จากเขียนให้กำลังใจน้องผู้พิการ จบลงที่หมอนรองคอใบละหลายร้อย

กระทู้สนทนา
คือ เราไม่รู้จะเริ่มยังไง ถึงจะผ่านมาหลายเดือน แต่คิดถึงทีไรมันก็ไม่สบายใจสับสนในตัวเองอยู่

เราเป็นคนที่ชอบทำบุญเมื่อมีโอกาสเรื่อยๆค่ะ ไม่ได้ให้ดะทุกที่ทุกงาน เช่น เห็นขอทานตามสะพานลอยก็ไม่ค่อยให้เงินเพราะบางที ก็กลัวจะเป็นแก๊งค์ขอทาน ส่วนมากจะเดินเข้า 7 ซื้อน้ำ ซื้อของกินให้ หรือเวลานั่งกินข้าวแกงข้างถนนเห็นคนเดินมาขอเงิน เราก็จะบอกให้สั่งข้าวไปแล้วเราจ่ายรวมกับของเราแทน ถ้าจะให้เงินก็บางทีหยอดตามกล่องใน 7 ช่วยเหลือค่าอาหารกลางวันน้องผู้ด้อยโอกาส

เย็นวันหนึ่งหลังเลิกงาน เดินไปแถวศาลาแดง สีลม ก็มีคนกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ตรงฟุตบาท พอเราเดินผ่านก็บอกว่า เชิญเขียนให้กำลังใจน้องผู้พิการนะคะ พร้อมยื่นสมุดปากกาให้ เราตั้งตัวไม่ทัน งงๆอยู่ แต่ก็เขียนคำพูดดีๆที่คิดว่าพอน้องๆได้อ่านแล้วจะรู้สึกดีมีกำลังใจตามจุดประสงค์ผู้เชิญชวน และระหว่างที่เราเขียนเค้าก็ดึงเราเดินไปใกล้ๆ กระเป๋าถือใบใหญ่ที่เหมือนกระเป๋าใส่อุปกรณ์กีฬา พร้อมบอกว่ากำลังสร้างอาคารบางอย่างให้น้องๆผู้พิการ บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ พร้อมหยิบของออกมาจากกระเป๋าใบนั้นเสนอขายหมอนรองคอ (เหมือนที่ขายตลาดนัด 50 บาท) 300 บาท (จำราคาที่แน่นอนไม่ได้ อาจจะ 400 นะคะ แต่ประมาณนี้) แก้วเก็บร้อนเย็น ราคาประมาณ 500 บาท มีเป็นชุดพร้อมตุ๊กตาหมีตัวเล็ก ประมาณ 900-1000 บาท

ความรู้สึกคือ เหมือนโดนกล่อมค่ะ (เป็นคนใจอ่อนอยู่แล้ว) แต่เราไม่ได้อยากได้ของพวกนั้นเลย เลยบอกว่าขอเปลี่ยนเป็นบริจาคเงินช่วยได้ไม๊คะ 100 บาท ไม่อยากได้ของ พนักงานเค้าก็คะยั้นคะยอ ยืนยันว่ายังไงก็ไม่ได้ บอกว่าต้องออกใบเสร็จให้ แล้วมูลนิธินับต้นขั้วใบเสร็จเพื่อกันพนักงานยักยอก นั่นนี่ เรารู้สึกไม่เต็มใจให้นะ แต่ในที่สุดก็ควักซื้อหมอนรองคอที่เราไม่ต้องการไปจนได้ T_T

หมอนรองคอใบนั้นยังวางที่บ้านอยู่เลย (เรามีที่ซื้อเองแล้ว 2อัน) เราว่าของที่เอามาขาย คุณภาพไม่ดีสมราคาจะให้คนอื่นต่อเราก็รู้สึกไม่ดี และยังไงก็รู้สึกไม่สบายใจกับการทำบุญแบบนี้ บางคนอาจจะบอกไม่เต็มใจก็ไม่ต้องให้ แต่ ณ ตอนนั้น เราอยากช่วย เราไม่ได้อยากปฏิเสธการทำบุญช่วยเหลือน้อง แต่ 300-400 บาท ที่เราไม่ได้เต็มใจให้เอง มันรู้สึกยังไงก็ไม่รู้ค่ะ (เราเคยโอนบริจาคช่วยเหลือสัตว์หรือคนที่ต้องการความช่อยเหลือตามเฟสและตามข่าวมากกว่านั้นนะคะ แต่มันเป็นสิ่งที่เต็มใจ)

กรณีนี้คุณว่าเรามองโลกในแง่ร้าย ใจแคบ หรือคิดมากไปไม๊คะ

แต่เราสบายใจที่จะทำบุญตามจำนวนที่เราอยากทำ และแบบเต็มใจไม่ใช่โดนชักจูงให้รู้สึกเหมือนต้องทำมากกว่า อย่างที่บอกมันผ่านมาหลายเดือนมากแล้ว แต่กลับไปคิดถึงหรือเดินผ่านตามบีทีเอสแล้วเห็นกลุ่มนี้อีกทีไร เรารู้สึกไม่ดีค่ะ

ใครมีประสบการณ์แบบนี้แล้วรู้สึกยังไงบ้างคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่