คือปกติก็ชินแล้วกับการขับกระชาก ปาดซ้ายขวา หน้าคันโน้นคันนี้ ทรงตัวได้นี่ รู้สึกข้าเก่งมาก 55555
แต่วันนี้ไม่ไหวจริงๆค่ะ เพราะนอกจากการขับแย่ๆแล้ว มันมีเรื่องเสี่ยงตายกับผู้โดยสารเกือบทั้งคันค่ะ
คือเรายืนรอรถเมล์สายนี้เป็นประจำอยู่แล้ว วันนี้ประมาณห้าโมงเย็นกว่าๆ เราโบกรถ123 แต่ก็ขับไปจอดซะไกลจนคนรอคนอื่นก็บ่นเหมือนกัน
แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร พอเราก้าวขึ้นไปแล้วยังไม่ทันจับราว คนขับพี่แกก็ประหนึ่งเหมือนเหยียบคันเร่งและเบรคพร้อมกัน เราเกือบหน้าทิ่มหลายรอบ
แรงขนาดคนที่ได้นั่งยังเกือบฟันกระแทกเบาะหน้าเลยค่ะคิดดู ทีนี้มีป้าคนนึงที่ขึ้นมาพร้อมเรา เค้ายืนด้านบนใกล้ๆเบาะยาวหน้ารถอะค่ะ
พอเห็นภาพใช่มั้ยคะ? เจ๊คนนึง(ซึ่งเราเข้าใจว่าเป็นภรรยาคนขับ) ตะโกนไล่ป้าคนนี้ว่า ไปข้างหลังเลยค่ะ! บังคนขับมองไม่เห็นประตู ไปๆเลยไป!
คือช็อค ตะลึงมาก... เราเห็นป้าชักสีหน้า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ยอมเดินไปแต่โดยดี
เหตุการณ์ต่อมา มีรถเมล์สาย124 (ซึ่งมาจากปลายทางเดียวกันคือสนามหลวง) คิดว่ามีปัญหากันมาตลอดทาง ขับเบียดกันไปมาเลนซ้ายขวา จนคนบีบแตรไล่ แต่พวกนั้นหาได้สนใจไม่ เบียดแซงกันต่อไป จนถึงป้ายนึง ก็จอดทั้งคู่แล้วคนขับทั้งสองก็ด่าข้ามคันกันไปมา
ตอนแรกเรานึกว่าเพื่อนกัน แหย่กันเล่นๆ ที่ไหนได้ ด่ากันจริงจังมากค่ะ แอลนิมอลมาเต็มคันรถ 5555
จากนั้นก็ยังคงเบียดกันอยู่ ตัดหน้า โดยสาย123ที่เรานั่งเอาเรื่องน่าดู จี้หน้ารถ124ตลอดทาง จนอีกป้ายนึง
จอดทั้งคู่อีก เหมือนจะเคลียร์กะกูเลยมั้ยไรงี้ค่ะ คนขับสาย123ก็กำลังจะลงจากรถแล้วค่ะ แต่ภรรยาพี่แกห้ามเอาไว้ ลูกชายซึ่งเป็นกระเป๋ารถเมล์ (เราเดาเอาเองว่าลูกชายนะคะ) อารมณ์ขึ้นคือกันค่ะ หยิบมีดสปาตาที่สนิมเกรอะกรังจากเบาะคนขับขึ้นมาเตรียมลงเหมือนกัน
แม่เค้าก็ห้ามสิคะ บอกว่าอย่าๆ ดูผู้โดยสารด้วย อย่ามีเรื่องกันตอนนี้ ไว้ก่อนๆใจเย็นๆ ผู้โดยสารเยอะเห็นมั้ย!! ไว้ไปเคลียร์กันเองพรุ่งนี้
ทั้งพ่อและลูกเหมือนจะไม่ยอมค่ะ แม่ก็เกลี้ยกล่อมจนพ่อยอมนั่งเหมือนเดิม ส่วนกระเป๋ารถเมล์ยืนหน้าประตูรถถือมีดเหน็บข้างตัวไว้
แม่ก็ตะโกนว่า เห้ยย อย่าๆ วางลงเดี๋ยวนี้ๆ เคลียร์ทีหลังเว้ย! กระเป๋าเลยยอม เอามีดวางที่พื้นข้างเบาะคนขับ
คือ ณ สถานการณ์ตอนนี้ผู้โดยสารตึงเครียดทั้งคันค่ะ คนที่ง่วงๆอยู่นี่ถึงกะหลับไม่ลง
หลังจากนั้นก็ยังคงเบียดปาดกันไปเรื่อยๆ จนเริ่มเหมือนใจเย็นลงก็เลยเริ่มขับดีขึ้น แล้วเหตุการณ์ก็สงบลงอย่างสบายใจด้วยการที่สาย123เลี้ยวตรงสาย2 พอดีกับสาย 124 ไปทางศาลายาพอดี
ชีวิตของจขกท.จึงรอดมาตั้งกระทู้ได้จนถึง ณ จุดนี้ค่ะ 5555
เรื่องราวก็บลงเพียงเท่านี้ ขอขอบคุณล่วงหน้าที่มาอ่านกันนะคะ
