คือ ดิฉัน สมัครงานในตำแหน่งเจ้าหน้าที่บุคคล เพราะมีประสบการณ์ด้านนี้มาพอสมควร กับบริษัทนำเข้าและจำหน่ายเครื่องสำอางค์ เกาหลี ยี่ห้อหนึ่ง ซึ่งดิฉันอยู่ในช่วงตกงานพอดี ดิฉันเห็นว่าอยู่ใกล้บ้านเลยสมัคร และได้สัมภาษณ์กับหัวหน้าฝ่ายบุคคลโดยตรง วันแรกที่สัมภาษณ์ก็ผ่านไปด้วยดี วันถัดคือวันจันทร์ที่ 21 กันยายน 56 ได้นัดสัมภาษณ์อีกครั้ง เพื่อสัมภาษณ์กับรองกรรมการผู้จัดการ สรุปแล้ว รองกรรมการเค้าบอกว่าตกลงรับเข้าทำงาน ให้รอคุยการเซ็นสัญญาจ้างงานกับฝ่ายบุคคลต่อเลย ดิฉันก็ได้คุยกับหัวหหน้าฝ่ายบุคคลอีกครั้ง เค้าก็อธิบายรายละเอียดหน้าที่ของการทำงานตำแหน่งนี้ให้ฟังว่าต้องทำอะไรบ้าง จากนั้นเค้าก็บอกว่า วันพุธที่ 23 กันยายน 56 มาเริ่มงานเลยนะ แล้วก็มาเซ็นสัญญาจ้างกัน ทุกอย่างตกลงเรียบร้อย ดิฉันดีใจมาก เพราะการหางานยากมากจริงๆค่ะ โทรไปบอกแม่ว่าหางานได้แล้วนะ จะได้มีเงินแล้ว ดีใจมากๆ คือรู้สึกดีมากๆกับบริษัทนี้ที่ให้โอกาสได้เข้ามาทำงาน ดิฉันกลับมาถึงห้อง ก็รีบจัดชุด รีบผ้าที่จะต้องใส่ทำงาน คือเตรียมครบเลยรอไปทำงาน บ่ายกว่าของวันอังคาร ที่ 22 กันยายน 56 หัวหน้าฝ่ายบุคคลโทรมา บอกว่าน้องที่พี่นัดน้องมาเริ่มงาน วันไหนนะ เราก็บอกวันพุธค่ะ เค้าตอบมาว่าอ่อใช่ๆ
คือตอนนี้รองกรรมการคนที่จะต้องเซ็นเอกสารให้กับน้องเค้าไปต่างประเทศพอดี คือพี่ต้องส่งเรื่องให้ท่านเซ็นก่อนถึงจะรับเข้าทำงานได้ เราก็ งงๆ อึ้งๆ คิดในใจว่า ดิฉันก็ยังไม่ได้เซ็นเอกสารสัญญาจ้างนะ ก็ตอบเค้าไปว่า อ่อค่ะพี่ ได้ค่ะ แล้วเค้าก็บอกว่าเดี๋ยวพี่จะโทรบอกอีกทีนะ
จากนั้นก็เงียบไป คิดทุกวันเลยว่าจะทำไงดี เพราะงานอื่นก้นัดสัมภาษณ์ ก็ไม่ได้ไป เพราะยังรองานนี้ สุดท้ายตัดสินใจโทรไปหาเมื่อวันจันทร์ที่ 30 กันยายน 56 หัวหน้าฝ่ายบุคคลพูดว่า อ่อครับ น้องอ่อๆ คือเอกสารของน้องอ่ะ พี่เอาไปไว้ที่ห้องเจ้านายแล้วนะ รอเค้ากลับมาเนี่ยเค้าพึ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่ตอนนี้ออกไปดูงานข้างนอกคงกลับมาเย็นๆ เดี๋ยวยังไงพี่จะคุยกับเค้าอีกทีนะ แล้วเราก็เลยพูดไปว่า พี่คะ หนูยังได้งานนี้อยู่ใช่ไหมคะเราถามย้ำไปสองรอบ เค้าก็ตอบแบบ ไม่มั่นใจว่า เดี๋ยวถ้าเจ้านายว่าไงแล้วพี่จะโทรบอกอีกทีนะ ความรู้สึกตอนนั้น ใจมันตกไปที่ตาตุ่มเลย น้ำตาไหลเลย คือดิฉันไม่รู้นะคะว่ามันเกิดจากอะไร ทั้งๆที่เค้าก็คุยกับดิฉันไว้แล้วพร้อมจะรับดิฉันแล้ว แต่อยู่ๆก็เลื่อนการทำงานออกไป ถึงแม้ว่าอยู่เค้าจะเปลี่ยนใจไม่รับดิฉันแล้ว ดิฉันก็ไม่ว่าอะไรนะคะ เพราะคิดว่าคนที่มีประสบการณ์และทำงานได้ดีกว่าเราก็คงมี แค่โทรมาบอกหรือวันที่ดิฉันโทรไปถาม น่าจะบอกกันเลย จะได้ไม่ต้องรอ คือดิฉันรู้สึกแย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากเลยค่ะ ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย ดิฉันพยายามเข้าใจ พยายามหาเหตุผลมาตอบกับตัวเองว่า เค้าอาจจะไม่กล้าบอกเรากลัวเรารู้สึกแย่ พยายามมองแง่ดีนะคะ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีงาน มันเสียความรู้สึกจริงๆ เลยอยากเล่าประสบการณ์ที่เจอมา ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ หรือให้คนที่ทำตำแหน่งงานนี้อยู่ได้รับทราบและเข้าใจหัวอกของคนกำลังหางาน ถึงคุณไม่รับเค้า คุณน่าจะบอกเค้าตรงๆ เพราะถ้าเป็นคุณที่ยืนอยู่ในสถานการณ์คนหางาน ถ้าคุณเจอแบบนี้ คุณคงจำไปตลอด และคนหางานอาจจะมองตำแหน่งนี้ไม่น่าเชื่อถือนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านประสบการณ์ค่ะ
ใครเคยเจอเหตุการณ์นี้บ้างคะ??
