วันนี้ต้องขอภัยสำหรับท่านที่ไม่กินเนื้อนะครับ พอดีเมนูนี้สล่าปู่ก็จัดตามคำขอเหมือนกัน
มือ 1 ไปตลาด ได้ลิ้นวัวมา 2 ลิ้น นมวัว 2 เต้า เสืออีก 1 ชุด เรียกว่าจัดมาอย่างหนัก
เขาจัดการทำความสะอาด ลวก ขูด ด้วยตนเองเรียบร้อย สล่าปู่มีหน้าที่ทำตามคำบอก
เท่านั้นเอง ให้ทำเองก็ไม่เป็น เพราะยังไม่เคยทำ
รับประกันความหวานด้วยนี่เลย อ๊อฟชั่นเสริมพิเศษ
เอาลงต้มพร้อมข่า สับเป็นชิ้น ๆ พร้อมพริกไทยเม็ด ทุบพอแหลก เตรียมน้ำหวานก่อนเป็นอันดับแรก
หั่นลิ้นที่ทำความสะอาดอย่างดี เป็นชิ้นขนาด 1x2 นิ้ว แช่เหล้าแดงหมักดับกลิ่น
มือ 1 สั่งงานเสร็จแล้ว ออกไปตลาดอีกที ไปหามันฝรั่งกับมะเขือเทศ
สล่าปู่ถือโอกาสตอนนี้แหกสูตร แหกคำสั่ง
ซอยหอมใหญ่เป็นชิ้นเล็ก ๆ ลงผัดกับน้ำมัน + เนย จนสุกใส แล้วเอาลิ้นวัวลงผัด
แล้วเติมซ๊อสมะเขือเทศ น้ำตาลทราย ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย กะตุ๋นเป็นน้ำแดง
จากการที่สล่าปู่ยืนซอยลิ้นแล้วกลิ่นมันทิ่มจมูก แอบเอาอบเชย ใบกระวาน ลูกกระวาน
ใส่ลงไปอย่างละหน่อย หวังกลบกลิ่น
เอาน้ำต้มในหม้อลงเติม ผัดต่อจนลิ้นหด (555 ลิ้นหด)
เทลงในหม้อน้ำซุป ตุ๋นอย่างเดียว มือ 1 กลับจากตลาดมาเห็นเข้า มีบ่นนิดหน่อยไม่ทำตามบอก
ผมเลยบอกว่า เป็นมนุษย์อย่าไปยึดติดอะไรมากมาย สิ่งไหนดัดแปลง หรือคิดค้นขึ้นมาใหม่
ได้ ก็ลองทำดู บางทีอาจทำให้ประทศชาติเจริญขึ้นมาได้บ้าง (ว่าเข้าไปโน่น)
พอดีเย็นนี้ สล่าปู่มีกิจธุระต้องไปร่วมงานเลี้ยง มุทิตาจิตเพื่อนร่วมอาชีพเดิมที่เษียณอายุ
จึงบอกมือ 1 ว่า เธอจะใส่ จะปรุงอะไร ก็ตามสไตล์ใจที่ชอบเลย
มาทราบเอาตอนเช้าว่า เขาใส่มันฝรั่ง 1 หัวแบ่งครึ่ง มะเขือเทศ ใส่ลงไปทั้งลูก
หอมแขก ใส่ลงไปทั้งหัวเหมือนกัน รากผักชี ตุ๋นจนเปื่อย
ผมแค่เติมเหล้าจีนลงไปนิดหน่อย ผลเป็นอย่างนี้ครับ เปื่อยนุ่ม หวาน หอม กลมกล่อมทีเดียว
ยี่ห้อสล่าปู่ต้องตราไก่ครับ
ส่วนเสือร้องไห้กับนม (ทางเหนือเรียกแป้งนม) สงบนี่งในตู้เย็นเรียบร้อย รอโอกาสเหมาะ
เบียร์ที่แช่ไว้เป็นวุ้นดีแล้ว จะเอามาแบ่งกันชมอีกที
ต้องขออภัยอีกครั้งสำหรับท่านที่ไม่โปรดประเภทเนื้อ สล่าปู่เองก็ใช่ว่าจะกินได้ ถ้าเกิน
4-5 คำ แล้วเหมือนท้องเราบอกว่าพอเถอะ ๆ งานนี้ก็ซดน้ำกับมันฝรั่งละครับ