(ระบาย)นั่งรถเมล์สาย 123 เหมือนอยู่ในหนังบู้ :(
แต่วันนี้ไม่ไหวจริงๆค่ะ เพราะนอกจากการขับแย่ๆแล้ว มันมีเรื่องเสี่ยงตายกับผู้โดยสารเกือบทั้งคันค่ะ
คือเรายืนรอรถเมล์สายนี้เป็นประจำอยู่แล้ว วันนี้ประมาณห้าโมงเย็นกว่าๆ เราโบกรถ123 แต่ก็ขับไปจอดซะไกลจนคนรอคนอื่นก็บ่นเหมือนกัน
แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร พอเราก้าวขึ้นไปแล้วยังไม่ทันจับราว คนขับพี่แกก็ประหนึ่งเหมือนเหยียบคันเร่งและเบรคพร้อมกัน เราเกือบหน้าทิ่มหลายรอบ
แรงขนาดคนที่ได้นั่งยังเกือบฟันกระแทกเบาะหน้าเลยค่ะคิดดู ทีนี้มีป้าคนนึงที่ขึ้นมาพร้อมเรา เค้ายืนด้านบนใกล้ๆเบาะยาวหน้ารถอะค่ะ
พอเห็นภาพใช่มั้ยคะ? เจ๊คนนึง(ซึ่งเราเข้าใจว่าเป็นภรรยาคนขับ) ตะโกนไล่ป้าคนนี้ว่า ไปข้างหลังเลยค่ะ! บังคนขับมองไม่เห็นประตู ไปๆเลยไป!
คือช็อค ตะลึงมาก... เราเห็นป้าชักสีหน้า แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ยอมเดินไปแต่โดยดี
เหตุการณ์ต่อมา มีรถเมล์สาย124 (ซึ่งมาจากปลายทางเดียวกันคือสนามหลวง) คิดว่ามีปัญหากันมาตลอดทาง ขับเบียดกันไปมาเลนซ้ายขวา จนคนบีบแตรไล่ แต่พวกนั้นหาได้สนใจไม่ เบียดแซงกันต่อไป จนถึงป้ายนึง ก็จอดทั้งคู่แล้วคนขับทั้งสองก็ด่าข้ามคันกันไปมา
ตอนแรกเรานึกว่าเพื่อนกัน แหย่กันเล่นๆ ที่ไหนได้ ด่ากันจริงจังมากค่ะ แอลนิมอลมาเต็มคันรถ 5555
จากนั้นก็ยังคงเบียดกันอยู่ ตัดหน้า โดยสาย123ที่เรานั่งเอาเรื่องน่าดู จี้หน้ารถ124ตลอดทาง จนอีกป้ายนึง
จอดทั้งคู่อีก เหมือนจะเคลียร์กะกูเลยมั้ยไรงี้ค่ะ คนขับสาย123ก็กำลังจะลงจากรถแล้วค่ะ แต่ภรรยาพี่แกห้ามเอาไว้ ลูกชายซึ่งเป็นกระเป๋ารถเมล์ (เราเดาเอาเองว่าลูกชายนะคะ) อารมณ์ขึ้นคือกันค่ะ หยิบมีดสปาตาที่สนิมเกรอะกรังจากเบาะคนขับขึ้นมาเตรียมลงเหมือนกัน
แม่เค้าก็ห้ามสิคะ บอกว่าอย่าๆ ดูผู้โดยสารด้วย อย่ามีเรื่องกันตอนนี้ ไว้ก่อนๆใจเย็นๆ ผู้โดยสารเยอะเห็นมั้ย!! ไว้ไปเคลียร์กันเองพรุ่งนี้
ทั้งพ่อและลูกเหมือนจะไม่ยอมค่ะ แม่ก็เกลี้ยกล่อมจนพ่อยอมนั่งเหมือนเดิม ส่วนกระเป๋ารถเมล์ยืนหน้าประตูรถถือมีดเหน็บข้างตัวไว้
แม่ก็ตะโกนว่า เห้ยย อย่าๆ วางลงเดี๋ยวนี้ๆ เคลียร์ทีหลังเว้ย! กระเป๋าเลยยอม เอามีดวางที่พื้นข้างเบาะคนขับ
คือ ณ สถานการณ์ตอนนี้ผู้โดยสารตึงเครียดทั้งคันค่ะ คนที่ง่วงๆอยู่นี่ถึงกะหลับไม่ลง
หลังจากนั้นก็ยังคงเบียดปาดกันไปเรื่อยๆ จนเริ่มเหมือนใจเย็นลงก็เลยเริ่มขับดีขึ้น แล้วเหตุการณ์ก็สงบลงอย่างสบายใจด้วยการที่สาย123เลี้ยวตรงสาย2 พอดีกับสาย 124 ไปทางศาลายาพอดี
ชีวิตของจขกท.จึงรอดมาตั้งกระทู้ได้จนถึง ณ จุดนี้ค่ะ 5555
เรื่องราวก็บลงเพียงเท่านี้ ขอขอบคุณล่วงหน้าที่มาอ่านกันนะคะ