูจะพบหารือกับนายกรัฐมนตรี ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 16.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล รวมถึงมีกำหนดการหารือกับประธานสภาผู้แทนราษฎร ภาคเอกชน และภาคการศึกษาของไทยด้วย
สมัยพ่อศาสดามาร์คคนพูดภาษาอังกฤษปร๋อน้ำไหลไฟดับ หาคนคบหาสมาคมไม่ได้ ไม่มีใคร
อยากจะมาเยือนประเทศไทย ไอ้ที่มาก็แอบมาท่องเที่ยว ไม่ได้มาอย่างเป็นทางการ ไม่มี
ปฎิสัมพันธ์ กับ นายกฯ หรือ กระทรวงการต่างประเทศ
เป็นนายกฯมา 2 ปี 7 เดือน ที่ไปเยือนนั่น เขาจำใจเชิญ เนื่องจากไปในฐานะผู้นำประเทศ เพื่อเข้า
ร่วมประชุมระดับภูมิภาคเท่านั้น แต่จะให้เขาเชิญให้ไปอย่างเป็นทางการ ไม่มีใครเขาอยากให้ไป
เขาไม่อยากเห็น ผู้นำประเทศที่ ฆ่าประชาชนของตัวเองเหมือนผัก เหมือนปลา จับมือ เขายังไม่
อยากจะจับ กลัวมือเขาเปื้อนเลือดประชาชนที่ติดอยู่บนมือมาร์ค
ขอเถอะนะ พ่อศาสดามาร์ค อย่าเล่นการเมืองอีกเลย ไปทำอะไรที่ตัวเองคิดว่าจะประสบผลสำเร็จ
สักอย่าง เอาไว้คุยให้ลูกหลานของตัวเองฟัง
รัฐบาล ที่ได้รับเลือกจากประชาชน ประเทศไหน ๆ ก็อยากคบหาสมาคม ผู้นำเปรู และ ผู้นำชิลี เยือนไทยอย่างเป็นทางการ
วันพุธที่ 02 ตุลาคม 2013 เวลา 17:56 น. ณัฐญา เนตรหิน ข่าวรายวัน - คอลัมน์ : ข่าวในประเทศ
ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมอเมริกาและแปซิฟิกใต้ กระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่า นายเซบัสเตียน ปิเญรา เอเชนีเก ประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐชิลี
และนายโอยันตา อุมาลา ตัสโซ ประธานาธิบดีเปรู จะเดินทางมาเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ในฐานะแขกของรัฐบาลไทย ระหว่างวันที่ 4-5 ต.ค.นี้ ก่อนการร่วมการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเชียและแปซิฟิค(เอเปค) ครั้งที่ 21 ที่เกาะบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย
การเยือนของประธานาธิบดีชิลี ถือเป็นการเยือนไทยเป็นทางการครั้งแรก นับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ระหว่างชิลีกับไทย ตั้งแต่ปี 2506 โดยประธานาธิบดีชิลีและภริยา จะเดินทางถึงท่าอากาศยานดอนเมืองโดยเที่ยวบินพิเศษ ในวันที่ 4 ต.ค. เวลา 09.00 น. โดยมีผู้แทนรัฐบาลรอต้อนรับ
จากนั้น เวลา 17.00 น. ประธานาธิบดีชิลีและภริยา จะเดินทางถึงทำเนียบรัฐบาล โดยมีนายกรัฐมนตรี ให้การต้อนรับที่หน้าตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนจะหารือข้อราชการเต็มคณะระหว่างผู้นำของทั้ง 2 ประเทศ ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี การเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างกัน การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาของทั้ง 2 ประเทศ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีสาธารณรัฐชิลี จะเป็นสักขีพยานการลงนาม3 ฉบับ ได้แก่ (1) ความตกลงการค้าเสรีไทย-ชิลี (2) บันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการไตรภาคี และ (2) หนังสือแสดงเจตจำนงความร่วมมือดาราศาสตร์ จากนั้น มีการแถลงข่าวร่วมระหว่างนายกรัฐมนตรีและประธานาธิบดีสาธารณรัฐชิลี ณ ตึกสันติไมตรีหลังใน
สำหรับประธานาธิบดีเปรู จะเดินทางมาถึงประเทศไทยในวันที่ 4 ต.ค. เวลา 22.00 น. โดยถือเป็นการเยือนประเทศไทยของผู้นำเปรูอย่างเป็นทางการ ครั้งที่ 4 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและแนบแน่นระหว่างไทยกับเปรู และการที่ไทยเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของเปรูในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และยังสะท้อนถึงการเติบโตของความเชื่อมโยงระหว่างไทยกับภูมิภาคลาตินอเมริกา รวมถึงยังเป็นการเปิดบทสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกบทหนึ่งของความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับเปรู และในระหว่างการเยือนครั้งนี้ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานพระราชวโรกาสให้ประธานาธิบดีเปรู เข้าเฝ้าฯ ในวันที่ 5 ต.ค.นี้ เวลาประมาณ 12.00 น.
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีเปรูจะพบหารือกับนายกรัฐมนตรี ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 16.00 น. ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล รวมถึงมีกำหนดการหารือกับประธานสภาผู้แทนราษฎร ภาคเอกชน และภาคการศึกษาของไทยด้วย
สมัยพ่อศาสดามาร์คคนพูดภาษาอังกฤษปร๋อน้ำไหลไฟดับ หาคนคบหาสมาคมไม่ได้ ไม่มีใคร
อยากจะมาเยือนประเทศไทย ไอ้ที่มาก็แอบมาท่องเที่ยว ไม่ได้มาอย่างเป็นทางการ ไม่มี
ปฎิสัมพันธ์ กับ นายกฯ หรือ กระทรวงการต่างประเทศ
เป็นนายกฯมา 2 ปี 7 เดือน ที่ไปเยือนนั่น เขาจำใจเชิญ เนื่องจากไปในฐานะผู้นำประเทศ เพื่อเข้า
ร่วมประชุมระดับภูมิภาคเท่านั้น แต่จะให้เขาเชิญให้ไปอย่างเป็นทางการ ไม่มีใครเขาอยากให้ไป
เขาไม่อยากเห็น ผู้นำประเทศที่ ฆ่าประชาชนของตัวเองเหมือนผัก เหมือนปลา จับมือ เขายังไม่
อยากจะจับ กลัวมือเขาเปื้อนเลือดประชาชนที่ติดอยู่บนมือมาร์ค
ขอเถอะนะ พ่อศาสดามาร์ค อย่าเล่นการเมืองอีกเลย ไปทำอะไรที่ตัวเองคิดว่าจะประสบผลสำเร็จ
สักอย่าง เอาไว้คุยให้ลูกหลานของตัวเองฟัง