สวัสดีครับ
คอเนื้อ เชิญแวะชมครับ "ซุปลิ้นวัวน้ำแดงรสแซ่บ"
มือ 1 ไปตลาด ได้ลิ้นวัวมา 2 ลิ้น นมวัว 2 เต้า เสืออีก 1 ชุด เรียกว่าจัดมาอย่างหนัก
เขาจัดการทำความสะอาด ลวก ขูด ด้วยตนเองเรียบร้อย สล่าปู่มีหน้าที่ทำตามคำบอก
เท่านั้นเอง ให้ทำเองก็ไม่เป็น เพราะยังไม่เคยทำ
รับประกันความหวานด้วยนี่เลย อ๊อฟชั่นเสริมพิเศษ
เอาลงต้มพร้อมข่า สับเป็นชิ้น ๆ พร้อมพริกไทยเม็ด ทุบพอแหลก เตรียมน้ำหวานก่อนเป็นอันดับแรก
หั่นลิ้นที่ทำความสะอาดอย่างดี เป็นชิ้นขนาด 1x2 นิ้ว แช่เหล้าแดงหมักดับกลิ่น
มือ 1 สั่งงานเสร็จแล้ว ออกไปตลาดอีกที ไปหามันฝรั่งกับมะเขือเทศ
สล่าปู่ถือโอกาสตอนนี้แหกสูตร แหกคำสั่ง
ซอยหอมใหญ่เป็นชิ้นเล็ก ๆ ลงผัดกับน้ำมัน + เนย จนสุกใส แล้วเอาลิ้นวัวลงผัด
แล้วเติมซ๊อสมะเขือเทศ น้ำตาลทราย ซีอิ้วขาว น้ำมันหอย กะตุ๋นเป็นน้ำแดง
จากการที่สล่าปู่ยืนซอยลิ้นแล้วกลิ่นมันทิ่มจมูก แอบเอาอบเชย ใบกระวาน ลูกกระวาน
ใส่ลงไปอย่างละหน่อย หวังกลบกลิ่น
เอาน้ำต้มในหม้อลงเติม ผัดต่อจนลิ้นหด (555 ลิ้นหด)
เทลงในหม้อน้ำซุป ตุ๋นอย่างเดียว มือ 1 กลับจากตลาดมาเห็นเข้า มีบ่นนิดหน่อยไม่ทำตามบอก
ผมเลยบอกว่า เป็นมนุษย์อย่าไปยึดติดอะไรมากมาย สิ่งไหนดัดแปลง หรือคิดค้นขึ้นมาใหม่
ได้ ก็ลองทำดู บางทีอาจทำให้ประทศชาติเจริญขึ้นมาได้บ้าง (ว่าเข้าไปโน่น)
พอดีเย็นนี้ สล่าปู่มีกิจธุระต้องไปร่วมงานเลี้ยง มุทิตาจิตเพื่อนร่วมอาชีพเดิมที่เษียณอายุ
จึงบอกมือ 1 ว่า เธอจะใส่ จะปรุงอะไร ก็ตามสไตล์ใจที่ชอบเลย
มาทราบเอาตอนเช้าว่า เขาใส่มันฝรั่ง 1 หัวแบ่งครึ่ง มะเขือเทศ ใส่ลงไปทั้งลูก
หอมแขก ใส่ลงไปทั้งหัวเหมือนกัน รากผักชี ตุ๋นจนเปื่อย
ผมแค่เติมเหล้าจีนลงไปนิดหน่อย ผลเป็นอย่างนี้ครับ เปื่อยนุ่ม หวาน หอม กลมกล่อมทีเดียว
ยี่ห้อสล่าปู่ต้องตราไก่ครับ
ส่วนเสือร้องไห้กับนม (ทางเหนือเรียกแป้งนม) สงบนี่งในตู้เย็นเรียบร้อย รอโอกาสเหมาะ
เบียร์ที่แช่ไว้เป็นวุ้นดีแล้ว จะเอามาแบ่งกันชมอีกที
ต้องขออภัยอีกครั้งสำหรับท่านที่ไม่โปรดประเภทเนื้อ สล่าปู่เองก็ใช่ว่าจะกินได้ ถ้าเกิน
4-5 คำ แล้วเหมือนท้องเราบอกว่าพอเถอะ ๆ งานนี้ก็ซดน้ำกับมันฝรั่งละครับ
สวัสดีครับ