คือตอนนี้รองกรรมการคนที่จะต้องเซ็นเอกสารให้กับน้องเค้าไปต่างประเทศพอดี คือพี่ต้องส่งเรื่องให้ท่านเซ็นก่อนถึงจะรับเข้าทำงานได้ เราก็ งงๆ อึ้งๆ คิดในใจว่า ดิฉันก็ยังไม่ได้เซ็นเอกสารสัญญาจ้างนะ ก็ตอบเค้าไปว่า อ่อค่ะพี่ ได้ค่ะ แล้วเค้าก็บอกว่าเดี๋ยวพี่จะโทรบอกอีกทีนะ
จากนั้นก็เงียบไป คิดทุกวันเลยว่าจะทำไงดี เพราะงานอื่นก้นัดสัมภาษณ์ ก็ไม่ได้ไป เพราะยังรองานนี้ สุดท้ายตัดสินใจโทรไปหาเมื่อวันจันทร์ที่ 30 กันยายน 56 หัวหน้าฝ่ายบุคคลพูดว่า อ่อครับ น้องอ่อๆ คือเอกสารของน้องอ่ะ พี่เอาไปไว้ที่ห้องเจ้านายแล้วนะ รอเค้ากลับมาเนี่ยเค้าพึ่งกลับมาจากต่างประเทศ แต่ตอนนี้ออกไปดูงานข้างนอกคงกลับมาเย็นๆ เดี๋ยวยังไงพี่จะคุยกับเค้าอีกทีนะ แล้วเราก็เลยพูดไปว่า พี่คะ หนูยังได้งานนี้อยู่ใช่ไหมคะเราถามย้ำไปสองรอบ เค้าก็ตอบแบบ ไม่มั่นใจว่า เดี๋ยวถ้าเจ้านายว่าไงแล้วพี่จะโทรบอกอีกทีนะ ความรู้สึกตอนนั้น ใจมันตกไปที่ตาตุ่มเลย น้ำตาไหลเลย คือดิฉันไม่รู้นะคะว่ามันเกิดจากอะไร ทั้งๆที่เค้าก็คุยกับดิฉันไว้แล้วพร้อมจะรับดิฉันแล้ว แต่อยู่ๆก็เลื่อนการทำงานออกไป ถึงแม้ว่าอยู่เค้าจะเปลี่ยนใจไม่รับดิฉันแล้ว ดิฉันก็ไม่ว่าอะไรนะคะ เพราะคิดว่าคนที่มีประสบการณ์และทำงานได้ดีกว่าเราก็คงมี แค่โทรมาบอกหรือวันที่ดิฉันโทรไปถาม น่าจะบอกกันเลย จะได้ไม่ต้องรอ คือดิฉันรู้สึกแย่กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากเลยค่ะ ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้เลย ดิฉันพยายามเข้าใจ พยายามหาเหตุผลมาตอบกับตัวเองว่า เค้าอาจจะไม่กล้าบอกเรากลัวเรารู้สึกแย่ พยายามมองแง่ดีนะคะ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่มีงาน มันเสียความรู้สึกจริงๆ เลยอยากเล่าประสบการณ์ที่เจอมา ให้เพื่อนๆพี่ๆน้องๆ หรือให้คนที่ทำตำแหน่งงานนี้อยู่ได้รับทราบและเข้าใจหัวอกของคนกำลังหางาน ถึงคุณไม่รับเค้า คุณน่าจะบอกเค้าตรงๆ เพราะถ้าเป็นคุณที่ยืนอยู่ในสถานการณ์คนหางาน ถ้าคุณเจอแบบนี้ คุณคงจำไปตลอด และคนหางานอาจจะมองตำแหน่งนี้ไม่น่าเชื่อถือนะคะ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านประสบการณ์ค่ะ